รวม LOOKS สุดจัดแห่งปี 2022

มาเกาะติดลุคของเหล่าคนดังที่เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์อื้ออึงส่งท้ายปีกับเราสิคะ  

แม้ Sam Smith จะได้รับเสียงชื่นชมจากการแสดงดนตรีบนเวที Jingle Ball เมื่อไม่กี่วันมานี้ แต่ outfit ที่โดดเด่นของเขาได้ดึงดูดเสียงโต้แย้งในโลกออนไลน์ ในขณะที่สื่อบันเทิงและแฟนๆของ Sam จำนวนมากแสดงความปลาบปลื้มที่ได้เห็น Sam ใน jumpsuit สีเงินระยิบระยับ แต่ยังมีชาวเน็ทที่ออกอาการยี้ รวมถึงบางคนที่ประกาศตัวว่าเป็นแฟนที่ติดตามกันมานานก็บอกว่ารับลุคนี้ไม่ได้


"ฉันเป็นแฟนของคุณมาตั้งแต่ที่คุณเดบิวท์เลยนะ มีสติสตังซะบ้างเถอะ"

"สร้างความอับอายให้กับตัวเองชัดๆ"

"นี่เป็นสัญญาณของความผิดปกติที่ต้องได้รับการช่วยเหลือ"

"เขาดูไม่ได้เอาซะเลย และคนอื่นก็มีสิทธิ์จะวิจารณ์ตรงๆ เขาควรแต่งตัวให้เข้ากับหุ่นตัวเอง ไม่ใช่แต่งตัวให้เข้ากับหุ่นที่ตัวเองอยากจะมี"

"Sam Smith ดูเผละ  อย่างน้อยๆ Harry Styles ที่เคยใส่ jumpsuit เหมือนกันก็เป็นหนุ่มผอม"

หลายคนได้เห็นคอมเมนท์โจมตี Samผุดขึ้นมาเรื่อยๆ ก็ตั้งข้อสันนิษฐานว่า นี่ไม่ได้มีสาเหตุจากเรื่อง fatphobic เท่านั้น แต่ยังเป็นแนวคิดต่อต้าน queer เมื่อใดก็ตามที่ได้เห็นผู้ที่มีอัตลักษณ์ทางเพศ gay, non-binary และ queer ได้แสดงออกตัวตนที่แตกต่างและฉีกออกจากบรรทัดฐานสังคม ยิ่งในอดีต ผู้คนไม่ได้สัมผัสถึงตัวตนในด้านนี้มาก่อน จึงเกิดเป็นปฏิกิริยาตอบรับด้านลบ   และยังมีผู้ยกข้อเปรียบเทียบว่า  เมื่อ Harry Styles  ใส่ jumsuit ติดเลื่อมขึ้นเวทีแสดงคอนเสิร์ตเหมือนกัน เขากลับได้รับเสียงยกย่องว่ามีสไตล์แบบ  androgynous  สุดเริ่ด!  และชี้ว่า  สังคมปฏิบัติต่อศิลปิน queer ที่มีรูปร่างอวบท้วมแบบมีสองมาตรฐาน  

อย่างไรก็ตาม  แฟนๆของ  Harry ได้ออกมาตอบโต้ว่า  เพราะเขาแต่งตัวแบบนี้จึงถูกกลุ่มเหยียด gay ตามถากถางไม่แพ้กัน  รวมถึงชาวเน็ทที่ฟาดแรงว่า  ยังไงก็หลอกตัวเองให้มอง Sam ให้ดูดีเหมือน  Harry ไม่ได้  เพราะชุดมันไม่ส่งให้เขาเฉิดฉาย แต่ดูเหมือนเอาปมด้อยมาโชว์จนอายแทน!

มีหรือที่แฟนๆของ  Sam จะนิ่งเฉยปล่อยให้ศิลปินขวัญใจถูก bully    พวกเค้ายืนยันว่า  ตัวเลือกทางแฟชั่นของ Sam ไม่ได้สร้างความเสียหายให้กับสังคม   และหากไม่ประทับใจในลุคนี้จนถึงขั้นที่รับไม่ได้ ก็แค่หยุดมอง และถือซะว่ามันเป็นสิทธิ์ที่ได้มีข้อหวงห้าม   ไม่จำเป็นต้องส่งพลังงานความเกลียดชังจนเกิดความขัดแย้งเช่นนี้

ตั้งแต่เกาะติดวงการแฟชั่นมาตั้งแต่ยังสาว เราก็เคยผ่านตาคอนเทนท์วิจารณ์แฟชั่นยุค Y2K มาไม่รู้กี่ครั้ง ความเยอะของเทรนด์ดังในช่วงนั้นได้สร้างความสนุกสนานบันเทิงใจให้กับพวกเราไม่น้อย เมื่อก้าวสู่ยุคใหม่ เด็กรุ่นหลังอาจจะจับเอา noughties styles มาแต่งแบบเก๋ๆ แต่หนึ่งในเทรนด์ที่หลายคนเยาะเย้ยว่าช่างดูเฉิ่มเชย ยากจะมองให้ดู chic คงหนีไม่พ้น dress on jeans


บางคนอาจจะสงสัยว่า ถ้าเทรนด์เอวต่ำยังกลับปังมาได้  เพระาเหตุใด dress on jeans ถึงจัดอยู่ในกลุ่มเทรนด์ต้องสาป?    ดูจากกระแสตอบรับจากลุคของ   Katie Holmes ออกงานด้วยลุคนี้เมื่อไม่กี่วันก่อนจนตกเป็นหัวข้อข่าวบนสื่อดังอย่างพร้อมเพรียง 

สำหรับสื่อแฟชั่น พวกเค้าก็อาจจะพยายามดึงดูดความสนใจด้วยพาดหัวข่าวทำนองว่า  Katie กำลังพยายามพาเทรนด์  dress on jeans กลับมา! ไม่ได้โจมตีให้เธอเสียหน้ามากมาย   แต่สำหรับ social media  นั้นย่อมไร้ความปราณี    ในช่วงยุค  2000s  นี่เป็นลุคที่อิทเกิร์ทแทบทุกคนห้ามพลาด  พวกเธอต้องจับเดรสทั้งสั้นและยาวมาเข้าคู่กับกางเกงขาบาน ใส่รองเท้าส้นสูงเปิดหัวหรือปลายแหลม  บางคนใส่ชุดนี้บนพรมแดงรัวๆ ก็ของมันอินจริงจังนี่นา!  และเวลาผ่านไปได้สักพัก มันกลับเป็นเทรนด์ที่ทำให้นักวิจารณ์แฟชั่นหลุดขำ  และมองว่า มันคือสัญลักษณ์ของยุคมืดของแฟชั่นอย่างแท้จริง   ถึงในปัจจุบันจะมีคนจับเดรสมาใส่กับกางเกงขายาวอยู่บ้าง แต่ก็ใช้เทคนิค mix& match เพิ่มความ chic    แต่สำหรับ Katie ที่ที่นำเสนอความ Y2K สุดตัว ก็ถูกชาวเน็ทล้อเลียนจนกลายเป็น viral ในแง่ลบซะงั้น

"Katie รู้ตัวมั้ยว่านี่มันปีอะไรแล้ว?"

"เอ่อม...นี่มันเกิดอะไรขึ้น?"

"ฉันไม่ขอยอมรับว่านี่เป็นคนเดียวกับ Katie ที่เคยใส่บราผ้าแคชเมียร์ถักนิตจนเป็นกระแสฮือฮาในตอนนั้น"

"ฉันสาบานเลยว่า เห็นภาพนี้แล้วคิดว่าเป็นภาพจากตอนที่เธอยังเป็นสาวซะอีก"

"ทำไมน้อง Suri ปล่อยให้แม่ออกจากบ้านสภาพนี้?"

"เธอหลงคิดไปว่าต้องแต่งตัวเพื่อประชุมผ่าน Zoom รึเปล่า?"



และอีกหลายความเห็นที่สื่อไปตรงกันว่า ทำใจรับลุคนี้ไม่ได้เลย

กระแสตอบรับจากโลกออนไลน์นั้นทำให้สไตลิสต์ Brie Welch ออกมาเผยที่มาของชุด Y2K ของ Katie ว่า

"เราตกลงกันค่ะว่าควรจะเลือกใช้สีเข้มและดีเทลชุดเกาะอกนั้นดูสวยสง่าและหากนำมาจับคู่กับ jeans ก็คงน่าสนุกดี มันสร้างอารมณ์ให้ดูอ่อนเยาว์เข้ากับบรรยากาศของงานดนตรี Jingle Ball"

"ในวันงาน Katie บอกว่าอยากจะใส่รองเท้ากีฬา และเพราะว่ามันชุดใส่เข้าร่วมชมคอนเสิร์ต น่าจะได้ออกลีลาเต้นไปพร้อมกับการการแสดงของ Dua Lipa  ซึ่งไม่มีอะไรจะใส่สบายได้เท่านี้อีกแล้ว"


เธอยืนยันว่า Katie ดูสวยปังด้วยเทรนด์ดังเมื่อยี่สิบก่อนโดยไม่ได้จงใจ แม้ชาวเน็ทจะ
.

ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา Kim Kardashian ได้พิสูจน์ว่า กว่าเธอจะก้าวถึงตำแหน่ง fashion icon ก็ต้องทุ่มเทสุดตัวขนาดไหน แม้จะได้รับเสียงวิจารณ์บ่อยครั้งว่า ดูตะเกียกตะกายเพื่อสร้างชื่อในวงการนี้จนต้องใส่ชุดที่ดูไม่ตรงไซส์หรือเห็นแล้วรู้สึกแน่นกายใจไม่ออกแทน เธอประกาศว่า ถ้าเพื่อแฟชั่นแล้ว ยอมทำทุกอย่าง

"ตอนอยู่บ้าน ฉันจะใส่ชุดนอนและชุดวอร์ม แต่ถ้าออกไปข้างนอก ฉันจะแต่งตัวจัดเต็ม  ฉันไม่สนว่ามันจะอึดอัดสักแค่ไหน หรือว่าถ้าจำเป็นต้องใส่ผ้าอ้อมผู้ใหญ่เพราะไม่สามารถเข้าสุขาได้ ฉันก็ไม่ใส่ใจเลย"

และนั่นหมายถึงชุดที่แนบเนื้อทุกอณูและกระโปรงยาวสอบถึงขั้นต้องพักตั้งสติก่อนจะก้าวขึ้นบันได  เพราะดีไซน์ของชุดทำให้เคลื่อนไหวอย่างยากลำบาก  มีจุดที่ก้าวขาไปไม่ออกจนต้องกระโดดหย็องแหย็ง  ยามที่ขึ้นรถก็ใช้พึ่งพาผู้ช่วยพยุงและจัดท่าทางให้  แม้จะรู้ว่า Kim มักใส่ชุดรัดและยังมี shapewear อยู่ภายในเสมอ เมื่อชาวเน็ทได้เห็นภาพเบื้องหลังของชุดวิ้งวับที่เลือกใส่ไปออกงาน  DOLCE & GABBANA ก็โจษจันด้วยความไม่เข้าใจว่า  เธอจะทำไปเพื่ออะไร?

"ถึงขั้นนี้แล้ว เป็นฉันคงบอกให้การ์ดมาอุ้มขึ้นบันไดไปเลย"

"ฉันไม่แคร์หรอกว่าชุดจะสวยล้ำแค่ไหน ถ้าฉันใส่แล้วไม่สามารถเดินหรือทำอะไรตามปกติได้ ฉันก็ไม่ต้องใส่มันแค่นั้น"

"แล้วเธอไปเดินอยู่ในงานได้ไงน่ะ ได้หายใจบ้างรึเปล่า?"

"แค่ได้ดูก็เหนื่อยแทน"

"Kim ควรเลิกหลอกตัวเองแล้วใส่ชุดที่ใหญ่ขึ้นมาอีกสักสองไซส์ เธอหมกมุ่นเรื่องความสมบูรณ์แบบมากไป พวกเราเก็ทมานานแล้วว่าเธอมีรูปร่างแบบนาฬิกาทราย"

แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะรู้สึกอึดอัดกับภาพนี้ไปหมด   เพราะมีผู้ที่เห็นด้วยว่า   Beauty is pain   กว่าผู้หญิงจะสวยเริ่ดก็ต้องแลกกับความเจ็บปวดมาแล้วทั้งนั้น   บางคนได้แสดงความนับถือที่เธออึดถึงขนาดนี้   นอกจากนั้น  ยังมีคนที่รแสดงความตื่นเต้นที่ได้เห็นอีกด้านของ Kim ที่ไม่ได้ดู glamorous ทุกท่วงท่า   "มันก็รู้สึกดีนะที่ได้เห็นว่าเธอก็ด้านของคนธรรมดาแบบเราๆ  ถึงจะขายความสมบูรณ์แบบ แต่เธอก็ต้องลำบากเหมือนกัน"  ชาวเน็ทรายหนึ่งว่าไว้

ช่วงแรกๆที่ social media ฮือฮากับลุคใส่ชุดชั้นในไปช็อปปิ้งของ Julia Fox  มันก็ทำให้คิดได้ว่า นี่เป็นวิธี PR ตัวเองใน phase สั้นๆ   สื่อเผยแพร่ภาพเธอนุ่งน้อยห่มน้อยออกจากบ้านจนผู้คนเริ่มเคยชิน  แต่ในภายหลัง สาวแซ่บผู้โด่งดังก็เริ่มจุดกระแส 'wear underwear as pants' กันแล้ว   และหลายฝ่ายมั่นใจว่า นี่จะเป็น highlight ของเทรนด์หลักในปี 2023 

หลังจากเลิกรากับแฟนหนุ่มนักกีฬา Kendall Jenner ก็สร้างความฮือฮาด้วยลุค sweater และท่อนล่างที่เหมือนกับกางเกงชั้นในสีดำ  เพิ่มความอบอุ่นให้เรียวขาด้วยถุงน่องโปร่งบาง สับขาบนส้นสูงด้วยความมั่นใจราวกับกำลังถ่าย magazine    บางคนเปรียบเทียบว่า นี่คือ revenge dress ที่แสดงถึงความลัลล้าที่ได้อิสระแบบสาวโสดกลับมา   ยกเว้นซะแต่ว่า นี่มันไม่มีเดรสสักหน่อย  มีแต่เสื้อกับ underwear ตัวจิ๋วเท่านั้น!

ดูเหมือนเป็นเรื่องประชดประชัน เมื่อย้อนไปชมโฆษณาลิปกลอส Estée Lauder เมื่อ 6 ปีที่แล้ว  โฆษณาได้โชว์ภาพอารมณ์ขันของ Kendall ที่ตื่นสายจนต้องรีบร้อนออกจากบ้านจนลืมแม้กระทั่งใส่กางเกง  เหล่าพาพาราซซี่ที่รอเก็บภาพเธอที่หน้าบ้านก็สาดแฟลชใส่ยกใหญ่ แต่พอผู้ช่วยของเธอวิ่งตามเอากางเกงมาให้ใส่ เธอกลับหยิบลิปกลอสที่โผล่จากกระเป๋ากางเกงมาทาแล้วพุ่งไปต่อแบบสวยๆซะงั้น    เมื่อเวลาผ่านไป  เทรนด์ไม่ใส่กางเกงกลับกลายมาสร้างความสนใจได้จริงๆ

(เมื่อไม่นานก่อนหน้านี้ Kylie ก็ใส่ underwear เดินใน Paris Fashion Week เช่นเดียวกัน เพียงแต่เธอเลือกจับคู่กับโค้ทตัวใหญ่ที่ช่วยพรางท่อนล่างไว้ได้)

ดูเหมือนว่า สำหรับอิทเกิร์ลยุคใหม่ underwear ก็ไม่ได้ต่างจาก outerwear แม้ที่ผ่านมา เราจะได้เห็นพวกเธอจับบิกินี่มาใส่ภายใต้ชุด see-through ที่เผยให้เห็นส่วนสัดใต้ร่มผ้าแบบจะๆ หรือจะเป็นการ no bra แต่สำหรับการใส่ underwear ท่อนล่างแบบไม่มีอะไรมาปิดบัง ก็ยังไม่เห็นกันจนเกลื่อนกลาดนัก เมื่อเซเลบสาวเดินออกจากบ้านแบบไร้กางเกง (หรือกระโปรง)   นักวิจารณ์แฟชั่นบางคนก็เริ่มเอออวย  "ก็เริ่ดอยู่นี่นา!"  

นิตยสาร  Elle ชื่นชมว่า Bella ทำให้กางเกงชั้นในแบบคุณยายกับ ugg boots ดู chic ขึ้นมาได้  และมีคน ที่คิดว่า มันดูเหมือนกับ  boxer รัดรูปของผู้ชายมากกว่า  หรือจะเป็น คำวิจารณ์ว่า  ดูเหมือนเธอเพิ่งตื่นนอนแล้วจับทุกอย่างที่อยู่ใกล้มือมาโปะๆกันเสร็จก็เดินออกมาข้างนอกแบบมั่นใจ     แฟนบางคนของสองนางแบบดังโอดครวญว่า  "อยากจะแต่งแบบลืมใส่กางเกงออกจากบ้านให้ดูเริ่ดได้แบบนี้จัง"  

หมดหนาวเมื่อไร เเป็นไปได้ว่า เราอาจจะได้เห็นคนดังตบเท้าใส่บิกินี่ออกมาเดินถนนกัน  ไม่ได้มีแต่ Julia Fox แล้ว