เช็คสุขภาพน้องสาวให้ดี ว่ากำลังมีปัญหาหรือเปล่า

39 20
เกิดเป็นหญิงแท้จริงแสนลำบาก โดยเฉพาะกับเรื่องสุขภาพภายใน และภายนอกของน้องสาวสุด Sensitive ถ้ามีความผิดปกติขึ้นมานิดเดียว ก็เริ่มเครียดแล้ว แถมยังเป็นประเด็นที่ไม่กล้าพูดหรือปรึกษาใคร ยิ่งกลุ้มใจไปกันใหญ่

อย่าเพิ่งเครียดไปค่ะ มาลองสำรวจและเช็คสุขภาพน้องสาวเบื้องต้นด้วยตัวเองกันก่อนดีกว่าค่ะ และเราก็ได้ทำการสอบถามสูตินารีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโดยตรง ถึงการตรวจและสำรวจตัวเองเบื้องต้น ที่ทุกคนสามารถทำตามได้อย่างง่ายๆ

เช็คน้องจากภายนอก

การเช็คสุขภาพช่วงล่างในเบื้องต้น หลายคนอาจเคยได้ยินว่าเราสามารถเอามือเข้าไปสำรวจตรวจสอบภายในน้องสาวได้ด้วยตัวเอง เรื่องนี้คุณหมอก็ยืนยันว่าไม่ควรทำเด็ดขาดจ้าาา ที่เราทำได้คือการล้างทำความสะอาดอวัยวะเพศภายนอกปกติ ห้ามล้วงเข้าไปเด็ดขาด ไม่ต้องสงสัยแล้วสำรวจเอง การเอามือล้วงเข้าไปหรือสวนล้างภายใน จะทำให้มีปัญหาตามมาได้
ปกติช่องคลอดจะมีความเป็นกรด เกิดจากผนังช่องคลอดสร้างแลคติกแอซิดขึ้นมาเองและมีกลุ่มแบคทีเรียแล็คโตบาซิลัส (เป็นคนละสปีชีส์ที่อยู่ในนมเปรี้ยว ดังนั้นการกินนมเปรี้ยวไม่ได้ช่วยในเรื่องนี้) ซึ่งเป็นแบคทีเรียเจ้าถิ่น การเอามือล้วงเข้าไปจะทำให้แบคทีเรียเจ้าถิ่นตาย พอเชื้อเจ้าถิ่นตาย เชื้อจากภายนอกก็จะฉวยโอกาสเข้ามา เช่น เชื้อรา เชื้อแบคทีเรียอื่นๆ เชื้อพวกนี้มันไม่ชอบความเป็นกรดของช่องคลอด พอเข้ามาได้ก็จะเริ่มทำลายเชื้อเจ้าถิ่นดีๆ ในช่องคลอดของเรา ทำให้เกิดอาการผิดปกติตามมา

1. ตุ่มหรือก้อน

เป็นสิ่งที่เราสำรวจภายนอกได้ว่ามีผื่น แผล ตุ้ม ก้อนอะไรหรือเปล่า ถ้าเป็นแผลภายนอก เราจะเห็นแผลได้ในระยะเริ่มต้น ก็อาจจะมีความเกี่ยวพันกับโรติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ เช่น หนองใน ซิฟิลิส แผลริมอ่อน แผลริมแข็ง  ส่วนเริมจะมีอาการแสบ หรือเจ็บบริเวณอวัยวะเพศร่วมด้วย

แต่ก็อาจเกิดจากการแพ้ ระคายเคืองได้เช่นกัน ซึ่งก้อนที่เราสังเกตเห็นความผิดปกติได้ตั้งแต่ภายนอก จะอยู่บริเวณต่อมบาร์โธลินทั้งสองข้าง พอมีการอุดตันของต่อม จนทำให้เป็นก้อนขึ้นมา เราสามารถจับดูได้ แต่ควรพบสูตินารีแพทย์ดีกว่า

2. ตกขาว

ปกติผู้หญิงมีตกขาวได้ตลอด ที่ไม่ใช่ตอนมีรอบเดือน ตกขาวปกติจะมีลักษณะใส เป็นเหมือนกาวยืดๆ แป้งเปียก หรือเป็นสีขาวนม ปริมาณไม่เยอะ แค่พอเปื้อนแผ่นอนามัย ไม่มีกลิ่น แต่อาจมีกลิ่นเปรี้ยวได้นิดหน่อย ถ้ากลิ่นเหม็นคาว หรือมีสีเทา เหลือง เขียว หรือมีลักษณะเหมือนโยเกิร์ตหรือเป็นก้อน คือผิดปกติ ยิ่งถ้ามีอาการคันหรือแสบร่วมด้วยก็ควรปรึกษาสูตินารีแพทย์ด่วนๆ

3. ประจำเดือน

  • ประจำเดือนมามาก ปกติประจำเดือนจะมาทุก 21-35 วัน ในรอบเดือนครั้งหนึ่งจะมีปริมาณประมาณ 35 ml ถ้ามามากถึงประมาณ 80ml คือผิดปกติ ปกติวันหนึ่งจะใช้ผ้าอนามัย 3-5 แผ่น/วัน (แล้วแต่ขนาดผ้าอนามัยที่ใช้) 

  • มามากกว่า 8 วัน รอบหนึ่งจะมาประมาณ 4-8 วัน ถ้ามากกว่า 8 วัน อาจเกิดจากสาเหตุสภาพมดลูกผิดปกติ เช่น เนื้องอกมดลูก พังผืดมดลูก เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่แล้วไปแทรกตามกล้ามเนื้อมดลูก ทำให้มีอาการปวดท้องเมนส์ ประจำเดือนมามากและมานาน และอาจส่งผลเรื่องมีบุตรยาก  

4. ปวดท้องทุกเดือน

ร้อยละ 80-90 ของคนที่ปวดท้องประจำเดือน จะมีมดลูกผิดปกติควรพบสูตินารีแพทย์ แต่คนที่ไม่ปวดท้องเมนส์เลย ก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่เป็นอะไร เนื้องอกในมดลูกจะมีหลายแบบ เช่น อยู่ในกล้ามเนื้อในโพรงมดลูก หรือมีก้านยื่นออกมาจากมดลูก

คนที่มีก้านยื่นออกมาจากมดลูกก็จะไม่ปวดท้องเมนส์ ไม่มีอาการอะไรเลย จะรู้ตัวอีกทีเมื่อก้อนใหญ่แล้ว ทำให้คลำเจอจากหน้าท้อง เพราะมันไม่ได้อยู่ในโพรงมดลูกที่เวลาประจำเดือนมาแล้วมดลูกจะหดรัดตัว ทำให้เรารู้สึกปวด

ลองคิดภาพตามง่ายๆ ถ้าเรามีลูกปิงปองอยู่ในมือ เวลาบีบมือก็จะเจ็บ แต่ถ้าลูกปิงปองอยู่นอกมือ บีบมือไปก็ไม่รู้สึกอะไร ดังนั้นเวลามีเนื้องอกอยู่นอกมดลูก มดลูกหดรัดตัว เราก็เลยไม่ปวดท้อง

5. ปัสสาวะ

มดลูกจะอยู่ด้านหลังกระเพาะปัสสาวะ ถ้ามดลูกใหญ่ขึ้นมา ก็จะไปกดเบียดกระเพาะปัสสาวะ ทำให้กระเพาะปัสสาวะเก็บปัสสาวะได้น้อยลงเลยฉี่บ่อย ประมาณ 6-7 ครั้ง ทุกวัน สีและกลิ่นจะปกติเหมือนเดิม

คำแนะนำจากคุณหมอ

นอกจากจะสำรวจและตรวจภายนอกตามข้างต้นอย่างสม่ำเสมอแล้ว คุณหมอยังแนะนำให้ผู้หญิงทุกคนควรไปตรวจเพิ่มที่โรงพยาบาลด้วยเช่นกัน

1. ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก

ปัจจุบันมีการตรวจหลายแบบ ระยะเวลาในการตรวจก็จะต่างกันในแต่ละวิธีเช่น ทุก 1 ปี หรือทุก 3-5 ปี ตามโปรแกรมการตรวจ แนะนำตรวจเมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไป ถ้าอายุประมาณ 65 ปีขึ้นไป เคยตรวจติดต่อกันมา 10 ปี แล้วปกติมาตลอด ไม่เจออะไร ก็ไม่ต้องตรวจแล้ว แต่ต้องดูว่าตรวจแบบไหนด้วย

2. ตรวจภายในทุกปี

 ไม่ได้มีเกณฑ์อายุแน่นอน แต่สามารถเริ่มตรวจได้ตั้งแต่อายุ 10 กว่าปีเป็นต้นไป

3. อัลตราซาวด์ทุกปี

การอัลตราซาวด์มดลูกตรวจได้สองแบบคือ อัลตราซาวด์ช่องท้องส่วนล่าง และอัลตราซาวด์ช่องคลอด เป็นการตรวจเพื่อดูความผิดปกติของมดลูกหรือรังไข่ ที่เห็นได้ชัดกว่าการตรวจภายใน เพราะบางทีมีเนื้องอกรังไข่ 3-4 ml การตรวจภายในอาจไม่เห็น แต่การอัลตราซาวน์หน้าท้องส่วนล่าง อาจมีอุปสรรคภายนอก เช่น ความหนาของหน้าท้อง การตรวจอัลตราซาวด์ช่องคลอดจะชัดเจนและแม่นยำกว่า

สามารถเริ่มตรวจได้ตั้งแต่ช่วงวัยรุ่น หรืออายุ 18-20 ปี วิธีนี้มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงแต่มีความชัดเจนมาก

สุดท้ายอย่าลืมเช็คและสังเกตสุขภาพน้องสม่ำเสมอ อย่างที่คุณหมอบอกว่า รู้เร็ว รักษาเร็ว หายเร็ว ถ้าใครเคยมีประสบการณ์ตรวจหรือรักษาก็มาแชร์ต่อได้นะคะ :) 


sweetsong13

sweetsong13

A dreamer who loves to write
www.sweetsong13.com
sweetsong13@gmail.com

FULL PROFILE