จริงหรือที่คนดังแต่งงานเมื่ออายุยังน้อยแล้วมักจะอยู่ไม่ยืด?

เมื่อใดก็ตามที่สังคมได้รับรู้ข่าวการประกาศการหมั้นหมายและแต่งงานของคนดังที่ยังอายุน้อย ก็ปรากฏเสียงวิจารณ์ทัดทานจากผู้คนในโลกออนไลน์ที่เชื่อว่า หนุ่มสาววัยรุ่นยังมีเวลาเหลือเฟือในการเรียนรู้ประสบการณ์ชีวิตก่อนการตัดสินใจครั้งใหญ่ที่เปลี่ยนแปลงทั้งชีวิต  และยังมีผู้ยกตัวอย่างหนุ่มสาวคนดังหลายคู่ที่แต่งงานกันไวและอยู่กันไม่ยืด  เมื่อถึงวัยยี่สิบกลางๆก็ผ่านประสบการณ์หย่าร้างครอบครัวแตกแยกมาแล้ว   แต่ในขณะเดียวกัน  บางคนก็ได้ยกกรณีตัวอย่างของคู่รัก Hollywood  ที่แต่งงานกับคนที่เป็น high-school sweetheart แล้วครองคู่ยืดยาวผมขาวไปด้วยกัน   รวมถึงคู่รักคู่ร้างจำนวนไม่น้อยที่ศึกษาดูใจกันนานหลายปี  แต่เมื่อตัดสินใจเปลี่ยนสถานะเป็นสามีภรรยากลับไปกันไม่รอด  

จริงแท้แค่ไหนที่การแต่งงานของคนดังอายุน้อยมาจากการตัดสินที่ขาดวุฒิภาวะจนสุดท้ายก็ต้องจบกันแบบเจ็บๆในระยะเวลาเพียงไม่นาน? เรามาติดตามชมชีวิตคู่หลากหลายแบบของพวกเค้ากันได้เลยค่ะ!

ทันทีที่ Miley Cyrus ประกาศหมั้นหมายกับ Liam พระเอกชาวออสซี่ที่รักกันมาได้ 3 ปี ก็ดึงดูดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า เธออาจจะก้าวสู่เส้นทางเดียวกันกับศิลปินดาราอีกที่โด่งดังมาตั้งแต่อายุน้อยอย่าง Drew Barrymore, Macaulay Culkin ที่เคยสร้างความฮือฮาด้วยการประกาศแต่งงานสายฟ้าแลบด้วยวัยไม่ถึงยี่สิบ เมื่อดำเนินชีวิตคู่ได้เพียงไม่นานก็ลงเอยด้วยการหย่าร้าง

อาจจะเป็นเพราะว่าหลายคนมอง Miley ในภาพลักษณ์ popstar ที่อยู่ในวัยหัวขบถเลือดร้อน การวางแผนแต่งงานจึงดูเป็นการตัดสินใจที่ขาดการไตร่ตรอง และทักท้วงว่า หากเธอรีบร้อนแต่งงานอาจจะต้องมาเสียดายภายหลัง เนื่องจากตลอดมาต้องเติบโตท่ามกลางกองถ่ายและการเดินทางทัวร์คอนเสิร์ตและถูกรายล้อมไปด้วยผู้ใหญ่ที่หวังหาผลประโยชน์จากตัวเธอ ซึ่ง superstar อย่าง Justin Bieberก็เคยยอมรับแล้วว่า วิถีชีวิตที่ประสบความสำเร็จล้นหลามมาตั้งแต่เด็กทำให้ขาดประสบการณ์ในการใช้ชีวิตในโลกแห่งความเป็นจริง

Miley ในวัย 19 ได้ตอบถึงประเด็นวางแผนสละโสดไว้ว่า
'ชีวิตคนเรามันสั้นเกินไปที่จะไม่ยอมอยู่เคียงข้างกับคนที่เราต้องการ"

เธอยืนยันว่าไม่ได้ใส่ใจพิธีแต่งงานเลิศหรูหรือเอกสารทางกฎหมาย แต่ให้ความสำคัญกับการให้คำมั่นสัญญารักต่อกัน และแสดงความปลาบปลื้มใจที่ได้สร้างความทรงจำจากการใช้ชีวิตในชายคาเดียวกัน

ก่อนที่เธอจะตอบรับคำขอแต่งงานจาก Liam พวกเค้าก็ใช้ชีวิตด้วยกันมาได้พักหนึ่งแล้ว และครอบครัวของเธอก็เปิดใจเป็นครอบครัว เธอยืนยันว่า วางแผนจะหมั้นกันอีกนาน และก็ทำตามที่บอกไว้จริงๆ อย่างไรก็ตาม การหมั้นหมายก็ไม่ได้ราบรื่น พวกเค้าเกิดปัญหาขัดแย้งจนรักๆเลิกๆ ถอนหมั้น-มีคนใหม่-คืนดี move on เป็นวงกลมนานหลายปี จนกระทั่ง Miley อายุ 26 จึงเข้าพิธีวิวาห์ที่ค่อนข้างจะ surprise แฟนๆ มันเป็นงานเล็กๆน่ารักที่จัดในบ้าน อาจจะเป็นเพราะว่าพวกเค้าใช้เวลาหมั้นหมายกันถึง 7 ปี หลายฝ่ายจึงเชื่อว่า ทั้งสองต่างขัดเกลาตัวเองจนมีวุฒิภาวะพร้อมใจปรับหากันอย่างเต็มที่ อารมณ์และจิตใจดูมั่นคงต่างจากช่วงวัยรุ่นที่เปราะบางอ่อนไหวต่ออิทธิพลจากสิ่งรอบข้าง ตอนที่ประกาศเรื่องแต่งงาน ก็ไม่ได้เกิดกระแสต่อต้านว่า เป็นการด่วนตัดสินใจแบบวัยรุ่นเลือดร้อนจนอาจจะเสียดายภายหลัง  หลายคนแสดงความยินดีกับทั้งสองด้วยใจจริง

ทว่า การศึกษาดูใจตั้งแต่ยังเป็นวัยทีนและอยู่กินกันก่อนแต่งไม่ได้เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับความสัมพันธ์ของพวกเค้าตามที่คนนอกคาดเดากันไว้ แต่งงานกันไปเพียง 8 เดือน Liam ก็ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอหย่าร้าง หลังจากวันคืนที่เจ็บปวดมาได้ Miley ได้ย้อนมองกลับไปถึงต้นตอปัญหาชีวิตคู่ เธอค้นพบว่า จากเดิมที่ไม่เคยเร่งร้อนจะแต่งงานกับ Liam แต่หลังจากเกิดความสะเทือนใจอย่างหนักเมื่อต้องสูญเสียบ้านไปจากภัยไฟป่าครั้งใหญ่ที่ California ทำให้เธอหมกมุ่นยึดติดกับบ้านและทุกสิ่งที่ถูกไฟผลาญไป สิ่งที่หลงเหลืออยู่ก็มีแต่เธอและเขาเท่านั้น เ พียง 6 สัปดาห์หลังจากเหตุการณ์ไฟไหม้ เธอก็ตัดสินใจแต่งงานตามกฎหมาย  แต่เมื่อกลายมาเป็นสามีภรรยากันจริงๆ เธอก็ไม่สามารถรับมือกับความขัดแย้งได้

"เมื่อฉันกลับมาที่บ้าน ฉันอยากเป็นที่ปรารถนาในสายตาใครสักคน พวกดราม่าและการทะเลาะเบาะแว้งทำให้ฉันรู้สึกแย่มากจริงๆ"

ชีวิตที่เต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนามของ ฺBritney ถูกยกให้เป็นอุทธาหรณ์ของ superstar ที่ถูกคนรอบตัวรุมเอาเปรียบฉกฉวยหาผลประโยชน์ ซึ่งสิ่งที่ทำให้แฟนๆรู้สึกเจ็บแค้นแทนเธอมากที่สุดคือ การกระทำของคนในครอบครัวที่เชื่อกันว่าเป็นการทารุณทั้งทางร่างกายและจิตใจเนิ่นนานเกินสิบปี หลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า จุดเปลี่ยนที่ผลักให้ Brit ดำดิ่งสู่หุบเหวของความทุกข์ทรมานนั้นเกิดขึ้นชัดเจนในช่วงที่เธอใช้ชีวิตคู่กับ Kevin Federline  จากเดิม Britney ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นเจ้าหญิงเพลง Pop ที่สวยเริ่ดเกินเอื้อม  เธอถูกสื่อตามจับผิดและเย้ยหยันเรื่องรสนิยมผู้ชาย หลังจากใช้เวลาคบหากับ Kevin เพียง 3 เดือนก็ประกาศแต่งงานแบบค้านสายตาแฟนๆ  เพราะไม่เพียงเพราะเธอมีอายุ 22 ปี เท่านั้น  แต่หลายคนแสดงความวิตกกังวลว่า ฝ่ายชายกำลังใช้เสน่ห์ล่อหลอกให้เธอหลงไหลเพื่อปอกลอกทรัพย์สินและใช้อิทธิพลของเธอเพื่อสร้างความโด่งดัง  

เพียงเริ่มต้นความสัมพันธ์ก็มีเสียงครหาอื้ออึงว่า Kevin ทอดทิ้งคู่หมั้นที่กำลังตั้งครรภ์ลูกที่สองมามีความสัมพันธ์กับ superstar สาว ซึ่งทำให้หลายคนโจมตีว่า นี่แสดงถึงพฤติกรรมไม่จริงใจ และ Brit จะเรียนรู้ว่าตัดสินใจผิดพลาดจนหย่าร้าภายในเวลาไม่ช้า (หลายปีต่อมา  Kevin ยอมรับว่า เห็นแก่ตัวจนทอดทิ้งคู่หมั้นและครอบครัวจริงๆ)

Brit ก็ได้เล่าที่มาของพิธีวิวาห์เหนือความคาดหมายนี้ว่า จู่ๆเธอก็เป็นฝ่ายถามแฟนหนุ่มแดนเซอร์ว่า เขาอยากจะแต่งงานกับเธอรึเปล่า แต่เขาปฏิเสธกลับมาเพราะมองว่า หากผู้หญิงเป็นฝ่ายเริ่มก่อนดูจะไม่ใช่วิธีขอแต่งงานที่เหมาะที่ควรสักเท่าไร สัปดาห์ต่อมาเขาจึงหาแหวนเพชรมาขอเธอแต่งงานจริงจัง ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้ถูกเก็บเป็นความลับจากสื่อ เพราะในเดือนมิถุนายนปี 2004 ตัวแทนของเธอได้ยืนยันข่าวการหมั้นหมายหลัง เมื่อไล่ Timeline แล้วก็อึ้งกันถ้วนหน้า เพราะพวกเค้าทำความรู้จักกันได้แค่สองเดือนก็วางแผนจะแต่งงานกันแล้ว นี่ไม่ได้เป็นการวางแผนหมั้นหมายกันนานๆ แต่เร่งจัดพิธีวิวาห์เต็มที่ กำหนดการที่แท้จริงนั้นเหนือความคาดหมายอยู่บ้าง จากแรกที่สื่อรายงานว่า Brit จะจัดงานใหญ่ในเดือนตุลาคมหรือพฤศจิกายนและร่อนการ์ดเชิญแขกนับร้อยคนเรียบร้อย แต่เธอก็เปลี่ยนใจกะทันหันเพราะทนรอไม่ไหว เลื่อนมาจัดพิธีแต่งงานลับสุดยอดที่มีแขกจากครอบครัวคนสนิทไม่ถึงสามสิบคนมาเป็นสักขีพยานในเดือนกันยายน

ภาพของ KFed (ฉายาของ Kevin ในขณะนั้น) กับเพื่อนเจ้าบ่าวที่สวมใส่ชุดวอร์มพิมพ์คำว่า Pimps (แมงดา) ที่ด้านหลังดูไม่ต่างจาก red flag ในสายตาแฟนๆของ Brit ที่ต่อต้านการแต่งงานในครั้งนี้ มีคนจำนวนไม่น้อยที่มองอนาคตไว้แล้วว่า มันจะกลายเป็นชีวิตคู่แสนสั้นที่สร้างรอยแผลใจให้กับ Brit ไปอีกนาน

หลังจากแต่งงานสร้างครอบครัวกับผู้ชายที่ไร้สถานะมั่นคงทางการเงินและมีประวัติทอดทิ้งคนเก่า สื่อบันเทิงก็ตามจับผิดเล่นงานคู่นี้ไม่หยุดยั้ง lifestyle ของพวกเค้าถูกนำมาล้อเลียนเย้ยหยันว่าดูไม่ต่างจาก white trash ทั้งๆที่มีเงินล้นหลาม เรื่องราวดูแย่ลงไปเมื่อ Brit ให้กำเนิดลูกชายคนแรก ภาพที่เธอขับรถในขณะโอบอุ้มลูกไว้บนตักและเร่งร้อนฝ่าฝูง paparazzi จนสะดุดส่งผลให้ลูกน้อยในอ้อมกอดสะดุ้งหน้าหงายถูกสื่อนำมาสร้างประเด็นโจมตีเรื่องคุณสมบัติความเป็นแม่ และยังถูกปล่อยข่าวโจมตีซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่แต่งงานกัน แรงกดดันจากกระแสโจมตีได้ส่งผลกระทบกับภาพลักษณ์ของ Brit อย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน

สื่อกอสสิปมักขยี้ประเด็นว่าเธอใช้เงินปรนเปรอให้กับสามีที่มาแต่ตัว ไม่ว่าจะเป็นรถ Ferrari หรือ party ใน club หรูที่กินดื่มไม่อั้น  โดยเฉพาะตอนที่ Brit ได้ทุ่ม produce และออกเงินสนับสนุนให้ Kevin ทำอัลบั้ม hip hop ซึ่งเธอได้อุ้มท้องลูกคนที่สองขึ้นเวที Teen Choice Awards เพื่อช่วยดันการแสดงของสามี แต่เมื่อออกอัลบั้มเต็มได้เพียงหนึ่งสัปดาห์ บางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตแต่งงานของพวกเค้าก็ทำให้ Brit ยื่นขอหย่าร้างสร้างความฮือฮาไปทั่ว ปฏิกิริยาจากสังคมนั้นเต็มไปด้วยแรงสนับสนุนจากผู้คนที่ปรารถนาจะเห็นเธอสลัดเรื่องราว toxic และเริ่มต้นใหม่แบบสุด strong   แต่ปัญหาที่รุมเร้าหลายทิศทางได้สร้างความเสียหายทางจิตใจจนเกิดภาพช็อคโลกหลายครั้ง  ถึงขนาดถูกจับมัดส่งตัวเข้าแผนกจิตเวช  ในที่สุดก็ถูกพรากสิทธิเลี้ยงดูลูกชายทั้งสองไป 

เมื่อหลายปีก่อน Brit ได้เปิดเผยความรู้สึกผ่าน documentary ว่า การตัดสินใจแต่งงานกับ Kevin นั้นคือความผิดพลาด

"ฉันเชื่อว่า ตัวเองแต่งงานด้วยเหตุผลที่ไม่เหมาะไม่ควรเอาซะเลย แทนที่ฉันจะทำตามที่เสียงหัวใจบอก ทำในสิ่งที่สร้างความสุขให้ฉันได้จริงๆ ฉันกลับแต่งงานด้วยความคิดฟุ้งซ่านหลายอย่าง"


ปัจจุบัน Brit ต้องเผชิญกับปัญหาครอบครัว เมื่อลูกชายวัยรุ่นทั้งสองแสดงออกชัดเจนว่าไม่ต้องการใกล้ชิดกับแม่ ทั้งอดีตสามีและลูกๆยังให้สัมภาษณ์โจมตีเรื่องการแชร์ภาพโป๊เปลือยทาง Instagram ของเธอว่าทำให้พวกเค้ารู้สึกอับอาย  ซึ่งหลายคน (รวมถึงตัว Britney เอง)  ได้ตั้งข้อสังเกตว่า  พวกเค้าเพิ่งจะแสดงทีท่าต่อต้านเธอออกสื่อเมื่อเข้าใกล้กำหนดสิ้นสุดการส่งเสียค่าเลี้ยงดูสี่หมื่นดอลลาร์ต่อเดือน  ล่าสุด ความสัมพันธ์ของแม่ลูกยิ่งดูเหินห่างออกไปอีกเมื่อ Kevin ตัดสินใจย้ายครอบครัวไปใช้ชีวิตที่ Hawaii  

• ย้อนไปในยุค 90s นางเอกชื่อดังอย่าง Uma Thurman ยังเป็นเพียงนางเอกดาวรุ่งวัย 18 ได้พบกับ Gary Oldman พระเอก A List ที่มีอายุมากกว่าเธอ12 ปี ไม่นานจากนั้นก็ตกลงใจแต่งงานกัน ชีวิตคู่ถึงจุดจบภายในเวลาสองปี ซึ่งเธอยอมรับว่า มันเป็นเรื่องผิดพลาดเพราะความขาดประสบการณ์เรื่องความสัมพันธ์ 
• Drew Marrymore วัย 19 ที่มีภาพลักษณ์ wild child ที่แต่งงานกับหนุ่มเจ้าของบาร์วัยฉกรรจ์ ทั้งๆที่คบกันมาได้แค่เดือนเศษๆเท่านั้น แม้ว่าจะประกาศออกสื่อว่ากำลังอินเลิฟ แต่สองเดือนต่อมาก็ขอหย่าแบบด่วนจี๋ และเธอรู้ตัวว่าตัดสินใจพลาดไปแล้วตั้งแต่วันแรกที่แต่งงานกัน 
•  Sofia Bush ที่ตัดสินใจแต่งงานกับ Chad Michael Murray หลังจากพบรักกันในกองถ่ายซีรีส์ One Tree Hill และแต่งงานเพียง 5 เดือนก็แยกทางเพราะมาแน่ใจจริงๆว่า ไม่ได้ต้องการแต่งงานแต่อย่างใด แต่สถานการณ์ในตอนนั้นทำให้เธอตามน้ำไป ซึ่งเจ้าตัวได้อธิบายว่า อายุเพิ่ง 22 และยังโง่เขลาไม่ประสีประสา   
• Milla Jovovich ที่อายุเพียง 16 ปีแต่งงานกับพระเอกรุ่นพี่ที่รับบทคู่ขวัญในหนัง  แม่ของเธอรีบยื่นคำร้องให้การแต่งงานครั้งนี้เป็นโมฆะเพราะเธอเป็นผู้เยาว์ที่ต้องได้รับคำนินยอมจากผู้ปกครอง  เธอเปิดเผยในภายหลังว่า เป็นการกระทำเพื่อประชดแม่ เพราะรู้สึกอึดอัดคับข้องใจที่เธอทำงานมาตั้งแต่เป็นเด็กเก้าขวบ แต่กลับไม่ได้รับอนุญาติให้พก ATM เพื่อใช้จ่ายเงินที่หามาเองได้

ซึ่งตัวอย่างการหย่าร้างเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ในวงการแต่อย่างใด ยังมีคนดังอีกหลายคนที่แต่งเร็ว-เลิกเร็ว และให้เหตุผลคล้ายๆกัยว่า  หย่าร้างเพราะยังขาดวุฒิภาวะในการไตร่ตรองเรื่องการใช้ชีวิตคู่

อาจจะเป็นเรื่องปกติเมื่อแฟนๆยึดติดกับบทบาทของนักแสดงเด็กชื่อดังจนรู้สึกตามไม่ทันเมื่อพวกเค้าเติบโตและใช้ชีวิตแบบผู้ใหญ่เต็มตัว  แต่เมื่อเป็นการประกาศหมั้นหมายจากนางเอกวัยทีน  ปฏิกิริยาจากโลกออนไลน์อื้ออึงไปด้วยเสียงถกเถียงว่า นี่คือเรื่องที่สมควรแสดงความยินดีด้วยรู้าึกเห็นใจ   บางคนถึงกับปรามาสไว้ว่า ให้รอการหย่าร้างภายในเร็ววันไว้ได้เลย


ในสายตาของชาวเน็ทหลายคน ข่าวสละโสดของ Millie Bobby Brown ฟังดูสุ่มเสี่ยงต่อการหย่าร้างในอนาคตอันเร็ววัน และเปรียบเทียบกับชีวิตตัวเองว่า ในวัย 19 ก็เพิ่งจะอยู่ในวัยเรียนและล่องลอยกับการค้นหาตัวตน สำหรับหนุ่มสาววัยรุ่นทั่วไปนั้นต่างก็มีเวลาเหลือเฟือในการตักตวงประสบการณ์จากการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่แทนที่จะอุทิศตัวให้กับชีวิตคู่ ในขณะเดียวกัน ก็มีผู้เห็นต่างว่า นางเอกวัย 19 ที่ทำงานหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัวมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กหญิงวัยใสย่อมมีวุฒิภาวะแตกต่างจากเด็กวัยรุ่นในรั้วโรงเรียนทั่วไป เธอเผยถึงความสัมพันธ์ที่ดู heathy กับแฟนหนุ่มที่อายุใกล้เคียงกัน เขาดูไม่เหมือนกับผู้ชายประวัติเสียหาย และทั้งสองฝ่ายต่างมีสถานะทางการเงินมั่นคง ถึงจะวางแผนสละโสดเร็วกว่าคู่รักคนดังในวงการไปหลายปี ก็ไม่ได้หมายความว่า จะมีใบหย่าโบกสะบัดรออยู่ปลายทาง

เพียงสองปีที่แล้ว Millie ถูกดึงไปพัวพันกับข่าวอื้อฉาว เมื่ออดีตแฟนที่เป็นหนุ่มวัยยี่สิบประจานเธอผ่าน social media ว่า มีความสัมพันธ์กับเธอในระหว่างที่เธออายุ 16 ปี เท่านั้น และยังระบุว่า เขาย้ายไปอาศัยในบ้านเดียวกับนางเอกวัยทีนและมีความสัมพันธ์ทางเพศกันโดยที่พ่อแม่ของเธอรับรู้  ซึ่งมีรายงานตามมาว่า ในรัฐที่ Millie พำนักอยู่นั้น อายุของเธอก็ไม่ถือว่าเป็นการกระทำชำเราผู้เยาว์ ว่า (ส่วนรัฐอื่นๆกำหนด age of consent ไว้ที่ 18 ปี)   สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นได้สร้างความอับอายและความเจ็บปวดฝังใจให้กับ Millie จนต้องเก็บตัวเยียวยาตัวเองเป็นปี ส่วนพ่อแม่ของเธอก็ถูกชาวเน็ทตั้งคำถามว่า พวกเค้าปล่อยให้ชายวัยเกินยี่สิบ groom ลูกสาวคนดังได้อย่างไร?  รวมถึงกล่าวหาว่า ฝ่ายผู้ใหญ่ผู้ควรดูแลและนำทางผู้เยาว์ให้ใช้ชีวิตอย่างเหมาะสมนั้นเอาหูไปนาเอาตาไปไร่เพราะไม่ต้องการขัดใจคนที่รับหน้าที่หารายได้เลี้ยงดูครอบครัว  อันเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นกับอดีตนักแสดงเด็กที่ใช้ชีวิตท่ามกลางสิ่งยั่วยุโดยที่ไม่ถูกเหนี่ยวรั้งทำให้หลงทางผิดไปแล้วหลายคน  


แต่ถึงแม้จะถูกประจานเรื่องความสัมพันธ์ที่ดูไม่เหมาะสมในสายตาสังคม แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่กระทบกับความรุ่งโรจน์ทางอาชีพทางการงานของเธอ เนื่องจากหลายคนมองว่า เธอคือเหยื่อที่ถูกคนไม่หวังดีต้อนให้จนมุมในสถานการณ์นี้ รวมถึงข้อเท็จจริงที่ว่า พวกเราต่างรู้เห็นเรื่องราวของผู้เยาว์ที่มีเพศสัมพันธ์กันตั้งแต่สมัยโบราณ ไม่สามารถแยกออกจากวัยรุ่นที่อยากรู้อยากลองไปได้ เธอยังมีภาพลักษณ์ของนักแสดงที่ทุ่มเทกับการทำงาน ห่างไกลจากพฤติกรรมอื้อฉาวแบบดาราวัยทีนเจ้าปัญหาในวงการ Hollywood

หนึ่งปีต่อมา Millie ได้เปิดใจที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เธอเป็นเพียงมนุษย์ที่ตัดสินใจผิดพลาดได้ และในที่สุด เธอก็พร้อมจะพลิกชีวิตเข้าสู่บทใหม่ เธอเปิดตัวความรักกับ Jake (ลูกชายของ Jon Bon Jovi ศิลปินดังที่มีทรัพย์สินหลายร้อยล้านดอลลาร์) ภาพความหวานตามประสาคู่รักหนุ่มสาวนั้นทำให้เกิดเสียงตอบรับในแง่บวก แฟนๆต่างยินดีที่เธอ move on จากความประสบการณ์ toxic มาพบรักกับชายหนุ่มที่ดูดีต่อใจ แต่ก็ไม่คาดว่า พวกเค้าจะพัฒนาความสัมพันธ์ไปในขั้นจริงจังถึงขั้นวางแผนแต่งงานกัน

เมื่อทั้งสองเปิดเผยอย่างมีความสุขล้นใจว่า ตกลงใจหมั้นหมายกัน ก็เรียกเสียงวิจารณ์จากชาวเน็ทว่า พวกเค้ายังเด็กเกินกว่าจะแต่งงาน แม้ว่าจะดูรักกันมากมายขนาดไหน ก็เตือนว่า ก่อนจะเลื่อนสถานะเปH
นสามีภรรยา ก็ควรใช้เวลาหมั้นกันอีกหลายๆปี เพื่อศึกษาดูใจให้ถ่องแท้ แต่ดูเหมือนว่า Millie และ Jake อาจจะไม่ต้องการรอคอยถึงขนาดนั้น เพราะพวกเค้าอยู่ในขั้นตอนวางแผนพิธีวิวาห์ และกำลังตัดสินใจเลือกดีไซน์เนอร์ที่จะตัดชุดเจ้าสาวแสนสวย

เสียงวิพากษ์วิจารณ์เรื่องลูกชายที่เพิ่งจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยไปไม่นานวางแผนแต่งงานกับนักแสดงวัยรุ่นชื่อดังทำให้ Jon Bon Jovi ได้รับคำถามว่า รู้สึกวิตกกังวลหรือไม่ในประเด็นความอ่อนเยาว์ของลูกชายและว่าที่ลูกสะใภ้ นักดนตรีร็อคในตำนานได้แสดงความสนับสนุนการหมั้นหมายครั้งนี้ว่า

"ผมไม่รู้หรอกนะว่าเรื่องอายุมันเป็นเรื่องสำคัญรึเปล่า มันสำคัญเมื่อเราพบคู่ครองที่เป็นคนที่ใช่และสามารถเติบโตไปด้วยกัน นี่คงเป็นคำแนะนำที่ผมจะให้ได้ เพราะการเติบโตไปด้วยกันเป็นสิ่งที่ชาญฉลาด และผมว่า ลูกๆทุกคนของผมได้ค้นพบใครบางคนที่พวกเค้าเชื่อว่าจะเติบโตไปด้วยกันได้ และเราต่างชื่นชอบพวกเค้าเช่นเดียวกัน"

แม้จะแชร์ภาพความหวานให้ผู้คนติดตามทาง Instgram และออกงานคู่กันบ้าง แต่ Millie และJake นับเป็นคู่รัก low key ของ Hollywood จึงไม่ปรากฏรายละเอียดต่างๆในเรื่องความสัมพันธ์ชัดเจนนัก นางเอกสาวอาจจะเผยข้อมูลเล็กๆน้อยๆ ว่า เพียงช่วงเริ่มต้นคบกัน เธอก็รู้ว่า นี่คือคนที่เธออยากจะใช้ชีวิตด้วยตลอดไป จึงไม่ต้องคิดใคร่ครวญให้มากมายที่จะตอบรับคำขอแต่งงาน และเธอยึดเส้นทางความรักของผู้ใหญ่ทั้งสองครอบครัวเป็นแบบอย่าง"

"เราทั้งสองต่างก็มีพ่อแม่ที่ครองคู่กันมาเนิ่นนาน พ่อแม่ของฉันอยู่ด้วยกันตั้งแต่พวกเค้ายังอายุน้อย ดังนั้นฉันจึงมีต้นแบบที่ดีงามในเรื่องความสัมพันธ์"

การประกาศหมั้นหมายของ Justin Bieber และ  Hailey Baldwin (นามสกุลเดิม) ได้สร้างข่าวลือมากมายจากข้อสันนิษฐานเรื่องรักสามเส้า จาก timeline ความสัมพันธ์ที่แสดงการ move on รวดเร็วสายฟ้าฟาด  ไม่กี่เดือนก่อน แฟนๆต่างออกอาการปลื้มปริ่มที่เห็นเขาหวนกลับไปคืนดีกับ Selena Gomez  แต่เมื่อห่างกันไปอีกครั้ง ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เว้นช่วง หันไปหวานกับอดีตคนรักที่รักๆเลิกๆกันมาหลายครั้ง  แต่ในตอนนั้นคงไม่มีใครคิดว่า  เธอจะกลายมาเป็นภรรยาที่อยู่เคียงข้าง Justin มาได้ 5 ปีแล้ว

คู่นี้ผ่านกระแสความเกลียดชังจาก haters อย่างต่อเนื่อง  แม้ว่า Hailey จะตัดสินใจออกมาเคลียร์ข้อกล่าวหาเรื่องฉกฉวย Justin มาจาก Selena ด้วยการยืนยันหนักแน่นว่า เธอไม่เคยมีความสัมพันธ์กับคนที่มีเจ้าของ  ก่อนจะเริ่มคบกัน เธอต้องเช็คให้แน่ใจว่า ฝ่ายชายโสดสนิทไม่ได้มีโลกสองใบ แต่ดราม่าระหว่างแฟนด้อมสองฝั่งนั้นดูจะไม่จบลงไปง่ายๆ  ยังมีคนจับผิดการแสดงออกของฝ่าย 'คนเก่า' และ 'คนปัจจุบัน' มาโจมตีกัน   ทำให้มีเสียงวิจารณ์ว่า เมื่อพิจารณาวัยของคู่ 'Jailey' และแรงกดดันจากดราม่าในโลกออนไลน์ เมื่อได้เห็นว่า ชีวิตคู่ของพวกเค้ายังราบรื่นไร้ข่าวหย่าร้าง มันก็ดูเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของบางคนซะด้วยซ้ำ

Hailey ยอมรับว่า การแต่งงานตอนอายุ 21 นั้น ฟังดูอ่อนเยาว์น่าเหลือเชื่อ "ถ้าให้พูดออกมาดังๆ มันเกือบจะฟังดูเป็นเรื่องน่าขำ แต่สำหรับคนแบบฉันและ Justin มนมีความแตกต่างออกไป เมื่อเปรียบกับคนวัยเดียวกัน เราเรียนรู้อะไรมามากมาย  เราใช้ชีวิตมามากพอที่จะรู้ดีว่าอะไรคิือสิ่งที่เราต้องการ"

เธอชี้ว่า พวกเค้าต่างมองอนาคตไปในทิศทางเดียวกัน นับตั้งแต่ยังคบกันเป็นเพื่อน ก็เคยเผยความในใจเรื่องอยากแต่งงานตั้งแต่ยังเป็นหนุ่มสาว มันจึงเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงพวกเค้าเข้าหากันอย่างปฏิเสธไม่ได้

"เราเคยพูดคุยกันเรื่องที่เราอยากจะแต่งงานสร้างชีวิตครอบครัวตอนที่อายุน้อย เป็นหัวข้อที่เราคุยกันก่อนที่จะรู้ตัวว่าเราอยากจะใช้ชีวิตด้วยกันซะอีก"

Justin ที่เติบโตมาจากครอบครัวที่พ่อแม่เลิกรากันตั้งแต่เด็กๆ เขามีความฝันมาเนิ่นนานหลายปีถึงการสร้างครอบครัวที่อบอุ่น ตอนที่ยังเป็นศิลปินหน้าใสวัย 17 เขาได้เผยความตั้งใจว่า เขามองภาพตัวเองในอนาคตที่แต่งงานตอนอายุ 25-26 เพราะอยากจะเป็นคุณพ่อวัยหนุ่มแน่นที่สามารถสร้างความสำเร็จในสิ่งที่เขาต้องการจะทำ

หากเป็น romance ในนิยาย การแต่งงานกับ superstar ที่ถูกยกให้เป็นขวัญใจของแฟนเกิร์ลทั่วโลกอาจจะเป็นเรื่องชวนฝัน   แต่ชีวิตคู่ในความเป็นจริงมาพร้อมกับอุปสรรคหนักหน่วง ไม่เพียงแต่จะต้องเผชิญกับ hate comments ไม่หยุดหย่อน  การรับมือกับปัญหาความเจ็บป่วยทางจิตใจของ Justin ยังเป็นเรื่องยากเย็น  เขาอาจจะยกให้ภรรยาเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้ลุกมาปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต ลดละพฤติกรรมแบบคนดังเจ้าปัญหาที่กลายเป็นข่าวฉาวมาหลายครั้งหลายหน  เมื่อพิสูจน์ตัวว่าเปลี่ยนแปลงตัวเองไปแล้วจริงๆ จนทำให้ Hailey ตอบรับคำขอแต่งงาน   แต่ในปีแรกที่แต่งงานก็ต้องฝ่าฟันกับความยากลำบากที่เกิดขึ้นจากความเจ็บปวดฝังใจของ Justin จนถึงจุดที่ Hailey ต้องระบายความทุกข์ใจกับแม่ว่า ทนต่อไปไม่ไหวแล้ว  แต่ในที่สุดก็เลือกจะเป็นกำลังใจให้สามีอยู่ไม่ห่างกัน

"ลองนึกภาพถึงการทอดทิ้งใครสักคนไปตอนที่พวกเค้ากำลังพบกับช่วงเวลาที่ย่ำแย่ที่สุดในชีวิตดูสิ ฉันไม่ใช่คนประเภทนั้น ฉันจะคอยอยู่ข้างๆเสมอไม่ว่าเรื่องราวจะลงเอยเช่นไร มันเป็นเรื่องหนักหนาสาหัสเลยล่ะ มีวันคืนที่ฉันเอาแต่กังวล ไม่รู้ว่าเขาจะเป็นอะไรไปรึเปล่า แต่ลึกลงไปในใจของฉันก็บอกตัวเองว่า เขาจะผ่านมันไปได้ เพียงแต่ฉันไม่รู้ว่า มันต้องใช้เวลานานเท่าไรเขาจึงจะดีขึ้น"

ทุกวันนี้  ความสัมพันธ์ของทั้งสองก็ยังดูไปได้ดีและดูไม่ห่างจากกันไปไหน แม้ปัญหาทางสุขภาพจะทำให้ Justin หายไปจาก spotlight ได้พักใหญ่ แต่ก็แชร์ภาพการใช้ชีวิตกับ Hailey ทาง Instagram อยู่เรื่อยๆ  แต่หล่องคอมเมนท์ไม่เคยปราศจากถ้อยคำปรามาสว่าพวกเค้าพยายามสร้างภาพสามีภรรยาสุขสันต์ทั้งๆ มีชีวิตคู่จอมปลอม  และข้อกล่าวหาว่า Hailey เป็นผู้อยู่เบื้องหลังโพสต์หวานแหววทาง account ของ Justin   แม้แต่คำพูดอวยพรครบรอบแต่งงานปีที่  5 ก็ถูก haters โจมตีว่า Justin ไม่ได้เป็นคนเขียนเอง  แต่เมื่อลองไล่เรียงแล้วก็พบว่า ภาพที่ปรากฎทาง social media นั้น ตรงกับ timeline การเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ  ทั้งเดทในเมืองใหญ่หรือทริปพักผ่อนหย่อนใจในต่างประเทศ  มีภาพตัวติดกันในช่วง honeymoon อย่างไร  5 ปีต่อมาก็ไม่ได้แตกต่างกันนัก  

ไม่ว่าใครต่างมองว่า เรื่องราวความรักของพระเอกชาวอังกฤษคนนี้ไม่ได้พบเห็นกันได้บ่อยนัก แม้คู่รักต่างวันจะเกิดขึ้นในวงการบันเทิงมาแต่ไหนแต่ไร แต่พวกเรามักคุ้นเคยกับภาพของคนดังหนุ่มวัยกลางคนที่ควงสาวสวยรุ่นราวคราวลูก หรือหากเป็นคู่ที่ฝ่ายหญิงมีวัยอาวุโสกว่าหลายปี ฝ่ายชายจะถูกเปรียบเป็น boy toy ที่เข้ามาคบกันแบบฉาบฉวย เพียงไม่นานก็แยกจาก แต่ความสัมพันธ์มั่นคงของ Aaron กับภรรยาผู้กำกับที่แก่กว่า 23 ปีนั้นดูแตกต่างออกไป เขาพบกับเธอระหว่างการถ่ายหนังและตกหลุมรักอย่างรวดเร็ว  นอกจากนั้น เธอยังมีลูกสองคนจากสามีคนแรกอีกด้วย  สำหรับบางคน เรื่องราวของเด็กหนุ่มวัยเพิ่งพ้นรั้วโรงเรียนมัธยมที่จริงจังทุ่มเทกับความสัมพันธ์กับผู้หญิงวัยใกล้เคียงกับแม่เป็นเรื่องที่ทำใจยอมรับได้ยาก  ยิ่งพวกเค้า speed ขั้นตอนความสัมพันธ์จนมีลูกด้วยกันอย่างรวดเร็ว  ผู้คนในสังคมยิ่งจ้องมองด้วยสายตาอคติ

ในปี 2009 หนัง Nowhere Boy ได้สร้างชื่อเสียงให้กับ Aaron จนมีสถานะพระเอกดาวรุ่ง แต่สิ่งที่สื่อกอสสิปให้ความสนใจคือการประกาศหมั้นหมายกับ Sam Taylor-Wood ผู้กำกับวัย 42 ระหว่างที่โพรโมทหนัง สร้างความฮือฮาเรื่องช่องว่างแห่งวัย และความอ่อนเยาว์ของฝ่ายชาย   ไม่กี่เดือนจากนั้น ตัวแทนของทั้งสองก็เปิดเผยว่า เธอกำลังตั้งครรภ์ลูกของ Aaron   ข่าวเรื่องนี้จุดประเด็นโจทตีในโลกออนไลน์ว่า  ความสัมพันธ์ของพวกเค้าเข้าข่าย grooming หรือไม่?  แม้ที่ประเทศอังกฤษ เมื่อพ้นอายุ 18 ไปแล้วจะไม่ใช่ผู้เยาว์อีกต่อไป (ส่วน age of consent คือ 16 ปี) แต่เป็นเวลาเนิ่นนานหลายปีที่ Sam ต้องเผชิญกับคำครหาว่าเป็นไก่แก่แม่ปลาช่อนที่ล่อลวงเด็กหนุ่มให้มาติดกับด้วยการรับผิดชอบแต่งงาน  บ้างก็สันนิษฐานว่า เธอใช้อิทธิพลผู้กำกับที่มี power dynamic ในรูปแบบเจ้านายและผู้ใต้บังคัญบัญชาต้อนให้เขาจนมุม

หลังจาก Aaron โด่งดังมากขึ้นจากบทบาท Kick-Ass ความรักต่างวัยของเขาก็ยิ่งถูกจ้องจับผิด เขารับบทเป็นฮีโร่หนุ่มวัยมัธยมประชันบทบาทคู่กับสาวใส Chloë Grace Moretz แต่ในชีวิตจริง แม่ของลูกนั้นมีวัยผ่านหลัก 4 ไปแล้ว แต่ท่ามกลางเสียงวิพากษ์ว์จารณ์ในแง่ลบ ทั้งสองก็เดินหน้าเข้าพิธีวิวาห์แบบไม่หวั่นต่อการถูกพิพากษาจากสังคมและยังตัดสินใจใช้นามสกุลกันและกัน เมื่อเปลี่ยนสถานะเป็นสามีภรรยากัน Aaron ที่เพิ่งจะอายุ 22 ปีได้กลายเป็นคุณพ่อลูกสามทันที เมื่อเปรียบเทียบวัยของ Aaron กับลูกสาวคนโตจากการแต่งงานครั้งแรกของ Sam ก็ยิ่งทำให้ผู้คนซุบซิบนินทา เพราะเขามีอายุมากกว่าลูกเลี้ยงแค่ 8 ปี ! 4 ปีต่อมา ครอบครัว Taylor Johnson ก็ต้อนรับสมาชิกใหม่เป็นลูกสาวคนสุดท้อง และดูเหมือนว่าครอบครัวนี้จะใช้ชีวิตด้วยความรักและอบอุ่นสมใจพระเอกดังที่ฝันจะมีลูกหลายคนมานาน

ล่าสุดเมื่อนิตยสาร Esquire ตั้งข้อสังเเกตว่า ความสัมพันธ์กับภรรยาที่อายุมากกว่าไปได้สวยนั้นมาจากรากฐานที่ได้ร่วมงานสร้างหนังด้วยกันหรือไม่ เขาได้ปฏิเสธว่า ถึงจะเคยทำงานเข้าขากันระหว่างถ่ายทำหนัง แต่มันไม่ใช่เหตุผลที่เขาตกหลุมรักเธอ   ความรู้สึกของเขามาจากสัญชาตญาณ  ตั้งแต่ที่พบกันก็คิดเสมอว่าอยากมีครอบครัวใหญ่ หรืออันที่จริง ตั้งแต่เป็นเด็กชายวัย 10-11 ขวบ ก็ฝันแล้วว่าอยากเป็นพ่อวัยรุ่นที่มีลูกหลายคน

"ผมไม่มีอะไรต้องปิดบัง และสิ่งที่เรามีร่วมกันทำให้รู้สึกมั่นคงปลอดภัย แต่ผมจะไม่ปล่อยให้คนอื่นเข้าถึงสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับผม"

"ผมสร้างความความสุขจากสิ่งที่ดูธรรมดาทั่วไป ช่วยลูกๆเตรียมตัวในตอนเช้า พาพวกเค้าไปส่งที่โรงเรียนและร่วมกิจกรรมต่างๆ แค่นี้ก็มากพอ มันได้ช่วยหล่อเลี้ยงจิตใจของผมแล้ว"

ถึงแม้ว่า Aaron จะได้เปิดเผยความรักในตัวภรรยาและลูกๆมาโดยตลอด และอธิบายชัดเจนว่า จิตใจภายในของเขาโตเป็นผู้ใหญ่กว่าวัยเพราะทำงานแสดงหาเลี้ยงครอบครัวมาตั้งแต่เด็กๆ เขาเคยโต้กลับกระแสต่อต้านเรื่องช่องว่างของวัยที่เกิดขึ้นตั้งแต่เริ่มมีชื่อเสียงว่า การถูกจับจ้องตั้งคำถามไม่ชวนฟังคือการจาบจ้วงกันจนทำให้รู้สึกอยากจะทึ้งหัวคนถามให้หลุดไปซะ แต่ถึงเขารับมือกับเรื่องนี้จนเริ่มปล่อยวางได้แล้ว ภรรยาของเขายังตกเป็นเป้าหมาย cyberbullying ไม่เปลี่ยน

เห็นได้จาก viral ที่เกิดจากการปล่อย fake news ทาง TikTok ว่า Aaron แอบมีอะไรกับนางเอกสาว Joey King ในช่วงโพรโมทหนัง Bullet Train ทั้งๆที่เป็นการอ้างข้อมูลแบบไร้ที่มาที่ไป สื่อบันเทิงไม่ได้ออกมาร่วมยืนยันแหล่งข่าว หลังจากนั้นก็มีภาพยืนยันว่า Aaron ได้พาภรรยาไปร่วมทริปนี้เพื่อโพรโมทหนังออกงานพรมแดงด้วยกัน ส่วน Joey ก็มีสถานะไม่โสด เพิ่งจะเข้าพิธีวิวาห์ไปเมื่อไม่นานมานี้ แต่ก็เกิดเป็นกระแสวิจารณ์ดุเดือด เหยียดหยามว่า Sam เป็นยายแก่ที่ใช้ข้อได้เปรียบจากอำนาจของผู้กำกับหนังเข้าหาพระเอกวัยรุ่นที่อ่อนต่อโลก  และประนามว่า  ผู้หญิงวัยสี่สิบกว่าๆ ที่มีความสัมพันธ์กับเด็กหนุ่มวัย 19 จนตั้งครรภ์เป็นเรื่องที่น่ารังเกียจ และเธอควรจะถูก cancel จากกระแส MeToo เหมือนกับนักสร้างหนังชายจอมหื่นที่ล่วงละเมิดนักแสดงหญิง  นอกจากนั้น ยังมีคนที่ประกาศไม่อ้อมค้อมว่า รับไม่ได้เมื่อได้เห็นพระเอกที่หล่อเหลาหุ่น sexy มีความสัมพันธ์ยาวนานกับผู้หญิงวัยแม่ที่ไม่ได้สะสวยชวนเร้าใจเหมือนกับสาวแซ่บตัวแม่ของ Hollywood 

เจอเสียงวิจารณ์กดดันหนักขนาดไหน แต่ความรักของคู่นี้ยัง going strong !  สำหรับมาตรฐานชาว Hollywood ชีวิตแต่งงานที่ยาวกว่าสิบปีนั้นถือว่ามากพอจะบ่งชี้ได้ว่า พวกเค้าคือของจริง ไม่ได้ใช้ชีวิตด้วยกันมาจนทุกวันนี้เพราะฝ่ายชายยังเป็นวัยรุ่นหัวอ่อน   Aaron ในวัย 33 ไม่ได้เป็นพระเอกโนเนมอีกต่อไป เขาสร้างสมชื่อเสียงขึ้นเรื่อยๆจนได้ได้รับเลือให้แสดงนำในหนัง Marvel superhero และเคยคว้ารางวัลลูกโลกทองคำมาครองแล้ว  อนาคตการงานที่รออยู่ดูสดใสด้วยความสามารถของเขาเอง  แต่ก็ยังมีผู้ตั้งข้อสงสัยว่า กาลเวลาและความโด่งดังจะเปลี่ยนใจคนจนกลายมาเป็นอุปสรรคความสัมพันธ์หรือไม่?