Crème de La Mer จากแผลไฟไหม้ของนักฟิสิกส์อวกาศ สู่ครีมกระปุกละหมื่นที่คนทั้งโลกยอมจ่าย
sweetsong1364สกินแคร์แบรนด์อื่นอาจเริ่มต้นที่ห้องแล็บหรือกระบวนทางเคมี แต่ La Mer เริ่มจากมุมมองของฟิสิกส์ซึ่งเป็น DNA ของแบรนด์ ใครจะคิดว่าแผลไฟไหม้รุนแรงของนักฟิสิกส์ จะกลายเป็นจุดกำเนิดของ Crème de La Mer ตำนานสกินแคร์ที่คนทั่วโลกยอมควักเงินหลักหมื่นเพื่อซื้อมาใช้
ในปี ปีค.ศ. 1950 ดร. แมกซ์ ฮูเบอร์ (Dr. Max Huber) นักฟิสิกส์ด้านอวกาศยานทำการทดลองแต่ผิดพลาด เกิดการระเบิดตู้ม จนเขาได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้าและเกิดแผลไหม้ และเขาไม่สามารถหาอะไรมาเยียวยาผิวที่ไหม้เกรียมของเขาได้ เขาจึงตัดสินใจค้นคว้าและวิจัย เพื่อหาทางบรรเทาอาการและให้รอยแผลเป็นของเขาจางลง
เขาสังเกตเห็นว่าชาวประมงในอ่าวซานดิเอโก ใช้สาหร่ายทะเลเพื่อช่วยรักษาบาดแผล โดยเฉพาะสาหร่ายเคลป์ทะเล (Sea Kelp) สาหร่ายสีน้ำตาลนี้เป็นหนึ่งในพืชที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ดร. ฮูเบอร์ ได้ใช้เวลากว่า 12 ปี ผ่านการทดลองมากกว่า 6,000 ครั้ง จนกระทั่งค้นพบกระบวนการที่สมบูรณ์แบบ คือต้องนำไปการหมักบ่มทางชีวภาพเป็นเวลา 3-4 เดือน เขาใช้กระบวนการทางฟิสิกส์เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยใช้คลื่นเสียงและแสงกะพริบทำหน้าที่เหมือนตัวเร่งปฏิกิริยา ทำให้ได้น้ำสกัดที่เข้มข้นยิ่งขึ้น และผลลัพธ์ที่ได้คือ Miracle Broth™ ที่กลายมาเป็นหัวใจสําคัญของ Crème de la Mer ช่วยฟื้นบำรุงผิวอย่างล้ำลึก คืนความชุ่มชื้น และช่วยให้ริ้วรอยแลดูลดเลือนลง ทุกครั้งที่มีการสร้างน้ำสกัดล็อตใหม่ จะมีการนำส่วนเล็กน้อยจากล็อตก่อนหน้ามาใช้
หลังจากที่ ดร. ฮูเบอร์ ได้ใช้ครีมที่เขาคิดค้นขึ้นกับผิวของตนเอง และเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่น่าพอใจ เขาเริ่มขายมันให้กับเพื่อนๆ จนในที่สุด Crème de la Mer ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นและกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง จนบริษัท Estée Lauder ก็ต้องการเข้ามามีส่วนร่วม แต่เขากังวลว่าบริษัทขนาดใหญ่อาจทำลายแบรนด์ของเขา ฮูเบอร์จึงปฏิเสธไป ซึ่ง Estée Lauder ก็เคยให้พยายามทำ La Mer ขึ้นมาเอง ถึงหน้าตาและกลิ่นเหมือนกัน แต่ผลลัพธ์เทียบกันไม่ได้เลย
เมื่อฮูเบอร์เสียชีวิตลงในปีค.ศ.1991 ความลับของ La Mer ได้ถูกทิ้งไว้กับลูกสาวของเขาที่เคยยืนเคียงข้างพ่อเพื่อเรียนรู้วิธีทำ La Mer แต่ฮูเบอร์ไม่เคยมีสมุดบันทึกจดสูตรใดๆ มีเพียงเทปบันทึกเสียงเป็นพันๆ อัน ลูกสาวของเขาก็ไม่สามารถทำครีมได้เหมือนที่พ่อทำ เธอคิดว่าลาแมร์อาจจะต้องตายไปพร้อมกับพ่อเธอ จึงติดต่อกลับไปที่ Estée Lauder บริษัทใช้เวลาผลิตถึงหนึ่งปีเพื่อที่จะสร้างครีมลาแมร์ได้เหมือนที่ฮูเบอร์ทำ เคยแม่กระทั่งจ้างผู้มีพลังจิตมาปรึกษากับฮูเบอร์จากโลกหลังความตาย (และก็ได้ผลซะด้วย!)
Crème de La Mer ที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน เพิ่งเริ่มวางจำหน่ายในปีค.ศ. 1996 ด้วยกระบวนการหมักบ่มที่ยาวนานและความใส่ใจของแบรนด์ล้วนเป็นเหตุผลที่ทำให้ La Mer มีราคาสูง จนมีคนกล่าวว่านี่คือ "โรลส์-รอยซ์แห่งวงการครีมบำรุงผิว" และครีมที่ล้ำค่าขนาดนี้ ก็ต้องใช้ให้ถูกวิธีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด Crème de La Mer (สูตรดั้งเดิม) ต้องกระตุ้นส่วนผสมออกฤทธิ์ใน Miracle Broth™ โดยการวอร์มเนื้อครีมระหว่างปลายนิ้วสักครู่ แล้วค่อยทาลงบนใบหน้าและลำคอได้ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยการกดเบาๆ ลงบนผิว เพียงเท่านี้ก็จะได้รับการปรนนิบัติผิวสุดล้ำค่ากันแล้ว ปัจจุบัน Crème de La Mer ได้ขยายไลน์ออกมามีทั้งหมด 4 สูตร




Discussion (4)