How to Contest : แต่งหน้าติดทนแบบท้าชนแสงแดดและความร้อนของเมืองไทย

KathyC 19 เม.ย. 66 45 23

สว้ัสดีค่ะทุกคน วันนี้ได้ฤกษ์มาลง How to ซักทีค่ะ จริงๆถ่ายไว้ตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์เพิ่งจะมีเวลามาลง เราเป็นคนนึงที่ให้ความสำคัญเรื่องความติดทนมากตั้งแต่สมัยที่เป็นแอร์แล้ว เล่นงานผิวมาหลายแบบจริงๆค่ะ ตั้งแต่กลับมาเมืองไทยเมื่อ 4 ปีที่แล้วก็พยายามที่จะพัฒนาการแต่งหน้าตัวเองให้ดียิ่งขึ้น เรายอมรับเลยค่ะว่า Jeban มีส่วนสำคัญที่ทำให้เราเข้าใจผิวและความต้องการของผิวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนที่มาแชร์กันในนี้หรือการได้ไปงานของจีบันแล้วมีผู้เชี่ยวชาญมาแนะนำ ทำให้เราสามารถนำมาปรับใช้แล้วได้ผลดียิ่งขึ้น แต่งหน้าได้สวยและติดทนมากขึ้นจริงๆ

วันนี้ขอมาบอกต่อเทคนิคแบบหมดเปลือกเลยค่ะ ซึ่งถ้าใครตั้งใจอ่านจนจบเรามั่นใจว่าต้องได้ประโยชน์จาก How to แน่นอน

ไฮไลต์ข้อนี้ไว้นะคะ

การแต่งหน้าให้สวยติดทนไม่จำเป็นต้องเป็นที่มีผิวที่ดีเท่านั้น แต่ต้องมีการดูแลผิวเป็นอย่างดี...

ใครว่าแต่งหน้าติดทนต้องหน้าแน่นเท่านั้น?

เราขอบอกเลยค่ะ งานผิวสวยก็สามารถแต่งหน้าให้ติดทนได้เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นสภาพผิวและทุกขั้นตอนในการลงสกินแคร์และแต่งหน้าล้วนมีผลต่องานผิวที่ได้และความติดทน ผิวบางคนไม่ได้เหมาะกับการอัดรองพื้นและแป้งแบบแน่นๆนะคะ ไม่ต้องหาตัวอย่างจากที่ไหนเลย ผิวเรานี่ล่ะค่ะ มีทั้งริ้วรอยใต้ตาที่ชัดและรูขุมขนกว้าง ยิ่งลงงานผิวหนายิ่งเหมือนเน้นปัญหาผิวให้ชัดขึ้น ลงไม่ดีหน้าแครกระหว่างวันไปอีก ไม่ว่าจะแต่งหน้าแบบแน่นๆ หรือเน้นงานผิวบางเบาไม่มีอะไรผิดหรือถูกเลยค่ะ แค่ต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวตัวเองเท่านั้นเอง

เราเป็นคนนึงที่มองว่าหน้ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ เราเลยไม่ได้เน้นเรื่องคุมมันเท่าไหร่ สิ่งที่เราเน้นมากที่สุดคือความติดทนค่ะ หน้ามันแค่ไหน ซับมันออกแล้วผิวต้องยังสวย อันนี้เราน่าจะบอกในทุกการรีวิวรองพื้นของเราเลย

เราว่าน่าจะเกรินมาพอสมควรแล้ว มาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ สิ่งที่เราจะบอกในวันนี้แทบจะเป็น Daily Routine ของเราเลยค่ะ มีแค่ในส่วของ Scrub ที่เราทำแค่ 3 วันครั้ง

Cleansing

สเตปแรกของการตื่นนอนคือต้องทำความสะอาดผิว เอาสกินแคร์ที่ลงตอนกลางคืนออกให้หมดค่ะ เราขอย้ำอีกทีนะคะ ทุกสเต็ปมีความสำคัญต่อการลงงานผิว อาจจะไม่ได้เห็นความแตกต่างมาก แต่ตัวเองรู้สึกได้ถึงความแตกต่างนี้ค่ะ

Scrub

เป็นสิ่งที่ต้องทำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์นะคะ พวกเซลล์ผิวที่ตายแล้วเป็น 1 ปัจจัยที่ทำให้สกินแคร์ไม่ซึมเข้าสู่ผิว แต่งหน้าก็ติดทนยากค่ะ มันจะมีความแห้งกร้านที่ทำให้เกลี่ยรองพื้นและแป้งให้เนียนไปกับผิวยากขึ้น

Skincare

มาต่อกันที่สกินแคร์ที่ใช้ค่ะ เราให้ความสำคัญในการเลือกผลิตภัณฑ์ที่จะใช้ด้วย จะต้องมั่นใจว่าซึมเข้าสู่ผิวได้ดี และไม่ทำให้หน้าเยิ้มระหว่างวัน เรายอมรับตามตรงเลยค่ะว่าเรามีการเปลี่ยนสกินแคร์สำหรับหน้าร้อน สกินแคร์หลายๆไม่เหมาะกับหน้าร้อนเลย แต่สิ่งที่เราเลือกมาใช้ในวันนี้คือมั่นใจแล้วว่าไม่ทำให้หน้าเยิ้มมระหว่างวันจริงๆ โดยเฉพาะตัวครีมกันแดด เนื้อดีมาก ไม่ทำให้หน้าเยิ้มเลยแถมช่วยเตรียมผิวให้พร้อมก่อนแต่งหน้าด้วย

การมาส์กหน้าก่อนแต่งหน้าสามารถทำให้ผิวสวยได้จริงค่ะ ถ้าสามารถมาส์กได้ 7 วันติด ผิวจะชุ่มชื้นและอิ่มฟูมากจริงๆ ยิ่งผิวชุ่มชื้นและอิ่มฟูมากเท่าไหร่ เครื่องสำอางค์ก็จะสามารถเกาะหน้าได้ดีแและติดทนมากขึ้น

ขั้นตอนการลงสกินแคร์ - เรามาส์กหน้า15-20 นาทีก่อน หลังจากที่เซรั่มจากมาส์กซึมเข้าสู่ผิวเรียบร้อยแล้วเราจะล้างหน้า หลังจากนั้นเราก็จะเช็ดด้วยโทนเนอร์ สเปรย์เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ลงเซรั่ม ครีมและครีมกันแดด

ทุกขั้นตอนจะต้องมั่นใจก่อนนะคะว่าซึมเข้าสู่ผิวแล้วถึงจะลงขั้นตอนถัดไป ตัวเราเองใช้พัดลมเป่าเลย55

หลังจากที่ลงสกินแคร์เรียบร้อยแล้ว เราก็มาแต่งหน้ากันต่อได้เลยค่ะ...

Primer

เราให้ความสำคัญกับขั้นตอนนี้เสมอเลยค่ะ เราว่าเป็นขั้นตอนที่ทำให้รองพื้นติดทนมากขึ้นจริงๆ และตัวนี้ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นด้วย

Concealer

เราลงคอนซีลเลอร์ที่ใตต้าแบบบางๆค่ะ เพราะว่ายิ่งลงหนายิ่งเน้นร่องเส้นใต้ตาเรา และเนื่องจากว่าเราชอบลงรองพื้นแบบบางๆ เราเลยเลือกที่จะลงคอนซีลเลอร์ปิดสิวก่อนที่จะลงรองพื้น

Foundation

เราเลือกรองพื้นที่เป็นงานผิวเลยค่ะ ซึ้่งตัวนี้ติดทนทั้งวันเลย ช่วงนี้เราชอบลงรองพื้นแบบบางเลยค่ะ เราว่าลงบางๆแล้วติดทนมากกว่าค่ะ

Powder

เราเลือกที่จะลองแป้งฝุ่นด้วยพัฟ เราใช้วิธีกดเบาทั่วหน้าเลยค่ะ เพื่อเซตให้รองพื้นติดทนดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าเป็นการแต่งหน้านช่วงหน้าหนาว เราจะใช้แปรงเป็นหลักค่ะ แต่หน้าร้อนนี่เซตให้เข้าผิวมากยิ่งขึ้น

หน้าร้อนนี่แนะนำว่าต้องเชตผิวด้วยแป้งเสมอค่ะ ถึงหน้าจะดูแมตต์มากไปตอนแต่งเสร็จ แต่เชื่อเราได้เลยว่าเวลาที่หน้าเริ่มมันแล้ว ผิวจะสวยเองค่ะ

Eyebrow

เราลงแบบฝุ่นก่อน แล้วก็เขียนต่อด้วยแบบดินสอ ปัดมาสคาร่าคิ้วแล้วเขียนต่อด้วยหัวแบบเมจิก ที่เขียนคิ้วหัวเมจิกแบบนี้บอกได้เลยว่าติดทนดีมาก กันน้ำกันเหื่อแบบสุดๆ

Eye Makeup

ก่อนที่เราจะลงอายแชโดว์ เราลง Eye Primer ก่อนเสมอซึ่งรอบนี้เราใช้ของ Anastasia Beverly Hillls รับรองเรื่องความติดทนเลยค่ะ

ขั้นตอนการลงอายแชโดว์

ลงสี Copper ที่เปลือกตาทั้งบนและล่าง

ลงสีชมพูชิมเอร์ที่เบ้าตาเพื่อเบลนด์ให้สีดูเนียนมากขึ้น

ลงสีทองชิทเมอร์ที่กลางเปลือกตาทั้งบนและล่าง

กรีดอายไลเนอร์ ซึ่งเราใช้อายไลนเนอร์แบบน้ำในการเขียนขอบตาด้านในด้วยเพื่อติดทนมากขึ้น

Eye Tape

เราเลือกที่ที่ติดตา 2 ชั้นแบบต้องทากาวค่ะ เพราะถ้าเลือกแบบมีกาวในตัวแล้วใช้น้ำฉีด เวลาที่โดนน้ำจะเหนียวมากเลยค่ะ

Mascara

เราใช้ของ Canmake ตัวที่ใช้ประจำเลยค่ะ เป็นตัวที่มั่นใจว่ากันน้ำ กันเหงื่อ และไม่เยิ้มระหว่างวันเลย

Bronzer

เราเลือกใช้แบบเนื้อครีมเลยค่ะ เพิ่มความติดทนมากขึ้น เราลงที่กรอบหน้า ใต้โหนกแก้มและข้างสันจมูกค่ะ

Blush

เราเลือกใช้แบบเนื้อครีมค่ะ ซึ่งตัวนี้เวลาที่แห้งแล้วกลายเป็นเนื้อแป้งแนบไปกับผิวเลยค่ะ ติดทนดีมากจริงๆ ไม่ว่าจะร้อนและหน้ามันแค่ไหน บลัชตัวนี้ก็ติดทนค่ะ

Highlighter

เราลงที่โหนกคิ้ว เหนื่อโหนกแก้มคางและปลายจมูก เราเลือกใช้สีทองอ่อน

Finishing Powder

เราเลือกใช้แป้งของ Hourglass สี Diffuse Light ปัดเบาๆทั่วหน้าเลยค่ะ เพื่อความเบลอผิว ขั้นตอนนี้เราจะลองด้วยแปรงค่ะ

Lips

เราเลือกใช้ลิปสองตัวนี้เพราะความติดทนเลยค่ะ เราลง Lip Tint ที่ด้านใน แล้วลงลิป Water Tint ของ Jung Saem Mool สี Coral Drizzle ที่ด้านนอกค่ะ

Setting Spray

จะแต่งหน้าให้ติดทน ยังไงก็ขาดขั้นตอนนี้ไม่ได้ค่ะ ฉีดทั่วหน้าเลยค่ะ

ลุคนี้นอกจากจะให้งานผิวสวยแล้วยังติดทนมากด้วย มาเริ่มการทดสอบความติดทนกันค่ะ

ลิปนี่คือตอนเอากระดาษทิชชู่กดที่ริมฝีปาก สิ่งที่ออกมามีแค่ความวาวของลิป JSM ค่ะ แต่สีก็ยังชัดเหมือนเดิมเลย เอานิ้วถูอีกทีก็ยังไม่ออกค่ะ ซึ่งเราเคยลองไปทำงาน กินข้าวยังไงก็ไม่หลุดค่ะ สิ่งเดียวที่จะล้างออกได้ก็คือ Remover ค่ะ

ทดสอบความติดทนของส่วนอื่นๆ ด้วยการฉีดน้ำใส่หน้าแบบชุ่มๆเลยค่ะ เราทิ้งไว้ 4-5 นาทีเลย ไม่มีอะไรหลุดออกมาเลยค่ะ ทุกอย่างที่ใช้ในวันนี้คือกันน้ำมากจริงๆ หลังจากที่ซับหน้าด้วยทิชชู่หน้าก็ยังครบค่ะ

ไอเทมคู่ใจที่อยากจะหยิบมาพูดถึงในวันนี้คือ Chanel Les Beige Healthy Glow Foundation บอกได้เลยว่า Love รองพื้นตัวนี้มาก ชอบมากที่สุดเลยค่ะ ให้งานผิวที่ดูคล้ายผิวจริง แต่ดูสุขภาพดีกว่าผิวจริง เป็นตัวที่ติดทนมากๆ และติด Mask น้อยที่สุดในบรรดารองพื้นที่เราใช้อยู่ เวลาที่หน้ามัน รองพื้นไม่ลอยออกจากหน้าเลยค่ะ ซับมันแล้วผิวกลับมาสวยเลย เรื่องผิวสวยนี่คงไม่ต้องพูดถึงแล้วค่ะ ฉ่ำสวยมากกก