ช่วงนี้งานดนตรีกำลังคึกคัก พร้อมการกลับมาของงานดนตรีสุดยิ่งใหญ่อย่าง
Coachella ที่ปีนี้มีศิลปินไทยคนแรกอย่าง "มิลลิ" ได้ขึ้นโชว์ในนามค่าย 88Rissing รวมกับศิลปินเอเชียดังอีก 7 คน บอกเลยว่าปังกันทุกสเตจ!

แต่งานดนตรีระดับโลกสุดยิ่งใหญ่ ไม่ได้มีแค่ Cochella นะจ๊ะ ยังมีอีกหลายงนมากๆ แต่ละงานก็มีจุดเด่นแตกต่างกันไป มาลองดูกันดีกว่า ว่ามีงานไหนชื่อคุ้นๆ กันอีกบ้าง

สารบัญ

• Coachella
• Tomorrowland
• Glastonbury Festival
• Asia Song Festival
• Wonderfruit

Coachella

Coachella Valley Music and Arts Festival หรือรู้จักกันในชื่อสั้นๆ ว่า Coachella งานจัดในหุบเขา Coachella Valley ที่เมือง Indio รัฐ California มีเวทีการแสดงทั้งหมด 11 เวที สเตจหลักที่ใหญ่ที่สุดคือ Coachella Stage และงานจัดเป็นประจำทุกปีช่วงเมษายน 6 วัน อย่างในปีนี้คือวันที่ 15-17และ 22-24 เมษายน

งานนี้เค้าก็ไม่ได้มีแค่ดนตรีนะ ยังมีงานศิลปะอื่นๆ ให้เสพและชมกันด้วย เช่น ภาพวาด งานสามมิติ งานประติมากรรม เนื่องจากงานมีหลายวัน บริเวณงานก็จะมีที่พักแบบ Camping ยอดฮิตด้วย

การแต่งตัว

การแต่งตัวเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์เด็ดของงาน Coachella เลยล่ะ! คนที่แพลนจะไปร่วมงาน ก็มักจัดเต็มกับชุดแบบไม่มีใครยอมใคร ส่วนผู้ชมทางบ้านอย่างเรา นอกจากฟังเพลงแล้ว ก็ดูแฟชั่นการแต่งตัวนี่แหละค้าา

เราอาจจะเห็นคนส่วนใหญ่แต่งสไตล์ Hippy, Bohemian แต่จริงๆ แล้วงานนี้ไม่ได้มี Dress Code แต่อย่างใด เพียงแค่อากาศในเดือนเมษายนนั้นสบายๆ เป็นฤดูใบไม้ผลิที่กำลังเข้าหน้าร้อน หลายคนก็เน้นแต่งสบายๆ นั่นเอง อยากแต่งแบบไหนก็จัดโลลดด

Tomorrowland

Tomorrowland คืองานดนตรีแนว EDM (Electronic dDance Music) สำหรับขาแดนซ์ตัวจริง จัดขึ้นที่ Provinciaal Recreatiedomein De Schorre ประเทศเบลเยี่ยม ไฮไลต์เด็ดของงานก็คือการรวม DJ ชื่อดังมาร่วมงาน ไม่ว่าจะเป็น David Guetta, Hardwell, Martin Garrixและอีกมากมาย แค่ได้ยินชื่อก็รับประกันความมันส์กันแล้วว

งานมักจะจัดขึ้นในช่วงอาทิตย์สุดท้ายของเดือนกรกฎาคม เป็นเวลา 3 วัน แต่ในปีนี้หลังจากที่งานโดนแคนเซิลเพราะโควิดมา 2 ปี ปีนี้เลยจัด 3 อาทิตย์กันไปเลยจ้า คือวันที่ 15-17, 22-24 และ 29-31 กรกฎาคม จะมีคนเข้าร่วมงานกว่า 600,000 คน! ส่วนที่พักก็มีหลายแบบทั้ง Camping, โรงแรม หรือแมนชั่นสุดไพรเวตก็ได้

การแต่งตัว

แต่งกันหลากหลายสไตล์ ส่วนใหญ่เน้นแต่งสบายๆ เพราะเป็นหน้าร้อน มักใส่กางเกงขาสั้นคู่กับเสื้อยืดหรือบราคร็อปท็อป

Glastonbury Festival

Glastonbury Festival คืองานเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน UK จัดที่ Somerset ประเทศอังกฤษ เริ่มมีมาตั้งแต่ปี 1970 นอกจากงานเพลงแล้ว ยังเป็นงานจัดแสดงศิลปะอื่นๆ ด้วย เช่น เซอร์คัส คณะตลก โรงละคร คาบาเรต์ และอื่นๆ อีกมากมาย กิจกรรมแน่นแบบนี้ เค้าจัดติดต่อกัน 5 วัน ในช่วงเดือนมิถุนายน ว่ากันว่าบรรยากาศในงานนี้ก็ไม่เป็นสองรองใคร ถ้ามีโอกาสก็ควรไปสักครั้งในชีวิต

การแต่งตัว

ไม่มีการกำหนดตีมที่แน่นอน ส่วนใหญ่มักแต่งตัวสบายๆ ตามที่ตัวเองชอบ มักเป็นขาสั้น หรือชุดที่ใส่แล้วไม่ร้อนเกินไป

Asia Song Festival

Asia Song Festival หรือ A-Song-Fe หรือ ASF เป็นงานเทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่มากของเกาหลี มีโชว์ของศิลปิน K-POP ชื่อดังหลายคน เช่น NCT Dream, แบมแบม, ซานดาร่า และยังรวบรวมศิลปินเอเชียในอุตสาหกรรม Pop Music ในเอเชียมาร่วมโชว์ด้วย จัดขึ้นที่ประเทศเกาหลีใต้เป็นประจำทุกปี

การแต่งตัว

แต่งตัวเหมือนไปคอนเสิร์ตทั่วไปที่จัดในฮอลล์ ไม่ได้มีสไตล์ที่ชัดเจน มักแต่งตามใจชอบ ส่วนใหญ่อาจใส่เสื้อยืดหรือเชิ้ตแขนยาว หรือาจสกรีนเสื้อเป็นหน้าศิลปินที่ชื่นชอบ 

Wonderfruit

ส่งท้ายที่ประเทศไทยกันบ้าง Wonderfruit ก็ไม่ได้เป็นเพียงแค่งานดนตรีเท่านั้น แต่ยังมีศิลปะแขนงอื่น รวมถึงเวิร์คช็อปให้ร่วมสนุก คล้ายๆ กับงาน Coachella จนได้ชื่อว่าเป็น Coachella แห่ง Southeast Asia

ถึงงานจะจัดที่ไทย แต่ก็รวบรวมศิลปินจากทั้งไทยและต่างประเทศ แบ่งตามโซนและเวที งานมีทั้งหมด 4 วัน ด้วยกัน ที่สำคัญจุดเด่นของงานนี้อยู่ที่ การให้ความสำคัญกับความยังยืน หรือการใช้ชีวิตแบบเฮลตี้  มักจะจัดขึ้นเป็นประจำในช่วงเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ร้อนน้อยสุดของปีจ้าา

การแต่งตัว

งานนี้ก็ไม่ได้มี Dress Code แต่งส่วนใหญ่คนนิยมแต่งตัวสบายๆ ตามสภาพอากาศที่ไม่ร้อนไม่หนาว สไตล์คล้ายงาน Coachella คือ Hippy, Bohemian และเน้นแสดงความเป็นตัวเองออกมาผ่านทางชุด

จะเห็นได้ว่าแต่ละเทศกาลก็มีความพิเศษแตกต่างกันไป ส่วนแฟชั่นชุดที่เราเห็นกันบ่อยๆ ก็ไม่ได้มีงานไหนที่กำหนดไหนตายตัว แล้วแต่คนไปร่วมงานเลย ว่าอยากแต่งแบบไหน เราถึงได้เห็นไอเดียสร้างสรรค์สนุกๆ ทุกปี มาเป็นแรงบันดาลใจกันแบบแต็มแม็กซ์!

ที่มา: partybangkok