รีวิวครีมกันแดด ตัวไหนปังมาดูกัน!!☀️✨
Nurse_Janutsaya
36
14
WITH <strong>Srichand</strong> / เนื้อหานี้มีแบรนด์ที่ร่วมงานอยู่
อันยองค่ะเพื่อนๆทุกคน..จเนิส คนดี คนเดิมกลับมาแล้ว ฮ่าๆ
กลับมาพร้อมกับกระทู้ดีๆอีกแล้วหละ วันนี้ตั้งอก ตั้งใจจะรีวิวครีมกันแดดกันสักหน่อย เพราะเอาดีๆนี่ก็จะเข้าหน้าร้อนแล้วเด้อ อย่างที่ทุกคนรู้ว่า แดดเมืองไทยแรงแค่ไหน เรียกได้ว่าร้อนกว่านี้ก็นรกแล้วหละค่ะ ฮ่าๆ งั้นเราไปดูพร้อมๆกันดีกว่าว่ากันแดดที่เนิสจะมาทำรีวิวในวันนี้มีอะไรกันบ้าง ลุยยยย!!
รวมกันแดดทั้งหมดในวันนี้☀
งั้นเรามาทำความรู้จักกันทีละแบรนด์เลยดีกว่านะทุกคนน !!
SRICHAND – SUNLUTION SKIN WHITENING SUNSCREEN
SPF50+ PA++++
สำหรับกันแดดตัวนี้เป็นกันแดดแบรนดืไทยที่ความดีงามคือ นอกจากเป็นกันแดดแล้ว บำรุงผิวในตัวเลยหละ สำหรับสูตรนี้เป็นสูตรสูตรไวท์เทนนิ่ง ที่ช่วยบล็อกแดดคูณสาม ช่วยกู้ผิวหมอง แถมยังช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้นอีกด้วยหละ ซึ่งส่วนผสมหลักๆของสูตรนี้จะมี Vitamin B3 และ C ซึ่งทางแบรนด์เคลมไว้ว่ากันแดดตัวนี้สามารถแทนเบสเมคอัพได้เลย สามารถป้องกันรังสี UVA/UVB มลภาวะต่างๆ รวมถึงแสดงสีฟ้าด้วยเทคโนโลยี Triple Protection ที่ชอบอีกอย่างเลยคือเค้าบอกว่าสูตรนี้ช่วยคุมมัน และยังชช่วยเบลอพวกริ้วรอยได้ด้วย
"ส่วนตัวเราค่อนข้างชอบเนื้อกันแดดของศรีจันทร์สูตรนี้มาก เราเป็นคนที่มีผิวผสม มันบริเวณทีโซน สูตรนี้หลังทาคือช่วยให้ผิวแมตช์ไปเลย คือซึมลงผิวได้เร็วมาก เราแทบจะไม่ซับหน้าเลยเวลาหยิบตัวนี้มาใช้ เราคิดว่าเหมาะนะกับช่วงอากาศร้อนๆแบบนี้ ทาแล้วค่อนข้างสบายผิวเลย แต่ถ้าใครหน้าแห้งมาก ๆ แนะนำให้ลงบำรุงผิวก่อนลงกันแดดนะ จะได้ไม่แมตช์เกินไปค่ะ อ้อ!! และราคาดีด้วยนะ ค่าตัวของน้องอยู่ที่ 159 บาท ใช้ได้นานอยู่เด้อ"
TEXTURE:
CANMAKE - Mermaid Skin Gel UV
SPF50+ PA++++
สำหรับตัวที่สองเป็นกันแดดแบรนด์ญี่ปุ่น ที่เรียกว่าหลายๆคนต้องรู้จักอย่างแน่นอน ตัวนี้เป็นกันแดดเนื้อเจล ที่ความเริ่ดของนางคือเมื่อทาลงบนผิวแล้วจะแตกตัวเป็นน้ำและซึมสู่ผิวอย่างรวดเร็ว แถมยังสามารถป้องกันรังสี UVA/UVB ได้มากถึง 50 เท่า พร้อมทั้งยังบำรุงด้วยสารสกัดจากธรรมชาตินานาชนิดอีกด้วยน๊า และที่ต้องอวยยศนางอีกอย่างคือยังเป็นเมคอัพเบส ปรับสภาพผิวให้กระจ่างใสเป็นธรรมชาติได้ด้วย
TEXTURE:
LA ROCHE-POSAY ANTHELIOS INVISIBLE FLUID
SPF50+ / PA++++ NON-PERFUMED
มาต่อกันกับกันแดดตัวที่สามเป็นกันแดดแบรนด์เวชสำอางอีกตัวที่ชอบมากๆ ซึ่งเป็นกันแดดเนื้อฟลููอิดที่บางเบา ไม่เหนอะหนะ เป็นสูตรกันน้ำ กันเหงื่อและไม่ทำให้เกิดคราบขาว ปราศจากน้ำหอมและพาราเบนด้วย เหมาะมากๆกันคนที่มีผิวมีแนวโน้มค่อนข้างแพ้ง่ายนะ ตัวนี้สามารถป้องกันรังสี UVA / UVB และช่วยป้องกันไม่ให้ผิวเสียอันเนื่องจากอินฟราเรด-เอและมลภาวะอีกด้วย
TEXTURE:
JUV – Water Gel UV Protection
SPF50 PA++++
มาถึงตัวสุดท้ายแล้วกับกันแดดที่ชอบอีกตัวซึ่งเป็นแบรนด์ไทยอีกตัวที่เข้ารอบมา ตัวนี้เป็นกันแดดวอเตอร์เจลที่มีสารสกัดที่ช่วยฟื้นบำรุงผิวให้พร้อมต่อสู้กับอนุมูลอิสระ สามารถป้องกันรังสี UVA/UVB, Visible Light, IR รวมไปถึงมลภาวะ ฝุ่นละอองที่มีอนุภาคเล็กๆถึง 1 ไมครอนเลย สูตรนี้เค้าจะช่วยคุมมัน ไม่อุดตัน กันน้ำกันเหงื่อ แถมช่วยปรับผิวสว่างใส เรียกว่าอ่อนโยนต่อทุกสภาพผิวเลย เพราะเค้าปราศจาก 10 สารก่อการระคายเคือง ใครที่มีแนวโน้มผิวค่อนข้างแพ้ง่าย เราว่าเหมาะมากๆนะ
TEXTURE:
ทดสอบความเหนียวเหนอะหนะกัน!!
นอกจากคุณสมบัติที่ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดแล้ว สิ่งนึงเลยที่เราคิดว่าต้องดูคือความเหนียวเหนอะหนะกับผิว คืออย่างที่ทุกคนรู้ๆกัน บ้างเมืองเรามันร้อนมาก เวลาเราตากแดดนานๆเหงื่ออกงี้ อะไรที่เหนอะหนะผิว เราจะไม่ค่อยชอบใจกันอยู่แล้วเนอะ งั้นเราไปเทียบกันให้เห็นชัดๆเลยว่าตัวไหนเหนียวเหนอะหนะแค่ไหนกัน ลุยยย!!
ก่อนจะไปดูผลการทดสอบ เรราขออธิบายรายละเอียดที่เราใช้ทดสอบเพื่อความโปร่งใส ไม่ลำเอียงเด้อ
เงื่อนไขการทดสอบ :
ทากันแดด 1 ข้อนิ้ว (ดังรูป)
หลังจากทาเป่าด้วยพัดลม (ห่างจากพัดลม 1.5 เมตร ) ระยะเวลา 30 วินาที
โรยด้วยเม็ดโฟม 2 รอบ ทั่วหลังมือ
ผลการทดสอบ:
วัดผลจากปริมารเม็ดโฟมที่ติดบนหลังมือ
สรุปผลการทดสอบ :
จากที่ทางเราทำการทดสอบ ผลที่ได้คือความเหนอะหนะที่เรียงจากน้อย-มากสุด
น้อยสุด -> Srichand -> La Roche -Posay -> Juv -> Canmake
.หมายเหตุ :
ซึ่งเราต้องขอออกตัวไว้ก่อนเลยนะคะว่า ผลทดสอบดังกล่าวเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของเราเท่านั้น จริงๆแล้วกันแดดทุกตัวก็ให้ประสิทธิภาพในแง่ของการป้องกันแสง UV ได้ใกล้เคียงกัน แค่เราอยากทดสอบดูว่าตัวไหนเหนอะหนะกว่ากัน ซึ่งใน 4 ตัวนี้ เพื่อนๆบางคนอาจจะชอบความชุ่มชื้นมากกว่าบางตัวที่มีผลลัพธ์ในการทาที่แห้ง แมตต์อะไรแบบนี้ ถือว่ากระทู้นี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการตัดสินใจซื้อกันแดดน๊าทุกคนนน เลิฟฟฟฟ!!