กว่าจะถึงเส้นทางสู่จักรวาลของ Anntonia
candy 31 15เด็กสาววัยทีนที่สร้างสมประสบการณ์ด้วยการร่วมแข่งขันใน reality ค้นหายอดนางแบบ
The Face Thailand คือ reality show ที่ได้สร้างดาวดังประดับวงการติดต่อกันหลายซีซัน แม้ว่าจะไม่ได้ฝ่าฟันการแข่งขันจนได้รับตำแหน่งชนะเลิศ แต่หากฉายความโดดเด่นดึงดูดแรงเชียร์จากผู้ชมจำนวนมากได้ ย่อมเปิดทางให้ก้าวมาสร้างชื่อเสียงในวงการ ทั้งงานนางแบบ นักแสดงและนางงาม หากย้อนไปยังซีซัน 1 แฟนๆที่เกาะติดรายการอย่างเหนียวแน่นอาจจะคุ้นหน้า Anntonia สาวน่ารักตาหวานวัยเพียง 17 กันได้บ้าง แต่เธอไม่ได้อยู่ในกลุ่มของผู้เข้าแข่งขันที่สร้างกระแสร้อนแรงใน social media และถูกคัดออกไปในตอนที่ 7 ซึ่งไม่ปรากฏว่า เธอได้หวนคืนมาแข่งขันในรายการนี้อีก ดูเหมือนนชื่อของ Anntonia จะเงียบหายไปจากความสนใจของผู้คนไปอีกหลายปี
แต่เมื่อเธอตัดใจสินก้าวสู่วงการประกวดนางงาม มันคือจุดเปลี่ยนที่พลิกผันชีวิตเธออย่างสิ้นเชิง
ความหวังที่หลุดลอยใน The Face season 1 ไม่ได้เป็นเป็นจุดจบ mentor ลูกเกดที่เป็นผู้คัดเธอออกไปจากการแข่งขันได้เล็งเห็นศักยภาพและยืนยันว่า เธอจะยังไปได้ไกลในวงการนี้ หลายปีต่อมาที่ Anntonia ได้สร้างชื่อจากเวที Miss Supranational 2019 ลูกเกดก็ได้เปิดใจว่า เหตุผลที่แท้จริงที่จบเส้นทางในรายการของเธอไว้เท่านั้น เพราะ Anntonia อยู่ในทีมของพลอยที่เป็นคู่แข่ง แต่เบื้องหลังใน 'ห้องเชือด' คือคำขอโทษด้วยความเสียดายเพราะนี่คือเกมการแข่งขันและรู้ดีแก่ใจว่า หาก Anntonia ได้ไปต่อก็อาจจะเป็นผู้ชนะใน season แรก เพราะเธอมีใบหน้ามีใบหน้าที่สวยโดดเด่น ถ่ายรูปขึ้น มีออร่าความงามสง่า ร้องเพลงก็ไพเราะ สื่อสารภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่ว mentor ชื่อดังจึงเลือกรับบทคนใจร้าย
พัฒนาการความงามอันน่าทึ่ง
ออร่าที่เฉิดฉายในปัจจุบันของ Anntonia นั้นทำให้แฟนๆปักใจว่า หากเธอไม่พลาดในการแสดงความสามารรถบนเวที ก็จะไม่เกิดเหตุการณ์พลิกโผ แม้แต่กูรูนางงามจากต่างประเทศก็ตื่นตัวตั้งแต่เห็นเธอเป็นตัวเก็งใน MUT แล้ว เอาเป็นว่า แม้แต่ชาวเน็ทจากประเทศคู่รักคู่แค้นในเรื่องนางงามหลายคนก็ให้ความเห็นว่า นี่แหละ MU 2023! (อาจจะมีคนที่ออกมากรีดร้องแบบเดิมๆ ว่าเลียนแบบ Cat นั่นก็ตามแต่ที่เค้าจะสบายใจกัน)
เรื่องพัฒนาการจากตอนเป็นนางแบบสมัครเล่นในรายการ The Face มาเป็นสาวงามสะกดใจนั้นทำให้ผู้ชมทึ่ง จากนกน้อยที่ดูไม่ประสีประสาก็กลายมาเป็นนางหงส์ได้อย่างแท้จริง ซึ่งไม่ต้องแปลกใจว่า ตอนที่ประกวด Miss Supranational นั้นก็สร้างความฮือฮามากแล้ว หลังจากมงลงก็มีเสียงเรียกร้องติดต่อกันมานานเพื่อให้เธอเข้าร่วมประกวด MUT แต่จากสถานการณ์ Covid ทำให้เธอได้รักษาตำแหน่ง Miss Supranational ติดต่อกันสองปี เมื่อหมดสัญญากับกองประกวดเดิม จึงเตรียมตัวเต็มที่เพื่อเวทีใหญ่
เรื่องพัฒนาการจากตอนเป็นนางแบบสมัครเล่นในรายการ The Face มาเป็นสาวงามสะกดใจนั้นทำให้ผู้ชมทึ่ง จากนกน้อยที่ดูไม่ประสีประสาก็กลายมาเป็นนางหงส์ได้อย่างแท้จริง ซึ่งไม่ต้องแปลกใจว่า ตอนที่ประกวด Miss Supranational นั้นก็สร้างความฮือฮามากแล้ว หลังจากมงลงก็มีเสียงเรียกร้องติดต่อกันมานานเพื่อให้เธอเข้าร่วมประกวด MUT แต่จากสถานการณ์ Covid ทำให้เธอได้รักษาตำแหน่ง Miss Supranational ติดต่อกันสองปี เมื่อหมดสัญญากับกองประกวดเดิม จึงเตรียมตัวเต็มที่เพื่อเวทีใหญ่
หลายคนยอมรับว่า การประกวดนางงามนั้นต้องพัฒนาตนเองให้หลากหลายด้าน แน่นอนว่ารูปลักษณ์อันดึงดูดใจเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ทำให้คะแนนพุ่ง สิ่งสำคัญคือการดูแลตัวเองของนางงามที่มาจากวินัยอันเคร่งครัดและการเทรนเพื่อโชว์ท่วงท่า performance ที่สามารถประชันกับเพื่อนผู้เข้าแข่งขันตัวเก็งได้อย่างสูสี ภาพที่ปรากฏออกมาทำให้แฟนๆชื่นชมว่า พัฒนาการของ Anntonia ช่างน่าประทับใจจนสร้างความหวังถึงมงกุฎ MU ลำดับ 3 ที่หลายคนรอคอย
ชัยชนะเหนือความคาดหมายจากเวที Miss Supranational ที่ทำให้แฟนนางงามจับตามอง
จากการเข้าแข่งขันในรายการ The Face สาวขี้อายคนนี้ไม่คาดคิดว่าจะมีคนจดจำเธอได้ เพราะหลังจากจัดฟันแล้วโครงหน้าดูเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่หลังจากเธอคว้ามงกุฎจากการประกวด Miss Supranational Thailand ในปี 2019 ก็เริ่มมีความสนใจหลั่งไหลเข้ามา แม้ว่านี่จะไม่ใช่เวทีประกวดนางงาม scale ยักษ์ใหญ่ แต่ก็เปิดทางสู่ระดับนานาชาติ และยังไม่เคยมีสาวไทยได้ตำแหน่งชนะเลิศในรายการนี้มาก่อน แฟนนางงามจำนวนหนึ่งเริ่มจับตามองว่าเธอจะแสดงความสามารถจนไปได้ไกลอีกสักเพียงใด
ก่อนหน้าที่จะเข้าร่วมประกวดนางงาม Anntonia ต้องต่อสู้กับความรู้สึกขาดความมั่นใจ และมองไม่เห็นคุณค่าของตัวเองมาโดยตลอด นับตั้งแต่วัยเยาว์ที่เธอถูกปรามาสเรื่องรูปลักษณ์จากมาตรฐานความงามที่ยากจะเข้าถึง แม้แต่การเข้าแข่งรายการ The Face ก็ต้องพบกับ body-shaming ว่าดูอวบและผิวพรรณไม่ดีพอจะเข้ามาประชันในรายการประกวดนางแบบ แต่เมื่อเธอทำหน้าที่ตัวแทนประเทศไทยคว้ามงกุฎจาก Miss Supranational มาได้ กำลังใจที่ท่วมท้นจากแฟนๆชาวไทยก็ทำได้เธอสัมผัสถึงคุณค่าในตัวตน และเป็นจุดเปลี่ยนที่ผลักดันให้เธอพยายามเต็มร้อยเพื่อจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ แม้ว่าเธอจะไม่คาดหวังด้วยซ้ำไปว่าจะชนะรายการนี้ แต่มาเพื่อประสบการณ์เท่านั้น แต่เมื่อมงลงไปแล้ว เธอย่อมจะก้าวต่อไปไม่หยุดยั้ง
ก่อนหน้าที่จะเข้าร่วมประกวดนางงาม Anntonia ต้องต่อสู้กับความรู้สึกขาดความมั่นใจ และมองไม่เห็นคุณค่าของตัวเองมาโดยตลอด นับตั้งแต่วัยเยาว์ที่เธอถูกปรามาสเรื่องรูปลักษณ์จากมาตรฐานความงามที่ยากจะเข้าถึง แม้แต่การเข้าแข่งรายการ The Face ก็ต้องพบกับ body-shaming ว่าดูอวบและผิวพรรณไม่ดีพอจะเข้ามาประชันในรายการประกวดนางแบบ แต่เมื่อเธอทำหน้าที่ตัวแทนประเทศไทยคว้ามงกุฎจาก Miss Supranational มาได้ กำลังใจที่ท่วมท้นจากแฟนๆชาวไทยก็ทำได้เธอสัมผัสถึงคุณค่าในตัวตน และเป็นจุดเปลี่ยนที่ผลักดันให้เธอพยายามเต็มร้อยเพื่อจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ แม้ว่าเธอจะไม่คาดหวังด้วยซ้ำไปว่าจะชนะรายการนี้ แต่มาเพื่อประสบการณ์เท่านั้น แต่เมื่อมงลงไปแล้ว เธอย่อมจะก้าวต่อไปไม่หยุดยั้ง
ด้วยความงดงามจนอาจจจะทำให้ผู้พบเห็นลืมหายใจ มันอาจจะเป็นเรื่องที่ฟังดูเหลือเชื่อเมื่อได้รู้ว่า Anntonia เคยกดดันเรื่องมาตรฐานความงามที่ยากจะเอื้อมถึงในสังคมไทยจนทำให้เธอคิดถอนตัวจากการประกวด Miss Supranational Thailand 2019 หลังจากที่ได้เห็นเพื่อนนางงามที่สวยโดดเด่น รูปร่างเพรียวบาง ผิวพรรณขาวเนียน จึงดูถูกดูแคลนตัวเองว่าเธอไม่ได้เป็นที่ต้องการ เพราะยังดัดฟันไม่เรียบร้อยและหุ่นก็ไม่ดีพอ แต่เพราะมีกำลังใจจากคุณพ่อคุณแม่ที่ยืนยันว่า เธอควรทำให้เต็มที่ แม้จะไม่ได้เป็นผู้ชนะก็ยังสามารถเรียนรู้จากการประกวดได้ หากเธอยังไม่ได้พยายามก็คงไม่รู้ผล คำพูดจากครอบครัวอันเป็นที่รักจึงผลักดันให้เธอมุ่งมั่นจนเป็นผู้ชนะ และเปิดทางให้คว้ามงใหญ่ระดับนานาชาติได้สำเร็จ
ส่วนผสมอันลงตัวระหว่างความเปราะบางและความแข็งแกร่ง
จากสถานะตัวเต็ง MUT ที่ทำให้ทุกฝ่ายจับจ้องเธอประเมินความสามารถของเธอตลอดเวลานั้นทำให้เกิดแรงกดดันมหาศาล ภาพของ Antonia ที่เดินจากห้องดำด้วยน้ำตาได้สร้างความกังวลใจให้กับกองเชียร์ แต่นั่นหนึ่งในสิ่งที่หล่อหลอมตัวตนเธอในทุกวันนี้ ซึ่งเธอยอมรับว่าเป็นผู้หญิงที่อ่อนไหวมาก มักกดดันตัวเองแม้ว่าคนรอบข้างจะชื่นชมว่าทำได้ดี แต่หากเธอคิดว่าทำไม่ได้ดีพอก็จะเสียน้ำตา เมื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยเพื่อประกวด Miss Supranational ชื่อของเธอก็ผงาดขึ้นสู่โผตัวเก็งที่ใครๆต่างก็เชื่อว่าต้องมงแน่ๆ เมื่อได้รับกำลังใจจาก บิ๊นท์-สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์ สาวงามผู้ที่คว้าตำแหน่ง Miss International 2019 ว่า เธอมีสิทธิ์สูงที่จะชนะ เธอก็ร้องไห้ด้วยความซึ้งใจ และต้องคอยเตือนตัวเองให้ปล่อยใจไปตามธรรมชาติ หันมาสนุกกับการประกวดเพื่อไม่กดดันจนเครียดจัด
ก้าวสู่การประกวด MUT หลังจากมีเสียงเรียกร้องอื้ออึง
แต่ต้องยอมรับว่า สถานการณ์จากการประกวดสองเวทีแรกแตกต่างจากเวที MUT เพราะเธอยังเป็นหน้าใหม่ที่ยังไม่ได้เป็นที่สนใจล้นหลามเหมือนทุกวันนี้ เมื่อเธอพร้อมจะลงประกวดเพื่อชิงมงกุฎที่เหล่านางงามแทบทุกคนใฝ่ฝัน ท่ามกลางแรงเชียร์อื้ออึงนั้นก็ยังมีข้อครหาบางอย่างซึ่งไม่สามารถหลีกเลี่ยงไปได้ และบีบให้เธอต้องอธิบายตัวเองต่อหน้าสื่อ จากการตั้งข้อกังขาในสถานะนางงามที่เคยประสบความสำเร็จจากเวทีอื่นที่อาจจะทำให้มีผู้มองเธอว่า 'มาเพื่อมง' หรือมีข้อได้เปรียบเหนือผู้เข้าร่วมประกวดคนอื่น ซึ่งเธอยืนยันว่า มาถึงจุดนี้ได้ เพราะได้ผ่านประสบการณ์จากเวทีเก่าที่ทำให้เธอค้นพบคุณค่าของตัวเอง และเลือกเริ่มต้นใหม่กับ MUT เพื่อประลองความสามารถตัวเอง ซึ่งเป็นการเริ่มต้นใหม่โดยไร้สิทธิพิเศษ มีความเท่าเทียมกับทุกๆคน
ประเด็นนางงามหลายเวทีไม่ใช่ชวนคาใจในวงการนี้แต่อย่างใด Miss Universe บางคนผ่านเวทีการประกวดมาอย่างโชกโชน บางคนประกวดเวทีระดับชาติซ้ำหลายครั้งกว่าจะเข้ามาชิงมงจักรวาล แต่ต้องยอมรับว่า หากเคยเป็นผู้ชนะมาแล้ว ก็ต้องพบกับการจับจ้องและประเมินผลงานเป็นพิเศษ แม้เธอจะยืนยันว่า ความกดดันนั้นเกิดขึ้นจากตัวเองมากกว่าการแสดงความคิดจากผู้อื่น ซึ่งเราต่างรู้กันดีว่า การประชันขันแข่งระหว่างนางงามที่มีรูปร่างสุดฟิต ผิวพรรณเรียบเนียนและลอนผมเงางามเด้งดึ๋งนั้นมีการเดิมพันสูงลิบลิ่ว Anntonia พกความเชื่อมั่นว่า หากทำให้ดีที่สุด ทุกอย่างมีสิทธิ์จะเป็นไปได้
ประเด็นนางงามหลายเวทีไม่ใช่ชวนคาใจในวงการนี้แต่อย่างใด Miss Universe บางคนผ่านเวทีการประกวดมาอย่างโชกโชน บางคนประกวดเวทีระดับชาติซ้ำหลายครั้งกว่าจะเข้ามาชิงมงจักรวาล แต่ต้องยอมรับว่า หากเคยเป็นผู้ชนะมาแล้ว ก็ต้องพบกับการจับจ้องและประเมินผลงานเป็นพิเศษ แม้เธอจะยืนยันว่า ความกดดันนั้นเกิดขึ้นจากตัวเองมากกว่าการแสดงความคิดจากผู้อื่น ซึ่งเราต่างรู้กันดีว่า การประชันขันแข่งระหว่างนางงามที่มีรูปร่างสุดฟิต ผิวพรรณเรียบเนียนและลอนผมเงางามเด้งดึ๋งนั้นมีการเดิมพันสูงลิบลิ่ว Anntonia พกความเชื่อมั่นว่า หากทำให้ดีที่สุด ทุกอย่างมีสิทธิ์จะเป็นไปได้
เมื่อพยายามรวบรวมความกล้าเพื่อผลักดันตัวเองให้มีพัฒนาการรอบด้าน จนได้ตระหนักว่า เธอมีความทุ่มเทและศักยภาพเพียงพอจนพร้อมจะพิสูจน์ให้ทุกคนประจักษ์ ในที่สุดก็ทำให้เธอก้าวมาถึงจุดที่ผู้คนมากมายเกิดความเชื่อมั่นว่า เธอคือคนที่จะทำความหวังของแฟนนางงามชาวไทยให้เป็นจริงได้ในการประกวด Miss Universe ที่ El Salvador อีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ และ Mr. Gerhard Parzutka von Lipinski ประธานแห่ง Supranational ก็คือหนึ่งในผู้ที่แสดงความยินดีกับเธอ
reaction จากในประเทศไทยนั้นก็คงรู้กันชัดแจ้งกันไปแล้วว่า หลายคนฝันเห็นมงที่ 3 อยู่ไม่ไกลแล้ว แม้ผลการประกวดไม่มีทางถูกใจทุกคนไปแบบเอกฉันท์ และมีเสียงทักท้วงตามมาบ้างตามสัจธรรมแห่งวงการนางงาม แต่พวกเราก็สัมผัสความตื่นเต้นกระจายทั่ว social media และนับวันรอการประกวด MU 2023 กันแล้ว ส่วนเสียงจากต่างประเทศ จากการติดตาม blog และ page นางงามต่างๆ ชาวเน็ทหลายคนยกให้เธอเป็นตัวเต็งตั้งแต่ยังไม่เห็น performance บนเวทีจริง รวมถึงคนที่มั่นใจว่า เธอจะก้าวมาเป็น Miss Universe คนต่อไปได้อย่างสมมง (ความเห็น toxic ชวนสะดุดก็มีบ้าง แต่ทิศทางคอมเมนท์นั้นมีพลังงานด้านบวกชัดเลยทีเดียว)
สาวงามลูกผสมที่เรียนรู้การใช้ชีวิตแบบข้ามวัฒนธรรมในหลากหลายประเทศ
ดังที่แฟนนางงามได้ทราบกันแล้วว่า พัฒนาการของการประกวดนางงามในระดับโลกนั้นก้าวไกลไปยิ่งกว่าการเลือกสรรผู้หญิงที่สวยที่สุด รูปร่างดีที่สุดมาทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์องค์กร ผู้เข้าประกวดแต่ล่ะคนพก profile ที่อัดแน่นไปด้วยคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นการศึกษา ประสบการณ์ในอาชีพหลากหลาย วิสัยทัศน์ในการเสริมสร้างพลังหญิงเพื่อทำประโยชน์ต่อส่วนรวม และจะต้องสนับสนุนแนวคิดการรวมใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพื่อก้าวข้ามอคติที่เกิดจากความแตกต่าง ซึ่งสิ่งนี้ได้ก่อให้เกิดปัญหาไปทุกแห่งหน แม้แต่การประกวดนางงามนานาชาติที่ควรเป็นสถานที่แห่งมิตรภาพก็ยังเคยปรากฏดราม่าเรื่องการแบ่งแยกกีดกันทางเชื้อชาติมาแล้ว
จากประวัติของ Anntonia ที่เธอมีโอกาสเดินทางข้ามทวีปไปเรียนรู้การใช้ชีวิตในโลกกว้างถึง 7 ประเทศนั้นทำให้เธอได้เปิดใจยอมรับความหลากหลายในสังคมต่างวัฒนธรรม และน่าจะช่วยให้เธอก้าวมาเป็นนางงามที่โดดเด่นทั้งในระหว่างการเก็บตัวและขึ้นเวทีจริง ซึ่ง Anntonia ก็เคยยืนยันมาแล้วว่า เธอเชื่อมั่นในการใช้เวทีนางงามเป็น platform ที่เปิดโอกาสเพื่อจะเข้าถึงมวลชนให้ร่วมเชิดชูความเป็นหญิงและความแตกต่างหลากหลาย
จากประวัติของ Anntonia ที่เธอมีโอกาสเดินทางข้ามทวีปไปเรียนรู้การใช้ชีวิตในโลกกว้างถึง 7 ประเทศนั้นทำให้เธอได้เปิดใจยอมรับความหลากหลายในสังคมต่างวัฒนธรรม และน่าจะช่วยให้เธอก้าวมาเป็นนางงามที่โดดเด่นทั้งในระหว่างการเก็บตัวและขึ้นเวทีจริง ซึ่ง Anntonia ก็เคยยืนยันมาแล้วว่า เธอเชื่อมั่นในการใช้เวทีนางงามเป็น platform ที่เปิดโอกาสเพื่อจะเข้าถึงมวลชนให้ร่วมเชิดชูความเป็นหญิงและความแตกต่างหลากหลาย
แรงกดดันที่รออยู่ที่เส้นทางข้างหน้า
การชิงชัยกับผู้เข้าประกวดที่มาพร้อมกับความสวยอันหลากหลายในระดับนานาชาติ ยิ่งความคาดหวังในตัวนางงามสูงมากเท่าไร ความกดดันของพวกเธอก็ทวีคูณขึ้น มงลงเพียงไม่กี่ชั่วโมง Anntonia ก็ต้องรับมือกับคอมเมนท์จับผิดระหว่างการสนทนาผ่าน Live ช่วงเช้าเผยให้เห็นอิริยาบถการรับประทาน breakfast ดูเหลือเชื่อที่มีคนทักท้วงเธอว่า อย่ากินเยอะ และพาดพิงไปถึงนางงามที่รูปร่างไม่ผอมอีกคน ทั้งๆที่นางงามต้องทุ่มเทพลังกายพลังใจแทบไม่มีเวลากิน ได้นอนเพียงแค่อึดใจเดียวก็ต้องตระเวณออกสื่อทำหน้าที่ MUT เธอจึงชี้ถึงเรื่องการแสดงออกถึงมารยาทกับทางโรงแรมที่จัด breakfast ดีๆมาให้ ซึ่งเป็นธรรมเนียมในแต่ล่ะปีที่สาวงามผู้ชนะเลิศจะออกมาเปิดภาพกันให้ชมในยามเช้า และหากให้พูดกันแบบไร้ bias ก็ต้องบอกว่าอึ้งกับพลังงานด้านลบ เนื่องจากไม่คาดว่าการกินอาหารสุขภาพในยามเช้าจะขัดความรู้สึกใครบางคนจนอดรนทนไว้ไม่อยู่
แม้จะได้รับเสียงเชียร์จากผู้คนมากมาย แต่ก็ยังปะปนไปด้วยคำพูดบั่นทอนกำลังใจเมื่อรู้สึกว่าเธอไม่ได้แสดงออกตามที่หวังไว้ บางคนแนะนำให้เธอวางตัวให้ดูสวยแพง บางคนถูกใจภาพลักษณ์ติดดินเข้าถึงง่าย และยังมีอีกหลายคนที่ต้องการความสมบูรณ์แบบ ทั้งเรียกร้องให้ลดน้ำหนักลงและเดินบนเวทีให้เริ่ดกว่าเดิม
ยังไม่ทันจะได้หายใจหายคอ ก็ถูกจับผิดและเจอความ toxic จนมีคนแสดงความเป็นห่วงไม่อยากให้เธออ่านคอมเมนท์ใน social media ซะแล้ว
เราขอเป็นอีกคนที่ขอเอาใจช่วยให้เธอพิสูจน์ความสามารถอย่างเต็ม 100 โดยมองข้ามคำพูดถากถางบั่นทอนไป เพราะยังมีคนอีกมากมายที่มอบกำลังใจให้ ไม่ว่าผลการประกวดในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไรก็ตาม
"ฉันเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่มีความฝันและความมุ่งมั่น ผู้หญิงที่กล้าจะฝันใฝ่ไปสู่ความกว้างใหญ่ไพศาลและก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง ฉันหวังว่าฉันจะได้เป็นแบบอย่างสำหรับทุกคนและแสงนำทางเพื่อให้คุณจะได้ไล่ตามความฝันด้วยความกล้าหาญ ความเข้มแข็งและความมุ่งมั่นทุ่มเท มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่จะหยุดยั้งคุณได้ นั่นคือตัวคุณเอง จงนำความสามารถและสิทธิในการแสดงความคิดเห็นมาจุดประกายแรงบันดาลใจและพลังเพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีงามเพื่อผู้คนรอบตัวคุณ"
"ฉันขอรับรองว่า ฉันจะคาดสายสะพายอันนี้ไว้บนดวงใจไว้อย่างสมเกียรติและภาคภูมิ เพื่อจะทำหน้าที่ตัวแทนประเทศและผองเราด้วยความภูมิใจ
Anntonia Porsild