กระแสความขัดแย้ง Black-Washing จาก Cleopatra ผิวดำ
candy 29 11
นับตั้งแต่ Netflix เผยตัวอย่าง 'African Queens' docu-series ทางประวัติศาสตร์ที่ชี้ว่า ราชินี Cleopatra ที่ 7 แห่งอียิปต์มีเชื้อสาย African ผิวดำ แม้ผู้คนจะรับรู้มายาวนานว่า เธอคือเชื้อพระวงศ์ Ptolemaic (ทอเลมี) คนสุดท้ายที่ปกครองอียิปต์ ผลงาน produce ของนางเอกชื่อดัง Jada Pinkett Smith เรื่องนี้ก็ได้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์โต้แย้งอย่างแพร่หลายในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะผู้คนจากอียิปต์ที่ประนามว่า นี่ไม่ต่างจากการปล้นทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าของคนในชาติ ยัดเยียดให้สังคมทั่วโลกเข้าใจ race ของราชินีบันลือโลกกันไปผิดๆ และเปรียบเทียบว่า นี่คือการกระทำแบบ Black-Washing ซึ่งสร้างความเสียหายได้ไม่ต่างจาก White-Washing
Cleopatra คือใคร?
ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายจากการแก่งแย่งชิงอำนาจและสมรสร่วมกันทางสายเลือดราชวงศ์จนยุ่งเหยิง เธอคือหนึ่งในผู้ปกครองอียิปต์โบราณที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเนิ่นกว่าสองพันปี แม้จะมีราชินีที่มีนามเดียวกันมาหลายคน แต่ความสวยที่เป็นตำนานและสติปัญญาอันโดดเด่น รวมถึงเรื่องราวเล่าขานถึงการใช้เสน่ห์เย้ายวนใจเพื่อสยบชายผู้ทรงอำนาจทำให้เธอกลายเป็นผู้ปกครองอาณาจักรที่ได้รับความนิยมสูง
บรรพบุรุษของเธอคือ พระเจ้า Ptolemy ที่ 1 ผู้สถาปนาราชวงศ์ Ptolemaic ซึ่งหลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระเจ้า Alexander มหาราช ผู้เกรียงไกรในศึกสงครามแผ่ขยายอาณาเขตจนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นฟาโรห์อียิปต์ Ptolemy ผู้เป็นนายพลคนสนิทก็ได้ก้าวมามีอำนาจจนสามารถประกาศตนเป็นฟาโรห์ครอบครองราชบัลลังก์ต่อ ฟาโรห์ในราชวงศ์นี้ล้วนแต่มีนามว่า Ptolemy และสืบเชื้อสายราชวงศ์โดยรับประเพณีการสมรสในสายเลือดของราชวงศ์โบราณของอียิปต์มาปฏิบัติ แม้จะมีฟาโรห์ที่สมรสกับกับหญิงสาวต่างสายเลือด โดยเฉพาะการสมรสทางการเมืองกับผู้ที่มาจากราชวงศ์ Seleucid แต่ก็ใช้ภาษากรีกกันเป็นหลักเท่านั้น ว่ากันว่า มีเพียงแต่ Cleopatra เท่านั้นที่เลือกศึกษาภาษาอียิปต์และภาษาอื่นๆจนแตกฉาน
นักวิชาการหลายคนจึงสันนิษฐานว่า Cleopatra น่าจะมีสายเลือดมาซิโดเนียน-กรีกผสมผสานกับเชื้อสายเปอร์เซียนและอิหร่านซอกเดียน นั่นเป็นเพราะว่า เธอคือพระธิดาของพระเจ้า Ptolemy ที่ 12 และมีความเป็นไปได้ว่าพระมารดาของเธอคือราชินี Cleopatra ที่ 5 มเหสีซึ่งเป็นพระญาติใกล้ชิดกันกับฟาโรห์ หรือหากไล่เรียงแล้ว Cleopatra คือทายาทที่สืบเชื้อสายของกษัตริย์องค์แรกของราชวงศ์ไล่ลงมาถึง 8 ชั่วคน เธอย่อมไม่ได้มีเชื้อสายเชื้อสายมาซิโดเนียน-กรีกแท้ๆ แม้จะมีการสมรสกันในหมู่วงศ์วานมาหลายรุ่นก็ตาม และการไล่ลำดับญาติในราชวงศ์ที่มีการแต่งานใหม่หลายครั้งหลายหนยิ่งสร้างความสับสนว่าใครกันแน่คือผู้ให้กำเนิดที่แท้ัจริง แม้แต่พระมารดาของฟาโรห์บางพระองค์ก็หาหลักฐานระบุตัวตนไม่พบ ทำให้มีผู้เล็งเห็นว่า ความเป็นไปได้ที่ Cleopatra จะสืบเชื้อสายผิวดำใช่ว่าจะเป็นศูนย์
เรื่องเชื้อชาติที่แท้จริงของ Cleopatra เป็นที่ถกเถียงมานาน และมีความพยายามใช้ทฤษฎีหักล้างความเชื่อที่ว่า เธอเป็นชาวกรีกที่มีรูปลักษณ์ตรงกับคนขาวในยุโรป ทั้งนักโบราณคดีที่วิเคราะห์โครงกระดูกมนุษย์ในยุคโบราณจากความเชื่อว่า นั่นคือร่างของเจ้าหญิง Arsinoe น้องสาวของ Cleopatra ซึ่งถูกนำมาใช้เป็นโครงสร้างภาพใบหน้าหญิงสาวที่ดูคล้ายกับเป็นลูกผสมมากกว่าคนขาว หรือจะเป็นนักประวัติศาสตร์ที่ชี้หลักฐานจากเหรียญกษาปณ์โบราณที่ขัดแย้งกับชื่อเสียงของ Cleopatra ว่า ที่จริงแล้ว เธออาจจะไม่ใช่ราชินีผู้มีรูปโฉมงามสะเทือนโลกอย่างที่ผู้คนเข้าใจกัน
แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนเริ่มคริสต์ศักราชทำให้หลักฐานต่างๆที่สามารถพิสูจน์ได้สูญหายไป จนพวกเราอาจจะสรุปได้ว่า เรื่องราวของราชินีแห่งอาณาจักรอียิปต์โบราณผู้นี้ ก็ยังคงความลึกลับชวนให้ค้นหาต่อไป
Netflix Docu-Series ที่ทำให้คนในสังคมเสียงแตกเป็นหลายฝ่าย
ที่ผ่านมา เราเคยได้ยินเสียงเชียร์จากนักวิจารณ์หนังและชาวเน็ทมาก่อนว่า นางเอกผิวดำต่างหากที่ควรจะได้รับเลือกให้มาถ่ายทอดบท Cleopatra แต่เมื่อมันเกิดขึ้นจริงๆ กลับมีเสียงถกเถียงว่า นี่คือเรื่องสมควรแล้วหรือ?
หนึ่งในไฮไลท์ ตัวอย่าง The Black Queen ได้เสนอคำให้สัมภาษณ์ของหญิงสูงอายุ ที่บอกเล่าความเชื่อที่ส่งต่อจากยายของเธอว่า ไม่ว่าจะผู้คนได้รับข้อมูลจากศึกษาในโรงเรียนมาเช่นไร ยายก็มั่นใจว่า Cleopatra เป็นคนผิวดำ! ชาวเน็ทโจษจันว่า นี่ไม่ต่างจาก clickbait ยั่วยุให้เกิดกระแสต่อต้านเพื่อช่วยกระตุ้นเรตติ้ง โดยไม่สนใจเรื่องข้อเท็จจริง หรือว่าจะสร้างความไม่พอใจให้กับคนอียิปต์ถึงเพียงใด
แต่ยังมีคนจำนวนหนึ่งที่มองว่า ที่ผ่านมา Hollywood ได้เลือกนางเอกผิวขาวมารับบทนี้มาโดยตลอด นั่นคือ Vivien Leigh, Claudette Colbert, Elizabeth Taylor, Lyndsey Marshal และโพรเจคท์หนัง biopic ฟอร์มใหญ่ที่ประกาศตัว Gal Gadot เป็นนักแสดงนำ ทั้งๆที่อาณาจักรอียิปต์โบราณมีความหลากหลายทางเชื้อชาติ แม้เธอจะสืบทอดสายเลือดจากราชวงศ์เชื้อสายมาซิโดเนียน-กรีก แต่ก็อาจจะมีรูปลักษณ์ตรงกับผู้คนในแถบเมดิเตอร์เรเนียนที่มีผิวเฉดแทนและใบหน้าคมแข้ม ซึ่งน่าจะเปิดโอกาสให้กับนางเอกเชื้อชาติอื่นๆ ได้เข้ามาสร้างความแปลกใหม่ด้วยการถ่ายทอดภาพตัวตน Cleopatra ในเวอร์ชั่นผิวไม่ขาว
ชาวอียิปต์กลุ่มหนึ่งออกอาการเดือด 'นี่ไม่ใช่ Cleopatra!'
การคัดเลือกนักแสดงหญิงผิวดำมารับบทบาท Cleopatra ได้สร้างความขุ่นเคืองใจให้กับผู้คนจำนวนไม่น้อยเลย Zahi Hawass อดีตรัฐมนตรีประจำกิจการโบราณวัตถุของอียิปต์และนักโบราณคดีผู้มีชื่อเสียง ได้ประนามผลงานเรื่องนี้ว่า เป็นเรื่องจอมปลอม และพยายามสร้างความสับสนจากการนำเสนอข้อมูลที่ผิดๆชวนให้ผู้ชมหลงเชื่อ เขาชี้ว่า มีหลักฐานจำนวนมากที่ชี้ว่า Cleopatra มีเชื้อสายคนขาว ทั้งรูปปั้น เหรียญ และภาพวัดตามอารามโบราณ แต่ไม่มีสิ่งใดเลยที่สื่อว่าเธอเป็นผู้หญิงผิวดำ
" Cleopatra สามารถเป็นไปได้หลายสิ่งหลายอย่าง และเรื่องราวของเธอก็คู่ควรที่จะถูกเผยแพร่ต่อผู้ชมยุคใหม่ แต่สิ่งหนึ่งที่มีความแน่แท้ก็คือ เธอไม่ใช่ผู้หญิงผิวดำอย่างไม่ต้องสงสัย"
กระแสความไม่พอใจนั้นไปไกลถึงขั้นที่ทนายชาวอียิปต์ Mahmoud al-Semary ร้องเรียนต่อสำนักงานอัยการอียิปต์เพื่อระงับบริการ streaming ของ Nerflix
Jada Pinkett Smith เผยที่มาของความมุ่งมั่นในการนำเสนอ Cleopatra ผิวดำ
"ฉันปรารถนาจะนำเสนอความมีตัวตนของผู้หญิงผิวดำ เราไม่ได้พบเห็นหรือได้ยินเรื่องราวของราชินีผิวดำกันมากนัก มันจึงมีความสำคัญสำหรับฉันเป็นอย่างยิ่ง รวมไปถึงลูกสาวของฉัน ละกลุ่มสังคมเดียวกันกับฉันที่จะได้รับรู้เรื่องราวเหล่านี้ นั่นเป็นเพราะว่ายังมีมีราชินีผิวดำอีกหลายคน น่าเศร้าใจที่พวกเราไม่สามารถเข้าถึงเรื่องราวของสตรีผู้ทรงอิทธิพลในยุคประวัติศาสตร์ที่เปรียบเหมือนกับกระดูกสันหลังค้ำจุนชาติ African"
ฝั่งนางเอกชาวอังกฤษ Adele James ได้แนะนำสั้นๆว่า หากไม่ชอบ casting ก็ไม่ต้องดู docu-series เรื่องนี้!
แต่คำอธิบายเหล่านี้ก็ยังไม่ทำให้ชาวเน็ทคลายใจ และรุมตั้งคำถามว่า ในอนาคตข้างหน้า หากนักสร้างหนังสามารถเปลี่ยนแปลง race ของบุคคลที่มีตัวตนในประวัติศาสตร์ได้ตามใจชอบ เพื่อใช้เป็นจุดขาย representation ของเชื้อชาติที่สวนทางกับเรื่องที่เล่าเรียนกันมา เราอาจจะได้เห็นการจับประวัติศาสตร์มาบิดเบือนกันมากขึ้น ทั้งๆที่ผ่านมา คนในสังคมพยายามรณรงค์ต่อต้าน White-Washing จนสามารถสร้างความหลากหลายให้เกิดในผลงานบนจอได้แล้ว แต่การเลือกนักแสดงผิวดำโดยเมินเฉยต่อข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ก็ไม่ใช่เรื่องที่แตกต่างกัน บางคนติติงว่า หลังจากที่เราได้เห็น Anne Boleyn ผิวดำ และ Cleopatra ผิวดำไปแล้ว หรือต่อไปจะถึงคราวของเจงกิส ข่าน?
ผู้กำกับโต้ การนำเสนอข้อมูลที่ถูกมีความสำคัญก็จริง แต่ก็ต้องนำเสนอมุมมองที่แตกต่างออกไปด้วย
Tina Gharavi ผู้กำกับหญิงเชื้อสายอิหร่านเจ้าของหลายรางวัลได้อธิบายถึงการตัดสินเลือกผู้หญิงผิวดำมาสวมบทบาทราชินีอียิปต์ที่มีเชื้อสายกรีกว่า
"หลังจากออดิชั่นเลือกนักแสดงมานับครั้งไม่ถ้วน พวกเราจึงค้นว่า Adele James คือนางเอกที่สามารถนำเสนอตัวตนของ Cleopatra ไม่เพียงจะมีความงามที่โดดเด่น แต่ยังเป็นความเข้มแข็งของเธอ นักประวัติศาสตร์สามารถยืนยันได้ว่า Cleopatra น่าจะดูเหมือนกับ Adele มากกว่า Elizabeth Taylor ซะอีก
"การนำเสนอความถูกต้องเป็นสำคัญ แต่ก็ต้องถ่ายทอดมุมมองแบบมนุษยนิยมและมีความแตกต่างไปแบบเดิมๆ เราไม่ต้องการจะสร้างผลงานที่เล่าเรื่องราวของ Cleopatra ที่แบ่งแยกตัวตนจากความเป็นหญิงและความเข้มแข็งของเธอ แล้วเน้นขายเรื่องทางเพศเท่านั้น ซีรีส์ Rome ทางช่อง HBO เลือกตีความตัวตนของสตรีที่ฉลาดเฉลียว งามสง่าและทรงอิทธิพลที่สุดในโลกคนนี้ผ่านตัวละครที่เจ้าเล่ห์เพทุบาย เสเพลและเป็นขี้ยา แต่พวกชาวอียิปต์ไม่เห็นจะเดือดร้อนกัน พอได้เห็น Cleopatra ผิวดำกลับเกรี้ยวกราดซะงั้น?
ชี้แจง ราชินีที่สืบเชื้อสายในราชวงศ์กรีกไม่จำเป็นต้องเป็นคนขาว
เธอมีผิวขาวขนาดนั้นจริงหรือ?
นี่คือคำถามที่ Tina Gharavi ได้ครุ่นคิดมาตั้งแต่ยังเด็กเมื่อเธอได้เห็น Elizabeth Taylor ในบทบาทราชินีอียิปต์ชื่อก้องโลก เธอคิดว่านี่ไม่ใช่ภาพลักษณ์ที่ถูกต้องของ Cleopatra และการสร้างผลงานใหม่ชิ้นนี้ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อค้นหาคำตอบเรื่องเชื้อสายของเธอ และปลดปล่อยเธอจากเงื้อมมือของ Hollywood ที่สร้างภาพ Cleopatra ผิวขาวจนติดตรึงในความทรงจำของผู้คน
"ตัวฉันที่เกิดในอิหร่านเป็นชาวเปอร์เซียน และตลอดมา มีการลงความเห็นว่าเชื้อสายของ Cleopatra ประกอบไปด้วย กรีก มาซิโดเนียน และเปอร์เซียน ข้อเท็จจริงที่รับรู้กันคือ ตระกูลของเธอมีเชื้อสายกรีก -มาซิโดเนียน ในการสืบสายเลือดราชวงศ์ Ptolemaic ก็ได้จับคู่แต่งงานกับราชวงศ์ Seleucid* จากเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ และราชวงศ์นี้ก็ปกครองอียิปต์มาถึง 300 ปี Cleopatra เป็นผู้สืบทอดเชื้อสายห่างจากบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งเชื้อพระวงศ์ Ptolemaicถึงแปดชั่วคน โอกาสที่เธอจะเป็นคนขาวจึงไม่น่าจะเป็นไปได้ จากวันเวลาที่อยู่ในอียิปต์ผ่านไป 300 ปี เราสามารถพูดได้ย่างไม่มีข้อสงสัยว่า Cleopatra คือชาวอียิปต์ และเธอไม่ได้เป็นชาวกรีกและมาซิโดเนียนไปมากกว่า Rita Wilson หรือ Jennifer Aniston ซึ่งทั้งสองมีบรรพบุรุษมาจากประเทศกรีซ
(ผู้กำกับพยายามเปรียบเทียบว่า Cleopatra เป็นสายเลือดรุ่นที่ 8 ของราชวงศ์ แม้จะมีการสมรสร่วมสายเลือด แต่ก็สมรสกับราชวงศ์อื่นด้วย เมื่อปกครองอียิปต์มานานถึง 300 ปี จึงมีการผสมผสานกับเชื้อสายอื่นๆ จึงมีความเป็นไปได้ว่า เธอไม่ใช่ชาวกรีกผิวขาวแท้ๆ เปรียบเทียบกับ Rita Wilson และ Jennifer Aniston. Jennifer Aniston ที่มาจากครอบครัวชาวกรีกที่ย้ายมาตั้งรกรากที่อเมริกา และพวกเธอก็คือชาวอเมริกันเต็มตัว)
*ราชวงศ์ที่มีจุดกำเนิดคล้ายกับราชวงศ์ Ptolemaic เนื่องจากพระเจ้า Seleucus ที่ 1 กษัตริย์ผู้สถาปนาราชวงศ์เคยเป็นหนึ่งในทหารชาวมาซิโดเนียนคนสนิทของพระเจ้า Alexander มหาราช เมื่อได้ครองอำนาจจากการพิชิตหลายอาณาจักรก็ได้เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับราชวงศ์ด้วยการสมรสกับเชื้อพระวงศ์กรีก ซีเรีย และอียิปต์มาหลายชั่วคน
ตั้งคำถามโต้กลับชาวอียิปต์ที่ให้ความสำคัญกับสีผิวของ Cleopatra มากกว่าเรื่องอื่น
ผู้กำกับได้ตั้งคำถามต่อคนที่ไม่พอใจ Cleopatra ในเวอร์ชั่นของเธอว่า ทำไมเธอจะเป็นสาวผิวสีไม่ได้ล่ะ? แล้วทำไมหลายคนจึงอยากจะให้ Cleopatra มีผิวขาวถึงขนาดนั้น? ความเกี่ยวข้องกับเชื้อชาติผิวขาวดูจะเป็นสิ่งที่เพิ่มคุณค่าให้กับตัวเธอ และสำหรับคนอียิปต์บางกลุ่ม ดูเหมือนว่าสีผิวของเธอเป็นสิ่งเดียวที่ควรค่าให้ความสำคัญ
"กระแสต่อต้านอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะว่าฉันกำกับซีรีส์ที่นำเสนอ Cleopatra ผิวดำ แต่เป็นเพราะฉันเคยร้องขอคนอียิปต์ให้พิจารณาตัวเองในฐานะคน African และเรื่องนี้ก็ทำให้พวกเค้าก็โกรธเกรี้ยวในตัวฉัน"
"ระหว่างการถ่ายทำ ฉันตกเป็นเป้าหมายการโจมตีด้วยความเกลียดชังในโลกออนไลน์ ชาวอียิปต์กล่าวหาฉันเรื่อง Black-Washing และปล้นเรื่องราวความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ของพวกเค้าไป บางคนขู่ว่าจะทำลายอาชีพของฉันซะ ซึ่งฉันอยากจโต้กลับไปว่ามันช่างน่าขำ ฉันนี่แหละเป็นผู้ทำลายอาชีพตัวเองอยู่แล้ว ขอบคุณมากเลย!"
"นาย Amir ส่งข้อความร่ำร้องถึงฉันอย่างเอาจริงเอาจังจากห้องนอนของเขาในเมืองไคโรว่า Cleopatra เป็นคนกรีกต่างหาก! คุณพระคุณเจ้า! ถ้าเธอเป็นคนกรีกแล้วมันจะมีอะไรดีขึ้นมาสำหรับคุณงั้นเหรอ Amir? คุณเป็นคนอียิปต์แท้ๆนะ"
หรือแท้จริงแล้ว จะนำเสนอ Cleopatra สีผิวใดก็ไม่ทำให้ผู้คนพอใจไปได้หมด??
เมื่อปี 2020 มีการประกาศ casting นางเอกสาวชาวอิสราเอล Gal Gadot ในบท Cleopatra โดยเป็นการกลับมาร่วมงานกับ Patty Jenkins ที่เคยสร้างความสำเร็จใน Wonder Woman แต่ชาวเน็ทจำนวนหนึ่งไม่ได้ปลาบปลื้มกับตัวเลือกนักแสดงนัก พวกเค้าวิพาษ์วิจารณ์ว่า การคัดเลือกนางเอกผิวขาวมารับบทราชินีอียิปต์ คือรูปแบบของ White-Washing ที่นับเป็นก้าวถอยหลังของวงการ Hollywood และบทนี้ควรจะตกเป็นของนางเอกเชื้อสายอียิปต์หรือเชื้อสายผิวดำ ไม่ใช่เอะอะก็ให้คนขาวได้หน้าได้ตาจากบทของคนต่างเชื้อชาติ!
เสียงวิจารณ์ในแง่ลบบีบให้ Gal ออกมาชี้แจง เธอขอให้มองที่ข้อเท็จจริงที่ว่า Cleopatra เป็นชาวมาซิโดเนียน และหลังจากพยายามเสาะหานางเอกเชื้อสายมาซิโดเนียนที่เข้ากับบทนี้ก็ไม่ประสบความสำเร็จ และเธอก็มุ่งมั่นในการแสดงบท Cleopatra เป็นอย่างมาก เพราะเธอทั้งชื่นชม Cleopatra และต้องการจะยกย่องเชิดชูสตรีผู้มีความยอดเยี่ยมเป็นตำนานจากหน้าประวัติศาสตร์
ที่จริงแล้ว ยังมีแฟนๆอีกไม่น้อยที่มองว่า Gal คือตัวเลือกที่เหมาะเหม็งกับบทนี้ ด้วยความงามคมเข้ม exotic เพราะสืบเชื้อสายชาวยิวอัชเกนัซ มีบรรพบุรุษที่อาศัยในเขต Levant และยุโรปทางใต้ ถึงขนาดมีคำยืนยันว่า หากจับเธอไปยืนปะปนกับผู้หญิงในประเทศ Lebanon, Jordan, รัฐ Palestine และ Syria จะดูกลมกลืนยากจะแยกออก แต่ก็ไม่พ้นที่จะพบกับแรงกดดันว่า เธอใช้อภิสิทธิ์ของคนขาวแย่งบทโดดเด่นไปจากนักแสดงผิวสี เมื่อฟังแล้ว ผู้ชมอาจจะดูรู้สึกสะดุดใจ เมื่อนักสร้างหนัง cast นางเอกผิวขาว ก็ถูกชาวเน็ทกล่าวหาว่า เชิดชูผิวขาวจนไม่สนใจ representation ของเชื้อชาติอื่นๆ แต่เมื่อนำเสนอ Cleopatra ผิวดำขึ้นมาจริงๆ ชาวอียิปต์และชาวเน็ทประเทศอื่นๆ ก็กระหน่ำโจมตีว่า บิดเบือนประวัติศาสตร์เพราะมั่นใจว่า Cleopatra คือราชินีอียิปต์ที่มีเชื้อสายกรีกผิวขาว!
ดูเหมือนว่า นักสร้างหนังยังไม่สามารถตอบโจทย์ให้ผู้ชมพอใจเรื่อง Cleopatra กันอย่างถ้วนหน้าได้เลย..
ดูเหมือนว่า นักสร้างหนังยังไม่สามารถตอบโจทย์ให้ผู้ชมพอใจเรื่อง Cleopatra กันอย่างถ้วนหน้าได้เลย..
คุณจะติดตามผลงานเรื่องนี้จาก Netflix กันรึเปล่าคะ?