มัดรวม body oil สุดปัง มนุษย์ 30+ ควรมี

เพื่อนๆเป็นมั้ยคะ ตอนอายุน้อยๆ ไม่ดูแลร่างกาย ไม่ดูแลผิว ผม สภาพก้อยังดูโอเค            
ตัดภาพมาตอนที่อายุเยอะขึ้นผิวเริ่มไม่เป็นใจ ใช้งานแบบสมบุกสมบันไม่ได้แล้ว
มนุษย์วัย 30+ อย่างเราๆ เลยต้องหันมาดูแลผิวกันบ้าง

วันนี้จะมาแนะนำ body oil ตัวดีที่เราใช้อยู่นะคะ
เคยคิดว่าไอเทมนี้ไม่จำเป็นกับเมืองร้อนแบบบ้านเราเลยค่ะ แต่พอใช้แล้ว ผิวมันดีขึ้น นุ่มขึ้นจนเลิกใช้ไม่ได้เลย

1. Neutrogena Intense Repair Oil สูตร Norwegian ตัวนี้เราได้มาจาก drug store ในญี่ปุ่น
เหมาะสำหรับคนที่ผิวแห้งมากๆ และไม่ชอบน้ำหอม ใช้ทาหลังอาบน้ำ
หรือถ้าอยากบำรุงขั้นสุด ก้อใช้ตัว body emulsion เพิ่มอีกได้
เนื้อออยล์ค่อนไปทางเหลว ซึมเข้าผิวแบบความไวแสง
หลังทาจะมีความนุ่ม ชุ่มชื้น แต่ไม่ทิ้งคราบมันที่ผิว จนบางทีลืมไปว่าน้องเป็นออยล์
เราเลยเลือกน้องคนนี้เป็นไอเทมหลักที่ใช้ประจำค่ะ
สรุป...
กลิ่น: ไม่มีน้ำหอม กลิ่นเบามาก
ความซึมเร็ว: ❤️❤️❤️❤️❤️
ความนุ่มของผิวหลังทา: ❤️❤️❤️❤️

2. Johnson Baby oil bedtime
ตัวนี้เป็นไอเทมที่เห็นรีวิวเยอะมาก จนอดไม่ได้ไปจัดตามมา ไอเทมนี้เหมาะกับคนที่แพ้ง่าย เพราะตัวนี้สามารถใช้กับเบบี้ได้
กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกมะลิและดอกลิลลี่ ทาก่อนนอนคือฟีลกู๊ดเลย เนื้อออยล์จะข้นหนืดกว่าตัวแรก
หลังทาเลยต้องให้เวลาน้องประมาณนึงในการซึมเข้าผิว หลังทาผิวจะมีความนุ่ม แต่ถ้าลูบก้อคือจะมีคราบมันติดที่มือ
เนื่องจากราคาไม่แรง เลยรู้สึกว่าน่าใช้อยู่ค่ะ เราเลยเลือกใช้ไอเทมนี้สำหรับผิวเป็นบางครั้ง และใช้หมักผมก่อนสระแทนค่ะ
สรุป...
กลิ่น: ❤️❤️❤️
ความซึมเร็ว: ❤️❤️
ความนุ่มของผิวหลังทา: ❤️❤️❤️❤️❤️
ราคา: ❤️❤️❤️❤️❤️

3. Akaliko Body Oil - Cherry Blossom
ส่วนผสมหลักมาจากธรรมชาติ อาทิเช่น น้ำมันรำข้าว และน้ำมันอัลมอนด์ รวมถึงมีวิตามินต่าง ๆ เช่น วิตามิน อี วิตามิน เอ และวิตามิน บี
หลังจากลองใช้ รู้สึกชอบในตัวกลิ่นมาก เป็นหอม fruity + floral แบบสดใส สดชื่น ให้ความรู้สึก cheerful เนื้อออยล์จะข้นหนืดที่สุดในทุกตัว
หลังทาเลยต้องให้เวลาน้องประมาณนึงในการซึมเข้าผิว แต่ซึมเข้าผิวได้ไวกว่าตัวเบบี้ออยล์
หลังทาผิวจะมีความนุ่ม ชุ่มชื้น แบบรู้สึกได้ทันที ไอเทมนี้คิดว่าซื้อต่อแน่นอนค่ะ
สรุป...
กลิ่น: ❤️❤️❤️❤️❤️
ความซึมเร็ว: ❤️❤️❤️
ความนุ่มของผิวหลังทา: ❤️❤️❤️❤️❤️
ราคา: ❤️❤️❤️

4. Palmer's Cocoa Butter Formula Skin Therapy Oil
ไอเทมนี้ รีวิวว่า the best แบบเยอะมาก แบรนด์เค้าเคลมว่า น้องช่วยในเรื่องของรอยแตก รอยแผลเป็นต่างๆ
กลิ่นหอมอ่อนๆ จาก Cocoa Butter และ Rosehip Oil รู้สึกว่าหอม แต่ส่วนตัวแค่ไม่ชอบกลิ่นประมาณนี้เท่าไหร่
เนื้อออยล์จะเหลวใสที่สุดในทุกตัว หลังทา คือซึมเข้าผิวไว ผิวจะมีความนุ่มแบบทันที
แต่ถ้าลูบก้อคือจะมีคราบมันติดที่มือคล้ายๆกับตัวเบบี้ออยล์
เราเลยจะเลือกใช้ไอเทมนี้สำหรับผิวเป็นครั้งคราว เวลาที่ผิวพังหนักๆค่ะ
สรุป...
กลิ่น: ❤️❤️
ความซึมเร็ว: ❤️❤️❤️❤️❤️
ความนุ่มของผิวหลังทา: ❤️❤️❤️❤️❤️
ราคา: ❤️❤️❤️❤️

5. Journal Body Oil - First love
ไอเทมนี้มีส่วนผสมของน้ำมันสกัดเข้มข้นจากธรรมชาติ กลิ่นแบบชัดเจน และติดทนมากกกก
หอมข้ามคืนกันไปเลย กลิ่น First love จะเป็นกลิ่นอโรม่าหวานๆ ดอกไม้ไทยๆ คนที่ไม่ชอบกลิ่นไทยๆ หรือกลิ่นน้ำหอมควรผ่านตัวนี้ค่ะ
เนื้อออยล์เหลวใส ซึบซับเร็ว ผิวนุ่มประมาณนึง เราเลยเลือกใช้ไอเทมนี้ผสมครีมทาผิว แล้วทาแทนค่ะ
เนื่องจากกลิ่นน้องหอมแรงมาก จนแอบฉุนๆ
สรุป...
กลิ่น: ❤️❤️❤️
ความซึมเร็ว: ❤️❤️❤️❤️❤️
ความนุ่มของผิวหลังทา: ❤️❤️❤️❤️
ราคา: ❤️❤️❤️

ถ้าคนชอบความซึมเข้าผิวเราแนะนำ Palmer กับ นูโทรจีน่าเลยค่ะ
แต่ถ้าเรื่องกลิ่น ตามความชอบเราคือหอมสดชื่นแบบพอดีๆ แนะนำ Akaliko ค่ะ
ถ้าเน้นราคาจับต้องได้ ไม่สิ้นเปลือง จอห์นสันคือ the best ค่ะ
เพื่อนๆมีเคยลองตัวไหน หรือมีทริคในการบำรุงผิวยังไง แชร์กันไว้ได้นะคะ

#bodyoil #บอดี้ออย #น้ำมันทาผิว #ดูแลผิว

+5