สวัสดียามดึกค่าทุกคน ด้วยความที่วันนี้วาลองแต่งลุคไปงานแบบกันเยิ้ม 

ผลคือกลับบ้านมาความเป็นคนผิวมัน ก็มีความมันนะคะ แต่ไม่มันจนเยิ้ม

 เครื่องสำอางยังติดทนอยู่ในระดับนึง วันนี้เลยขอมาทำ How to แบบเร่งด่วนก่อนเข้านอนกันค่า~

Step 1 : ลงรองพื้น

วาใช้รองพื้นตัวโปรด คือคุมมันและปกปิดดีเยี่ยมสุดๆ กับ Estee Lauder Double wear สี 1w1 bone

รองพื้นตัวนี้เนื้อสัมผัสคือแน่นมากค่ะ วาใช้คู่กับฟองน้ำ Jovina ตัวใหม่ เอาน้องไปชุบน้ำให้พองก่อน ช่วยให้เกลี่ยรองพื้นได้เนียนมากขึ้นด้วยนะ

Step 2 : งานคิ้ว

งานคิ้ววันนี้วาขอเบิกตัวดินสอเขียนคิ้วในตำนานค่ะ เป็นดินสอเขียนคิ้วของ Etude Drawing Eye Brow เบอร์ 03 ค่ะ 

เป็นดินสอเขียนคิ้วที่วาใช้เป็นแท่งแรกเลย และใช้มาน่าจะหลายสิบแท่งแล้ว เขียนง่าย สีชัด ไม่หลุดไหลตามเหงื่อ อีกด้านมีหัวแปรงไว้ปัดขนคิ้วให้เด้งฟู ดูเป็นธรรมชาติ

Step 3 : ลง Concealer ใต้ตา

คอนซีลเลอร์ที่ตอนนี้ชอบและราคาดีงามสุดๆ วาใช้ LA GLACE Ideal Airy Skin Concealer เบอร์ 01 ค่ะ

 เนื้อดีเลย เป็นแบบซองคือชอบไปอีก รู้สึกแบบเราใช้เครื่องสำอางจนหมดจริงๆนะ ค่อยซื้อใหม่ 

ปกติจะหมดอายุก่อนใช้หมดซะส่วนใหญ่ค่ะ ตัวนี้ป้ายๆไว้ แล้วใช้ฟองน้ำ Jovina ตัวใหม่ Tap เบาๆได้เลย เนียนผ่องอย่าบอกใครเชียว

Step 4 : งานเปลือกตา

เริ่มเลออ~ ลงสีแล้วนะเธอ ไม่ได้แต่งตาสีๆมานานค่ะ ไม่ชินจริงๆ แต่ Christian Dior Diorshow Colour & Contour แท่งนี้คือที่สุด

 วาใช้สีน้ำเงินไปเลย แท่งเดียวมีทั้งคอนทัวช่วยให้ดูเป๊ะขึ้น และมีไลเนอร์ที่เขียนง่าย เพราะมาในรูปแบบแท่งๆ หมุนๆเอา

 ปาดๆไปได้เลย จะวิงหางเฉี่ยวยังไงก็เอาอยู่ค่ะ เหมาะกับมือใหม่สุดๆ

Step 5 : ลงเปลือกตา 2

มาจ้า ยังฟ้าไม่พอ! ขอใช้พาเลทตาของ WetnWild ค่ะ จำชื่อไม่ได้แล้ว 

แต่กดมาจาก Official นะงับ มีสีเยอะมากแบบสดใสๆเลยค่ะ ใช้คู่กับแปรงแต่งหน้าตัวเก่าของ Jovina คือปัดๆไปเลย 

เอาให้ฟุ้งๆเบาๆด้านบนของเส้นสีน้ำเงินที่ทาไปเมื่อกี้

Step 6 : ไลเนอร์

จบเสร็จแล้วจ้า ลุคนี้รีบมาก55 ลงไลเนอร์เส้นจิ๋วตัวโปรด ณ ตอนนี้ นั่นก็คือ BROWIT Ultra Fine Eyeliner 0.01mm. #Black

แท่งนี้คือเขียนง่ายมากๆ เขียนแค่หางตาได้เลย เส้นคมแบบเฉี่ยวเวอร์

Step 7 : ลงใต้ตา

งานนี้ตาเราต้องฉ่ามม! มาทำดอลลี่แบบไม่เนียนกันค่ะ ชอบความตะโกนและเขียนง่ายต้อง Etude tear eye liner 01

ตัวนี้คือเส้นเล็ก สีแน่น วาดไปคือเส้นขาวมาเลย แต่มีทริคคือวาดแล้วรอแห้งนิดนึงนะคะ เค้าจะติดทนดีมัก

Step 8 : ลงปาก + แก้ม

ขั้นตอนนี้ถ่ายไม่ทันเพราะวาเติมก่อนออกจากบ้านไปค่ะ อยากให้ปากแน่นๆ เลยจะทาตอนใกล้ออกแทน

วาใช้ 4U2 Jelly Tint เบอร์ 12 ค่ะ สีละมุนดีมาก จากที่เคย Swatch ให้ดูไปแล้ว เรื่องติดทนคือปังค่ะ ราคาไม่แรงด้วย

แต่ถ้าจะใช้ตัวนี้ลงแก้มคือต้องเกลี่ยให้ไวนะคะ สีเค้าเป็นเนื้อทิ้นท์ที่ติดผิวไวมาก

เรียบร้อยค่ะ แค่นี้ก็ได้ลุคใสๆในวันเร่งรีบแล้ว555

บอกเลยว่าลุคนี้คือ แต่งหน้ากันเยิ้ม ของวาเลยค่ะ เพราะวันนี้อากาศร้อนมาก 

แต่หน้าไม่เยิ้ม ไม่แสบตาเพราะเครื่องสำอางไหลเข้าตาแล้วนะ

และไอเท็มสำคัญในลุคของวันนี้เลยก็คือ..

"รองพื้น"

Estee Lauder Double wear สี 1w1 bone

บอกเลยว่าใช้มาจนจะหมดขวดแล้วค่ะ มาดูข้อดีที่วาสัมผัสได้

และจุดที่ไม่ประทับใจนิดหน่อยที่อยากให้มี

ข้อดี:

- โทนสีเหมาะกับสีผิว

- คุมมันได้ระดับนึง

- ปกปิดรอยดำจากสิวได้

จุดที่ไม่ค่อยชอบ:

- ฝาเป็นแบบต้องเทออกมา ทำให้กะไม่ถูก บางครั้งมากไป บางครั้งน้อยไป

- ด้วยฝาที่เป็นเกลียว ทำให้คอขวดดูสกปรกเลอะเทอะ

- เนื้อแมตต์ไวมาก ต้องรีบเกลี่ยหรือใช้พัฟชุบน้ำ

โดยรวมคือคุณสมบัติต่างๆที่อยู่ในข้อดี เค้ากันเยิ้ม เอาอยู่ เรื่องความกันเหงื่อคือเริ่ด

ปกปิดปัง เนื้อสัมผัสแมตต์ เกลี่ยแล้วเนียนไปกับผิว

วาเลยยกให้รองพื้น Estee Lauder เป็น ที่ 1 ในไอเท็มที่ใช้ในลุควันนี้นั่นเอง~

#Howto #สวยสับรับสงกรานต์