social media ถกเดือด: ควรก้าวข้ามพฤติกรรมรุนแรงของ Chris Brown ในอดีต หรือสาปส่งให้ไร้ที่ยืนในสังคม?

29 13
Cancel Culture อาจจะดับอนาคตคนดังในวงการบันเทิงจนไม่ได้ผุดไม่ได้เกิด  โดยเฉพาะผู้ที่ถูกกล่าวหาหนักเรื่องใช้ความรุนแรงและล่วงละเมิดทางเพศ   แต่เส้นทางในโลกมายาของ Chris Brown นั้นได้สร้างเสียงถกเถียงในสังคมออนไลน์มานาน   นับตั้งแต่ที่วีรกรรมทำร้าย Rihanna ในปี 2009 ได้กลายมาเป็นมลทินติดตัว  และทำให้เกิดกระแสเกลียดชังถึงขั้นสาปส่งว่า เขาจะต้องถูกแบนจากวงการไปตลอดชีวิต   แต่วันเวลาที่พ้นผ่านดีกรีความความอื้อฉาวค่อยๆเบาบางลงไป   แต่เมื่อศิลปินหนุ่มR&B ผู้นี้ได้หวนกลับมาสร้างผลงานดนตรีและ'มีแสง'ในวงการเมื่อใด ก็จะเกิดเป็น controversy จากเสียงถกเถียงแบ่งเป็นฝักฝ่ายจากชาวเน็ทว่า  ควรแล้วหรือที่จะสนับสนุนนักร้องที่เคยมีประวัติเสีย  หรือจะต้องร่วมต่อต้านไม่ให้เขากลับมาสร้างความสำเร็จได้อีก

ดราม่าล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อ Chloe Bailey ศิลปิน Gen Z สุดเซ็กซี่ ได้ประกาศผลงานใหม่ที่ได้ collab กับ Chris Brown ปฏิกิริยาตอบรับจากชาวเน็ทนั้นเรียกว่าสะเทือนเลื่อนลั่น! แม้ว่าหลายคนจะทำนายไว้ว่า นี่จะเป็น single ติดชาร์ทที่ช่วยพลิกชีวิตเธอจนกลายมาเป็นดาวเด่นในวงการดนตรีเต็มขั้น แต่เธอก็ถูกแฟนๆของตัวเองวิจารณ์อย่างหนักหน่วงและเรียกร้องให้เธอยกเลิก project นี้ไป


มาติดตามกระแสขัดแย้งจากประเด็นร้อนกับเราได้เลยค่ะ


แฟนๆผิดหวัง หลัง Chloe Bailey  ประกาศ collaboration กับ Chris Brown

ภาพลักษณ์ strong&sexy ของ Chloe Bailey  เป็นส่วนสำคัญที่ผลักดันให้เธอกลายเป็นศิลปิน R&B ดาวรุ่งพุ่งแรงจนทำผู้เล็งเห็นความเป็นไปได้ว่า  ในอนาคตข้างหน้า เธออาจจะก้าวตามรอยความสำเร็จของศิลปินที่ทำหน้าที่ mentor อย่าง  Beyonce  แต่การปล่อยตัว single ใหม่  How Does It  Feel ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าก็ทำให้แฟนๆหลายคนโอดครวญด้วยความผิดหวัง   พวกเค้าเหล่านั้นไม่ปรารถนาให้ศิลปินสาวคนโปรดมีความเกี่ยวข้องใดๆกับผู้ชายที่ถูกตราหน้าด้วยคำว่า  abuser      บางคนเคืองขนาดประกาศว่าจะไม่ stream เพลงนี้  และอีกหลายคนที่ออกอาการช็อคจากข้อสันนิษฐาน Chloe อยากสร้างชื่อโด่งดังมากจนดึงตัว  Chris Brown มาปลุกกระแสความสนใจ
ย้อนกลับไปเมื่อสิบปีก่อนที่พี่น้อง Bailey ยังเป็นสาวใสวัยทีน   พวกเธอก็เคยแชรโมเมนท์แห่งความปลาบปลื้มเมื่อได้พบกับ  Chris Brown   ในเวลานั้นเขาเพิ่งจะเป็นอิสระจากการถูกคุมประพฤติและสิ้นสุดการทำงานช่วยเหลือสังคม 1000 ชั่วโมงตามคำสั่งศาล  แต่สองสาวอาจจะไม่คาดคิดว่า เพียงไม่กี่เดือนหลังจากนั้น Chris จะถูกตำรวจจับด้วยวามผิดฐานทำร้ายร่างกายชายคนหนึ่งในกรุง D.C

Chloe ยังไม่ได้ชี้แจงถึงที่มาในการเลือกทำงานร่วมกับศิลปินที่มีประวัติ  แต่อาจจะเป็นไปได้ว่า  Chris  คือศิลปินที่ Chloe ยึดมั่นให้เป็นแบบอย่างในเรื่องดนตรี   และมองว่าชื่อเสียงที่เสียหายในอดีตไม่ได้กระทบต่อการสร้างศิลปะดนตรีแต่อย่างใด

discussion ดุเดือดไปทุก platform

นอกจาก Chloe จะถูกกล่าวหาว่ายืนอยู่ข้างเดียวกับชายที่ใช้ความรุนแรงแล้ว ชาวเน็ทที่แบ่งฝักเป็นกลุ่มที่ต่อต้านและสนับสนุน  Chris Brown  เปิด war นำเหตุผลมาหักล้างกันแบบไม่ลดละ  

เท่านั้นไม่พอ  ชาวเน็ทชี้  Chris Brown  ถูกฟ้องร้องเรื่องใช้ความรุนแรงและข่มขืนยาวยืด
แม้ภาพความบาดเจ็บของ Rihanna ในเหตุการณ์วิวาทหลายปีก่อนจะฝังใจหลายคนจนฟันธงว่า  อดีตคนรักที่ใช้กำลังทำร้ายเธอนั้นไม่คู่ควรกับโอกาสในการสร้างชื่อเสียงเงินทองจากอาชีพศิลปิน  แต่ดราม่าครั้งนี้ก็ทำให้หลายคนนำประวัติวีรกรรมต่างๆในอดีตของเขามาตอกย้ำ  หลังจากยอมรับผิดเรื่องทำร้าย Rihanna ก็ถูกคุมประพฤติอยู่นาน แต่ก็มีรายงานเขาเคยกระทบกระทั่งกับศิลปินร่วมวงการ  เขาเคยถูกจับกุมจากการทะเลาะวิวาทจนทำให้ทรัพย์สินเสียหาย   และยังก่อวีรกรรมรุนแรงซ้ำจนถูกศาลสั่งใก้รับการบำบัด anger management แต่ก็ฝ่าฝืนคุมประพฤติจนถูกตัดสินจำคุก     ห้าปีหลังจากทุบตี Rihanna เขาก็ได้ยอมรับความผิดต่อศาลจากข้อหาทำร้ายร่างกายชายคนหนึ่ง  แต่หลังจากนั้นก็ถูกผู้จัดการฟ้องร้องเพราะถูกทำร้ายร่างกาย และเจรจาชดเชยความเสียหายกันนอกศาล    Karrueche Tran  อดีตสาวคนรักได้นำหลักฐานเป็นข้อความข่มขู่จาก Chris ว่าเขาจะกระทืบเธอให้น่วมและจะทำให้ชีวิตเธอเหมือนตกนรก และบอกว่าว่าเขาชกท้องของเธอและผลักจนตกบันได การเปิดเผยครั้งนี้ทำให้ศาลสั่ง Chris ไม่ให้เข้าใกล้เธอชั่วคราว    ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา มีผู้หญิงเปิดเผยว่า ถูก Chris ข่มขืนมาแล้วหลายครั้ง

ข้อมูลเหล่านี้ทำให้หลายคนมั่นใจว่า  นี่ไม่ใช่เพียงความผิดพลั้งสมัยเป็นวัยรุ่นเลือดร้อนที่ควรมองข้าม แต่เป็นพฤติกรรมแบบต่อเนื่องยากจะควบคุม 
แฟนโต้กลับ   มีหลักฐานพิสูจน์ออกมาแล้วว่า หญิงที่กล่าวหา Chris ในคดีข่มขืนปั้นน้ำเป็นตัว
แม้  Chris จะใช้ความรุนแรงจนถูกจับกุมและยอมรับผิดกลางศาลเมื่อหลายปีก่อน  แต่สำหรับคดีฟ้องร้องจากข้อกล่าวหาว่าข่มขืนผู้หญิงนั้น  เขายืนยัน เป็นการฉวยโอกาสจากกลุ่มคนที่มองเห็นว่าเขาเป็นบ่อเงินบ่อทอง   จากที่ภายนอกมองว่ามีภาพลักษณ์ย่ำแย่ ก็ใช้จุดนี้โจมตีเขาด้วยคำใส่ร้าย  เขาฟ้องหมิ่นประมาทผู้หญิงเหล่านั้น   และพยายามพิสูจน์ความบริสุทธิ์ โดยเฉพาะครั้งล่าสุดเมื่อปีที่แล้ว หญิงสาวที่ไม่ประสงค์จะออกนามได้เรียกร้องค่าเสียหายจาก Chris ยี่สิบล้านเหรียญ โดยกล่าวหาว่า เขาวางยาข่มขืนเธอเพราะไม่พอใจที่เธอไม่ตอบเร้าเรื่องกามารมณ์  แต่ในเวลาต่อมา   Chris ก็ได้ปล่อยหลักฐานเด็ดเป็นข้อความจากผู้หญิงคนดังกล่าวเพื่อยืนยันว่า เธอต่างหากพยายามตามตื๊อเพื่อได้ขึ้นเตียงกับเขา และไม่พอใจที่เขาสนใจจะมีความสัมพันธ์ทางเพศกับเธอ     และเขาก็มีหลักฐานมากพอจะทำให้ศาลยกฟ้องคดีนี้

เรื่องนี้ทำให้แฟนๆของ  Chris มั่นใจว่า เขากลายเป็นเหยื่อของพวกที่หากินกับการใส่ร้ายผู้บริสุทธิ์ที่ถูกสังคมมองด้วยอคติ  และไม่ควรนำข้อกล่าวหาที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้มาเป็นโจมตีเขา    ที่ผ่านมานั้น เขาก็ได้ยอมรับผิดเรื่องการใช้ความรุนแรงและเข้ารับการบำบัดมาแล้ว


Chris สุดปรี๊ด   ผู้คนยังเกลียดชังจากข้อผิดพลาดที่ลงมือกับ Rihanna เมื่อหลายปีก่อน

แม้ Tiktok จะทำให้เพลง Under the Influence ผลงานในปี 2019 กลายมาเป็น viral hit และพุ่งปรู๊ดไปถีงอันดับ 12 ใน BILLBOARD HOT 100 แต่ที่ผ่านมา เขาก็ยังถูกมองเป็นบุคคลยอดแย่ประจำวงการ ดราม่าเรื่องผลงาน collab กับ Chloe นั้นก็ทำให้เขาทนไม่ไหว ออกมาระบายอารมณ์ไม่ยั้ง

Trigger Warning:  ภาพอาการบาดเจ็บจากความรุนแรง 
"ถ้าพวกคุณยังเกลียดผมเพราะความผิดพลาดที่ทำลงไปตอนอายุ 17 ก็ไสหัวไปเลยเหอะ  ผมอายุ 33 เข้าไปแล้ว ผมเบื่อหน่ายที่ถูกพวกคุณโจมตีจากเรื่องนี้มากจริงๆ   คนเพี้ยนอย่างพวกคุณเป็นพวกเดียวกันกับคนที่เปิดไปดูวีดีโอ Blueface และ Chrisean ตีกันออกสื่อไม่เกรงใจใคร (แร็พเพอร์ที่ตบตีกับแฟนสาวข้างนอกบ้านท่ามกลางสายตาคน)  แต่มันเป็นเรื่องที่รับได้ว่างั้นเหอะ?  มันเป็นเรื่องบันเทิงสินะ?"



Chris ยังชี้ว่า กระแสต่อต้านที่เกิดขึ้นมาจากเรื่องสีผิว เพราะหากคนดังผิวขาวทำเรื่องร้ายแรง กลับถูกปล่อยผ่าน

"พวกที่ใช้ cancle culture น่ะไปอยู่ไหนตอนที่พวกศิลปินผิวขาวเดทสาวที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ทำร้ายร่างกายภรรยาจนยับเยิน หรือแพร่เชื้อเอดส์ให้ผู้หญิง โอ้ ก็แน่แล้วนี่ พวกเค้าเป็นขวัญใจของพวกคุณ จึงแสร้างทำเป็นปลื้มผมบ้างไม่ได้ อย่ามาขวางกันไม่งั้นจะถูกเหยียบเละ ชัดๆแค่นี้ ไม่มีใครหน้าไหนหรอกที่จะมาทำอะไรผมได้"


ศิลปินหญิงจาก community เดียวกันปกป้อง Chris จากเสียงโห่ของคนดู
หากถามว่า   Chris Brown ได้รับการปฏิบัติเช่นใดจากอุตสาหกรรมดนตรี     ก็คงพูดไม่ได้เต็มปากว่าทุกคนจะอ้าแขนโอบกอดด้วยไมตรี  เขาอาจจะร่วมงานกับศิลปินดังมาแล้วหลายคน  และยัง hang out กับผู้ทรงอิทธิพลในวงการเป็นเรื่องปกติ  แต่แน่นอนว่า  ยังมีคนที่ระมัดระวังไม่ให้ถูกชาวเน็ทลากไปโจมตีเหมือนกับ Chloe      ดูเหมือนว่า Chris สามารถกลับคืนสู่บัลลังก์เจ้าชาย R&B ได้เต็มตัว  แต่จากรูปการณ์แล้ว มันก็ยังมีบรรยากาศที่กระอักกระอ่วน  ดังตัวอย่างชัดเจนในงาน American Music Awards ปีที่แล้ว เมื่อมีการประกาศว่า Chris คว้ารางวัล avorite male R&B artist   ไปได้   ผู้ชมก็ไม่ปิดบังความไม่พอใจ ส่งเสียงโห่ใส่กับผลการตัดสิน แต่  Kelly Rowland ศิลปินสาวสมาชิกวง  Destiny's Child ที่เป็นทั้งผู้ประกาศรางวัล และเป็นล่าวรับรางวัลแทน Chrisที่ไม่ตัดสินใจไม่มาร่วมงาน ก็เตือนกลุ่มคนที่โห่ใส่ว่า "ขอโทษทีนะ ช่วยใจเย็นกันหน่อย"  และชื่นชมความสามารถของเขาพร้อมสัญญาว่าจะนำรางวัลนี้ไปให้

Kelly แสดงออกชัดเจนว่าสนับสนุน Chris เต็มที่ เธอทั้งส่งกำลังใจผ่าน social media และให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ว่าจะเป็นใครก็ควรจะได้รับการปฏิบัติด้วยมารยาทดีงาม แน่นอนว่า การกระทำของเธอได้ใจแฟนๆของ Chris พวกเค้ามั่นใจว่า เขาตู่ควรต่อรางวัลนี้เป็นที่สุด และไม่ควรนำอดีตมาเป็นสิ่งฉุดรั้งความสามารถของศิลปินดัง แต่ชาวเน็ทจำนวนไม่น้อยก็มองว่า การแสดงออกว่าชื่นชม Chris อย่างออกหน้าออกตาก็ไม่ต่างจากการตบหน้าเหยื่อความรุนแรง




 Chris เผย  ผู้จัด award shows ยังไม่เปิดโอกาสให้เข้าร่วมแสดง

ในขณะที่ชาวเน็ทฟาดฟันผู้ที่สนับสนุน Chris Brown ว่าช่วยให้แสงกับคนกระทำผิดจนเขากอบโกยความสำเร็จจากผลงานดนตรีมาตลอดหลายปีมานี้ แต่นักร้องเจ้าปัญหาได้เปิดเผยว่า ต้องถูกบรรดา award shows ต่างๆ เมินเฉย ไม่ยอมติดต่อให้เขาขึ้นเวทีจนกระทั่งตอนนี้ เขาได้แชร์ภาพจากทัวร์คอนเสิร์ตที่ผู้คนเรือนหมื่นจองตั๋วเข้ามาชม และประกาศว่า

"ดูจำนวนผู้คนสิ ขึ้นโชว์ที่ไหนก็แน่นขนัดแบบนี้ หากไม่เป็นเพราะแฟนๆที่แสนดีเหลือจะกล่าว ผมก็คงยอมออกจากวงการไปแล้ว ปล่อยให้ผมแสดงความยอดเยี่ยมซะทีเหอะ"

เมื่อแฟนคนหนึ่งถามว่า แม้แต่ award show ก็ไม่ได้มาทาบทามให้ขึ้นแสดงหรืออย่างไร? เขาก็ตอบชัดว่าไม่มี แม้จะเคยแสดงใน BET Awards ในปี 2017 แต่ยากนักที่จะได้เห็นเขาบนเวทีอื่น แม้ว่าจะส่งงานดนตรีที่ได้รับความนิยมมาแล้วหลายอัลบั้ม แต่ผู้จัดก็ระมัดระวังหลีกเลี่ยง controversy ด้วยการกีดกันเขาจากโชว์ชื่อดัง

เมื่อปีที่แล้ว American Music Awards ได้สร้างเสียงวิจารณ์ใหญ่โตจากการทาบทาม Chris มาแสดงบนเวทีเพื่อให้เกียรติต่อ Michael Jackson ราชาเพลง pop ผู้ล่วงลับ และ Chris เองก็ได้แชร์ภาพการฝึกซ้อมเพื่อโชว์ครั้งสำคัญจนแฟนๆของเขารู้สึกตื่นเต้นอย่างถ้วนหน้า แต่ในที่สุด AMA ก็ได้ยกเลิกโชว์นี้แบบนาทีสุดท้ายโดยไม่เปิดเผยเหตุผล ซึ่งหลายฝ่ายลงความเห็นตรงกันว่า ภาพลักษณ์อื้อฉาวของ Chris นั่นเองที่ทำให้ AMA เปลี่ยนใจหน้าตาเฉย


Lizzo ก็โดนด้วย    ชาวเน็ทจิกกัดหลังออกอาการ  fangirl ใส่นักร้องหนุ่มชื่อฉาว
 Chloe ประกาศ collab กับ Chris แฟนๆก็บ่นว่าเสื่อมศรัทธา   Kelly แสดงความชื่นชมความสามารถ ก็ถูกมองว่าเข้าข้างคนผิด   แต่ถ้าเจอกันแล้วออกอาการปลาบปลื้มแบบ  fangirl ล่ะ?  

ใครบางคนได้เผยแพร่ภาพของ Lizzo ที่ปรี่เข้ามาหาศิลปินหนุ่มอย่างยินดี เธอขอร้องเขาว่า

"ช่วยถ่ายภาพคู่กันได้มั้ยคะเพระาคุณคือคนที่ฉันชื่นชอบมากที่สุดในโลกนี้เลย"

เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องถกเถียงในโลกออนไลน์ว่า เหตุใดผู้ชายประวัติเสียหายแบบ Chris Brown จึงครองสถานะไอดอลในดวงใจของหลายคน โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีภาพลักษณ์ strong แบบ Lizzo ชาวเน็ทฝ่ายต่อต้าน Chris มองว่า เธอน่าจะใช้สถานะความโด่งดังของตัวเองปกป้องฝ่ายที่เป็นเหยื่อความรุนแรงมากกว่าออกอาการคลั่งไคล้ศิลปินหนุ่มคนดังที่เคยทุบตีและตามคุกคามอดีตคนรัก รวมถึงก่อวีรกรรมเสียหายอีกหลายเรื่อง

ยังมีอีกหลายคนมองว่า  Lizzo มีสิทธิ์เต็มที่จะทักทายและชื่นชมใครก็ได้อย่างเปิดเผยตามแต่ใจเธอต้องการ   และเชื่อมั่นว่า  ความผิดพลาดของ  Chris Brown ในอดีตไม่ใช่ตัวตนในปัจจุบันของเขา   หากไม่ยอมเปิดโอกาสให้คนเคยทำผิดได้แก้ไขตัวเอง  แล้วจะมีใครที่พร้อมจะใช้โอกาสที่สองเพื่อก้าวออกจากความผิดพลาด   สังคมย่อมวุ่นวายเกินกว่าที่เป็นอยู่ถ้าเราไม่รู้จักให้อภัยกัน   


Chris Brown ควรจะถูก boycott ตลอดกาลหรือไม่? การร่วมงานกับศิลปินสาวดาวรุ่งถือเป็นเรื่อง 'เสียของ' เกินจะยอมรับ หรือนี่คือโอกาสเรียนรู้ความผิดพลาดจากอดีตเพื่อกลายเป็นคนใหม่?

คุณอยู่สนับสนุนฝ่ายใด มาแชร์ให้เราฟังได้นะ


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE