กระแสความขัดแย้ง Black-Washing จาก Cleopatra ผิวดำ

29 11
นับตั้งแต่ Netflix เผยตัวอย่าง   'African Queens'    docu-series ทางประวัติศาสตร์ที่ชี้ว่า   ราชินี Cleopatra ที่ 7 แห่งอียิปต์มีเชื้อสาย African ผิวดำ    แม้ผู้คนจะรับรู้มายาวนานว่า เธอคือเชื้อพระวงศ์ Ptolemaic (ทอเลมี) คนสุดท้ายที่ปกครองอียิปต์     ผลงาน produce ของนางเอกชื่อดัง Jada Pinkett Smith  เรื่องนี้ก็ได้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์โต้แย้งอย่างแพร่หลายในโลกออนไลน์    โดยเฉพาะผู้คนจากอียิปต์ที่ประนามว่า  นี่ไม่ต่างจากการปล้นทางวัฒนธรรมที่มีคุณค่าของคนในชาติ  ยัดเยียดให้สังคมทั่วโลกเข้าใจ race ของราชินีบันลือโลกกันไปผิดๆ  และเปรียบเทียบว่า นี่คือการกระทำแบบ Black-Washing ซึ่งสร้างความเสียหายได้ไม่ต่างจาก  White-Washing  






Cleopatra คือใคร?


ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายจากการแก่งแย่งชิงอำนาจและสมรสร่วมกันทางสายเลือดราชวงศ์จนยุ่งเหยิง เธอคือหนึ่งในผู้ปกครองอียิปต์โบราณที่มีชื่อเสียงมากที่สุดเนิ่นกว่าสองพันปี แม้จะมีราชินีที่มีนามเดียวกันมาหลายคน แต่ความสวยที่เป็นตำนานและสติปัญญาอันโดดเด่น รวมถึงเรื่องราวเล่าขานถึงการใช้เสน่ห์เย้ายวนใจเพื่อสยบชายผู้ทรงอำนาจทำให้เธอกลายเป็นผู้ปกครองอาณาจักรที่ได้รับความนิยมสูง

บรรพบุรุษของเธอคือ พระเจ้า Ptolemy ที่ 1 ผู้สถาปนาราชวงศ์ Ptolemaic ซึ่งหลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระเจ้า Alexander มหาราช ผู้เกรียงไกรในศึกสงครามแผ่ขยายอาณาเขตจนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นฟาโรห์อียิปต์ Ptolemy ผู้เป็นนายพลคนสนิทก็ได้ก้าวมามีอำนาจจนสามารถประกาศตนเป็นฟาโรห์ครอบครองราชบัลลังก์ต่อ ฟาโรห์ในราชวงศ์นี้ล้วนแต่มีนามว่า Ptolemy และสืบเชื้อสายราชวงศ์โดยรับประเพณีการสมรสในสายเลือดของราชวงศ์โบราณของอียิปต์มาปฏิบัติ แม้จะมีฟาโรห์ที่สมรสกับกับหญิงสาวต่างสายเลือด โดยเฉพาะการสมรสทางการเมืองกับผู้ที่มาจากราชวงศ์ Seleucid แต่ก็ใช้ภาษากรีกกันเป็นหลักเท่านั้น  ว่ากันว่า มีเพียงแต่ Cleopatra เท่านั้นที่เลือกศึกษาภาษาอียิปต์และภาษาอื่นๆจนแตกฉาน




นักวิชาการหลายคนจึงสันนิษฐานว่า Cleopatra น่าจะมีสายเลือดมาซิโดเนียน-กรีกผสมผสานกับเชื้อสายเปอร์เซียนและอิหร่านซอกเดียน นั่นเป็นเพราะว่า เธอคือพระธิดาของพระเจ้า Ptolemy ที่ 12 และมีความเป็นไปได้ว่าพระมารดาของเธอคือราชินี Cleopatra ที่ 5 มเหสีซึ่งเป็นพระญาติใกล้ชิดกันกับฟาโรห์ หรือหากไล่เรียงแล้ว Cleopatra คือทายาทที่สืบเชื้อสายของกษัตริย์องค์แรกของราชวงศ์ไล่ลงมาถึง 8 ชั่วคน เธอย่อมไม่ได้มีเชื้อสายเชื้อสายมาซิโดเนียน-กรีกแท้ๆ แม้จะมีการสมรสกันในหมู่วงศ์วานมาหลายรุ่นก็ตาม และการไล่ลำดับญาติในราชวงศ์ที่มีการแต่งานใหม่หลายครั้งหลายหนยิ่งสร้างความสับสนว่าใครกันแน่คือผู้ให้กำเนิดที่แท้ัจริง แม้แต่พระมารดาของฟาโรห์บางพระองค์ก็หาหลักฐานระบุตัวตนไม่พบ ทำให้มีผู้เล็งเห็นว่า ความเป็นไปได้ที่ Cleopatra จะสืบเชื้อสายผิวดำใช่ว่าจะเป็นศูนย์

เรื่องเชื้อชาติที่แท้จริงของ Cleopatra เป็นที่ถกเถียงมานาน และมีความพยายามใช้ทฤษฎีหักล้างความเชื่อที่ว่า เธอเป็นชาวกรีกที่มีรูปลักษณ์ตรงกับคนขาวในยุโรป ทั้งนักโบราณคดีที่วิเคราะห์โครงกระดูกมนุษย์ในยุคโบราณจากความเชื่อว่า นั่นคือร่างของเจ้าหญิง Arsinoe น้องสาวของ Cleopatra ซึ่งถูกนำมาใช้เป็นโครงสร้างภาพใบหน้าหญิงสาวที่ดูคล้ายกับเป็นลูกผสมมากกว่าคนขาว หรือจะเป็นนักประวัติศาสตร์ที่ชี้หลักฐานจากเหรียญกษาปณ์โบราณที่ขัดแย้งกับชื่อเสียงของ Cleopatra ว่า ที่จริงแล้ว เธออาจจะไม่ใช่ราชินีผู้มีรูปโฉมงามสะเทือนโลกอย่างที่ผู้คนเข้าใจกัน

แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนเริ่มคริสต์ศักราชทำให้หลักฐานต่างๆที่สามารถพิสูจน์ได้สูญหายไป จนพวกเราอาจจะสรุปได้ว่า เรื่องราวของราชินีแห่งอาณาจักรอียิปต์โบราณผู้นี้ ก็ยังคงความลึกลับชวนให้ค้นหาต่อไป





Netflix Docu-Series ที่ทำให้คนในสังคมเสียงแตกเป็นหลายฝ่าย

ที่ผ่านมา  เราเคยได้ยินเสียงเชียร์จากนักวิจารณ์หนังและชาวเน็ทมาก่อนว่า  นางเอกผิวดำต่างหากที่ควรจะได้รับเลือกให้มาถ่ายทอดบท Cleopatra   แต่เมื่อมันเกิดขึ้นจริงๆ     กลับมีเสียงถกเถียงว่า นี่คือเรื่องสมควรแล้วหรือ?  

หนึ่งในไฮไลท์ ตัวอย่าง The Black Queen ได้เสนอคำให้สัมภาษณ์ของหญิงสูงอายุ ที่บอกเล่าความเชื่อที่ส่งต่อจากยายของเธอว่า ไม่ว่าจะผู้คนได้รับข้อมูลจากศึกษาในโรงเรียนมาเช่นไร ยายก็มั่นใจว่า Cleopatra เป็นคนผิวดำ! ชาวเน็ทโจษจันว่า นี่ไม่ต่างจาก clickbait ยั่วยุให้เกิดกระแสต่อต้านเพื่อช่วยกระตุ้นเรตติ้ง โดยไม่สนใจเรื่องข้อเท็จจริง หรือว่าจะสร้างความไม่พอใจให้กับคนอียิปต์ถึงเพียงใด


แต่ยังมีคนจำนวนหนึ่งที่มองว่า  ที่ผ่านมา Hollywood ได้เลือกนางเอกผิวขาวมารับบทนี้มาโดยตลอด  นั่นคือ Vivien Leigh, Claudette Colbert, Elizabeth Taylor, Lyndsey Marshal   และโพรเจคท์หนัง biopic ฟอร์มใหญ่ที่ประกาศตัว Gal Gadot เป็นนักแสดงนำ  ทั้งๆที่อาณาจักรอียิปต์โบราณมีความหลากหลายทางเชื้อชาติ    แม้เธอจะสืบทอดสายเลือดจากราชวงศ์เชื้อสายมาซิโดเนียน-กรีก แต่ก็อาจจะมีรูปลักษณ์ตรงกับผู้คนในแถบเมดิเตอร์เรเนียนที่มีผิวเฉดแทนและใบหน้าคมแข้ม ซึ่งน่าจะเปิดโอกาสให้กับนางเอกเชื้อชาติอื่นๆ  ได้เข้ามาสร้างความแปลกใหม่ด้วยการถ่ายทอดภาพตัวตน  Cleopatra ในเวอร์ชั่นผิวไม่ขาว

ชาวอียิปต์กลุ่มหนึ่งออกอาการเดือด  'นี่ไม่ใช่  Cleopatra!'

การคัดเลือกนักแสดงหญิงผิวดำมารับบทบาท Cleopatra ได้สร้างความขุ่นเคืองใจให้กับผู้คนจำนวนไม่น้อยเลย     Zahi Hawass  อดีตรัฐมนตรีประจำกิจการโบราณวัตถุของอียิปต์และนักโบราณคดีผู้มีชื่อเสียง ได้ประนามผลงานเรื่องนี้ว่า   เป็นเรื่องจอมปลอม และพยายามสร้างความสับสนจากการนำเสนอข้อมูลที่ผิดๆชวนให้ผู้ชมหลงเชื่อ เขาชี้ว่า มีหลักฐานจำนวนมากที่ชี้ว่า  Cleopatra มีเชื้อสายคนขาว  ทั้งรูปปั้น เหรียญ และภาพวัดตามอารามโบราณ แต่ไม่มีสิ่งใดเลยที่สื่อว่าเธอเป็นผู้หญิงผิวดำ  

" Cleopatra สามารถเป็นไปได้หลายสิ่งหลายอย่าง และเรื่องราวของเธอก็คู่ควรที่จะถูกเผยแพร่ต่อผู้ชมยุคใหม่ แต่สิ่งหนึ่งที่มีความแน่แท้ก็คือ เธอไม่ใช่ผู้หญิงผิวดำอย่างไม่ต้องสงสัย"

กระแสความไม่พอใจนั้นไปไกลถึงขั้นที่ทนายชาวอียิปต์ Mahmoud al-Semary ร้องเรียนต่อสำนักงานอัยการอียิปต์เพื่อระงับบริการ streaming ของ Nerflix









Jada Pinkett Smith   เผยที่มาของความมุ่งมั่นในการนำเสนอ Cleopatra  ผิวดำ


"ฉันปรารถนาจะนำเสนอความมีตัวตนของผู้หญิงผิวดำ เราไม่ได้พบเห็นหรือได้ยินเรื่องราวของราชินีผิวดำกันมากนัก  มันจึงมีความสำคัญสำหรับฉันเป็นอย่างยิ่ง รวมไปถึงลูกสาวของฉัน ละกลุ่มสังคมเดียวกันกับฉันที่จะได้รับรู้เรื่องราวเหล่านี้  นั่นเป็นเพราะว่ายังมีมีราชินีผิวดำอีกหลายคน น่าเศร้าใจที่พวกเราไม่สามารถเข้าถึงเรื่องราวของสตรีผู้ทรงอิทธิพลในยุคประวัติศาสตร์ที่เปรียบเหมือนกับกระดูกสันหลังค้ำจุนชาติ African"


ฝั่งนางเอกชาวอังกฤษ Adele James ได้แนะนำสั้นๆว่า หากไม่ชอบ casting ก็ไม่ต้องดู docu-series เรื่องนี้!



แต่คำอธิบายเหล่านี้ก็ยังไม่ทำให้ชาวเน็ทคลายใจ และรุมตั้งคำถามว่า ในอนาคตข้างหน้า หากนักสร้างหนังสามารถเปลี่ยนแปลง race ของบุคคลที่มีตัวตนในประวัติศาสตร์ได้ตามใจชอบ เพื่อใช้เป็นจุดขาย representation ของเชื้อชาติที่สวนทางกับเรื่องที่เล่าเรียนกันมา  เราอาจจะได้เห็นการจับประวัติศาสตร์มาบิดเบือนกันมากขึ้น ทั้งๆที่ผ่านมา คนในสังคมพยายามรณรงค์ต่อต้าน White-Washing จนสามารถสร้างความหลากหลายให้เกิดในผลงานบนจอได้แล้ว แต่การเลือกนักแสดงผิวดำโดยเมินเฉยต่อข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ก็ไม่ใช่เรื่องที่แตกต่างกัน บางคนติติงว่า หลังจากที่เราได้เห็น Anne Boleyn ผิวดำ และ Cleopatra ผิวดำไปแล้ว หรือต่อไปจะถึงคราวของเจงกิส ข่าน?




ผู้กำกับโต้ การนำเสนอข้อมูลที่ถูกมีความสำคัญก็จริง แต่ก็ต้องนำเสนอมุมมองที่แตกต่างออกไปด้วย

Tina Gharavi ผู้กำกับหญิงเชื้อสายอิหร่านเจ้าของหลายรางวัลได้อธิบายถึงการตัดสินเลือกผู้หญิงผิวดำมาสวมบทบาทราชินีอียิปต์ที่มีเชื้อสายกรีกว่า

"หลังจากออดิชั่นเลือกนักแสดงมานับครั้งไม่ถ้วน พวกเราจึงค้นว่า Adele James คือนางเอกที่สามารถนำเสนอตัวตนของ Cleopatra ไม่เพียงจะมีความงามที่โดดเด่น แต่ยังเป็นความเข้มแข็งของเธอ นักประวัติศาสตร์สามารถยืนยันได้ว่า Cleopatra น่าจะดูเหมือนกับ Adele มากกว่า Elizabeth Taylor ซะอีก

"การนำเสนอความถูกต้องเป็นสำคัญ แต่ก็ต้องถ่ายทอดมุมมองแบบมนุษยนิยมและมีความแตกต่างไปแบบเดิมๆ เราไม่ต้องการจะสร้างผลงานที่เล่าเรื่องราวของ Cleopatra ที่แบ่งแยกตัวตนจากความเป็นหญิงและความเข้มแข็งของเธอ แล้วเน้นขายเรื่องทางเพศเท่านั้น ซีรีส์ Rome ทางช่อง HBO เลือกตีความตัวตนของสตรีที่ฉลาดเฉลียว งามสง่าและทรงอิทธิพลที่สุดในโลกคนนี้ผ่านตัวละครที่เจ้าเล่ห์เพทุบาย เสเพลและเป็นขี้ยา แต่พวกชาวอียิปต์ไม่เห็นจะเดือดร้อนกัน พอได้เห็น Cleopatra ผิวดำกลับเกรี้ยวกราดซะงั้น?





ชี้แจง  ราชินีที่สืบเชื้อสายในราชวงศ์กรีกไม่จำเป็นต้องเป็นคนขาว

เธอมีผิวขาวขนาดนั้นจริงหรือ?
นี่คือคำถามที่ Tina Gharavi ได้ครุ่นคิดมาตั้งแต่ยังเด็กเมื่อเธอได้เห็น Elizabeth Taylor ในบทบาทราชินีอียิปต์ชื่อก้องโลก เธอคิดว่านี่ไม่ใช่ภาพลักษณ์ที่ถูกต้องของ Cleopatra และการสร้างผลงานใหม่ชิ้นนี้ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อค้นหาคำตอบเรื่องเชื้อสายของเธอ และปลดปล่อยเธอจากเงื้อมมือของ Hollywood ที่สร้างภาพ Cleopatra ผิวขาวจนติดตรึงในความทรงจำของผู้คน


"ตัวฉันที่เกิดในอิหร่านเป็นชาวเปอร์เซียน  และตลอดมา มีการลงความเห็นว่าเชื้อสายของ Cleopatra ประกอบไปด้วย กรีก มาซิโดเนียน และเปอร์เซียน ข้อเท็จจริงที่รับรู้กันคือ ตระกูลของเธอมีเชื้อสายกรีก -มาซิโดเนียน ในการสืบสายเลือดราชวงศ์ Ptolemaic ก็ได้จับคู่แต่งงานกับราชวงศ์ Seleucid* จากเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ และราชวงศ์นี้ก็ปกครองอียิปต์มาถึง 300 ปี Cleopatra เป็นผู้สืบทอดเชื้อสายห่างจากบรรพบุรุษผู้ก่อตั้งเชื้อพระวงศ์ Ptolemaicถึงแปดชั่วคน โอกาสที่เธอจะเป็นคนขาวจึงไม่น่าจะเป็นไปได้ จากวันเวลาที่อยู่ในอียิปต์ผ่านไป 300 ปี เราสามารถพูดได้ย่างไม่มีข้อสงสัยว่า Cleopatra คือชาวอียิปต์ และเธอไม่ได้เป็นชาวกรีกและมาซิโดเนียนไปมากกว่า Rita Wilson หรือ Jennifer Aniston ซึ่งทั้งสองมีบรรพบุรุษมาจากประเทศกรีซ

(ผู้กำกับพยายามเปรียบเทียบว่า Cleopatra เป็นสายเลือดรุ่นที่ 8 ของราชวงศ์ แม้จะมีการสมรสร่วมสายเลือด แต่ก็สมรสกับราชวงศ์อื่นด้วย เมื่อปกครองอียิปต์มานานถึง 300 ปี จึงมีการผสมผสานกับเชื้อสายอื่นๆ จึงมีความเป็นไปได้ว่า เธอไม่ใช่ชาวกรีกผิวขาวแท้ๆ เปรียบเทียบกับ Rita Wilson และ Jennifer Aniston. Jennifer Aniston ที่มาจากครอบครัวชาวกรีกที่ย้ายมาตั้งรกรากที่อเมริกา และพวกเธอก็คือชาวอเมริกันเต็มตัว)

*ราชวงศ์ที่มีจุดกำเนิดคล้ายกับราชวงศ์ Ptolemaic เนื่องจากพระเจ้า Seleucus ที่ 1 กษัตริย์ผู้สถาปนาราชวงศ์เคยเป็นหนึ่งในทหารชาวมาซิโดเนียนคนสนิทของพระเจ้า Alexander มหาราช เมื่อได้ครองอำนาจจากการพิชิตหลายอาณาจักรก็ได้เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับราชวงศ์ด้วยการสมรสกับเชื้อพระวงศ์กรีก ซีเรีย และอียิปต์มาหลายชั่วคน






ตั้งคำถามโต้กลับชาวอียิปต์ที่ให้ความสำคัญกับสีผิวของ Cleopatra มากกว่าเรื่องอื่น

ผู้กำกับได้ตั้งคำถามต่อคนที่ไม่พอใจ Cleopatra ในเวอร์ชั่นของเธอว่า ทำไมเธอจะเป็นสาวผิวสีไม่ได้ล่ะ? แล้วทำไมหลายคนจึงอยากจะให้ Cleopatra มีผิวขาวถึงขนาดนั้น? ความเกี่ยวข้องกับเชื้อชาติผิวขาวดูจะเป็นสิ่งที่เพิ่มคุณค่าให้กับตัวเธอ และสำหรับคนอียิปต์บางกลุ่ม ดูเหมือนว่าสีผิวของเธอเป็นสิ่งเดียวที่ควรค่าให้ความสำคัญ


"กระแสต่อต้านอาจจะไม่ได้เกิดขึ้นเพียงเพราะว่าฉันกำกับซีรีส์ที่นำเสนอ Cleopatra ผิวดำ แต่เป็นเพราะฉันเคยร้องขอคนอียิปต์ให้พิจารณาตัวเองในฐานะคน African และเรื่องนี้ก็ทำให้พวกเค้าก็โกรธเกรี้ยวในตัวฉัน"


"ระหว่างการถ่ายทำ ฉันตกเป็นเป้าหมายการโจมตีด้วยความเกลียดชังในโลกออนไลน์ ชาวอียิปต์กล่าวหาฉันเรื่อง Black-Washing และปล้นเรื่องราวความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ของพวกเค้าไป บางคนขู่ว่าจะทำลายอาชีพของฉันซะ ซึ่งฉันอยากจโต้กลับไปว่ามันช่างน่าขำ ฉันนี่แหละเป็นผู้ทำลายอาชีพตัวเองอยู่แล้ว ขอบคุณมากเลย!"

"นาย Amir ส่งข้อความร่ำร้องถึงฉันอย่างเอาจริงเอาจังจากห้องนอนของเขาในเมืองไคโรว่า Cleopatra เป็นคนกรีกต่างหาก! คุณพระคุณเจ้า! ถ้าเธอเป็นคนกรีกแล้วมันจะมีอะไรดีขึ้นมาสำหรับคุณงั้นเหรอ Amir? คุณเป็นคนอียิปต์แท้ๆนะ"




หรือแท้จริงแล้ว จะนำเสนอ Cleopatra สีผิวใดก็ไม่ทำให้ผู้คนพอใจไปได้หมด??

เมื่อปี 2020  มีการประกาศ casting นางเอกสาวชาวอิสราเอล Gal Gadot ในบท Cleopatra โดยเป็นการกลับมาร่วมงานกับ Patty Jenkins ที่เคยสร้างความสำเร็จใน Wonder Woman แต่ชาวเน็ทจำนวนหนึ่งไม่ได้ปลาบปลื้มกับตัวเลือกนักแสดงนัก พวกเค้าวิพาษ์วิจารณ์ว่า การคัดเลือกนางเอกผิวขาวมารับบทราชินีอียิปต์ คือรูปแบบของ White-Washing ที่นับเป็นก้าวถอยหลังของวงการ Hollywood และบทนี้ควรจะตกเป็นของนางเอกเชื้อสายอียิปต์หรือเชื้อสายผิวดำ ไม่ใช่เอะอะก็ให้คนขาวได้หน้าได้ตาจากบทของคนต่างเชื้อชาติ!

เสียงวิจารณ์ในแง่ลบบีบให้ Gal ออกมาชี้แจง เธอขอให้มองที่ข้อเท็จจริงที่ว่า Cleopatra เป็นชาวมาซิโดเนียน และหลังจากพยายามเสาะหานางเอกเชื้อสายมาซิโดเนียนที่เข้ากับบทนี้ก็ไม่ประสบความสำเร็จ และเธอก็มุ่งมั่นในการแสดงบท Cleopatra เป็นอย่างมาก เพราะเธอทั้งชื่นชม Cleopatra และต้องการจะยกย่องเชิดชูสตรีผู้มีความยอดเยี่ยมเป็นตำนานจากหน้าประวัติศาสตร์





ที่จริงแล้ว ยังมีแฟนๆอีกไม่น้อยที่มองว่า Gal คือตัวเลือกที่เหมาะเหม็งกับบทนี้ ด้วยความงามคมเข้ม exotic เพราะสืบเชื้อสายชาวยิวอัชเกนัซ มีบรรพบุรุษที่อาศัยในเขต Levant และยุโรปทางใต้ ถึงขนาดมีคำยืนยันว่า หากจับเธอไปยืนปะปนกับผู้หญิงในประเทศ Lebanon, Jordan, รัฐ Palestine และ Syria จะดูกลมกลืนยากจะแยกออก แต่ก็ไม่พ้นที่จะพบกับแรงกดดันว่า เธอใช้อภิสิทธิ์ของคนขาวแย่งบทโดดเด่นไปจากนักแสดงผิวสี เมื่อฟังแล้ว ผู้ชมอาจจะดูรู้สึกสะดุดใจ เมื่อนักสร้างหนัง cast นางเอกผิวขาว ก็ถูกชาวเน็ทกล่าวหาว่า เชิดชูผิวขาวจนไม่สนใจ representation ของเชื้อชาติอื่นๆ แต่เมื่อนำเสนอ Cleopatra ผิวดำขึ้นมาจริงๆ ชาวอียิปต์และชาวเน็ทประเทศอื่นๆ ก็กระหน่ำโจมตีว่า บิดเบือนประวัติศาสตร์เพราะมั่นใจว่า Cleopatra คือราชินีอียิปต์ที่มีเชื้อสายกรีกผิวขาว!

ดูเหมือนว่า นักสร้างหนังยังไม่สามารถตอบโจทย์ให้ผู้ชมพอใจเรื่อง Cleopatra กันอย่างถ้วนหน้าได้เลย..






คุณจะติดตามผลงานเรื่องนี้จาก Netflix  กันรึเปล่าคะ?


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE