เปรียบเทียบ ลิปมันชุ่มชื่น 5 แบรนด์ในกรุ
Nutchalyn 50 21 WITH <strong>Lovella</strong> / ขอแนะนำผลิตภัณฑ์ในเนื้อหาบางส่วน ;)อย่าเพิ่งลืมกันน้าาาา อิอิ ~
สำหรับวันนี้มาป้ายยาลิปมันบำรุงปาก สาวๆคนไหนปากแห้ง ยกมือขึ้นน \o/ …
นัทนี่แหละที่หนึ่งแห่งการปากแตก ฮ่าๆ ประเด็นหลักๆเลยนัทดื่มน้ำน้อยค่ะ พยายามเท่าไหร่ก็ไม่ดีขึ้นซักที อยากตีตัวเองทุกวัน แต่ก็จะดื่มให้เยอะที่สุด นัทว่าวิธีดื่มน้ำเนี่ยดีมากเลยนะ แต่สำหรับนัทอาจต้องพึ่งลิปมัน เน้นโบก เน้นเพิ่มความชุ่มชื้น เพราะการดื่มน้ำเราทำไม่ดีพอ 5555 ~ และยังมีอีกหนึ่งปัญหาคือขอบปากคล้ำ!
นัทเลยหยิบมา 5 แบรนด์ที่นัทใช้อยู่
และจะเปรียบเทียบดูว่าแต่ละแบรนด์ดีต่างกันยังไงบ้าง?
หน้าตาของแต่ละแบรนด์นัทว่าหลายคนรู้จัก และอาจกำลังใช้อยู่ แต่ถ้าใครยังลังเลหรือยังไม่เคยใช้
ดูรีวิวของนัทอีกทางนึงอาจจะช่วยให้ตัดสินใจง่ายขึ้น ꔛ ….
5 แบรนด์นี้ก็มี
Lovella , Nivea , Oyess , Mediheal และ Vaseline
มาดูกันว่าแต่ละช่วยจะให้ความ ชุ่มชื้น ขนาดไหน
นัทใช้แล้วรู้สึกยังไงบ้างแบบเรียลๆกันไปเลย
Lovella Rose Cupcake Lip Treatment
นี่คือลิปกินได้ !!!! เหมาะสำหรับคนชอบเผลอเลียปาก ฮ่าาา ~ ม่ายช่ายยยยย ที่มันกินได้เพราะเค้าปลอดภัยไงตัวนี้เป็น ลิปออร์แกนิค 100% จ้าสาว แบรนด์นี้หลายคนคงเห็นกันบ่อยนะ รีวิวแน่นเด้อว่าไม่ได้ เหมาะกับคนที่ปากแห้งมากกก นัทใช้ทั้งกลางวัน กลางคืนเลย ยิ่งตอนกลางคืนนะชอบสุดๆ เพราะเน้นโบกค่ะ ให้ความชุ่มชื้นแบบเริ่ดดด ตื่นมาปากนุ่ม !
ส่วนผสมแต่ละอย่างมีทั้ง Beeswax , Bisabolol (สารตัวนี้แพงมาก!) , Olive Oil , Shea Butter ส่วนสาร ฺBisabolol ที่บอกว่าแพง ตัวนี้ช่วยลดรอยเหี่ยวย่น และแก้เรื่องความหมองคล้ำได้ดี นอกจากนั้นก็จะมีทั้งวิตามินต่างๆ ทั้งหมดทั้งมวลคือปลอดภัย ใครสาย ออร์แกนิค หรือแพ้ง่าย แบรนด์นี้เป็นอีกทางเลือกนึงเลย
แถมกลิ่นหอม จะฟีลกุหลาบละมุนๆ เห็นว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นที่ขายดี เพราะกลิ่นที่ก็ไม่ใช่จากน้ำหอม มาจาก essential oil สกัดจากดอกกุหลาบจ้าา อย่าลืมเลี่ยงแดดร้อนจัดๆน้า เพราะตัวนี้ละลายง่ายเช่นกัน
5 g. ราคา 290.-
พิกัด Shopee : lovellaorganics
Nivea Original Care Lip Care
ตัวนี้เห็นกันมานานนน นัทก็เพิ่งได้มาซื้อมาใช้นี้แหละ ก็ยกให้ในเรื่องราคาถูก ในส่วนความชุ่มชื้นสำหรับนัทถือว่าในระดับที่โอเคนะ ให้ความชุ่มชื้นแต่ไม่นาน เหมือนแค่เคลือบปากไว้เฉยๆ คือต้องหมั่นเติมระหว่างวันบ่อยๆ ส่วนผสมก็มีทั้ง Shea Butter และ Panthenol โดยรวมก็ถือว่าเหมาะแก่การเป็นลิปสามัญประจำบ้าน อย่างที่บอกแหละว่าราคาถูก ทุกคนเอื้อมถึง หาซื้อง่ายอีกด้วย
ในส่วนเนื้อลิปเค้าทาง่าย มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ข้อเสียที่เจอคือละลายง่าย ><”
4.8 g. ราคา 89.-
Oyess soft lip care
มีหลายสูตรมาก สำหรับสูตรที่นัทเหมาะกับคนปากแห้งมาก สูตร extra care ก็จะชุ่มชื้นกว่าสูตรอื่นๆ แบรนด์นี้ก็รักษ์โลกสุดๆ ทั้งด้ามลิปหรือแพ็กเกจจิ้งก็ทำมาจากรีไซเคิล คนแพ้ง่าย คนท้องใช้ได้เลย ตัวนี้ก็ตอบโจทย์นัทเหมือนกันให้ความชุ่มชื้นดี แต่ทาหลายวันหน่อยปากที่แห้งที่แตกถึงจะดีขึ้น สารสกัดจาก marula oil, jojoba oil , shea butter อีกอย่างทาทับลิปสติกก้ให้ฟีลกลอสแบบธรรมชาติ
ถึงให้ความชุ่มชื้นมาก เนื้อลิปเค้าบางนะ ไม่เหนอะปาก
ส่วนกลิ่นจะหอมผ่อนคลายฟีลธรรมชาติ
4.8 g. ราคา 285.-
ตัวนีเเป็นลิปบาล์มเนื้อครีมสีขาว มาในรูปแบบหลอด บีบง่าย ช่วยเรื่องปากแห้งได้ดีเลยนะ สำหรับตัวนี้นัทใช้ตอนกลางคืนอ่ะ รู้สึกว่าเวิร์คกว่าใช้กลางวัน ตื่นมาปากนุ่ม พวกที่เป็นร่องๆ ก็ตื้นดีขึ้น ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าด้วย ดูส่วนผสมแล้วก็อัดแน่นมาเหมือนกัน Panthenol , Argan Oil , Alantoin และอื่นอีกเยอะเลยนะ ช่วยเรื่องปากคล้ำแต่สำหรับนัทยังไม่เห็นผล ชอบเรื่องความชุ่มชื้นล้วนๆ
ข้อเสียที่เจอคือต้องเกลี่ยง่ายๆ เพราะเนื้อเป็นสีขาว ไม่งั้นจะเป็นคราบได้
10 ml. ราคา 199.-
Vaseline Lip Rosy Tinted lip balm
และนี่คือลิปบาล์มมีสี ใครชอบปากชมพูระเรื่อ สุขภาพดีก็ต้องตัวนี้เลย แต่ต้องทำใจเพราะน้องหลุดง่ายต้องเติมระหว่างวันบ่อยหน่อย ถ้าใครชอบแบบบำรุงด้วย ให้ความสวยฉ่ำด้วยก็จัดเลยจ้า เคลมมาว่าไม่เลอะแมสก์ก็ยังไม่ได้ลองเลย เพราะจะทาตอนอยู่บ้านที่ไม่ได้ออกไปไหน ก็ถือว่าพกพาง่าย ใช้ง่ายแบบกระปุกค่ะ และมีส่วนผสมของสารกันแดด Titanium Diocide ด้วย
เรื่องของความชุ่มชื้นดีเลยค่ะ แต่อย่างที่บอก น้องเค้าหลุดง่าย
เน้นเติมเอาค่ะ กลิ่นหอมมากกกกก
10 g. ราคา 99.-
พอเอามาเทียบกันจะเห็นได้ชัดเลยว่าให้ความชุ่มชื้นแตกต่างกันแค่ไหน สรุปแล้วใครที่ปากแห้งมาก หรือขอบปากคล้ำ แนะนำ Lovella กับ Oyess ค่ะ เป็นออร์แกนิคด้วย หรือใครที่ปากไม่แห้งแต่อยากได้บำรุงทั่วๆไป จริงๆก็ได้ทุกแบรนด์เลยนะ ถ้าชอบมีสีก็ Vaseline ปากสุขภาพดีสุดๆ
หวังว่าจะเป็นอีกทางเลือกนึงสำหรับคนที่กำลังมองหาลิปบำรุงนะคะ