ชวนรำลึกลุคในความทรงจำของ 2nd generation K-Pop Idols

22 10
'CONCEPT' ...สิ่งสำคัญยิ่งยวดสำหรับอุตสาหกรรม K-Pop เริ่มตั้งแต่รูปลักษณ์ที่ต้องสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น ไม่ดูดาษดื่นซ้ำกับศิลปินคู่แข่งที่มีมากมายเป็นกองทัพ  เมื่อย้อนไปช่วงทศวรรษก่อนๆ ไอดอลเจนที่ 2 ที่ได้บุกเบิกเปิดเส้นทางความรุ่งโรจน์ของดนตรี K-Pop ขึ้นชื่อลือชาเรื่องลุคที่แสนโดดเด่นจนตราตรึงในความทรงจำและยังสร้างเทรนด์ยอดนิยม  จะมีศิลปินใดบ้างนั้น  มาติดตามกับเราได้เลยค่ะ


'แจจุง'ในลุค Mirotic

ความหล่อของแจจุงในยุค peak ของ TVXQ ตอนที่ยังมีสมาชิก 5 คนนั้นสร้างความแตกตื่นด้วย visual ที่เป๊ะเหนือจริง !   ปรากฏการณ์ความสำเร็จที่ทำให้แฟนๆทั้งในเกาหลีและต่างประเทศคลั่งไคล้ห้าหนุ่มไอดอลนั้นทำให้พวกเราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของพวกเค้าในหลากหลาย concept  แต่เชื่อว่า ลุคในช่วงโพรโมทเพลง Mirotic ยังตราตรึงในใจของติ่งเสมอ


ในยุคนั้น ตัวเรายังไม่รู้จักกับไอดอลที่รับตำแหน่ง image หรือ visual ของวง เพียงแต่สังเกตว่า หนุ่มหน้าสวยคนนี้มักจะยืนตรงกลาง ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายแบบหรือออกอีเวนท์ เขาดูเปล่างประกายด้วยลุคหนุ่ม metrosexual ทรงผมซอยไล่ระดับรับรูปหน้า แม้จะปรกตานิดๆแต่ก็ไม่สามารถปกปิดความสวยของดวงตาคู่นั้นได้ เสื้อผ้าของ boyband มักจะมาแบบเข้าเซ็ทกัน ซึ่งแจจุงดูโดดเด่นด้วย styling ที่จับ blazer ตัวยาวมาเข้าคู่กับกางเกงฟิตเอวค่อนข้างต่ำและสร้อยยาวเลยต่ำกว่าระดับสะดือนั้นยิ่งดึงโฟกัสสายตาไปที่ผิวเรียบเนียนและกล้ามท้องน่าสัมผัส

พลัง sex appeal อยู่ในระดับทำลายล้าง!  
เป็นการเปลี่ยนลุคแบบสุดขั้วเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเริ่มต้นสร้างชื่อเสียงที่เคยมาพร้อมกับ  concept ที่คล้ายกับวง Visual Kei จากญี่ปุ่น ทั้งทรงผม volume ชี้ฟูและแฟชั่นแนว glam rock ยุค 80s ช่วงเวลาห่างกันไม่กี่ปี แต่วิวัฒนาการความหล่อโดนใจนั้นเรียกว่ามาไกลลิบลับ  จากลุคที่แสนโด่งดังนี้ก็ทำให้มีคนเปิดประเด็นว่า  หากสลับเวลาให้แจจุงเดบิวท์ในยุคปัจจุบัน  เขาก็น่าจะกอบโกยความนิยมจากแฟนๆรุ่นใหม่จนกลายมาเป็นไอดอลแถวหน้าได้อยู่ดี
แจจุงยังปรากฏตัวในอีเวน์อย่างการให้สัมภาษณ์สื่อและงานประกาศรางวัลด้วยลุคเปิดอกเช่นนี้อีกหลายครั้ง  และสิ่งที่น่าสังเกตอีกอย่างคือ ในขณะที่ไอดอลยุคเดียวกันจะมีภาพในขณะออกอีเวนท์แบบหน้าลอยเพราะลงรองพื้นสีขาวกว่าสีผิวจริง เจอกล้องแล้วภาพออกมาสีหน้าตัดสีคอกันพรึ่บแต่แจจุงกลับรอด! (อาจจะเคยหน้าลอยมาก่อนหน้านี้บ้าง)  ทั้งผิวพรรณที่ใบหน้าและลำตัวดู dewy เนียนเสมอกันไม่หวั่นแสง flash  

นี่นับเป็นลุคที่พิสูจน์ถึงความ flawless ของไอดอลหนุ่มหน้าสวย เคยได้ยินชาวเน็ทพูดมาว่า ผิวพรรณของเขาดีมากจนผู้หญิงที่ทุ่มเทดูแลตัวเองก็ต้องรู้สึกอิจฉา  เมื่อลองคิดถึง reaction ของแฟนๆที่ได้เห็นตัวเป็นๆของแจจุงในการแสดงคอนเสิร์ตแล้วก็คงจะละลายกันไปเป็นแถบๆ

 blazer ไม่ติดกระดุมโชว์แผงอกรวมถึงเสื้อคอ V เว้าลึกเป็นลุคเก่งของวง TVXQ อยู่พักใหญ่  โดยเฉพาะแจจุงที่เปิดเผยผิวค่อนข้างมากกว่าคนอื่น พวกเค้าใส่เครื่องประดับจัดเต็ม ทั้งต่างหู กำไล สร้อยยาวที่โบกสะบัดไปพร้อมกับท่วงท่าพริ้วไหว  เสน่ห์แบบ flower boys ของห้าหนุ่มทำให้แฟนๆคลั่งไคล้เกินต้านทาน  ต้องยอมรับว่า นี่คือ fashion concept ที่เข้ากับบรรยากาศที่ sexy ของ Mirotic จริงๆ


'Brown Eyed Girls' ในลุค Abracadabra


เราคิดมาเสมอว่า  นี่คือ concept ที่โดดเด่นจนประสบความสำเร็จเหนือความคาดหมายแห่งยุค  ไอดอลสาวๆวงนี้มาจากค่ายที่ไม่ใหญ่โตในย่านกังนัม จุดขายของพวกเธอคือความเย้ายวนใจและดนตรีติดหูไม่ต่างจากวงไอดอล gen เดียวกัน  แต่คุณสมบัติพิเศษใดที่ทำให้พวกเธอ stand out จนชิงสปอทไลท์จากศิลปินค่ายยักษ์ใหญ่มาได้???
แน่นอนว่าท่าเต้น Sigeonbang chum หรือ The Saucy Dance จะได้รับความนิยมสูงลิบลิ่ว (ลามมาถึงเมืองไทยที่ติ่งหลายพันคนไปร่วมโยกสะโพกตามใน Korean Music Wave in Bangkok เมื่อสิบกว่าปีก่อน)  visual ของพวกเธอทั้งเผ็ดแซ่บไม่แตกต่างจากท่าเต้นเลย  ทุกคนมี character ที่เป็นเอกลักษณ์แยกกันได้ชัดเจน  ทุกคนสามารถ complete กันและกันจนทำให้เพลงนี้โดดเด่นเป็นที่สุด กลายเป็นตำนาน K-Pop ที่เด็กรุ่นหลังก็ยังรู้จัก


นารึชา นางพญาสวยเริ่ดเชิดหยิ่ง: ผมบ็อบดำสนิทปิดตาหนึ่งข้างและปากสีร้อนแรง
กาอิน ยั่วเย้าซุกซน: smoky eye แสนเซ็กซี่ และมักใส่ hot pants
จีอา ร่าเริงสดใสสไตล์ Gal ที่ฮาราจูกุ: ผิวแทนผมลอนไฮไลท์น้ำตาลทอง
มีรโย ห้าวหาญแข็งแรง: ผมรวบสูง ใส่กางเกง cut out สูง เด่นที่ accessories
ยุคนี้ไอดอลซอยผมไล่ระดับผมม้าปิดตาและเซ็ทให้มี volume กันหลายคน ถ้าเราเห็นทรงผมนี้ ก็มักจะทำให้นึกถึงภาพของนางแบบบนกล่องน้ำยาย้อมสีผมหรือไม่ก็แคตตาล็อกของสถาบันออกแบบทรงผม แต่มันเป็นลุคที่เข้ากับนารึชาและส่งเสริมให้เธอเป็นโดดเด่นที่สุด ดวงตากลมโตนั้นเพิ่มความ fierce เข้าไปด้วย eyeliner สวยกริบ  เราอาจจะเห็นดวงตาเธอแค่ข้างเดียว แต่ด้วยพลัง makeup ดุจมีมนต์สะกดจนหยุดมองไม่ได้   ถึงขนาดว่าแอบรู้สึกเสียดายนิดหน่อยที่เห็นนารึชาเปลี่ยนไปแต่งหน้าทำผมแบบอื่นตาม concept  ของเพลงใหม่
สมาชิกในวงรวมถึง backup dancers กรีดตากันทุกคน  แต่เพราะอะไร เมคอัพของกาอินจึงโด่งดังนัก?   เธอเป็นสาวตาชั้นเดียวผู้เดียวในวง และถูกยกให้เป็นตัวอย่างของไอดอลสาวทรงเสน่ห์ที่ไม่ทำศัลยกรรมตาสองชั้น  ทุกวันนี้ หากลองค้นหาแนวทางการแต่งหน้าสำหรับสาวตาหมวยทาง internet ก็จะพบภาพความสวยเริ่ดของกาอินจากยุค Abracadabra เธอดังมากๆจนแบรนด์เครื่องสำอางยื่นขอเสนอให้มาเป็นพรีเซนเตอร์  หากถามเรื่อง visual ของเธอว่ามีบทบาทมากเพียงใด? เมื่อได้เห็นเธอได้ซีนเต็มๆจากการเต้นเลื้อยลงไปที่พื้นและโมเมนท์ดึงเสื้อชวนหวิว ก็น่าจะชี้ชุดว่าเธอเป็นอาวุธเด็ดที่ทำให้เพลงนี้กลายเป็นตำนาน

ด้วยความที่ MV และ performance บนเวทีนั้นมีความเย้ายวนใจมาก โดยเฉพาะ MV ที่คนที่ยึดความคิด conservative ต่อต้านจากฉากที่ดูรุนแรงรวมถึงภาพบ่งบอกเรื่องความสัมพันธ์แบบหญิงรักหญิง ส่งผลให้วงจุดประเด็นถกเถียงเรื่องการนำเสนอเรื่องทางเพศว่าดูหมิ่นเหม่เกินไปหรือไม่? โดยเฉพาะกาอินที่ตกเป็นเป้าความสนใจจากสังคมเพราะภาพลักษณ์ sexy ไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น hot pants, ท่าเต้น และการรับบทนำที่ดูเร่าร้อนใน MV ถึงขนาดสื่อปล่อยข่าวว่าเธอดูหนังโป๊เพื่อบิวท์อารมณ์ก่อนถ่าย MV (เธออธิบายภายหลังว่า ดูหนัง erotic เรื่อง 9½ Weeks ไม่ใช่สื่อลามกเรท x) รวมกับเรือนร่างที่ผอมเพรียวที่เป็น beauty standard ของไอดอลหญิง ซึ่งในภายหลังเธอได้เปิดเผยว่า น้ำหนักไม่เกิน 45 kg และดูแลเรื่องไดเอทด้วยการกินอาหารมื้อเดียวต่อวันเท่านั้น ทำให้ K-netizen โจษจันว่า เธอผอมบางด้วยน้ำหนักในอุดมคติของสาวๆ และดูร้อนแรงที่สุดในวง ทั้งๆไม่ได้มีใบหน้าแบบพิมพ์นิยมเกาหลีและเคยถูกจิกกัดด้วยซ้ำว่า ตัวเล็กผอมเหมือนเด็กประถม แต่แรงดึงดูดทางเพศมาเต็ม

กาอินมีช่วงที่เนื้อหอมมากจน Psy ทาบทามไปถ่าย MV Gentleman และใช้ท่าเต้น Sigeonbang chum ของ Brown Eyed Girls เป็นท่าหลักของเพลง แม้จะไม่ได้รับความนิยมสูงเทียบเท่า Gangnam Style แต่ยอดเข้าชมทาง Youtube ก็สูงเกิน 1,500 ล้านครั้งไปแล้ว


พร็อพเด่นเป็นอีกโบนัสของ concept การแสดงเพลงนี้ แว่นสะท้อนแสงของมีรโยและไม้เท้าที่เธอหยิบขึ้นมาใช้ในช่วงแร็พนั้นดูมี impact ไม่ต่างจากการแสดงของไอดอลค่ายดัง   ไม่แน่ใจว่านี่คือลุคที่ได้รับอิทธิพลมาจากr shutter shades,ของ Kanye West ในปี 2008 รึเปล่า แต่แว่นที่ดู glam ขึ้นมาของมีรโยยิ่งส่งให้ท่อนแร็พของดูมีพลังขึ้น แม้จะใส่โชว์แค่ไม่กี่วินาทีก็โยนทิ้ง

Brow Eyed Girls ยังเป็นวงที่โดดเด่นเรื่องการทำสวยด้วยมีดหมอ พวกเธอเรียกเสียงสนับสนุนจากแฟนๆด้วย MV เพลง Plastic face ที่ดัดแปลงมากจาก Poker Face ของ Lady Gaga เพื่อยืนหยัดต่อต้าน shaming คนที่ทำศัลยกรรมด้วยอารมณ์ขัน แม้จะมีผู้คนที่เย้ยหยันพวกเธอด้วยรูปภาพ before surgery ในช่วง debut ว่าพวกเธอเป็นไอดอลสวยศัลย์ ส่วนเบ้าหน้าเก่าดูพื้นๆ แต่พวกเธอสามารถนำภาพนี้มาล้อเลียนตัวเองอย่างไม่หวั่น ประกาศลั่นว่าทำมาทั้งหน้าจ้า ก็แล้วไง? คนดังก็ทำกันทั้งวงการ ชี้เป้าสถานีกังนัมทางออกที่ 10 แบบที่รู้ๆกันว่า ซื้อกระเป๋าแบรนด์หรูยังแพงกว่าทำตาทำจมูก ยิ่งพาเพื่อนไปทำด้วยกันก็ได้ส่วนลด อย่าได้อับอายไปเลย ขอเพียงรู้สึกมั่นใจและพอใจก็เป็นพอ!

นอกเหนือจากลุคสวยแซ่บตรึงตราใจแล้ว ความ real และฮาแบบนี้จะหาได้อีกที่ไหน !

' Girls' Generation' ในลุค Gee

สำหรับติ่ง K-Pop ช่วงบุกเบิก  นี่คือภาพที่มีเสียงอย่างแท้จริง....
skinny jeans เคยเป็นไอเท็มสุดเทรนดี้ที่สาวๆจะต้องสอยมาหมุนเวียนเปลี่ยนใส่เป็น everyday look  พวกเราต่างก็คุ้นเคยกับกางเกงสี neutral (ขาว ดำ เทา เบจ) มากกว่า  แต่สำหรับ Gee era   ทั้งดนตรี catchy ที่ไม่สามารถเอาออกไปจากหัวได้และพลังความสดใส bubble gum ของแฟชั่นทำให้สาวๆวง SNSD ผงาดขึ้นเป็น trendsetter  ทรงอิทธิพลที่ทำให้ skinny jeans หลากสีสันขายดีในเกาหลี
ถ้าจะ Gee ให้สุดชีวิต จะต้องใส่รองเท้าส้นสูงแบบสาวๆทั้งเก้า  เทรนด์นี้ดังข้ามไปถึงญี่ปุ่นทำให้แบรนด์ Samantha Thavasa  ทาบทามพวกเธอเพื่อ collab  นำเสนอ skinny jeans line ใน  MV 'GALAXY SUPERNOVA 'เวอร์ชั่นญี่ปุ่น 4 ปีต่อมาหลังจาก Gee  ได้สร้างความสำเร็จในระดับปรากฏการณ์ ส่วนในประเทศ บรรดาแบรนด์ fast fashion  จากตะวันตกอย่าง GAP  ก็ส่งกางเกงหลายสีตอบรับเทรนด์  ที่สำคัญ ไม่ได้มีแต่สาวๆเกาหลีท่านั้นที่ปลื้มๆ skinny jeans แบบ Girls' Generation  ผู้ชายก็ขอร่วมอินด้วยเช่นกัน
ได้ยินมาว่า นี่เป็นไอเท็มที่ได้รับความนิยมค่อนข้างนาน ไม่ได้ขางหายไปตอนที่วงเปลี่ยน concept ใหม่ เนื่องจากแฟนๆต่างชื่นชมรูปร่างเพรียวบางและขาเรียวยาวของไอดอลสาววงนี้  ไม่ว่าจะเป็นตอนเต้นท่าแบ๊วหรือลุกนั่งยังไงก็ดูไร้ส่วนเกิน ยิ่งจับคู่กับ crop top จะเผยให้เห็นเอวคอดกิ่วที่เป็นความงามในอุดมคติ ใครใส่แล้วถูกทักว่าสวยเป๊ะเหมือนกับ Girls' Generation  ย่อมสร้างความภาคภูมิใจให้มากมาย

แต่ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปทำให้เด็กรุ่นใหม่ Gen Z  หลายคนมองว่า  skinny jeans เป็นของตกยุค  แม้แต่ยุนอาเองก็ยังต้องช็อคที่เคยเห็นคอมเมนท์จากวัยรุ่นว่า  กางเกงแบบ Girls' Generation เป็นไอเท็มที่แม่ชอบใส่! (แหม ยุนอาอายุแค่ 33 เองนะจ๊ะ อย่างมากก็เป็นวัยนูนา น้องอาจจะเป็น Gen Z รุ่นจิ๋ว)

'Rain' ในลุค Love Song

 Rain อาจจะโด่งดังสุดๆข้ามประเทศจากบทบาทพระเอก Full House   แต่กว่าจะสำเหนียกถึงความแซ่บของพี่เค้า...ก็ตอนได้เห็นผลงานเพลงนี่แหละ  จากช่วงเดบิวท์เคยเป็นสมาชิกบอยแบนด์ Fanclub แต่ไม่ประสบความสำเร็จนัก  พอเปลี่ยนมาโซโลแล้วเปรี้ยงปังขึ้นแท่น superstar จนถูกเปรียบเทียบว่าเป็น Justin Timberlake แห่งตะวันออก    แต่ในสายตาของเรา vibe ที่ดูเซ็กซี่เป็นผู้ใหญ่แบบ Usher มันดูชัดกว่า  เริ่มสัมผัสได้อย่างจริงจังจากซิงเกิ้ล It's Raining ที่สร้างความสั่นสะเทือนให้วงการด้วยเสียงครวญซี้ดดด...อ่าาาาา เพลงดังทะลุชาร์ททั้งในเกาหลีและเอเชียนตะวันออกเฉียงใต้ อย่างไรก็ตาม เรื่อง fashion concept นั้นยังดูเหมือนกับศิลปิน Pop และ R&B ฝั่ง USA ในยุคนั้น  ทั้งหมวกเสื้อกั๊กเปลือยแขน   กางเกงขากว้างเอวต่ำ  คาดเข็มขัดเส้นโต    หากให้พูดถึงลุคของ Rain ที่ตรึงตราใจเราแล้วล่ะก็  ต้องเป็น Love Story  เพลงอันดับ 1  ในปี 2010
เริ่มจาก makeup  .. เข้ายุค 2010s แล้ว  ติ่งในบ้านเราได้อ้าแขนต้อนรับบอยแบนด์มาเบียดแน่นในดวงใจ  คุ้นเคยกับ eye makeup แน่นๆจากไอดอลหนุ่มหน้าใสกันอยู่แล้ว  แต่พี่ Rain เพิ่ม gimmick ที่ขนตาปลอมด้านล่างตามเทรนด์ Mod ที่โด่งดังในยุค 60s  ลองนึกถึง Twiggy นางแบบในตำนานที่ดูแบ๊วคล้ายกับตุ๊กตา  ซึ่งขนตายาวเฟื้อยนี้จะดูสะดุดตาแม้ว่าจะมองเห็นจากไกลๆ


fashion concept ของ Love Song  จะมี depth ที่ค่อยๆเพิ่มความเร้าใจขึ้นมา แม้จะเป็นเพลงบัลลาดบาดอารมณ์  แต่เมื่อขึ้นชื่อว่า Rain  แฟนๆก็เตรียมรอคอยด้วยความระทึกได้เลย  เริ่มต้นจากลุคที่มีกลิ่นอาย combat  เพิ่มจุดเด่นด้วยปักระยิบระยับที่เสื้อเกราะ รองเท้า และหมวกเบสบอล  เห็นเพียงแค่นี้หลายคนก็เคยคิดว่า ก็เป็นแฟชั่นตามปกติของวงการ K-Pop นี่นา...
แต่ความอัศจรรย์บังเกิดเมื่อ Rain ถอดเสื้อนอกทิ้งและดึงเสื้อยืดขึ้นไปพาดรัดที่หลังต้นคอ  จากนั้นก็เลื้อย..ดึ๊บดึ๊บดึ๊บ สลับกับท่าทุบขาทุบอกด้วยความอัดอั้นตันใจ  กล้ามเนื้อสวยงามยิ่งดูเด่นชัดด้วยผลิตภัณฑ์ทาผิวมันเงาราวกับทำกิจกรรมใช้แรงเรียกเหงื่อมา ถึงจะเคยเห็นจากใน MV มาก่อน แต่เมื่อได้ชมภาพตอนแสดงในรายการดนตรีก็อดหายใจเฮือกยาวๆไม่ได้!   เนื้อหาของเพลงนั้นเศร้าบาดจิต ร่ำร้องขอให้คนรักที่จากไปได้หวนคืนมา  แต่วินาทีที่ดึงเสื้อยืดขึ้น แฟนๆก็อยากจะกระโจนเข้าไปเลื้อยด้วยแล้วจ้า

การใช้แฟชั่นเป็นพร็อพที่สร้างความเร้าใจคือจุดแข็งที่ทำให้ concept กลายเป็นตำนาน  เซเลบเกาหลี cover กันมาแล้วหลายครั้ง ตัวพี่ Rain ได้รับเชิญไปออกวาไรตี้โชว์ก็ได้รับคำเรียกร้องให้เต้นโชว์และสอนไอดอลรุ่นน้องมาแล้ว   แต่จะเร้าใจมากที่สุดย่อมต้องมีโมเมนท์ดึงเสื้อขึ้นแล้วโยกเอวพริ้วไหวต่อเนื่องโดยไม่ลนจนผิดจังหวะ (เราลองทำแล้ว เสื้อติดอยู่ที่หัวดึงไม่ลง!)  และถึงจะแสดงเพลงนี้ซ้ำแล้วซ้ำเเล่า แต่ไม่ใช่ว่าเขาจะโชว์เนื้อหนังใต้ร่สมผ้าไปซะทุกครั้ง  ขึ้นอยู่กับอีเวนท์ หากดูเป็นทางการขึ้นมาหน่อย อาจจะใส่สูทผูกไทด์เต้นเลื้อยโดยไม่ถอดเสื้อสักตัว  เคยใส่เครื่องแบบทหารร้องเพลงนี้แบบยืนนิ่งๆมาแล้วด้วยซ้ำ  แต่ถามว่าการแสดง Love Song ที่ไร้การเสื้อยืดโชว์กล้ามเนื้อจะเติมเต็มความโหยหาของผู้ชมได้รึเปล่า? อันนี้คงไม่ต้องพูดมากความ


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE