Haul + Review: CLARINS Double Serum
miieiie 24 16
ขอร่วมกิจกรรมทดลองใช้ CLARINS Double Serum กับจีบัน พอเห็นกิจกรรม เราก็รีบเข้าร่วม แล้วไปรับ sample ที่สาขาใกล้บ้านเลย ซึ่งเราแวะไปที่สาขาเซ็นทรัลพระราม 3 แต่ตัว sample Double Serum สูตร Light Texture เค้าหมด เราเลยได้มาเป็นสูตร Iconic (สูตร original) เค้ามาแทน ซึ่งพี่ BA เค้าแนะนำดีมากๆ เดี๋ยวเราจะมาแชร์ความต่างของทั้ง 2 ตัวให้ดูด้วย ซึ่งเราก็ได้ลองเนื้อ Light Texture ที่สาขามาด้วยจ้า
CLARINS
Double Serum
ก่อนไปรีวิว เราขอพูดถึงตัว CLARINS Double Serum กันหน่อยค่ะ จากที่ได้ฟังพี่ BA แนะนำมา เค้าบอกว่า จุดเด่นของ Double Serum เลยอยู่ที่การ RESET ผิวให้อ่อนโยนอยู่เสมอ เนื่องจากผิวของเราจะโดนฝุ่น ควัน มลภาวะ และแสงจากมือถือ ทำให้ผิวหมอง… โดยตัวเซรั่มตัวนี้ เค้าจะเข้าไปช่วยฟื้นฟูผิว และผลัดเซลล์ผิวเก่า ทำให้ผิวของเราได้สร้างเซลล์ผิวใหม่ทุกวัน เลยทำให้ผิวของเราเนี่ยะดูอิ่มฟู และอ่อนเยาว์อยู่เสมอ สำหรับสารบำรุงนั้น เค้ามีสารสกัดจากพืชมากถึง 21 ชนิด ตัวหลักเลยคือ ขมิ้นชันอินเดีย ที่ช่วยสื่อสารโครงสร้างผิว ผิวที่อ่อนล้า จะถูกขมิ้นชันปลุกเซลล์ผิว ให้กระตุ้นการสร้างอิลาสติน และคอลลาเจนค่ะ
นอกจากนี้ CLARINS Double Serum ยังมีจุดเด่นในเรื่องของ Texture ที่เค้าเลียนแบบชั้นผิวหนังของมนุษย์เลย คือมีทั้งชั้นที่เป็นน้ำ และน้ำมัน จึงทำให้ตัวเซรั่ม ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย และซึมซับได้ดีมากๆ
นอกจากนี้ CLARINS Double Serum ยังมีจุดเด่นในเรื่องของ Texture ที่เค้าเลียนแบบชั้นผิวหนังของมนุษย์เลย คือมีทั้งชั้นที่เป็นน้ำ และน้ำมัน จึงทำให้ตัวเซรั่ม ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย และซึมซับได้ดีมากๆ
มาดู sample ที่รับมากันค่ะ เค้ามาในรูปของถุงกระดาษหูหิ้ว ดูดี น่ารักมาก… เราได้ sample มา 3 กล่อง กล่องละ 3 ซอง รวม 9 ซองด้วยกัน เป็นสูตร Iconic ทั้งหมดค่ะ นอกจากนี้ ภายในกล่องยังมี คำอธิบายมาหลายภาษามากๆด้วย
วิธีใช้ sample คือให้หักซองตรงกลาง แล้วรีดเซรั่มออกมาค่ะ 1 ซองเราใช้เฉพาะตอนกลางคืนก่อนนอนค่ะ
ความแตกต่างของ Light Texture สูตรใหม่ กับ Iconic อยู่ที่เนื้อสัมผัส จากที่เราได้ลองที่เคาน์เตอร์มา เรารู้สึกว่าตัว Iconic เค้าจะมีความหนืด และเหนียวเข้มข้นกว่าตัว Light Texture คือ ตัว Light Texture นี้ พออยู่ที่ผิวจะไหลได้ไวมากกว่าค่ะ เหมาะกับคนที่ผิวหน้ามัน ส่วน Iconic จะเหมาะกับคนผิวแห้งมากกว่า ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้ง 2 แบบ เหมาะกับทุกสภาพผิว แล้วแต่ว่าใครชอบเนื้อสัมผัสแบบไหนค่ะ ส่วนเรื่องส่วนผสม ทั้ง 2 แบบ เหมือนกันเลย แล้วก็ทั้ง 2 สูตร มีส่วนผสม 2 ส่วนเหมือนกัน คือส่วนผสมของเซรั่ม และน้ำมันเช่นเดียวกันค่ะ
ส่วนตัวเราเอง ก็ชอบสูตร Iconic นะ เพราะเราเป็นคนผิวแห้งมาก ยิ่งถ้าช่วงอยู่ห้องแอร์ตลอด ผิวจะขาดน้ำ และแห้งมาก สังเกตได้จากผิวดูแห้งกร้าน และเวลาทาครีมบำรุง มันไม่ค่อยซึมเข้าสู่ผิวเลยอ่ะ >.< เราเลือกใช้ CALRINS Double Serum สูตร Iconic เฉพาะตอนกลางคืน เพราะเรารู้สึกว่า เนื้อเซรั่มเค้าเหมาะที่จะเอาไว้นวดผิวพอสมควร มีความเป็นน้ำมันอยู่ ด้านกลิ่นคือดีงาม ถูกจริตเลย เพราะเป็นกลิ่นหอมแบบธรรมชาติ แบบกลิ่นของส่วนผสมของเค้า ไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมฉุน เวลาได้กลิ่นแล้วนวดผิวไปด้วย จะฟินมากกกก รู้สึกผ่อนคลายสุดๆเลยค่ะ... 1 ซองเราใช้หมดห่อเลย นวดผิวกลางคืนก่อนนอน รู้สึกได้ว่า เซรั่มเค้าช่วยฟื้นบำรุงผิวได้ดีมากๆ หลังตื่นนอนเรารู้สึกว่า เนื้อเซรั่มซึมซับได้ดีจริง คือไม่ได้ทำให้หน้ามันเลย แม้ว่าตัวเซรั่มจะมีส่วนผสมของน้ำมันก็ตาม มันเหมือนว่า ทาเซรั่มธรรมดา สบายผิว ไม่ได้รู้สึกอุดตันใดๆ เวลาตื่นนอนมา หน้าก็ไม่ได้มันเยิ้ม ยังสบายผิวดีอยู่ค่ะ อีกทั้งผิวยังรู้สึกนุ่ม ยืดหยุ่น และให้ความรู้สึกที่ดีสุดๆเลย ^^ ยอมรับเลยว่า เนื้อเซรั่มเค้าดีจริงๆ
เมื่อลองใช้มาประมาณ 5 วัน เรารู้สึกว่า ผิวเราสุขภาพดีขึ้น คือหน้าไม่แห้ง แต่กลับมีความยืดหยุ่น และนุ่มมากกกกกก แถมริ้วรอยดูยังจางลง ผิวดูอิ่มฟู เนียน ใส ดูโกลว์ เรียกได้ว่าผิวดูสุขภาพดีขึ้นมากๆ มีแต่คนชมว่าสวย ^^ ตอนแรกไม่ได้เอ๊ะใจ แต่พอไปกลับบ้านไปส่องกระจกดูถึงรู้ว่า ว้าวววว ผิวเราเนียนละเอียดมากเลย รูขุมขนก็ดูกระชับมากๆ ประทับใจในผลลัพธ์มากเลยค่ะ ^0^
ต้องขอขอบคุณทาง จีบัน และ CLARINS ที่มอบประสบการณ์ดีๆให้ได้ลองใช้ผลิตภัณฑ์ดีๆค่ะ
++++ ขอบคุณที่เข้ามาชมกันค่ะ ++++
#JebanxClarinsDoubleSerum #ยืนหนึ่งเรื่องผิวดูอ่อนเยาว์