เมื่อคนดังเป็นเหยื่อ Body-Shaming จากน้ำมือสื่อ

16 5

หากคุณคิดว่า พวก trolls ที่บันเทิงใจกับการส่งข้อความเหยียดหยามรูปลักษณ์ของคนอื่นนั้นจะมาในรูปแบบนักเลงคีย์บอร์ดที่ปิดบังตัวตนในชีวิตจริง อาจจะต้องลองหันมามองสื่อบันเทิงกันชัดๆอีกครั้ง เพราะนี่คือ big bully ที่ใช้อำนาจทางการสื่อสารมวลชนเล็งเป้าหมายโจมตีเหยื่อคนดังแบบเปิดเผยตัวตนเต็มที่ ยิ่งใช้ถ้อยคำร้ายกาจสร้างกระแสความขัดแย้งได้มากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นเครื่องมือ click bait จนยอดเข้าชมพุ่งกระฉูด

แม้ในทุกวันนี้ ผู้คนจำนวนมากจะตื่นตัวเข้าร่วมรณรงค์สร้างความตระหนักรู้เรื่อง body positivity และคอยย้ำเตือนว่า body-shaming มันตกยุคไปแล้ว แต่ก็ยังมีสื่อใช้ platform ที่มีผู้ติดตามมากมายเป็นอาวุธทำร้ายจิตใจผู้อื่นโดยไม่มีทีท่าว่าจะเลิกรา


แฟน Bridgerton ปรี๊ดจัด  สื่ออังกฤษ body-shame นางเอกแรงมาก

part แรกของ Bridgerton ซีซันล่าสุดได้กวาดความนิยมทำลายสถิติเดิมของตัวเองได้อย่างสวยงาม เรียกเสียงอวยยศจากแฟนๆจนเกรียวกราวว่า  ทั้งสนุกตื่นเต้นและฟินจิกหมอนไปกับเรื่องราวความรักของสาวที่เคยถูกมองเป็นไม้ประดับกับหนุ่มเพื่อนบ้านสนิทที่ friendzone กันมานาน ยิ่งมีพลังกระตุ้นด้วยซีนร้อนฉ่า FC ก็รอคอยชม part ต่อไปแทบไม่ไหว!

ฝีไม้ลายมือการแสดงของ Nicola Coughlan ทำให้ จำนวนแฟนๆของเธอเพิ่มพูนขึ้น ผู้ชมหลายคนคอมเมนท์ว่า ติดใจซีรีส์ซีซันล่าสุดโดยไม่ได้โฟกัสกับเรื่อง body type ของนางเอก แม้ว่ารูปโฉมของ Penelope Featherington จะแตกต่างจากนางเอกซีรีส์โรมานซ์เรื่องอื่นๆ แต่ผู้ชมจำนวนมากก็หลงเสน่ห์ Gossip Girl แห่งยุค Regency ไปเต็มเปา

ไม่น่าสงสัยเลยว่า เมื่อสื่อดังจากอังกฤษ body-shame นางเอกหน้าเด็กแห่ง Bridgerton แฟนๆของเธอจะรู้สึกรับไม่ได้กับพฤติกรรมหยามเกียรตินี้ เพราะไม่เพียงแต่นักข่าวจะเหยียดว่าเธอเป็นสาวอ้วนที่ดูไม่สวยจนดูผิดที่ผิดทางซีรีส์ที่ม่ีแต่ตัวละครรูปโฉมงดงาม ก็ยังขยี้ว่า รูปร่างหน้าตาอย่างนี้ไม่น่าจะทำให้ผู้ชายโพรไฟล์สูงมาต้องตาต้องใจได้ ดุจดังจะประกาศว่า ผู้หญิงไซส์แบบ Nicola ไม่คู่ควรต่อโรมานซ์แสนหวาน

ไม่กี่วันก่อน Zoe Strimpel คอลัมนิสต์เจ้าของโพรไฟล์วิชาการระดับสูงได้ใช้พื้นที่บทความของนิตยสาร The Spectator (สื่อสิ่งพิมพ์ที่ก่อตั้งที่อังกฤษมาเกือบ 200 ปี) วิพากษ์วิจารณ์ Bridgerton ซีซัน 3 ว่า ในที่สุดสาวหุ่นตันตุ้ยนุ้ยอย่าง Penelope ก็สามารถดึงดูดใจหนุ่มที่เธอหมายปองสำเร็จ แต่ถึง Nicola จะสามารถสร้างความสนุกสนานบันเทิงใจ แต่จะทำเฉไฉไม่ได้เลยว่า รูปร่างหน้าตาอย่างเธอไม่ได้เป็นสวยแซ่บ ขนาดว่า Nicola ได้แต่งองค์ทรงเครื่องขึ้นปกนิตยสาร Harper’s Bazaar ก็ไม่สามารถปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ไม่สวยให้ดูเริ่ดขึ้นมาได้ เธออาจจะเป็นนางเอกที่เก่งกาจและอาจจะได้รับความชื่นชม แต่มันดูยากจะเป็นไปได้ที่รูปโฉมแบบเธอจะดึงดูดความสนใจจากหนุ่มสุดปิ๊งที่ทั้งหล่อและรวยอย่าง Colin Bridgerton จากมาตรฐาน Hollywood หุ่นของเธอไม่เซ็กซี่ เธออ้วนฉุ ถึงรูปร่างอ้วนจะไม่ใช่เรื่องแย่ แต่วิธีเล่าเรื่องราวให้มีรสชาติด้วยการนำเสนอความหลากหลายและความเท่าเทียมกันแบบนี้ขาดความสมจริง ยากที่จะทำใจให้เชื่อว่า สาวอ้วนจะสามารถชนะใจหนุ่มที่ดูเลิศเลอเหมือนเจ้าชาย

เอาเป็นว่า คอลัมน์นิสต์รายนี้ประดิษฐ์ถ้อยคำยาวเหยียดเพื่อเหยียบย่ำ Nicola และปิดบทความด้วยการทิ้งคำถามไว้ว่า

"Penelope ผู้น่าสงสารอาจถูกเขียนบทให้คว้าใจผู้ชายที่เธอหลงรักมาได้ แต่เธอจะชนะใจผู้ชมด้วยหรือไม่? " นี่คือการแสดงความสงสัยราวกับคนเขียนไม่เคยได้ยินข่าวเรื่องเรตติ้งพุ่งทะยานของ Bridgerton

แฟนๆซีรีส์ไม่ปล่อยให้ Nicola ถูกทำร้ายจิตใจฝ่ายเดียว พวกเค้าร่วมประนามการกระทำที่น่ารังเกียจของคอลัมริสต์และเรียกร้องให้ลบบทความเหยียดหยามศักดิ์ศรีความเป็นคนออกไปซะ และยังได้ชี้ให้เห็นถึงอคติของสื่อเจ้านี้ที่เอาแต่ชูประเด็นสาวอ้วนไม่ควรค่าพอที่จะทำให้หนุ่มหล่อรวยชาติตระกูลสูงหันมาเหลียวแล ทั้งๆที่เนื้อหาความเป็นมาความรักของคู่นี้ค่อยๆพัฒนาการจากความเป็นเพื่อนตั้งแต่ซีซันแรก พวกเค้าต่างเติบโตขึ้นมาเพื่อเรียนรู้ถึงการยอมรับในคุณค่าของตัวเองและค่อยๆเปิดใจเข้าหากัน รายละเอียดของซีรีส์มีมากมายให้รีวิว แต่กลับวนเวียนอยู่แต่เรื่องนางเอกไม่ hot พอ แฟนบางคนยังตามไปขุดคุ้ยประวัติผู้เขียนที่ประกาศตัวเป็นนักสิทธิสตรี แต่กลับแสดงพฤติกรรมสวนทางคำกล่าวอ้างด้วยการด้อยค่าเพื่อนหญิงด้วยกัน


แฟนๆของ Nicola ย้ำชัดว่า เธอเป็นสาวงามโดดเด่นไม่ได้น้อยหน้าตัวละครอื่นๆในซีรีส์ และเป็นตัวแทนของคนจากโลกแห่งความเป็นจริง  รวมถึงผู้ที่แชร์ประสบการณ์ส่วนตัวว่า สาวอวบที่สมหวังในความรักกับหนุ่มหล่อไม่ใช่แค่เรื่องในจินตนาการเท่านั้น แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นให้เห็นมาแล้ว ความรักของ Penelope และ Colin จึงไม่ใช่เรื่องที่ค้านสายตาจนยากจะทำใจเชื่อ สายตาที่มองผ่านเลนส์สีดอกกุหลาบของพระเอกอาจจะเหมือน reaction ของแฟนๆซีรีส์ เมื่อได้รู้จักกับนางเอกมากขึ้น ก็ค่อยๆตกหลุมรักเธอ


Kate Winslet รำลึกอดีตที่เจ็บปวด  สื่อเล่นงานหนักในช่วงปรากฏการณ์ Titanic

สำหรับคนที่เกิดทันปรากฏการณ์ความสำเร็จของหนัง Titanic อาจจะจดจำกันได้ว่า นางเอกต้องผ่านด่านเคราะห์ body-shaming อย่างหนักหน่วง แม้ว่าในยุคนั้นการใช้พื้นที่สังคมออนไลน์เพื่อส่งต่อความคิดเห็นจะยังไม่แพร่หลายจนเข้าถึงได้ทุกหนทุกแห่งเหมือนปัจจุบัน  แต่ Kate ก็ต้องกล้ำกลืนกับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมจากสื่อ แตกต่างจาก Leonardo ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเอกหล่อขั้นเทพที่ทำให้แฟนๆทั่วโลกคลั่งไคล้ ฝ่ายนางเอกคู่ขวัญกลับถูกเหยียดว่าอ้วนฉุจนดูไม่เหมาะสมกัน

วันเวลาผ่านไปนานหลายปี ความเจ็บปวดจากเรื่องนี้ก็ยังฝังใจเธออยู่ เธอได้อธิบายว่า fat-shaming ออกสื่อเป็นเรื่องธรรมดาสุดๆในยุคนั้น สำหรับนางเอกหน้าใหม่ที่ยังด้อยประสบการณ์ก็ยากจะรวบรวมความกล้าเพื่อจะต่อสู้เพื่อปกป้องตัวเองจากการ bully ของสื่อที่มีอิทธิพล

"ฉันถูกจ้องจับผิดเรื่องรูปลักษณ์มากมายหลายครั้ง โดนวิจารณ์มาหนักหน่วง อันที่จริงสื่อฝั่งอังกฤษนั่นแหละที่ใจร้ายใจดำกับฉันมากกว่าใคร  บอกตรงๆว่ามันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกำลังถูกบีบคั้นรังแก  ฉันได้แต่บอกตัวเองว่า นี่มันเลวร้ายมากและหวังว่ามันจะสิ้นสุดลงสักที ในที่สุดมันก็ผ่านไป แต่ก็ทำให้ฉันได้รู้ซึ้งว่า หากนี่เป็นสิ่งที่มากับความโด่งดัง ฉันก็ไม่ได้มีความพร้อมจะเป็นคนดังแม้แต่น้อย"


เมื่อได้หวนคิดถึงเสียงวิจารณ์โจมตีเรื่องรูปร่างของเธอในอดีต มันทำให้ Kate ตระหนักว่า เธอควรจะลุกขึ้นมาปกป้องตัวเองจากสื่อ toxic

"เพราะอะไรพวกเค้าจึงร้ายกาจกับฉันนัก? ฉันไม่ได้อ้วนซะด้วยซ้ำ"

"ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ฉันก็อยากจะตอกหน้านักข่าวกลับไปว่า อย่ามาทำกับฉันแบบนี้เด็ดขาด ฉันยังเป็นหญิงสาวอายุน้อย ร่างกายฉันเกิดกระบวนการความเปลี่ยนแปลง ฉันกำลังค้นหาตัวตน ฉันขาดความมั่นใจอย่างหนัก ฉันมีความหวาดหวั่น ขออย่าทำให้อะไรๆมันสาหัสไปกว่าเดิมเลย ขอบอกนะว่าการ bully อย่างนี้เป็นการทำทารุณทางจิตใจ"





"มันเกือบจะน่าขำอยู่แล้วที่แทบลอยด์เล่นงานฉันซะตรงไปตรงมาอย่างน่าสะพรึงได้ปานนั้น พวกเค้าจะวิจารณ์เรื่องไซส์ของฉัน พยายามตีตัวเลขน้ำหนักของฉัน แพร่ข่าวว่าฉันกำลังควบคุมอาหารด้วยวิธีใดบ้าง เอาแต่จับผิดติเตียนกัน พอได้อ่านข่าวพวกนี้ก็ทำให้รู้สึกจิตตกมากค่ะ"

"มันได้ทำลายความมั่นใจของฉันลงไป ตอนแรกฉันไม่อยากเข้าสู่วงการ Hollywood เพราะกังวลว่า หากสื่ออังกฤษจัดหนักถึงขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นที่อเมริกา ฉันจะถูกถล่มแรงสักขนาดไหน?"

Kate ได้พิสูจน์แล้วว่า ความสำเร็จในสถานะนักแสดงชั้นนำไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดรูปร่าง เธอยังพยายามปลูกฝังแนวคิด body positivity ให้กับลูกสาวที่เติบโตขึ้นมาเลือกสายอาชีพนักแสดงตามรอยแม่ เพื่อสร้างความมั่นใจได้ว่า ภูมิต้านทานจากความคิดแนวบวกจะทำให้ลูกสาวรับมือกับ body-shaming ได้อย่างเข้มแข็ง



หนึ่งในเรื่องโหดร้ายที่ Britney ต้องฝ่าฟันคือ body-shaming

ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปทำให้ผู้คนหันมาต่อต้าน body-shaming กันอย่างกว้างขวาง สื่อด้อยค่าคนดังเมื่อใด แฟนๆก็จัดทัวร์ลงตอบโต้ได้ทันควัน แต่เมื่อหลายปีก่อนนั้น  คนดังอาจจะต้องก้มหน้าก้มหน้าเป็นฝ่ายถูก bully  หนำซ้ำสังคมออนไลน์ยังรุมซ้ำเติมเป็นเรื่องสนุกสนาน กรณีตัวอย่างที่ชัดยิ่งกว่าชัดย่อมเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับ Britney Spears  ในช่วงเวลาที่เธอต้องดำดิ่งกับปัญหาชีวิตและความเจ็บป่วยทางจิตใจ ผู้คนจำนวนมากต่างมองเธอราวกับตัวตลก ฝั่งสื่อบันเทิงก็พร้อมเหยียบย่ำซ้ำเติมด้วยถ้อยคำร้ายกาจ  

ภาพของ Britney บนเวที VMAs ปี 2007 นั้นถูกเปรียบว่าเป็นโมเมนท์น่าอับอายที่เธออยากจะลืมเลือนไป เพราะผู้คนไม่ได้โจมตีในเรื่องคุณภาพของการแสดงดนตรีเพียงอย่างเดียว แต่ยัง fat-shame เธอแบบไม่ยั้ง


สื่อชื่อดัง The New York Post พาดหัวดึงยอดผู้อ่านด้วยการเล่นคำแดกดันเธอด้วยการเปลี่ยนวลี 'เสียงดีแจ่มแจ๋ว - Loud And Clear ' มาเป็น 'ไขมันหมูชัดๆ - Lard And Clear ส่วน E News จิกกัดว่า "หน้าท้องบวมๆที่เธอโชว์นั้นดูไม่ hot สักเท่าไร" หรือจะเป็นพิธีกรดัง Jay Leno ก็นำเรื่องรูปร่างของเธอมาเป็นมุกตลกในรายการ The Tonight Show

แรงยิ่งกว่านั้นคือ Jerry Greene นักข่าวที่ถูกยกให้เป็นตำนานของสายกีฬาที่ร่วมวง bully ซุปตาร์สาวด้วยคำพูดโหดร้ายว่า "เห็นไซส์รูปร่าง Britney ที่ MTV Video Music Awards กันรึเปล่า? แดนเซอร์ชายคนหนึ่งพยายามอุ้มเธอขึ้นแต่ก็ตัดสินใจเผ่นออกจากเวทีไปเลย ทุกอย่างมันเละเทะสับสนไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเสียงของเธอ การแสดงของเธอ หรือพุงของเธอ"

ในช่วงนั้นโลกออนไลน์ได้ถกเถียงสนั่นว่า รูปร่างของ Brit เข้าข่ายอ้วนเผละตามที่ถูกโจมตีหรือไม่? หลายคนวิจารณ์ว่า เธอดูไม่เฟิร์มพอจะโชว์เนื้อหนังบนเวที หน้าท้องก็ไม่ได้แบนราบตรงกับภาพความ hot ที่ตรึงตราใจในอดีตจนทำให้ผู้ชมช็อคและผิดหวังที่เธอกล้าโชว์ส่วนเกิน

แม้แฟนๆของเธอได้เรียกร้องให้สังคมยุติ body-shaming แต่ภาพจากงานนี้ก็ถูกมองเป็นตราบาปในชีวิตศิลปินของ Britney ไปแล้ว แต่เมื่อเวลาผ่านไปสิบกว่าปี ชาวเน็ทที่ย้อนไปพิจารณาดราม่าการแสดง VMAs ก็ได้เปิดประเด็นกระแสโจมตีรูปร่าง Britney ที่ไร้ความเป็นธรรมขึ้นมาอีกครั้ง หลายคนชี้ว่า ถึงจะเธอดูเปลี่ยนแปลงจากเดิมไปบ้าง แต่เธอไม่ได้ดูแย่หรืออ้วนแต่อย่างใด เพียงเพราะรูปลักษณ์ของเธอไม่ตรงกับ beauty standards ก็ต้องถูกเหยียดหนักเพราะผู้คนชื่นชอบที่จะหาความสำราญบนความทุกข์ของเธอ


แม้ในขณะนั้นจะมีคอลัมนิสต์ส่งบทความถามหาความเป็นธรรมให้กับ Britney แต่ก็ไม่ได้ดึงดูดความสนใจจากสังคมได้เทียบเคียงกับถ้อยคำเยาะเย้ยจากสื่อหลายเจ้าว่า เธอดูพังถึงขนาดแค่ไหน อาจมีการแสดงความเป็นห่วงต่อสภาพจิตใจของเธอ แต่สื่อบันเทิงแสดงออกชัดเจนว่า พวกเค้าสาแก่ใจที่ได้ปั่นกระแสข่าวว่าเธอดูทรุดโทรมกู่ไม่กลับ

หลังจากนั้นหลายปี กระแสตอบรับอันฮือฮาจากสารคดีตีแผ่ความไม่เป็นธรรมที่ Britney ต้องพบพานในชีวิตศิลปินก็ได้ปลุกมโนธรรมในใจผู้ชมจนเกิดความสำนึกผิด และร่วมเรียกร้องให้สื่อที่เคยทำร้ายเธอออกมาขอโทษ

ยิ่ง Britney ได้เปิดเผยในหนังสือชีวประวัติว่า ถูกทีมงานบังคับไปให้ขึ้นแสดงงาน VMAs ครั้งนั้นเพื่อพิสูจน์ให้ชาวโลกเข้าใจว่าเธอยังสบายดี ทั้งๆที่ความเป็นจริง เธอแทบไม่ไหว เกิดอาการ panic attack ก่อนเริ่มแสดง ฝืนใจขึ้นเวทีทั้งๆ ทั้งชุดและผม extensions ของเธอมีปัญหา เธอยังอดหลับอดนอนจนรู้สึกเวียนหน้ามืดตาลาย

"ฉันมีลูกสองคนภายในเวลาสองปี คลอดลูกคนที่สองยังไม่ทันจะถึงปีด้วยซ้ำ แต่ใครๆต่างทำเหมือนกับว่าที่ฉันไม่มีกล้ามซิกซ์แพ็คที่หน้าท้องเป็นสิ่งที่ดูอุจาดตา แทบไม่น่าเชื่อเลยว่า ฉันต้องจำใจขึ้นเวทีแสดงทั้งที่เกิดความรู้สึกย่ำแย่ถึงเพียงนั้น"


สังคมก้าวหน้าในปัจจุบันทำให้สื่อเหล่านี้ต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น แม้ว่าบรรดาแทบลอยด์จะยังใช้กลยุทธ์ body-shame คนดังเพื่อดึงดูดความสนใจให้ผู้คนเข้ามาเสพกอสสิป แต่ถ้าหากบรรดาสื่อดังที่เคยเหยียด Britney ทำสิ่งเดียวกันกับเหล่าศิลปินดังในวันนี้ รับรองว่าจะถูกชาวเน็ทตราหน้าว่าเป็นสื่อเสื่อมศีลธรรมจรรยา แต่เมื่อมองย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่ซุปตาร์ต้องถูกบีบคั้นในอดีต ก็รู้สึกเศร้าใจไปด้วย ทางที่ดีที่สุดคือ การร่วมมือของมวลชนเพื่อต่อต้านและกำจัดวัฒนธรรม body-shaming ไปจากสังคม




candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE