ได้ฤกษ์แล้วจ้าาาาา สวัสดีทุกคนค่าทั้งชาวจีบันที่สรรค์สร้าง content ก็ดีหรือที่คอยติดตามรีวิว beauty products ต่าง ๆ ก็ดีค่า ทุกคนสามารถเรียกว่าคุณจิ๊บก็ได้ค่า ปกติเราเป็นคนที่ผิวทั้ง sensitive, acne-prone มีรูขุมขนที่กว้างแบบมากกกก ที่จมูกและแก้มข้างจมูก รวม ๆ เคยมันและแห้งลอก ส่วนตอนนี้ผิวผสมเลยค่ะ ถ้าอยากรับรู้เรื่องราวสิว ๆ หรืออะไรที่น่าสนใจจากเราก็ติดตามกันต่อนะค้า

     สำหรับวันนี้เราจะมาเล่าหนทางสุดเศร้าสมัยเราเป็นสิวหนัก ๆ (ตอนนี้ก็ยังเป็นนะแต่ว่าดีขึ้นทุกวันเลย ^^ ภูมิใจมาก55555555) ถ้าอยากรู้ว่าไปโดนตัวไหนมา โดนของหรือเปล่า PM 2.5หรือแมสก์ หรืออะไร เชิญอ่านต่อเลยจ้า

คร่าว ๆ เลยนะ สิวเรามีน้อยมากในช่วงอายุ 15-17 จะมีแค่ขึ้นบ้างประปรายตามประสาวัยรุ่น แต่แก้มจะใสมากกกก ไม่ได้มีผดหรือสิวแบบเยอะ ๆ ค่ะ มีแบบพอขำ ๆ เม็ดใหญ่สักนาน ๆ ที 1-2 เม็ดเองแหละ

     จนกระทั่งขึ้นมหาลัยเราเห็นภาพเก่าของตัวเองที่บันทึกไว้ในแอคหลุม5555555 พบว่าเห้ยยย หน้าใสปังนะ แต่เริ่มมีสิวเม็ดใหญ่เกิดขึ้นปลายปี 1 แต่ยังไม่หนักมากเพราะกลบได้และหายไวมาก ๆ เข้าใจอานุภาพวัยเยาว์แล้วจริง ๆ

     ต่อมาประมาณปี 2 ขึ้นปี 3 เริ่มเป็นวัยแบบเห้ยตัวจี๊ดอะ ก็เริ่มจะใช้นู่นนี่มากขึ้น แต่บอกเลยแบรนด์ดังทั้งนั้นนะ แต่กลายเป็นว่าไม่หาย แถมเหมือนจะแพ้สักตัวมาเลยล่ะ ด้วยความมันหลายตัวเลยไม่กล้าพูดว่าใครเปงคนทำ!

และมีครั้งนึงที่เป็นจุดพลิกผันของชีวิตผิวใสเลยก็คือ...

     มือมันว่างเลยเกาหน้าไปเรื่อย พอเกาก็เจอเม็ดอุดตันเลยแกะเล่นพบว่าเห้ยยย มันมีสิวหลุดออกมานี่นา เลยนั่งเกาไปเรื่อย ๆ ….
     มันแย่มากนะทุกคน ทั้งความสกปรกของเล็บ ทั้งผิวโดนทำร้าย เปิดให้เชื้อโรคเข้าไป กระตุ้นสิวที่มีให้ปะทุยิ่งกว่า ทีนี้มาหมดทุกอณูมีสิวทุกที่ แน่น ๆ 

     เรื่องสภาพจิตใจคือพังมาก เจอทั้งสายตาและคำทักทายที่ไม่ค่อย positive เสียกำลังใจมากเลย เราเลยเริ่มรักษาจากคลินิกหมอดังที่ไม่แพงมาก (แต่ก็ไปบ่อยและถี่นะรวม ๆ ก็มีค่าใช้จ่ายพอควรนะ)

      ต่อมาก็หาโรงพยาบาลในเครือมหาวิทยาลัย แรก ๆ เหมือนจะดี หลัง ๆ แรงไปหน้าแหกไม่หายสักที จนเรียนไปหาหมอไม่ไหวแล้ว ไกลเว่อร์สาว

     จนเราหาหมอแบบสายกดสิว ให้ยาคลินิกเขาเอง ซึ่งก็ดีขึ้นแต่เจ็บปวดมาก ร้องไห้ทุกครั้งเลย เจ็บมาก มีทั้งกด ฉีด กรอหน้า แบบกรอผงคริสตัลให้หลุมมันได้รับการกระตุ้นให้เกิดผิวใหม่ มันฟังดูว้าวซ่าใช่ปะ แต่มันเจ็บมากกกกก เหมือนกระดาษทรายขัดหน้าเลย

สุดท้ายเราก็หยุดทุกอย่าง จนเพื่อนให้มาส์กชมพูของ Divyne มาลองใช้ เพราะเขาอะดีขึ้นและนั่นก็ทำให้เราเข้าวงการซื้อใช้เองแทนแล้ว555555 เพราะไปคลินิกไม่ไหว แพงกว่า เจ็บกว่ามาก และยาบางตัวแรงมาก (งงเหมือนกันที่หมอไม่สงสัยเลยหรอว่าทำไมเราไม่ดีขึ้น เหมือนหมอจำเราเคสเราไม่ได้ด้วยซ้ำอะ ไม่โทษชีนะคนไข้เยอะเว่อร์)

     เราจะรีวิวให้ดูในสิ่งที่เรารู้จริง เพราะใช้มานานมาก

     นี่จะเป็นมาส์กโคลน 2 สูตรที่จะโชว์วันนี้ค่า อีกสูตรก็มีด้วยนะแต่หมดแล้วและกระปุกเป็นที่ใส่ของไปแล้ว5555555 ส่วนกระปุกสูตรเขียวกับชมพูอันเก่า ชีไปเป็นกระถางต้นไม้แล้วจ้า5555555 อันนี้จะเป็นรุ่น 2 แล้วคิดดูมันใช้ได้นานอยู่นะ แบบเฉลี่ยแล้วไม่แพงเลยถ้าไปดูสารสกัดกับดูว่าเขาให้ผลลัพธ์ยังไง

     ตัวสีเขียวเขาชื่อ Green Forever Young นะเผื่อจะไปตามกันเป็นตัวช่วยรอยสิวได้ไว ดีมาก และป้องกันให้สิวที่เพิ่งหายไม่เป็นรอยสีเข้ม ๆ รอยลึกจัด ๆ อะไรงี้ แต่เมื่อเช้าเราใช้ไปแล้ว เลยว่าจะมาส์กสีชมพูให้ดูจ้า

     ถ้าเพื่อน ๆ สั่งซื้อมาส์กคู่ขึ้นไปจะได้แปรงด้วยนะแบบขนนุ่ม ๆ ใช้กับ Clay Masks แต่เรามีแปรงสีฟ้าจากมาส์กสูตรเจลลี่ด้วยเลยชอบเอามาใช้ 555555555 ที่จะใช้ชมพูเพราะว่ามันมีสิวบางเม็ดเกียมปะทุพอดี เลยอยากจะย้ำชีให้ calm ลงอย่าทำตัวจี๊ดมากนะ!

อันนี้สภาพพพพพหน้ายม ๆ ตอนกลับมาจากทำงานเลยแบบจริง ๆ รีบถ่ายเก็บไว้เลยอะ มันจะมันเยิ้มร้อนแมสก์มาเลย สิวก็ตามที่เห็นนะคือเรามาไกลมากนะ และในทุกวันสิ่งเหล่านี้ก็ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นในทุกวัน ไม่เจ็บตัว ใช้ได้นานมาก คุ้มกว่าคือมันมีผลให้เห็นนี่แหละ ต่อไปไปดูวิธีใช้กันจ้า

     ด้วยความเซียน ใช้มาหลายครั้งมาก 4 กระปุกแล้วอะ

     ดังนั้นเราก็จะค่อนข้างรู้ดีเกี่ยวกับปริมาณ ถ้าอยากชัวร์ให้เริ่มจากไม่เยอะและหยดน้ำเบา ๆ ต้องเอาแบบความ paste ความใจ ให้มันทาได้ ปาดไป แต่ไม่หยดติ๋ง ๆ ดูจากบนแปรงนะมันจะอยู่บนแปรงได้สบาย ๆ เลย 

     ตอนตักผงก็ใช้แปรงนี่แหละใช้ช้อนทำม้ายยยย 555555 เราไม่เน้นทาทั่วหน้าขนาดนั้นนะ เราโบกตรงที่อยากเน้น เหลือค่อยกระจายไปคอ (อก หลังก็ได้ หรือคนใกล้ตัวก็ได้!)

     แต่ก่อนจะลงมาส์กบนหน้านะ หน้าต้องสะอาดก่อนเราจะได้ช่วยมาส์กเอาสิ่งสกปรกบนผิวออกไปก่อนระดับนึงเนาะ ซึ่งช่วยนี้เราใช้ 2 อย่าง อย่างแรกคนเป็นสิวต้องรู้จักแหละ ก็คือยัยแอคเน่เอดสีฟ้า สูตรผิวแพ้ง่าย 

     เราไม่รู้นะผิวแพ้ง่ายมันต้องแพ้ขนาดไหน 

     แต่เราแบบเคยผ่านมาเยอะขนาดนี้ก็น่าจะไม่ธรรมดาปะ 5555555 ชีก็จะวน ๆ แล้วเหมือนมีโฟมขาว ๆ บาง ๆ เรารู้สึกว่ามันเอี๊ยดนิดนึงนะ ยังไม่ได้ชอบที่สุดนะ แต่ไม่ได้แห้งลอกเหมือนสบู่คลินิก และก็ยังไม่พร้อมลองอะไรเลยมีชีติดบ้าน

     พอผิวสะอาดแล้วก็มาส์กเลยจ้า เราชอบใช้แปรงซิลิโคนหลัง ๆ นี้เพราะไม่ต้องล้างแปรงขน55555555555 มันล้างง่ายกว่า แต่ข้อเสียคือ มาส์กบนหน้าจะหนากว่าเวลาใช้แปรงแบบขน เราเลยจะปาดในบริเวณที่ต้องการหนา ๆ อยู่แล้ว เช่น หน้าผากและแก้มที่สิวเยอะ ๆ (หรือตรงที่สิวจะขึ้นก็ได้)

     ชีสูตร Pink อะเขาชื่อเต็ม ๆ ว่า Pink Superfruit Mask ซุปปอร์ฟรุตคือยอดผลไม้อะ ที่ไม่ใช่ทุเรียนนะ55555555555 แต่เป็นอารมณ์ซุปเปอร์ฟู้ดอะ นี่เป็นผลไม้จ้า มีหลายชนิดแหละแต่ที่เขาเคลมปังคือเบาบับ ใครเคยอ่านหนังสือเล่มหนึ่งอาจจะเคยรู้จักต้นไม้นี้ ที่ต้นบวม ๆ เก็บน้ำไว้อะ เออชีเป็นต้นไม้ที่ทุกส่วนมีประโยชน์ 

     ละในมาส์กนี้จะเป็นผลและเมล็ดที่ลดการอักเสบ ก็หายงงนะ ว่าทำไมสิวแดง ๆ มันยุบเร็ว นอกจากนี้ถึงชื่อจะเป็นมาส์กโคลนอะแต่ส่วนผสมอื่นมันเยอะอีกมาก ไม่งั้นก็แค่มาส์กที่คุมมันผิวแห้ง ๆ ปะ แต่เอออันนี้ผลลัพธ์มันมาเรื่องสิว เรื่องการอักเสบด้วย ความชุ่มชื้นอีกแปลว่าเขาคิดมาละแหละอะไรควรใส่มาเสริมกัน ว่าไป!

     ปกติเรามีผิวผสมและค่อนไปทางมัน แม้เดี๋ยวนี้จะดีขึ้นมากแล้วเพราะพวกนี้ก็ช่วยจริง ๆ (ช่วงใช่ยาสิว ทาวิตามินไวต่อแสง คือหน้าลอกเป็นแผ่นออกมาเลยอะ5555 ตอนี้ดีขึ้นมากกกก) แต่ช่วงสิวมานี่ก็ใช้วันเว้นวันได้เลยสำหรับเรา เพราะสนุกด้วย ละแบบลุ้นดูมันยุบเอยอะไรเอย สนุกนะ เเต่ถ้าใครอยากลองตอนแรก เราว่าค่อย ๆ ถ้าผิวแห้งก็เว้นหน่อย ยังไงเขาก็เป็นมาส์กโคลนแม้จะให้สารให้ความชุ่มชื้นมา (ที่ล้างหน้าแล้วยังรู้สึกผิวนุ่มได้แบบงงมาก) แต่สุดท้ายคนเราผิวแห้งไม่เท่ากันอะ พิจารณาความถี่ตามสภาพผิวนะ

      ตอนรอแห้งรอ 10-15 นาทีเเต่ส่วนตัวเรารอเกินไม่มีปัญหา สมัยแรก ๆ ที่ใช้อะเคยมีเย็นจนเหมือนจะแสบ แต่พอใช้ ๆ ไปพบว่า ก็ไม่แล้วนะ มันอาจจะต้องปรับกันนิดหน่อยด้วยแหละ พอแห้งก็ล้างออกเลยออกง่ายไม่เหนียวติด และพอมันเปียกมันจะมีความคล้ายสครับแต่เราว่าล้างไปกับน้ำเถอะ อย่าไประคายเคืองผิวมาก แค่ล้างออกก็กำลังดีแล้ว ไม่ต้องขนาดขัดเพิ่ม

     หลังจากล้างมาส์กแล้วอะบางทีเราล้างแบบที่อ่างล้างหน้ามันอาจจะไม่สะอาดเท่าอาบตอนอาบน้ำ เราเลยจะชอบล้างอีกรอบแต่จะใช้เป็นตัวที่ไม่ทำให้หน้าแห้งกว่าเดิมเลยต้องมาใช้ของแบรนด์เดียวกัน ตัวนี้ค่อนข้างใหม่นะเพิ่งได้มาเมื่อต้น ๆ ปีนี้เองแต่ชอบมาก ตุนขวด 2 แล้วละขวดแรกก็ไม่หมดสักที 

     มันเนื้อแบบเจลลี่นุ่ม ๆ รู้สึกผิวลื่นนุ่มชุ่มชื้น ไม่เอี๊ยดจริง ๆ และใช้ล้างพวกเครื่องสำอางได้ ส่วนตัวเราไม่แต่งหน้าจัด ยังไงก็ล้างออกหมด บางครั้งที่ไปถ่ายรูปลงรองพื้นนิดนึงเออก็ล้างออกนะ จะถูวนก่อนไปล้างออก แต่ถ้าล้างแบบ every day จะถูบนหน้าเปียกละล้างออกเลย ชอบมากทั้งกลิ่นและสัมผัสเลย ชีมีนามว่า Milky Cactus Cleanser ใช่จ้าชีมีสารสกัดต้นกระบองเพชรด้วย ปังแฮะ

     ตัวนี้เขาเคลมเรื่องสารสกัดที่ทำให้หน้านุ่มนิ่มขึ้น สดชื่น ไม่รู้ว่าเรียกว่าแข็งแรงขึ้นได้ยัง เพราะเขามีพรีโพรไบโอติกส์ด้วยก็แปลกดี ปกติชั้นกินโยเกิร์ตเอา5555555 แต่พบว่าสิวเราขึ้นยากกว่าเดิมนะ ก่อนนี้สิวขึ้นง่ายกว่านี้มาก ล้างละสดชื่นมาก อยากล้างหน้าทุกวัน กลับมาบ้านต้องล้างเพราะชีเขาให้ฟีลที่ดีต่อใจมากกก feel good mak mak

     สุดท้ายนี้ก็ขอจบที่การมาส์กและเคล็นเซอร์ไปเท่านี้ก่อนน้า เรามีผลิตภัณฑ์แบรนด์เดียวกันนี้หลายตัวเพราะชอบมาก ใช้แล้วไม่แพ้ด้วย ยังไงอยากให้พูดถึงตัวไหนถ้ามีจะมาเขียนให้แบบคนใช้จริงเลย แบบนี้เลยจ้า ข้อมูลแน่น ภาพแน่นเพราะตั้งใจบอกต่อจริง ๆ ในฐานะคนที่เห็นผลน้ากล้าพูดว่าไม่มีการ retouch เลยทั้งสิ้น ทุกคนคงดูออกว่าภาพก่อนหลังมันมากพอมั้ย 55555555

     บนโลกนี้คงไม่มีอะไรที่ดีต่อทุกคนเพราะสุดท้ายผิวเราต่างกัน ความชอบเราต่างกัน ประสบการณ์ที่เราเคยมีมันต่างกัน การรับรู้ของข้อมูลเรามันก็ต่างกันเนาะ ยังไงฟังหูไว้หูพูดคุยกันได้ แต่สุดท้ายต้องลองเองจริง ๆ นะ

     ถ้าอยากลองพบหนทางสวรรค์หล้าฟ้าประทานที่ทำให้รู้สึกว่า เห้ยมีความหวังนี่ เห่ยผิวชั้นดีขึ้นละนี่ ก็ต้องแบรนด์นี่เลย ที่เราพูดกว้าง ๆ เพราะเราใช้อย่างอื่นอีกหลายอย่าง (แบรนด์นี้แหละ) เขาน่าจะช่วย ๆ กันด้วย แต่ถ้าอยากได้มาส์กสิวที่ไม่เจ็บตัว สิวแห้งไว รอยสิวจางไว ก็ 2 สีนี้ก่อนเลยจ้าาา

     ถ้าชอบการรีวิวละเอียดแบบสับไม่เหลือให้เคี้ยวแบบเราก็ติดตามและให้กำลังใจกันได้น้า เราจะนำสิ่งที่ดี ๆ และผลลัพธ์จริง รีวิวจริงใจมาฝากทุกคนเรื่อย ๆ น้า ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ บรุยยย 😉💘✨