อัพเดท Oscars 2022

41 10


มาติดตามบรรยากาศของงานประกาศรางวัล Oscars ที่ทั้งแฟนหนังและแฟชั่นพรมแดงเฝ้ารอคอยกับพวกเรากันเลยค่ะ



ตะลึงทั้งงาน  Will Smith ตบ Chris Rock ที่แซวภรรยาเรื่องการโกนศีรษะ


ทุกคนคงได้เกาะติดดราม่าบนเวที Oscar จากสื่อต่างกันอย่างถ้วนหน้าแล้ว ต้นตอของตบในตำนานที่เกิดจากมุกของ Chris Rockผู้ดำเนินรายการว่า

"๋Jada  ผมรักคุณนะ แทบจะอดใจรอดู GI Joe 2 ไม่ไหวเลยล่ะ"

สิ่งที่เกิดขึ้นตามมา ได้สร้างระลอกคลื่นความเห็นถาโถมนับไม่ถ้วนในโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น

ฝ่ายที่อยู่ฝ่ายเดียวกับWill Smith
  • สมควรแล้วที่ตลกปากเปราะจะต้องถูกตบเรียกสติ
  • นี่คือการแสดงออกของฮีโร่ที่ปกป้องเกียรติของภรรยา
  • หากไม่ปกป้องตัวเองและครอบครัว  พวกที่ดูหมิ่นคนอื่นเพื่อเรียกร้องความสนใจก็จะได้ใจไปทำกับคนอื่นอีก
ฝ่ายที่โจมตี
  • พระเอกดังเป็นฝ่ายไม่ควบคุมสติ ควรเคลียร์กันด้วยเหตุผล หรือ call out ออกสื่อ 
  • แม้คู่กรณีจะล้ำเส้น แต่การใช้กำลังหรือเอาคืนอีกฝ่ายให้อับอายท่ามกลางผู้คนในวงการไม่ใช่การแก้ไขปัญหาที่ถูกวิธี
  • การกระทำของ Will  สร้างบรรยากาศที่อึดอัดไปหมด  ทั้งๆทีเป็นค่ำคืนที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตนักแสดงของเขา  แต่กลับมัวหมองด้วยข่าวฉาว


ถือเป็นธรรมเนียมของงานประกาศรางวัลภาพยนตร์และโทรทัศน์อันมีชื่อเสียงที่จะดึงตัวนักแสดงตลกมาเป็นผู้ดำเนินรายการ    ผู้ชมทั้งจากที่นั่งในงานและทางบ้านเตรียมใจได้เลยว่า จะต้องพบกับมุกตลกจากอารมณ์ขันร้ายกาจที่จิกกัดคนบันเทิงจนเถียงไม่ออก  คุณจะได้เห็น Ricky  Gervais ฟาดฟันชาว Hollywood ในงานประกาศลูกโลกทองคำเรื่องพฤติกรรมปากว่ามือขยิบแบบอภิสิทธิ์ชนที่ call out เรื่องความไม่เท่าเทียม แต่ก็ยินดีร่วมงานกับนายทุนยักษ์ใหญ่ที่มีประวัติเอารัดเอาเปรียบชนชั้นแรงงาน หรือจะเป็นกลุ่มผู้ทรงอิทธิพลในโลกบันเทิงที่สร้างมิตรภาพกับอาชญากรทางเพศอย่าง Jeffrey Epstein  แต่วางท่าสงบเสงี่ยมเมื่อเบื้องหลังโสมมถูกเปิดเผย    และถ้าคุณคือ Leonardo DiCaprio  ก็ทำใจได้เลยว่า ไปร่วมงานประกาศรางวัลเมื่อใด  ก็จะถูกแดกดันเรื่องประวัติการควงคู่กับบรรดานางแบบสาววัยยี่สิบ   (Oscar ปีนี้ Amy Schumer ก็จัดไปหนึ่งมุก ทั้งๆที่ Leo ถูกจิกแบบเดียวกันมาหลายครั้ง แต่ก็ยังสร้างเสียงฮือในกลุ่มผู้ชม)



แต่เส้นแบ่งของมุกตลกเสียดสีคนดังอยู่ตรงไหน?



ในขณะที่ผู้ดำเนินรายการที่ยิงมุกเจ็บๆจนทำให้คนดังที่นั่งฟังต้องหน้าจืดเจื่อน (หลายคนอาจจะไม่ถือสาและแสดงท่าทีเฮฮากับอารมณ์ขันร้ายๆ) แต่เวทีประกาศรางวัลไม่ใช่การจัดโต้วาทีแบบ roast battle ที่ผู้เข้าร่วมรายการจะเตรียมใจมารับคำดูหมิ่นและคิดหาวิธีโจมตีคู่แข่ง เมื่อพิธีกรจงใจฉีกหน้าผู้ร่วมงาน โดยเฉพาะเรื่องรูปลักษณ์ที่เจ้าตัวรู้สึกวิตกกังวล ไม่น่าสงสัยว่า จะมีหลายเสียงที่ขออยู่ข้าง Will Smith ที่ลุกขึ้นมาปกป้องภรรยาที่ถูกละเมิดด้วยวาจาที่ปราศจากความเห็นอกเห็นใจ


ในขณะเดียวกัน ก็มีผู้ที่ต่อต้านพฤติกรรมของพระเอกเจ้าของOscarหมาดๆ อย่าง Rob Reiner พระเอกและผู้กำกับอาวุโสที่โจมตีว่า Willโชคดีมากแค่ไหนที่ Chris ไม่แจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกาย และเขาควรจะประกาศขอโทษคู่กรณี เพราะการกระทำบนเวทีนั้นไม่มีข้อแก้ตัวใดมาหักล้างได้ และชาวเน็ทอีกไม่น้อยที่ประนามเรื่องการใช้ความรุนแรงและเรียกร้องให้ WillคืนรางวัลOscar เพราะแสดงพฤติกรรมที่สร้างความเสื่อมเสียให้กับองค์กร



Will หลั่งน้ำตาขอโทษAcademy เผยความในใจที่สุดทนกับคำดูหมิ่น


ช่วงแรกที่มีภาพข่าวออกมา ผู้ชมทั้งงุนงงและตั้งข้อสงสัยว่า นี่อาจจะเป็นการจัดฉากเพื่อหักมุมสร้าง surprise กันตอนจบ เพราะตอนที่ Chris กำลังแซว Jada Willก็ดูยิ้มแย้มเหมือนกับไม่ถือสามุกดังกล่าว แต่เมื่อภรรยาแสดงสีหน้าอึดอัดคับข้องใจ เขาก็ก้าวขึ้นไปบนเวทีจนเหตุการณ์ที่สร้างเสียงวิจารณ์ไปทั่วโลก เพียงไม่นานต่อมา สื่อหลายเจ้าก็รายงานตรงกันว่า นี่ไม่ใช่สิ่งที่ตระเตรียมกันมาก่อน แต่เป็นตบจริงๆ และยังมีการประกาศแสดงความเสียใจจาก Will ระหว่างที่ก้าวขึ้นมาบนเวทีอีกครั้งในฐานะผู้ชนะที่คว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม วินาทีที่ควรจะเต็มไปด้วยความตื้นตันยินดี ก็แปรเปลี่ยนมาเป็นการระบายความรู้สึกที่ต้องรับมือกับการต้องถูกล่วงละเมิดในวงการบันเทิง และต้องแกล้งยิ้มรับเหมือนกับว่า ไม่ถือสาหาความเมื่อถูกดูหมิ่น และอธิบายความ ความรักได้ผลักดันให้เขาทำตัวบ้าๆออกไป

แม้ Will จะได้ประกาศขอโทษต่อองค์กร Academy และเพื่อนร่วมวงการที่ได้เข้าชิงรางวัล แต่ก็มีเสียงเรียกร้องจากชาวเน็ทให้ Academy ได้แสดงความเห็นต่อเหตุการณ์ฉาวที่เกิดขึ้น



statement ชี้แจง(สั้นๆ)จากองค์กร


“The Academy จะไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ   ค่ำคืนนี้เราขอร่วมชื่นชมยินดีกับเหล่าผู้ชนะในการประกาศรางวัลครั้งที่ 94  พวกเค้าคู่ควรจะได้รับช่วงเวลาแห่งการจดจำร่วมกับเพื่อนวงการเดียวกันรวมถึงกลุ่มผู้รักภาพยนตร์ทั่วโลก"



ในเวลาต่อมา The Academy ได้ยืนยันว่า กำลังร่วมพิจารณาอย่างเป็นทางการเพื่อสรุปว่า จะมีแนวทางจัดการเช่นใดโดยยึดกฎเกณฑ์องค์กรและกฎหมายรัฐ California โดยที่มีการคาดการณ์ว่า จากการเรียกร้องของสมาชิกหลายราย Will อาจจะได้รับบทลงโทษบางประการ และต้องรอบทสรุปจากการประชุมบอร์ดว่าจะตัดสินใจเช่นไร




Oscar ตัวแรกของ Jessica Chastain


เคยเฉียดรางวัล Oscar มาจากผลงานหนัง The Help และ Zero Dark Thirty  มาแล้ว  คราวนี้   Jessica คว้ารางวัลอันยิ่งใหญ่สำเร็จ   เราเคยเห็นการทำนายผลรางวัลจากสื่อต่างๆมาก่อนหน้านี้ว่า เธอคือม้ามืดที่จะแซงนางเอกตัวเต็งในโค้งสุดท้าย  แต่เรามองว่า คำว่าม้ามืดนั้นดูไม่เหมาะสมเท่าไรค่ะ     The Eyes of Tammy Faye  ทำให้ Jessica เข้าชิงรางวัลเวทีอื่นและได้รางวัลมาครองก่อนหน้าหลายตัวแล้ว   และถ้าชมจาก profile ก็จะมั่นใจได้เลยว่า เธอคือนางเอกสายรางวัลตัวจริง     หลังจากคร่ำหวอดในวงการแสดงมาเกือบๆสองทศวรรษ เธอก็ได้เฉิดฉายในฐานะนางเอกผู้ชนะOscars ครั้งที่ 94 ได้ในที่สุด   



Jane Campion สร้างประวัติศาสตร์ ผู้กำกับหญิงคนแรกที่คว้ารางวัลOscarได้สองครั้ง


เราเพิ่งจะนำเสนอบทความเรื่องปัญหาวงการ Hollywood ที่เพิกเฉยต่อผลงานของผู้กำกับหญิงไปเมื่อไม่นานมานี้ (https://www.jeban.com/topic/343490)    รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมของ Jane Campion แห่ง The Power Of  The Dog  น่าจะกลายมาเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้ผู้ทรงอิทธิพลในวงการภาพยนตร์เปิดใจยอมรับกับผู้กำกับหญิงมากขึ้น     นี่คือ Oscar ตัวที่ 2 ของเธอ หลังจากที่เคยสร้างความสำเร็จจากหนัง  The Piano ในยุค 90s (เธอได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม)     และทำให้เธอเป็นผู้กำกับหญิงคนแรกที่ได้รับรางวัลเกียรติยศอันนี้สองครั้ง  ซึ่งบอกได้เลยว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยากเย็น  เพราะน้อยครั้งที่ผู้กำกับหญิงจะได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลOscar  จนช่วงปีหลังๆ ได้มีการเคลื่อนไหวเพื่อกดดันองค์กรให้ปรับปรุงความหลากหลายของสมาชิกผู้มีสิทธิ์ลงคะแนน    จากเดิมที่เสียงโหวตส่วนใหญ่จะมาจากคนในวงการหนังที่เป็นชายผิวขาววัยกลางคนซึ่งสร้างข้อโต้แย้งว่า คยกลุ่มนี้ย่อมจะมี  bias ลงคะแนนให้แต่กับพรรคพวกเดียวกัน  ก็ได้เชิญสมาชิกใหม่ที่เป็นเพศหญิงและมีเชื้อชาติที่หลากหลายมากขึ้นให้มาเป็นผู้ลงคะแนนตัดสิน


Troy Kotsur นักแสดงหูหนวกคนที่สองที่ได้รับรางวัล Oscar




ไม่พลิกโผค่ะ กวาดรางวัลมาแล้วหลายเวทีจนทำหลายฝ่ายทำนายไว้ด้วยความมั่นใจว่า Troy Kotsur จะต้องสร้างประวัติศาสตร์นักแสดงหูหนวก-เป็นใบ้คนที่สองที่คว้า Oscar และนับเป็นนักแสดงชายหูหนวกคนแรกที่ได้รางวัลนี้ ส่วนนักแสดงหูหนวก-เป็นใบ้คนแรกผู้ได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม Marlee Matlin จากหนัง Children of a Lesser God เมื่อ 35 ปีก่อน เธอได้ร่วมแสดงใน Coda ในบทภรรยาของ Troy

เขาได้ปิดท้าย speech ที่น่าประทับใจด้วยการอุทิศรางวัลให้ กลุ่มคนหูหนวก กลุ่มคนที่มีพ่อแม่เป็นคนหูหนวก และกลุ่มคนพิการว่า

"นี่คือช่วงเวลาสำคัญของพวกเรา"  


และฝากถึงสมาชิกครอบครัวว่า

"ดูสิครับ ผมทำได้แล้ว"




เราขอเพิ่มเกร็ดที่น่าสนใจของ Coda หนังที่พาให้โลกรู้จักกับ Troy Kotsur กันนิดหน่อยค่ะ

  • หนังได้เข้าชิง Oscars สามสาขา และได้รางวัลทั้งหมด  นั่นคือ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม  บทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม เป็นรางวัลใหญ่ทั้งนั้น ผู้กำกับทำหน้าที่เขียนบทด้วยเป็นผู้กำกับหญิง Siân Héder    เธอเคยเขียนบท Orange Is the New Black   และถนัดกับการเล่าเรื่องราวของคนชายขอบ
  • Coda เป็นหนัง feel good ฟอร์มเล็ก เงินทุนสร้างสิบล้านเหรียญ และนอกจากMarlee Matlin ก็ไร้นักแสดงระดับแม่เหล็ก  เล่าเรื่องราวของครอบครัวชาวประมงที่เป็นใบ้-หูหนวก ยกเว้นลูกสาววัยทีนที่ไม่ได้เป็นผู้พิการ  เธอต้องเลือกระหว่างความฝันที่จะเป็นนักร้องมืออาชีพกับการดูแลครอบครัวที่มีอุปสรรคในการติดต่อสื่อสารกับสังคมภายนอก  Troy Kotsur รับบทชายหูหนวกที่ต้องรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของลูกสาวนั่นเอง
  • การทลายกำแพงจากสภาวะร่างกายที่แตกต่างจนก้าวมาถึงความสำเร็จในระดับนี้ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่า นี่จะไม่ใช่บทสรุปที่จะจบตรงนี้ เราจะต้องได้เห็น Troy Kotsur และนักแสดงหูหนวกได้สร้างชื่อเรืองโรจน์ในวงการต่อไปในวันข้างหน้า




จากรายการ So You Think  You Can Dance  กลายมาเป็นนางเอก Oscars  


เส้นทางสู่ความเป็นดาวของชาว Hollywood มีความแตกต่าง แต่สำหรับ Ariana DeBose ที่เทรนเพื่อเป็นนักเต้นมืออาชีพมาตั้งแต่ยังเยาว์วัย งานแสดงหนังฟอร์มยักษ์อาจจะเคยเป็นสิ่งที่ดูไกลตัว เธอเคยเข้าร่วมกปะกวดเฟ้นหาแชมป์นักเต้นใน So You Think You can Dance ในปี 2009 แม้ว่าจะตกรอบ เธอก็มุ่งมั่นเพื่อออดิชั่นเพื่อแสดงละครBroadway สั่งสมประสบการณ์อีกหลายปีก่อนจะโด่งดังในวงการนี้ เมื่อได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Tony ประตูโอกาสก็ได้แง้มออกมาให้เธอสลับมายังวงการภาพยนตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อผู้ที่เห็นแววในตัวเธอคือ Steven Spielberg พ่อมดแห่งวงการหนังที่กำลังเสาะหานางเอกมารับบท Anita แห่ง West Side Story


หลังจากนั้น ชีวิตของเธอก็พลิกผันไป
 
บท Anita ทำให้ชื่อของ Ariana ปรากฏในรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลชั้นนำที่ยาวเป็นหางว่าว จากนางเอก Broadway ที่ยังไร้ชื่อเสียงในวงการภาพยนตร์ เธอก็ผงาดขึ้นมาเป็นนางเอกดาวรุ่งอนาคตสดใสเจิดจ้า ยิ่งถึงค่ำคืนที่เธอได้สัมผัสรางวัล Oscar ก็ได้การันตีว่า ดาวดวงใหม่ได้ส่งแสงระยิบระยับ เธอได้รับคัดเลือดให้ร่วมแสดงในหนัง superheroจาก Marvel Comics และก้าวมารับบทนางเอกในหนังไซไฟเรื่องใหม่
ความสำเร็จที่ถาโถมเข้ามา ทำให้เธอส่งข้อความสร้างแรงบันดาลใจในขณะขึ้นเวทีรับรางวัล Oscar ไว้ว่า

"ลองจินตนาการถึงเด็กผู้หญิงที่นั่งเบาะหลังรถ Ford Focus สีขาว แล้วจ้องมองไปในตาของเธอ คุณจะได้เห็นผู้หญิงที่เป็นqueerอย่างเปิดเผย เธอเป็นหญิงสาวที่มีเชื้อสาย Afro Latina ผู้ที่ได้ค้นพบความพลังในการใช้ชีวิตผ่านผลงานทางศิลปะ"


"ถึงทุกคนที่เคยรู้สึกข้องใจสงสัยในตัวตนของคุณ หรือพบว่าตัวเองอยู่ในจุดที่ดูสับสน ครึ่งๆกลางๆ ฉันขอรับรองว่า จะมีที่ยืนสำหรับพวกเราค่ะ"




Billie คว้ารางวัลเพลงประกอบยอดเยี่ยม


อายุยังน้อย แต่ก็รุ่งจนฉุดไม่อยู่  Billie และFinneas  พี่ชายที่ร่วมกันสร้างสรรค์เพลง  No Time to Die    ทั้งคู่ส่งคำขอบคุณไปยังพ่อแม่ที่เป็นฮีโร่สร้างแรงบันดาลใจให้เสมอมา  





Red Carpet




Kristen Stewart

ตอนแรกก็เดาไปว่า Kristen จะใส่ชุดใดใน collection ของ Chanel มาเดินพรมแดง    แน่นอนว่าเป็น  talk of the town กันไปเลย เพราะจับ short shorts มาใส่คู่กับสูทที่ปลดกระดุมเสื้อตัวในเกือบทุกเม็ด   จริงๆแล้วเห็นลุคแนวนี้จาก KStew บ่อยเลยค่ะ แต่เธอเลือกใส่มาร่วมงาน Oscar ที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมก็สร้างความฮือฮาแน่นอน

มาพร้อมกับคุณคู่หมั้น  โชว์หวานจนกลิ่ความรักพุ่งมาปะทะหน้า!



Jessica Chastain


เราค่อนข้างแปลกใจที่ได้เห็น Jessica เลือกชุดGucci สี pastelวิ้งๆประดับระบาย (อันเป็นsignature ของGucci ในยุคหลังๆ) ช่วงที่เธอโพรโมทหนัง The Eyes Of Tammie Fay ก็ใส่ชุด Gucci ออกงานเช่นเดียวกัน แต่ก็เป็นสไตล์ที่แตกต่างจากแนวเจ้าหญิงหวานแหววในคืนนี้ หากติดตามลุคต่างๆบนพรมแดงของ Jessica จะพบว่า เธอมักเลือกชุดที่ดูงดงามแบบเทพธิดา เน้นทรวดทรงองเอว แต่สำหรับงานสำคัญที่เธอได้ลุ้นรางวัลใหญ่เต็มที่ ก็ได้มาในชุดที่ดูแปลกตาจากแนวที่เห็นกันจนคุ้นเคย


ถามว่าชุดสีดอกไลแลคดูโดดเด่นหรือไม่  แน่นอนว่าบนพรมแดงนี้ดูงามเด่นไม่แพ้ใคร  แต่ใจของเรานั้นไม่อินกับระบายที่ชายกระโปรงนัก  เมื่อเปรียบเทียบกับชุดเขียวตองตานีที่เธอใส่ไปร่วม  Vanity  Fair Party กลับคิดว่า นี่น่าจะเป็นชุดที่เธอเลือกใส่ขึ้นรับ Oscar มากกว่า   จะบอกว่าเป็นลุคถนัดของเธอก็ไม่ผิดนัก  ทั้งสีสันและเนื้อผ้าไหมจับเดรปนี้ทั้งขับผิวและhighlightเรือนร่างของเธอให้ดูงามสง่า  ออร่านางเอก Oscar เปล่งประกายสุดๆ


Penelope Cruz



อีกหนึ่งผู้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม    Penelope  เลือกsilhouette  ที่ดูคล้ายกับชุด Chanel สีดำที่เธอใส่มาเดินพรมแดง Oscars เมื่อปี  2020     สำหรับเรา เธอคือผู้หญิงที่สวยมาก  แต่ชุดไม่ได้ highlight ความงามของเธอนัก  

ก่อนหน้าที่เธอจะมารับหน้าที่ Chanel brand ambassador เธอเคยโดดเด่นบนพรมแดงมากกว่านี้หลายระดับเลยล่ะ เยื้องย่างเข้างานมาแล้วดึงดูดความสนใจไปจุดเดียว และแ แต่ช่วงหลังๆ ลุคของเธอดูไม่เป็นที่จดจำนัก ไม่ใช่ว่าดูไม่ดี แต่มันกลืนหายจนน่าแปลกใจ ดูเป็นคนละคนกับ Penelope ที่ใส่ชุดขนนก Versace ใน Oscar 2007 หรือชุดวินเทจ Balmain ในปี 2009 ซึ่งชุดพวกนี้มักจะถูกสื่อแฟชั่นจับให้อยู่ในกลุ่ม 'ชุดออกงานพรมแดง Oscars ที่ไม่สามารถลืมเลือน'  


Olivia Colman


เราสัมผัสได้ว่า  Olivia Colman เป็นคนที่สนุกกับแฟชั่น   เธอนำเสนอรูปแบบแปลกใหม่อยู่ตลอด  งานหนึ่งอาจจะสวยเรียบหรู อีกงานอาจจะเน้นดีไซน์ดราม่าเยอะๆ    นี่เป็นอีกครั้งที่เธอได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม  และวางใจให้  Dior  จัดเตรียมชุดสีเงินที่จับพลีทพริ้วไหวทั้งตัว  ทำให้นึกถึงความงาม old Hollywood อย่าง Katherine Hepburn อะไรทำนองนั้น

Nicole Kidman



Nicole มีรูปร่างและส่วนสูงไม่ต่างจากนางแบบรันเวย์และผ่านประสบการณ์เดินพรมแดงในงานเลิศหรูมาแล้วมากมาย   Oscars ปีนี้เธอเลือกชุด Armani Privé  สีฟ้าอมเทาที่มีโดดเด่นด้วยดีไซน์จีบพองรอบเอวและโบว์ขนาดใหญ่ด้านหลัง  (เธอเลือกดีไซน์โบใหญ่ออกงานมาหลายครั้ง)

Nicole ร่วมงานประกาศรางวัลOscars มาตั้งแต่ปี91 ค่ะ เราคงนับ iconic looks ของเธอไม่ถูก แต่สำหรับ Oscar คืนนี้ เราไม่คิดว่านี่คือชุดที่สวยประทับในความทรงจำมากที่สุดจาก Nicole แต่ก็เป็นชุดสวยตามมาตรฐานสูงลิบลิ่วของเหล่านางเอก A List



Lupita Nyong'o




ชุด Prada สีทองของ Lupita เข้าทำเนียบ  best dressed  แทบทุกสื่อ ตอนแรกนั้นไม่เก็ทนักเพราะมองแว้บแรกก็คิดถึงผลงานศิลปะจากฟอยล์สีทองหรือกระดาษของขวัญ  แต่มาเปลี่ยนใจตอนที่ได้เห็นภาพเคลื่อนไหวค่ะ    มันดูสวยกว่าภาพนิ่งจริงๆ   และให้เครดิตที่เธอทดลองอะไรใหม่ๆตลอด


Lily James


ขึ้นชื่อว่า  Versace ก็ต้องมาพร้อมกับความเซ็กซี่แน่นอนอยู่แล้ว    ทั้งผ้าchiffonโปร่งบางสีชมพูและดีไซน์ผ่าข้างโชว์เรียวขาทำให้เรานึกถึงการต่อยอดดีไซน์จากlingerieสุดหรู    เราเดาเล่นๆว่า อาจจะเป็นเพราะ Lily ต้องการโพรโมทผลงานแสดงที่รับบทเป็น Pamela Anderson  เธอจึงมาพร้อมกับแรงดึงดูดทางเพศที่แปลกตาไป 


Ariana DeBose



ไม่เพียงแต่จะคว้ารางวัล Oscar จากบทนักแสดงสมทบหญิงแห่ง West Side Story แต่pantsuit สีแดงจาก Valentino Haute Coutureก็ทำให้ Ariana Debose  ถูกจัดให้อยู่ในรายชื่อ Oscars Best dressed list   สวยงามเปล่งประกายสมกับเป็นดาวเด่นของงาน  ใครว่าใส่กางเกงแล้วจะดูเลิศหรูไม่ได้!


Timothée Chalamet




สารภาพว่าเห็นน้อง Timmy แล้วต้องอุทานเสียงสูงในใจว่า 'ลู้กกกกกก!!' ถ้าเปลี่ยนเป็นฉากบนเวทีแล้วปิดศีรษะไว้นี่ต้องเข้าใจว่าไอดอลK Pop แน่ๆค่ะ ปลื้มที่น้องเลือก LV ชุดนี้มาออกงาน เราจะเล่าให้ฟังเพราะอะไร

ไม่นานมานี้ นักแสดงรุ่นใหญ่อย่าง Sean Penn จิกกัดผู้ชายยุคใหม่ว่าได้กลายเป็นพวก'แต๋ว' และเปรียบเทียบผู้ชายที่แต่งกายแบบ feminine ว่ามีพันธุกรรมความขี้ขลาด และนี่คือคำพูดของผู้ชายที่ถูกแจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกายมาแล้วหลายครั้ง แม้ Madonna จะยืนยันหนักแน่นว่า ข่าวลือที่อดีตสามีทุบตีเธอจนต้องขอหย่านั้นเป็นเรื่องเท็จ แต่การใช้กำลังทำร้ายคนอื่นจนถูกจำคุกไม่ได้แสดงถึงพันธุกรรมที่แสนกล้าหาญแต่อย่างใด


เมื่อพระเอกอนาคตไกลอย่างTimmy ใส่ jacket ลูกไม้(แบบไร้เสื้อตัวใน!)มาออกงานประกาศรางวัลชั้นนำ เราก็ได้รับรู้ถึงความมั่นใจของน้อง และอดจะคิดตามไม่ได้ว่า คุณสมบัติของผู้ชายที่ดีไม่ได้ถูกจำกัดที่สไตล์การแต่งตัวที่พวกเค้าชื่นชอบหรือบุคลิกที่ดูนุ่มนิ่ม แต่เป็นตัวตนภายในที่ทำให้พวกเค้ารู้จักให้เกียรติคนอื่น ไม่พูดจาดูหมิ่นดูแคลนคนที่แตกต่างจากตัวเอง หรือคนที่แหวก normเดิมๆ  




Timmy แหวกอกมาชนกับ Kristen แล้วโชว์สร้อยคล้ายกันซะด้วย

who wore it better?


 jacket วิ้งที่เปลือยด้านในอาจจะให้นึกถึง MC Hammer   แต่เราคิดว่ามันเป็นสีสันที่สนุกสนาน การออกนอกกรอบบ้างก็ทำให้งานดูน่าเบื่อน้อยลงนะ



Zendaya



ชุด Valentino ที่ประกอบไปด้วยเชิ้ตคร็อปตัวจิ๋วและกระโปรงเลื่อมระยิบทำให้Zendaya ได้รับคำชื่นชมมากมายทีเดียว หลายคนมองว่าZendaya ทั้งสูงและเพรียวบางพอๆกับนางแบบ เมื่อรวมกับบุคลิกสวยสง่าและความมั่นใจ จะทดลองลูกเล่นเครื่องแต่งกายในรูปแบบใดก็ดู  on point ไปหมด    สำหรับเราลุคนี้ไม่ถึงกับเรียกได้ว่า iconic  แต่ก็ดูสนุกสนานสมวัย มีไอเดียน่าสนใจ  ภาพเคลื่อนไหวก็สวยด้วยค่ะ ตอนนั่งในงานยังดูสวยเลย


Jada Pinkett Smith


เจอดราม่าในงานดึงดูดความสนใจเรื่องอื่นๆไปหมด    ก่อนจะเกิดเรื่องขึ้นมา  เราก็ค่อนข้างมั่นใจว่า เธอตั้งใจจัดเต็มมาเพื่อฉลองความสำเร็จร่วมกับสามี  ตามคำบอกเล่าจากสไตลิสต์ของเธอว่า  สำหรับงานใหญ่ระดับนี้จะต้องอลังการที่สุด  




เมื่อ Jada ได้ลองชุดจับระบายลากหางยาวเหยียดจาก Jean Paul Gaultier Couture ก็ตกหลุมรักทันที รวมไปถึงคะแนนบวกจากสีเขียวมรกตที่เข้ากันเป๊ะกับสูท Dolce & Gabbana ของสามียิ่งทำให้ตัดสินใจเลือกชุดนี้ได้อย่างรวดเร็ว

น่าเสียดายที่ตอนนี้ผู้คนพุ่งความสนใจไปกับเหตุการณ์ตบในตำนานมากกว่ารางวัลใหญ่ที่เฝ้ารอมานานหรือแฟชั่นที่โดดเด่น





Billie Eilish



ได้ยินหลายเสียงว่า    Billie ดูแตกต่างจนเกือบจำไม่ได้  แม้ว่าจะเคยทำผมสีเข้มมาก่อน แต่คราวนี้เธอเลือกความ glam แบบ 60s ด้วยผมบ็อบปลายงอนมา mix กับชุดระบาย Gucci ที่ dramatic   เป็นความลงตัวระหว่างความ dark และความแบ๊ว 

Benedict Cumberbatch และ Sophie Hunter


คู่นี้จะปรากฏตัวบนพรมแดงแบบกลมกล่อมเข้ากันเสมอ พี่เบนไม่ได้ฉีกแนวให้หวือหวา  เลือกทักซิโด้Giorgio Armani ส่วนคุณภรรยาใส่ชุด Dior ที่ให้ความรู้สึกอ่อนหวาน  เห็นภาพนี้แล้วยอมรับเลยว่า พวกเค้าเป็นคู่ที่ดูหน้าคล้ายกันมากเลย !


Megan Thee Stallion



ปีนี้มีคนดังฝั่งดนตรีมาร่วมงานเยอะจนแปลกตานิดๆ  หลายคนได้รับคำเชิญมาแสดงบนเวทีนั่นเองค่ะ  แร็พเพอร์สาวสุกเซ็กซี่ได้เดบิวท์พรมแดง Oscars  ในชุด custom ฝีมือ Gaurav Gupta  ดีไซน์เนอร์เชื้อชาติอินเดีย


สำหรับ Megan ชุดที่มีดีไซน์ cut out และผ่าต้นขาไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่แม้แต่น้อย  แต่สำหรับค่ำคืนสุด glamourous     เธอได้เลือกชุดที่ตัดเย็บอย่างประณีต ต้องใช้เวลากว่า 1500 ชั่วโมงเพื่อปักกลาสบีดและคริสตัลที่รับแสงจากหลายทิศทาง เทคนิคการประกอบโครงชุดทำให้ยามเคลื่อนไหวดูสวยงามเหมือนครีบสัตว์น้ำ    เรามองว่าเป็นชุดที่ดูเลิศเลอและมีstory แบบ MET gala   แต่สำหรับการเปิดตัวในงานใหญ่ครั้งแรก เราว่าเธอปังเชียวล่ะ  สีของชุด amazingก็เหมาะกับเธอจริงๆ


Beyonce




Queen Bey อาจจะไม่ได้รับรางวัลเพลงประกอบยอดเยี่ยมจาก  Oscar  ในครั้งนี้  แต่ภาพการแสดงคนคอร์ทเทนนิส (ที่บันทึกไว้ล่วงหน้า) ก็ได้รับเสียงชื่นชมว่า เธอคือตัวแม่เรื่อง performance ที่แท้จริง    และแม้ว่าจะเลือกมาร่วมงานแบบไม่เดินพรมแดง    แต่เธอก็ทำให้แฟนๆตื่นเต้นกับชุด Valentino สีเหลืองที่ตรงกับคอนเสปท์ go big or go home 

ช่วงหลังๆมานี้ เราไม่เห็น Beyonce เดินพรมแดงไปพร้อมกับเพื่อนร่วมวงการเท่าใดนัก เธอจะตรงเข้างานมาเลย แล้วแชร์ภาพแฟชั่นผ่าน social media ให้แฟนๆติดตามแทน   แอบคิดถึงmoment การโพสบนพรมแดงของเธอเหมือนกันค่ะ


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE