มัดรวม 5 Item ผลัดเซลล์ผิวที่ใช้แล้วชอบ!

สวัสดีค่าทุกคนนนน~ กลับมาเจอกับน้ำกันอีกแล้วนะคะ

ซึ่งวันนี้พิเศษสุดๆ น้ำได้ทำการรวบรวมเอาตัวช่วยผลัดเซลล์ที่ใช้แล้วชอบ! จนอยากมาบอกต่อทุกคน แต่ต้องบอกก่อนว่าปัญหาผิวของน้ำตอนนี้คือ เป็นคนที่หน้าค่อนข้างหมองคล้ำกว่าตัว สีผิวไม่สม่ำเสมอ รูขุมขนกว้าง มีรอยสิว และมีสิวอุดตันอยู่ตลอด ทำให้หน้าดูโทรมไม่สดใสเลย 

ใครที่กำลังมีปัญหาผิวคล้ายกับของน้ำมาทางนี้ด่วน!

และนี้ก็คือโฉมหน้าทั้งหมดของตัวช่วยผลัดเซลล์ผิวที่น้ำใช้แล้วชอบมาก!

เราไปดูกันทีละตัวเลยดีกว่า

มาเริ่มที่ตัวแรกเลย Oncemet Skin Smooth Boost ตัวนี้น้องเค้าเป็น ‘แอมพูล” จากประเทศสเปน ที่ช่วยทั้งในเรื่องของการผลัดเซลล์ผิว ช่วยกระชับรูขุมขน ทำให้ผิวหน้าเรากระจ่างใสมีชีวิตชีวา ช่วยลดรอยสิวให้ผิวเรียบเนียนขึ้น

ซึ่งความเริ่ดของเค้าคือ เป็นแอลพูลทรีตเมนต์ดูแลผิวเข้มข้นที่มี 2 ขั้นตอนมาให้ใน 1 กล่องเลย 

เปิดกล่องมาเราจะเจอกับหลอดแอมพูลทั้งหมด 10 หลอด ซึ่งมี STEP 1 จำนวน 5 หลอด และ STEP 2 จำนวน 5 หลอด

เค้าจะมีฝาต่อพลาสติกมาให้ด้วยเผื่อเราใช้ครั้งเดียวไม่หมด สามารถปิดฝาแบ่งใช้ได้

ส่วนผสมหลักใน แอมพูล STEP 1

• เป็น AHA โมเลกุลขนาดเล็ก ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวหนังชั้นบน และยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
• Mandelic Acidเป็น AHA ที่เหมาะกับคนเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย
• Maleic Acid ช่วยดึงดูดน้ำเข้าผิว ให้ความชุ่มชื้นกับผิว

                      ส่วนผสมหลักใน แอมพูล STEP 2

• Tranexamic Acid ช่วยในการรักษาฝ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
• 3-O-Ethyl Ascorbic Acid ช่วยให้ผิวมีความกระจ่างใส ช่วยลดเลือนริ้วรอย และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยลดการอักเสบของผิว 
• Acetyl Hexapeptide-38 หรือ Argirelineเสริมให้ผิวอิ่มฟูขึ้น ผิวชั้นนอกจะดูเรียบเนียน และริ้วรอยดูลดลงอย่างชัดเจน
• สารสกัดจากเมล็ดองุ่น เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ต้านการอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย ปรับผิวหน้าให้สมดุล และเป็นการลดการเกิดสิวทางอ้อมด้วย

มาดูในส่วนของตัวเนื้อแอมพูลกันบ้างดีกว่า ทั้ง 2 ตัวจะมีความเหลวใส แต่ในส่วนของ STEP 2 จะมีสีอมส้มนิดหน่อย ตัวแก้วแอมพูลของ Oncemet Skin คือหักง่ายมากกก

ในส่วนของวิธีใช้ก็ง่ายสุดๆ

STEP 1 ขั้นตอนการผลัดเซลล์ผิว

หลังจากที่ทำความสะอาดผิวหน้าเสร็จแล้ว ใช้แอมพูล STEP 1 นวดเบาๆ เป็นวงกลมทั่วใบหน้า ประมาณ 2-3 นาทีขั้นตอนนี้จะมีฟองขึ้นมา และจะมีความยิบๆ ผิวนิดหน่อยไม่ต้องตกใจนะทุกคน หลังจากครบ 2–3 นาที ก็ล้างหน้าออก เพื่อเตรียมบำรุงผิวใน STEP 2 กันต่อเลยจ้า

STEP 2 ขั้นตอนการบำรุงผิว

หลังจากที่ล้างแอมพูล STEP 1 ออกแล้วซับหน้าให้แห้ง และทา STEP 2 ต่อเลย จะเป็นเหมือนการทาเซรั่มลงผิวหลังจากผลัดเซลล์ผิวนั้นเอง ขั้นตอนนี้จะรู้สึกสบายผิวมากกก ผิวจะฉ่ำโกลว์สุดๆ พอเค้าซึมลงผิว น้ำก็จะทามอยเจอร์ไรเซอร์เป็นอันเสร็จ 

ใช้อาทิตย์ละ 2 ครั้งเท่านั้นนะคะทุกคน และใช้เฉพาะกลางคืนเท่านั้นน้า

ส่วนตัวน้ำชอบน้องเค้ามากกกก พอตื่นเช้ามาผิวจะลื่น ฟู ดูกระจ่างใสขึ้นมาเลย จากที่หน้าโทรมๆ รู้สึกผิวสดใสมากขึ้น รอยสิวทั้งหลายก็ดูจางลง ที่สำคัญที่ทำให้ประทับใจน้องเค้าเพราะเหมือนเราได้ทรีตเมนต์ดูแลผิวด้วยตัวเองง่ายๆ ที่บ้าน ได้ทั้งผลัดเซลล์ผิว และบำรุงผิวอย่างเข้มข้นจนรู้สึกได้เลย

มาที่ตัวต่อมา มาส์กเลือดที่หลายๆ คนน่าจะรู้จักกันดี THE ORDINARY AHA 30% + BHA 2% Peeling Solution เซรั่มแบรนด์ดังจากแคนาดา ตัวนี้น้ำได้แอบไปลองใช้ของพี่มาแล้วชอบ เลยไปซื้อตามด้วยความที่เค้ามี AHA + BHA จะเหมาะมากกับคนที่มีปัญหาหน้าหมองคล้ำ เพราะช่วยในเรื่องผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพทำให้ผิวกระจ่างใสขึ้น ช่วยลดรอยดำรอยแดงจากสิว ช่วยลดการเกิดสิวใหม่ ลดการอุดตันของรูขุมขน สูตรนี้ยังช่วยให้ผิวเรียบเนียนสม่ำเสมอและลดเลือนริ้วรอยอีกด้วย

แต่ที่ต้องระวังเลยก็คือ น้องเค้าค่อนข้างแรงเลยนะ คนที่มีผิวแพ้ง่ายและผิวบอบบางน้ำไม่ค่อยแนะนำนะคะ

ในส่วนของเนื้อมาส์ก น้องเค้าจะมีความเหลวใส สีแดงคล้ายเลือดเลย ตอนทาลงบนผิวหน้าจะมีความหนึบๆ ติดผิวอยู่นะ น้ำจะใช้น้องเค้ามาส์กหน้าหลังจากล้างหน้าให้สะอาดแล้ว ซับให้แห้ง และทาน้องเค้าทั่วหน้า เว้นรอบดวงตาและริมฝีปาก ทิ้งไว้ 5-10 นาทีเท่านั้นนะทุกคน ห้ามเกินนี้เพราะผิวหน้าเราอาจจะระคายเคืองได้ หลังจากนั้นล้างออกให้สะอาด และบำรุงผิวตามปกติได้เลย

น้ำใช้อาทิตย์ละ 1 ครั้ง และใช้เฉพาะกลางคืนเพราะใช้แล้วผิวค่อนข้างไวกับแสง

มาร์กตัวนี้ก็เป็นอีกตัวที่เด่นเรื่องการผลัดเซลล์ผิวเหมือนกัน แต่จะค่อนข้างแรงพอสมควร น้ำจะใช้สลับกับตัวแอมพูลข้างบน แต่ตัวนี้จะใช้เฉพาะช่วงที่รู้สึกว่าผิวแข็งแรงจริงๆ เท่านั้น น้องเค้าช่วยให้ผิวของน้ำกระจ่างใสขึ้นดีทีเดียว รอยสิวก็ดูจางลงเยอะเลย ผิวหน้าดูเรียบเนียนสม่ำเสมอกว่าแต่ก่อนอีกด้วย 

ตัวในตำนานต่อมาที่คนมีปัญหาสิวต้องรู้จักก็คือ Paula's Choice Skin Perfecting 2% BHA Liquid Exfoliant ตัวนี้เค้าช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก ช่วยรักษาเหล่าสิวทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น สิวเสี้ยน สิวอุดตัน สิวอักเสบ สิวหัวดำ ฆ่าเชื้อแบคทีเรียสาเหตุของการเกิดสิว ลดรอยแดง และอาการอักเสบของสิว ปรับผิวให้เรียบเนียนขึ้น มีค่า pH ที่เหมาะสม ระหว่าง 3.2 – 3.8 ช่วยขจัดสิ่งอุดตันรูขุมขนออกอย่างอ่อนโยน ตัวนี้จะเหมาะมากกับคนที่มีปัญหาสิวอุดตันฝั่งแน่นไม่ยอมหายสักที

ในส่วนของเนื้อน้องเค้าจะเป็นเนื้อน้ำ ลื่นๆ น้ำจะใช้หลังจากล้างหน้าสะอาดแล้ว จะหยดลงบนสำลีประมาณเท่าเหรียญบาท โดยใช้ทาทั่วหน้าเว้นรอบดวงตาและริมฝีปาก รอ 5-15 นาทีให้น้องเค้าซึมลงผิว แล้วทาครีมบำรุงต่อตามปกติได้เลย ในช่วงแรกที่ใช้น้ำแนะนำว่าให้ใช้แค่อาทิตย์ละ 2-3 วันพอนะทุกคน เฉพาะช่วงกลางคืนด้วยนะ พอผิวเริ่มปรับสภาพได้แล้วค่อยเพิ่มความถี่ในการใช้ดีกว่า 

มาดูในส่วนของตัวเซรั่มกันบ้างดีกว่ากับ La Roche-Posay EFFACLAR SERUM ตัวนี้เป็นอีกตัวที่เหมาะกับคนเป็นสิวพร้อมทั้งผลัดเซลล์ผิวไปด้วย เพราะเค้ามี LHA สลายสิวอุดตัน ผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพบนชั้นผิว ผลัดรอยดำรอยแดงจากสิว ทำให้สีผิวดูสม่ำเสมอและเรียบเนียนขึ้น รวมถึงลดการสะสมแบคทีเรียที่เป็นต้นตอของสิว
 ที่สำคัญคนที่ผิวบอบบาง ระคายเคืองง่าย ก็ใช้ได้นะ

ในส่วนของเนื้อเซรั่มจะเป็นเนื้อสีใส มีความหนืดนิดหน่อย เกลี่ยง่าย แต่จะแอบซึมช้า น้ำจะใช้เป็นเซรั่มบำรุงในช่วงกลางคืน โดยใช้เป็นประจำทุกวันเลย 

ส่วนตัวน้ำรู้สึกว่าน้องเค้าช่วยเรื่องสิวได้เยอะเลย แล้วก็ไม่รุนแรงกับผิวมากด้วย สิวอุดตันหลุดออกมาเลย ใช้ไปสักพักหน้าก็จะเรียบเนียนขึ้น ชอบมากกก แต่ในเรื่องการผลัดเซลล์ผิวให้ผิวกระจ่างใสนั้น น้ำมองว่ายังเห็นไม่ค่อยชัดคงต้องใช้ไปเรื่อยๆ แต่ในเรื่องสิวนี้เค้าจัดการได้เอาอยู่จริงๆ ใครที่เป็นสิวอยู่แนะนำเลย  

มาถึงตัวสุดท้ายกันแล้ววว La Roche-Posay Effaclar K+ เป็นเจลฟลูอิดบำรุงผิวพร้อมช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยนด้วย LHA ให้ความชุ่มชื่นสบายผิวตลอดวัน ลดการอุดตันของรูขุมขน และช่วยลดปัญหาการเกิดซ้ำของสิวอุดตัน ช่วยลดความมันส่วนเกินและควบคุมความชื้นบนใบหน้าได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมงเลยทีเดียว ช่วยให้ผิวแลดูเรียบเนียนสม่ำเสมอ ซึ่งตัวนี้เค้าเหมาะสำหรับผิวผสมและผิวมัน ที่มีปัญหาสิวอุดตันนั้นเอง

ในส่วนของเนื้อน้องเค้าตัวนี้จะเป็นเนื้อเจลสีขาว มีความบางเบา ไม่หนักหน้าเลย เกลี่ยง่าย กลิ่นหอมอ่อนๆ น้ำจะใช้เฉพาะช่วงเช้าเป็นประจำทุกวันเลย คือทาตัวนี้ก่อนแล้วค่อยทากันแดดตาม

สำหรับตัวนี้น้ำใช้แล้วรู้สึกว่าเค้าเหมาะกับทาช่วงเช้ามากเพราะเค้าช่วยควบคุมความมันส่วนเกินและเป็น Make-up base ไปในตัว มีความช่วยผลัดเซลล์ผิวแบบอ่อนโยนไปในตัวอีกด้วย ใช้แล้วรู้สึกสดชื่นผิว ผิวสะอาดเหมือนได้ดีท๊อกซ์ผิวไปในตัวเลย น้ำใช้ตัวนี้แล้วผิวอุดตันไม่ค่อยขึ้นเลย ผิวดูเรียบเนียนมาก ใช้เป็นครีมบำรุงไปในตัวเลย

และนี้ก็คือตัวช่วยผลัดเซลล์ผิวทั้งหมดที่น้ำได้ใช้แล้วชอบจนอยากเอามาบอกต่อให้ทุกคนที่ตามหาอยู่ได้หาเจอง่ายขึ้น ฮ่าๆ แนะนำว่าทุกตัวที่น้ำนำมารีวิววันนี้ ต้องใช้ครีมกันแดดควบคู่ไปด้วยนะ และควรใช้อย่างต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่ดีมากขึ้น ทุกคนสามารถเลือกใช้ตามความเหมาะสมของปัญหาผิวตัวเองได้เลยนะ 

แล้วเจอกันรีวิวหน้านะคะ บายยยยยย