คู่รักคนดังที่พบรักกันผ่าน social media

สำหรับคนโสดที่พร้อมเปิดใจเพื่อความรักครั้งใหม่   social media น่าจะมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมต่อถึงใครบางคนที่ถูกตาต้องใจ    ไม่แน่ว่า DM เพียงประโยคเดียวอาจจะเป็นนำไปสู่การเปลี่ยนสถานะจนกลายมาเป็นคนที่ถูกจับจองหัวใจ  แม้จะเป็นคนดังก็ไมได้มีข้อยกเว้น   ชื่อเสียงเงินทองและรูปลักษณ์อันทรงเสน่ห์จะทำให้พวกเค้ากลายมาเป็นแม่เหล็กดึงดูดความสนใจและได้พบปะกับผ้คนมากหน้าหลายตา  แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะได้ค้นพบรักแท้กันกันได้ง่ายๆ  หลายคนกลับมาเจอตัวจริงจากการส่งข้อความโต้ตอบทาง online platform เจ้าดัง  

มาติดตามกันเลยค่ะว่า   คู่รักคนดังคู่ใดที่ปิ๊งกันทาง social media      

การก้าวสู่เส้นทางความโด่งดังแห่ง Hollywood ตั้งแต่ยังเป็นสาวน้อยทำให้หลายคนเฝ้ามอง Millie Bobby Brown ด้วยความห่วงใย  นักแสดงเด็กจำนวนไม่น้อยที่ไม่สามารถรับมือกับความ toxic ที่มาพร้อมกับชื่อเสียงที่ถาโถมเข้ามาจนได้รับผลกระทบทาง mental health และถูกยั่วยุให้เลือกเส้นทางที่ไม่เหมาะสม    ตัว Millie ที่เพิ่งเข้าสู่วัย 18 ที่ยังอ่อนประสบการณ์ก็เคยถูกดึงพัวพันกับ scandal   เมื่อชายหนุ่มที่เคยคบหากันออกมาประจานเธอให้อับอายทาง livestream    กว่าที่เธอจะเยียวยาจิตใจขึ้นมาได้ก็ต้องใช้เวลานานนับปี  ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็มาตรงกับช่วงที่เธอเริ่มต้นความสัมพันธ์กับ  Jake Bongiovi  พอดี

ลูกชายผู้หล่อเหลาของ Jon Bon Jovi  อยู่เคียงข้างเป็นกำลังใจ Millie ในการรับมือกับวิกฤติ   บรรดา  haters  อาจจะเย้ยหยันเธอด้วยถ้อยคำร้ายกาจต่างๆนานา  แต่ความสำเร็จจาก Stranger Things และชีวิตรักที่ดูสวยงามราบรื่นนั้นทำให้ Millie อยู่ในตำแหน่งผู้ที่หัวเราะทีหลังดังกว่า    

นอกจากคู่นี้จะมีรูปร่างหน้าตาดึงดูดใจจนหลายคนชื่นชมว่าช่างเหมาะสมกันเป๊ะ  วัยที่ใกล้เคียงและเคมีความอินเลิฟที่พวกเค้าแชร์ผ่าน Instagram  นั้นก็ทำให้แฟนๆเชียร์ให้รักกันไปอีกนานๆ    และก็เป็น  Instagram นั่นเองที่ถูกใช้เป็นสะพานสร้างความสัมพันธ์   Millie ไม่ได้เปิดเผยเรื่องความรักกับแฟนหนุ่มนักฟุตบอลทีมมหาวิทยาลัยมากมายนัก   แต่ก็แย้มๆว่า เจอกันผ่าน Instagram (ไม่รู้ว่าใครส่งข้อความหาใครก่อน)  และคบกันเป็นเพื่อนสักพักก่อนจะตัดสินใจลงเอยเป็นคนรักกัน

นางเอกสาวตาโตจาก  Modern Family  ได้ใช้เวลาว่างชมเรียลลิตี้โชว์ Bachelor In Paradise  และติดอกติดใจ Wells Adams ผู้เข้าแข่งขันรายหนึ่งจนต้องแชร์ความรู้สึกผ่าน  tweet  แต่ในตอนแรกที่เธอกดติดตามเขาคนนั้นก็คงไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า นี่คือว่าที่สามีของเธอ!

เธอได้เล่าเรื่องราวที่คล้ายกับซีรีส์ซิทคอมไว้ว่า

"เรา tweet ถึงกันเพราะฉันคิดว่าเขาเป็นคนตลกดีและเขาก็เป็นแฟนซีรีส์ (Modern Family)ด้วยค่ะ ฉันเห็นเขารับหน้าที่บาร์เทนเดอร์ในรายการแล้วก็รู้สึกว่าช่างน่ารักจัง"

"แน่นอนว่าตอนนั้นฉันยังโสด เมื่อได้รับข้อความจากเขาก็รู้สึกเริ่ดมาก คุณรุกแบบตรงไปตรงมาและมันก็เซ็กซี่ ไม่ได้ก้าวร้าวแต่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ฉันปลื้มนะ"

ข้อความจาก Wells ที่ทำให้ Sarah ประทับใจนั้นฟังดูเรียบง่าย เขาเสนอเธอว่า หากเขาได้ไปที่ LA เมื่อไรก็จะพาเธอไปกินทาโก้และหาดื่มอะไรกัน และเธอก็ปิ๊งไอเดียนี้เข้าเต็มเปา เพราะเธอชอบกินทาโก้และดื่มเตกิล่าสุดๆ!
จาก Twitter มาเป็นทาโก้ จากทาโก้ก็มาเป็นพิธีวิวาห์!

แม้จะอายุห่างกันเพียง 10 ปี เป็นช่องว่างวัยที่น้อยกว่าคู่รักต่างวัยใน Hollywood ที่เห็นกันจนชินเป็นไหนๆ แต่ดูเหมือนว่า หากฝ่ายหญิงเป็นฝ่านมีวัยวุฒิมากกว่า ผู้คนกลับมองความสัมพันธ์ของพวกเค้าอย่างคลางแคลงใจ ถึงขนาดที่มีนักเขียนจากสื่อดังเหยียดหยามว่า นี่เป็นการแต่งงานแบบจอมปลอมที่ใช้สร้างกระแส แม้ว่าสื่อเจ้านั้นจะขอโทษขอโพยในภายหลัง แต่ก็ยังปฏิเสธไม่ได้ว่า ยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่มองว่า Priyanka และ Nick ดูไม่เข้ากัน และไม่สามารถทำใจให้เชื่อได้ว่าพวกเค้ารักกันอย่างจริงใจ หรือแย่กว่านั้นก็เยาะเย้ยฝ่ายหญิงว่า ดูเหมือนแม่ของเขามากกว่าจะเป็นเมีย

แค่ชีวิตการแต่งงานที่ดูหวานไม่เปลี่ยนตลอดระยะเวลาเกือบ 5  ปี ทั้งยังมีพยานรักด้วยกันก็ทำให้เสียงวิจารณ์เริ่มเงียบงันไป    โดยเฉพาะข่าวลือว่าพวกเค้าใช้การแต่งงานเพื่อ PR หาผลประโยชน์และตกลงทำสัญญาแลกเปลี่ยนอยู่เบื้องหลัง  สร้างครอบครัวมีลูกเต้าด้วยกันชัดเจนถึงขั้นนี้แล้วยังจะเม้าต่อว่าแต่งกันปลอมๆก็คงยอมใจ haters!    

ช่วงที่ประกาศเรื่องพิธีวิวาห์ หลายคนยังมองความรักของทั้งสองเป็นเรื่องที่ปุบปับ เพราะมีข่าวคบกันไม่นานก็แต่งซะแล้ว แต่ที่จริง พวกเค้าได้ทำความรู้จักกันผ่านการส่งข้อความTwitter มาก่อนจะเจอตัวจริง อดีต boy band หน้าเด็กเป็นฝ่ายเข้าหา superstar สาวจาก Bollywood ก่อนด้วยการออกตัวว่า คนรู้จักของเขาได้แนะนำให้ติดต่อหาเธอเพื่อจะได้นัดพบกัน แต่กลายเป็นว่า บัญชี Twitter ของ Priyanka มีทีมคอยดูแลจัดการและพวกเค้าก็ได้เห็นข้อความจาก Nick ก่อนเธอไปซะแล้ว

ทั้งสองพูดคุยโต้ตอบกันหลายเดือนก่อนที่จะจัดตารางเวลาเพื่อออกเดทกัน แต่เพียงพบเธอแค่ครั้งแรก เขาก็หลงรักเธอสุดหัวใจ ถึงขนาดคุมตัวเองไม่ได้ คุกเข่าขอความรักจากเธอท่ามกลางสายตาผู้คนใน Vanity Fair Oscars party และในปีต่อมา เขาก็ได้คุกเข่าอีกครั้งเพื่อขอร้องให้เธอยอมรับเขาเป็นสามี

หลังจากใช้ชีวิตคู่กันได้ไม่กี่ปี พวกเค้าตัดสินใจให้กำเนิดทายาทด้วยวิธีอุ้มบุญ   แต่กลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน   ลูกสาวคนแรกของพวกเค้าคลอดก่อนกำหนดไปถึง 12 สัปดาห์    หนูน้อย Malti  จำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดใน NICU ถึง 100 วัน   และในที่สุดก็ได้หวนคืนสู่อ้อมอกของพ่อแม่อย่างปลอดภัย ไม่นานก่อนหน้านี้ก็ยังได้เฉลิมฉลองเทศกาลดีวาลีและบูชาพระแม่ลักษมีเทวีพร้อมหน้าพร้อมตาทั้งครอบครัว

หากสำรวจ dating profile ของ  Joe Jonas  ก็จะพบรายชื่อสาวสวยแห่ง  Hollywood  (Taylor Swift, Camilla Belle, Demi Lovato, Ashley Greene, Gigi Hadid)  จนน่าจะสรุปได้ว่า เขามีเสน่ห์ระดับหนุ่มเนื้อหอมประจำวงการ    จุดเริ่มต้นความสัมพันธ์กับภรรยาและแม่ของลูก ก็ไม่ได้ซับซ้อนหรือหวือหวาแบบพล็อท meet cute ในหนังรอมคอม  แต่มี Instagram เป็นสะพานเชื่อมใจไม่ต่างจากคู่ของน้องชายนัก

 Sophie เล่าเรื่องราวความรักกับสามีนักร้องไว้ว่า  คนรอบตัวพยายามช่วยจับคู่ให้เธอนัดพบกับ Joe แต่ก็ไม่มีอะไรก้าวหน้า จนกระทั่งเธอได้รับข้อความจาก popstar หนุ่มหล่อว่า  สนใจจะออกไปเที่ยวด้วยกันในช่วงที่เขาเดินสายทัวร์รึเปล่า

"ฉันอาศัยในแฟลตที่ Camden กับเพื่อน เป็นแฟลตรูหนูน่ะ คนอื่นปีนเข้าออกหน้าต่างแบบสบายๆ ตอนที่ฉันบอกเรื่องนี้เพื่อนๆ พวกเค้าก็แนะว่า นี่มันจี้ชะมัด เธอต้องออกไปเดทกับเขาเลยนะ และส่งข้อความมาบอกด้วยว่าเขาพูดอะไรบ้าง"

ในช่วงแรกๆที่เปิดตัวความสัมพันธ์  ชาวเน็ทไม่ได้จับผิดความสัมพันธ์ของคู่นี้มากมายนัก แต่ทันทีที่พวกเค้าประกาศว่าได้หมั้นหมายกัน  หลายคนก็แสดงความวิตกกังวลที่ Sophie เพิ่งจะอายุ 21 เท่านั้น   ต่างจาก Joe ที่เป็นหนุ่มฉกรรจ์เข้าใกล้ 30    ในสายตาของชาวเน็ท   Sophie ยังเป็นสาวที่ผ่านวัยทีนมาเพียงไม่นานและน่าจะตักตวงความสนุกสนานและเรียนรู้จากประสบการณ์ชีวิตก่อนที่จะก้าวเข้าสู่ความสัมพันธ์ผูกมัดเป็นภรรยา  แต่เธอยืนยันว่า   เธอมีความเป็นผู้ใหญ่เกินตัว และใจมันก็รู้ได้เลยว่าได้พบคนที่ใช่

คู่นี้ไม่ได้มาพร้อมกับ vibe คนคลั่งรัก  แต่สร้างเชียร์ด้วยภาพของสามีภรรยาอารมณ์ดีและดู real นั่นรวมถึงการจิกกัดแบบเจ็บๆคันๆ   เธอยังได้เปิดเผยความรู้สึกเหวอในการพบกันครั้งแรก เมื่อได้ยินอีกฝ่ายชมตัวเองหน้าตาเฉย

"คืนแรกที่นัดเจอกัน ทุกอย่างไปได้สวยเลยล่ะ เราเฟลิร์ตใส่กัน เราเข้ากันได้ดีจริงจัง แล้วเขาก็พูดในสิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกเอ๊ะขึ้นมาทันที"


"ใครๆก็บอกผมว่า ผมดูเหมือน George Clooney ตอนยังเป็นหนุ่ม" Sophie ทำท่าทางเลียนแบบสามี
"แล้วฉันก็บอกเลยว่า ไม่เหมือนสักหน่อย แต่ฉันเหมือน Boy George สมัยยังเอ๊าะนะ เราก็เลยมีประเด็นเรื่องความเหมือน George ร่วมกัน"

แต่หลังพอผ่านโมเมนท์สะดุดไปได้ เธอก็ยอมรับว่า มันเป็นช่วงเวลาที่วิเศษมาก 

จุดเริ่มต้นความรักแบบ slide into DMs ของคู่นี้แตกต่างออกไปจากคนอื่น เพราะหลังจากDylan ตัดสินใจส่งข้อความหานางแบบสาวสุด hot เธอกลับนิ่งเฉยไม่ติดต่อกลับยาวถึงครึ่งปี!

"ผมส่งข้อความไปว่า เฮ้ ไม่รู้ว่าคุณจะอยู่ที่ New York อีกนานรึเปล่า แต่เราน่าจะนัดเจอกันถ้าคุณต้องการนะ นี่คือเบอร์โทรของผม"

Dylan เล่าว่า เขามีความหวังว่าจะมีโอกาสออกเดทกับ Barbara หลังจากที่เห็นเธอกดติดตามเขาทาง Twitter แต่เธอไม่ได้สนใจเขาแต่อย่างใด และก็เฟลไปพอสมควร

"ฉันต้องใช้เวลาคิดสักหน่อยค่ะ" สาวงามจาก Hungary เปิดเผยเหตุผลที่เธอเมินพระเอกหนุ่มน่ารัก

"ฉันรู้ตัวดีว่า ในช่วงนั้น mindset ของตัวเองยังไม่พร้อมนัก แต่ก็เป็นได้ว่าลึกลงไปข้างใน ฉันก็รู้แล้วว่ามันอาจจะพัฒนาไปได้มากกว่านั้น"

Dylan ตัดใจไม่ตามตื๊อ เพราะแค่เห็นว่า ข้อความของเขาถูกอ่านแล้วไม่มีปฏิกิริยาตอบรับมาเป็นเดือนๆ เขารับงานถ่ายหนังที่ต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลถึงจีนแผ่นดินใหญ่ และเมื่อได้ยินผู้จัดการส่วนตัวถามว่ามีภารกิจหรืออยากจะทำอะไรส่งท้ายก่อนจะเดินทางไกล ภาพของ Barbara ก็ลอยขึ้นมาในหัว เขาอยากจะออกเดทกับเธอก่อนสักครั้ง ราวกับว่าพวกเค้าได้ส่งสัญญาณโทรจิตหากัน เพราะมีเสียงเตือนว่าได้รับข้อความ Barbara เป็นครั้งแรก!


นับจากนั้น พวกเค้าคลิกกันขนาดไหน? ในตอนแรก Barbara ถูก book คิวไปทำงานที่จีน แต่ก็ถูก cancel ในภายหลัง เธอตัดสินใจเดินทางไปจีนแม้จะไม่ได้มีงานรออยู่ (แต่เป็น Dylan)

"ฉันบินไปจีนเพื่อไปพบเขาหลังจากพูดคุยกันมาสามเดือน ฉันควรจะต้องไปทำงานที่นั่นแต่ก็ถูก cancel ฉันบอกเลยว่า มันบ้ามากที่ฉันยังอยากจะไปที่จีนเพราะอยากจะเจอกับคุณ แล้วเขาก็บอกว่า ใช่แล้วล่ะ ช่วยมาหาผมที"

เธออธิบายว่า ตั้งแต่นาทีแรกที่ได้พบกันก็รู้สึกได้เลยว่า นี่คือคนที่เธออยากจะคบอย่างจริงจัง แค่ก็ขอรอคอยเพื่อความแน่ใจ

"เขาส่งเมลมาขอให้เราคบกันเป็นคู่รักอยู่ราวๆหนึ่งเดือน แต่ฉันตอบไปว่า ไม่เอาหรอก ฉันจะต้องทำความรู้จักคุณให้ดีกว่านี้ แต่จากนั้นก็หายใจเข้าไปลึกๆแล้วถามตัวเองว่า นี่จะต้องรออะไรอยู่อีก? ไม่มีผู้ชายคนไหนแล้วที่ฉันรักมากกว่าเขา เขาเป็นทุกอย่างที่ฉันต้องการ"

"สำหรับฉันแล้วมันมีอุปสรรคเป็นกำแพงภาษาอยู่นิดหน่อย ฉันส่งข้อความหรือเฟลิร์ตไม่เก่ง แต่เมเื่อได้อยู่กับ Dylan ทุกอย่างดูจะง่ายดายไปหมด พวกเราสนใจในเรื่องเดียวกัน ยิงมุกใส่กันได้อย่างลงตัว เขาไม่รู้สึกว่าฉันทำตัวน่าแหวะหรืออะไรแบบนั้น"

The End