ประเด็นถกเถียงร้อนระอุในโลกออนไลน์: ผิดไหมหากไอดอล K-Pop จะเข้าชมคอนเสิร์ต Kanye West?

11 7
ในขณะนี้แฟนๆจำนวนไม่น้อยได้ส่งพลังกดดันให้ไอดอลที่แชร์ภาพบรรยากาศความสนุกสนานใน 'Vultures Listening Experience' ของ Kanye West ให้ลบโพสต์และสตอรี่เพื่อรักษาภาพลักษณ์อันขาวสะอาดหมดจดตรงตามค่านิยมในสังคม แต่ก็มีความเห็นขัดแย้งซัดกลับว่า ศิลปินเหล่านี้มีสิทธิ์เต็มที่ในการเสพผลงานดนตรีของแร็พเพอร์ชื่อดังระดับโลก เพราะนั่นไม่ได้หมายความว่า พวกเค้าจะเห็นด้วยกับพฤติกรรมสุดฉาวโฉ่และอุดมการณ์ทางการเมืองของ Ye

ย้อนความเป็นมาที่ Kanye West (Ye) เจอ cancel ไปนาน

หากถามถึงวีรกรรมสุดสาวของ Kanye ให้ไล่เรียงให้ครบถ้วน ก็อาจจะใช้เวลายาวๆ แต่หลายคนต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่า เรื่องราวชีวิตส่วนตัวและการทัศนคติต่อสาธารณชนของแรพเพอร์ร์ดังผู้นี้อยู่ในขั้น 'เกินเยียวยา' แม้จะเคยมีผู้ออกตัวปกป้องเขาว่า พฤติกรรม toxic ที่กลายเป็นข่าวดังมาแล้วหลายครั้งเป็นผลมาจากไบโพลาร์ แต่ก็มีเสียงโต้แย้งหนักแน่นว่าYe ไม่ใช่คนดังในวงการรายเดียวที่เจ็บป่วยจากโรคนี้ ยังมีดาราศิลปินอีกหลายคนที่เปิดเผยถึงอาการไบโพลาร์และยังรักษาภาพลักษณ์ที่น่าชื่นชมไว้ได้

ตัวอย่างเรื่องราวที่ทำให้ Ye ถูกตราหน้าว่าเป็นอันธพาลประจำวงการ
  • กล่าวหา Kim K แม่ของลูกๆ เสียๆหายๆ รวมถึงประจานครอบครัวตัว K ซึ่งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการหย่าร้างกับ Kim ซะอี
  • สร้างผลงานที่สื่อถึงความรุนแรงเพื่อคุกคาม Pete Davidson และยุยงให้แฟนๆช่วยรุมด่าเขาด้วย จนหลายคนกังวลถึงสวัสดิภาพของชายคนรักใหม่ของ Kim (ว่ากันว่า เป็นเหตุผลที่ Kim ไม่คบหนุ่มใหม่ออกหน้าออกตา และเก็บเรื่องความสัมพันธ์ให้ห่างจากสายตาผู้คน)
  • โจมตีคนดังร่วมวงการและแสดงความเห็นที่ปั่นกระแสดุเดือดใน social media บ่อยครั้ง (หรือที่สื่อเรียกว่า อาการ Twitter Meltdown แบบฉบับ Ye)
  • รวมถึงการแสดงพฤติกรรมที่เผยถึงการจองเวรคนอื่นผ่านการแสดงออกด้วย 'ผลงานศิลปะ' แต่ทำให้หลายคนมองว่า เขาหงายการ์ด free speech ยัดเยียดความทรงจำที่เลวร้ายให้กับคนที่เขาหมายหัว
อย่างไรก็ตาม ด้วยการยึดมั่นในหลักการ free speech ในโลกตะวันตก แม้ภาพลักษณ์ของ Ye จะย่ำแย่ แต่เขาก็ยังไม่เจอกับผลกระทบหนักถึงระดับ cancel

จนกระทั่ง....

การแสดง hate speech เหยียบย่ำชาวยิวและสนับสนุนความเชื่อหรือมุมมองที่ว่าคนขาวสูงส่งกว่าชาติอื่น ๆ ที่ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิตศิลปินของ Ye
หลังจากที่ Ye โพสต์ข้อความที่แสดงถึงความเกลียดชังชาวยิว อาณาจักรธุรกิจมูลค่าพันล้านก็ถูกสั่นคลอนและทำให้ให้เขาถูก cancel หรืออัปเปหิจากวงการ บรรดาแบรนด์ยักษ์ใหญ่ที่ทุ่มทุมสร้างสรรค์สินค้าภายใต้ชื่อของเขาต่างก็ฉีกสัญญาและประนามพฤติกรรมของเขาอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะ Adidas ที่ตัดขาดกันจนทำให้สถานะมหาเศรษฐีพันล้านของ Ye หายวับไปในเวลาเพียงไม่นาน แม้ว่าในปัจจุบันเขายังเป็นศิลปินผู้มั่งคั่งเจ้าของทรัพย์สิน 400 ล้านดอลลาร์ แต่ก็ห่างไกลจากสถานะความร่ำรวยช่วงที่สินค้า Yeezy ยังเฟื่องฟู

หลายฝ่ายมั่นใจว่า นี่เป็นการแสดงออกถึงด้านมืดในจิตใจที่สร้างความเสียหายรุนแรง ปฏิกิริยาจากสังคมแตกต่างจากตอนที่เขาแสดงท่าทีเป็นมิตรกับ Donald Trump ซึ่งถูกมองว่า เขามีอิสระในการแสดงออกทางการเมืองไม่แตกต่างฝ่ายอนุรักษ์นิยมจำนวนมากในอเมริกา แต่โพสต์โจมตีชาวยิวด้วยความรุนแรงคือสิ่งที่หลายฝ่ายไม่สามารถมองข้ามไปได้

การถูกแบนจาก X ดูจะไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่ของ Ye อีกต่อไป วันดีคืนดีเขาก็โพสต์ภาพสัญลักษณ์สวัสติกะซ้อนทับกับสัญลักษณ์ดวงดาวเดวิดของยิวจนบัญชีถูกล็อคไปถึง 8 เดือน เขาท้าทายชาวยิวด้วยถ้อยคำปั่นประสาทต่างๆนานา ทำให้ Ye ถูกมองว่าเป็นขวัญใจพวก Neo Nazi ที่เชิดชูการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของ Nazi และใช้ความรุนแรงเพื่อแบ่งแยกเชื้อชาติ สถานการณ์ของ Kanye ย่ำแย่ลงถึงขนาดว่า เพื่อนฝูงที่เคยออกมาปกป้องต่างพยายามหลีกเลี่ยงไม่ขอข้องเกี่ยว แม้จะมีศิลปินวงการ hip hop หลายคนที่ยังยินดีที่จะร่วมงานด้วยกัน แต่พวกเค้าก็เสี่ยงจะถูกชาวเน็ทกล่าวหาว่า เป็นพวกขาดศีลธรรม สนับสนุนพวกหัวรุนแรงที่ทั้งเหยียดยิว - เกลียดชังผู้หญิงไปด้วย


หลังจากกระแสต่อต้านเริ่มซาลงไป Ye ซุ่มทำงานดนตรีเพื่อหวนมาสร้างความสำเร็จในวงการอีกครั้งก็ได้ตัดสินใจส่งคำขอโทษต่อกลุ่มชนชาวยิวที่ถูกเขาจากข้วงล่วงเกินหลายครั้ง แต่กลับถูกชาวเน็ทโจมตีว่า ไม่ได้สัมผัสถึงความสำนึกผิดจากถ้อยแถลงของเขาแม้แต่น้อย แต่มันฟังเหมือนกับวิธีการแก้ไขวิกฤติภาพลักษณ์พอเป็นพิธีเท่านั้น

เห็นได้ชัดจากเมื่อปี 2022 ที่เขาเคยไปออกรายการให้สัมภาษณ์ชื่นชม Adolf Hitler อดีตผู้นำพรรค Nazi ผู้ออกคำสั่งสังหารหมู่ชาวยิวนับล้านๆอันถือเป็นความทรงจำอันสุดเลวร้ายของมนุษยชาติ สื่อชื่อดัง CNN ยังเผยข้อมูลว่า คนวงในที่เคยร่วมงานกับ Ye หลายคนได้ให้ข้อมูลตรงกันว่า เขามีความชื่นชอบฝักใฝ่ในตัว Hitler มาตั้งแต่ยังเป็นศิลปินหนุ่มไฟแรงเมื่อสองทศวรรษก่อน คำพูดขอโทษจาก Ye จึงดูมีน้ำหนักเบาหวิวในสายตาหลายคน

แต่ถึงแม้ว่าพฤติกรรมอื้อฉาวจะทำให้ผู้คนรู้สึกต่อต้าน Ye สักเพียงใด ฐานแฟนที่นิยมชมชอบผลงานของเขาก็ยังเหนียวแน่น หลายคนให้ความเห็นปกป้อง Ye ว่า การแสดงความเห็นของเขาอยู่ภายใต้หลักการ free speech แม้มันจะเป็น hate speech แต่มันคือส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์ศิลปะ ซึ่งไม่ใช่ว่าทุกคนจะต้องเห็นดีเห็นงามไปทั้งหมด แต่ก็ไม่ควรไปเหมารวมว่า คนที่ปลื้มผลงานของ Kanye จะเป็นพวกนิยม Nazi หรือการคุกคามคนอื่นไปด้วย แต่อาจจะเป็นกลุ่มคนที่เลือกเสพเฉพาะผลงานคุณภาพโดยไม่ใส่เรื่องส่วนตัวของศิลปิน  เห็นได้ชัดจากอัลบั้มที่พุ่งสู่อันดับหนึ่งบน Billboard 200 ส่วนเพลง Carnival (¥$ song) ที่ขึ้นอันดับ 1 บน Billboard Hot 100 เช่นกัน ซึ่งยืนยันว่า ยังมีผู้ฟังอีกมากมายที่เปิดใจต้อนรับ Ye เต็มที่
ภาพของไอดอลชื่อชั้นนำของวงการ K-Pop ที่เข้าร่วมคอนเสิร์ตของ Kanye ในกรุงโซลได้จุดประเด็นความขัดแย้งในกลุ่มชาวเน็ทผู้ที่มีทัศนคติแตกต่างกัน หลายคนแสดงความอกหักชีช้ำใจที่เห็นไอดอลที่พวกเค้าชื่นชอบได้ให้การสนับสนุนผลงานของ Ye และยังสันนิษฐานว่า หลายครั้งหลายคราที่ศิลปิน K-Pop ไม่ใส่ใจเรียนรู้ถึง awareness ของปัญหาความขัดแย้งทางเชื้อชาติศาสนา ส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากชุมชนแฟน K-Pop ทั้งในเกาหลีและต่างประเทศ

บางคนตั้งข้อสังเกตว่า ศิลปินดังในเกาหลีให้ความสำคัญแต่กับบรรทัดฐานภายในชาติ แต่เมินเฉยกับเรื่องราวที่เป็นไปนอกประเทศ แต่ถ้าหากเกิดเหตุการณ์ Ye ให้สัมภาษณ์ชื่นชมอำนาจของจักรวรรดิญี่ปุ่นที่เคยยึดครองเกาหลีในอดีตเหมือนกับที่เขาชื่นชม Nazi คงไม่มีไอดอลก้าวเข้าชมผลงานการแสดงดนตรีของแร็พเพอร์ผู้อื้อฉาว แต่ความเห็นเกลียดชังชาวยิวและยกย่อง Hitler ยังดูเป็นเรื่องไกลตัวของเกาหลี หลายคนจึงไม่ได้ต่อต้านพฤติกรรมของ Ye กันอย่างรุนแรงนัก


ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีผู้ชี้ว่า เรื่องฉาวของ Ye สวนทางกับค่านิยมของชาวเกาหลีหลายประการ นอกจากเรื่องจองเวรภรรยาเก่าและคุกคามชายคนใหม่ของเธอ เขาเคยยอมรับเรื่องปัญหาใช้ยาเสพติด มีประวัติทำร้ายร่างกายช่างภาพมาแล้วหลายครั้ง ในทางกลับกัน คนดังเกาหลีอาจจะถูกแบนจากวงการอย่างถาวรจากข้อกล่าวหา bully เพื่อนร่วมโรงเรียนทั้งๆที่ไม่มีหลักฐานแน่ชัด แต่ Ye ที่เผยพฤติกรรม bully แบบไม่รู้ร้อนไม่รู้หนาวมากนานหลายปีกลับเป็นที่ยอมรับ หนำซ้ำ ผลงานในอัลบั้ม Vulture ก็ปรากฏถ้อยคำหยาบคายจาบจ้วงผู้หญิงชาวยิวที่ทำให้องค์กรยิวออกมาประนาม เขาเคยปั่นกระแสด้วยการจงใจใส่ฮู้ดปลายแหลมสไตล์เดียวกับกลุ่ม KKK ขึ้นเวที Vultures album party (Ku Klux Klan คือลัทธิชาตินิยมผิวขาว ที่ก่อตั้งโดยคนผิวขาวหัวรุนแรงที่มีความเชื้อว่าคนผิวขาวคือชนชั้นที่อยู่สูงที่สุดและเคยก่อเหตุรุนแรงถึงขนาดฆาตกรรมคนผิวดำมาแล้ว)

เรื่องราวเหล่านี้ ทำให้ชาวเน็ทมั่นใจว่า เขาไม่เคยจะรู้สึกผิดกับการส่งเสริมแนวคิดแบ่งแยกทางเชื้อชาติและศาสนาแต่อย่างใด และศิลปินเกาหลีก็ควรจะตระหนักถึงความอันตรายของเรื่องนี้และไม่ควรเข้าร่วมชมคอนเสิร์ต Vultures Listening Experience 

กระแสวิพากษ์วิจารณ์ในตัวไอดอล K-Pop ได้แบ่งชาวเน็ทออกเป็นสองฝักฝ่าย เพราะยังมีคนจำนวนไม่น้อยที่เชื่อมั่นว่า สังคมไม่ควรต่อต้านผลงานของศิลปินมากความสามารถเพราะเขามีอุดมการณ์และพฤติกรรมที่ไม่ถูกใจ เพราะหากย้อนไปถึงอัจฉริยภาพที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ขับเคลื่อนโลกด้วยผลงานจากสาขาต่างๆในอดีต บางคนก็จะถูกตราหน้าว่าเป็นพวก racist หรือแม้แต่ศิลปินดังจากประวัติศาสตร์ที่มีพฤติกรรมใคร่เด็กที่ต่ำช้า แต่ก็ปัจจุบันยังมีผู้เปิดนิทรรศการนำเสนอผลงาน ผู้คนจึงควรแยกแยะให้ได้ว่า มันไม่ใช่เรื่องเสียหายหรือผิดกฎหมายในการสนับสนุนผลงานอันโดดเด่นของแร็พเพอร์ผู้อื้อฉาว เพียงแต่จำเป็นต้องใช้วิจารณญาณที่ดีเพื่อไม่ก้าวตามพฤติกรรม toxic ที่สร้างความขัดแย้งในสังคมโลก

ชาวเน็ทกล่าวหา Giselle แห่ง Aespa  'มีเชื้อสายญี่ปุ่นแต่สนับสนุนแร็พเพอร์ที่เชิดชู Adolf Hitler และลัทธิ Nazi'


ไอดอลที่เข้าร่วมชมการแสดงของ Ye ได้รับเสียงวิจารณ์ที่แตกต่างกันไป บางคนอาจจะถูก call out แต่ไม่รุนแรงนัก ใน board แสดงความคิดเห็นของ Netizens เกาหลีดูจะชี้ไปที่ความผิดหวัง เพราะค่านิยมของสังคมที่ปรารถนาให้คนดังวางตัวในครรลองแห่งความขาวสะอาดไร้ความมัวหมองใดๆ แต่ก็ยังมีคนมีเชื่อว่า นี่เป็นโอกาสไม่มากที่จะได้ชมการแสดงของศิลปินระดับโลก นอกจากไอดอลเกาหลีก็ยังมีผู้ชมเข้าไปสนุกสนานกับการแสดงคอนเสิร์ตของ Ye อีกเยอะแยะ

แต่ศิลปินดังที่เจอกับเสียงวิจารณ์ค่อนข้างหนักน่าจะเป็น Giselle แห่ง Aespa เมื่อเธอได้แชร์บรรยากาศของคอนเสิร์ตครั้งนี้ผ่าน Instagram ส่งผลให้ Netizens เกาหลีกลุ่มหนึ่งวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความไม่พอใจว่า เธอมีเชื้อสายญี่ปุ่นจากพ่อแท้ๆ แต่กลับสนับสนุตัวแร็พเพอร์ที่มีชื่อเสียงย่ำแย่และชื่นชม Hitler อย่างออกหน้าออกตา (จากเดิมที่ประเด็นเชื้อชาติของ Giselle นั้นนับเป็นเรื่องเปราะบางในสังคมเกาหลีอยู่แล้ว จากความขัดแย้งทางประวัติศาสตร์ที่เกาหลีเคยตกเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่นถึง 35 ปี ไอดอลที่มีเชื้อชาติญี่ปุ่นบางคนจึงต้องเผชิญกับความเห็นโจมตีจากความเจ็บแค้นกับเรื่องราวในอดีตที่ชาวเกาหลีถูกกดขี่มายาวนาน)

ความโหดร้ายในสงครามที่เกิดจากพรรค Nazi และการรุกรานของญี่ปุ่นจึงถูกจับมาเชื่อมโยงกับดราม่าคอนเสิร์ตของ Ye เพราะมีผู้มองว่า Giselle มีสิทธิ์จะไปชมผลงานของศิลปินที่เธอชื่นชอบ แต่ก็ไม่น่าจะอัพโหลดภาพแชร์ให้โลกได้รับรู้ถึงความสนุกสนาน เพราะเธอน่าจะรู้ดีอยู่แล้วว่า จะต้องเกิดกระแสโจมตีตามมา ชาวเน็ทบางคนถึงกับกล่าวหาว่า เธอสนับสนุน Ye ไม่ต่างจากตอนที่จักรวรรดิญี่ปุ่นร่วมมือกับผู้นำ Nazi เยอรมนีเพื่อจัดตั้งฝ่ายอักษะ ซึ่งฟังเป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรง

ท่ามกลางคอมเมนท์ที่เรียกร้องให้เธอลบโพสต์ออก (หลายคอมเมนท์เป็นภาษาไทย) แฟนๆอีกกลุ่มของ Giselle ก็โต้กลับว่า ไอดอลสาวสวยเป็นแฟนตัวยงของ Ye มาแต่ไหนแต่ไร จึงไม่ใช่เรื่องชวนช็อคที่เธอเข้าร่วมชมการแสดงของศิลปินที่เธอปลาบปลื้มแบบสดๆ และกำชับให้ Giselle ไม่ให้ลบโพสต์ตามกระแสกดดันจากแฟนๆ เนื่องจากเธอมีสิทธิ์เต็มที่ในการเสพดนตรีของใครก็ได้ที่เธอชื่นชอบ

ชาวเน็ทหลายคนที่มั่นใจว่า การสนับสนุนผลงานของ Ye ไม่ใช่เรื่องเสียหายยังลงความเห็นตรงกันคือ กลุ่มแฟนที่เรียกร้องให้ไอดอลดังลบโพสต์เกี่ยวกับ Ye ออกมีพฤติกรรมรูปแบบเดียวกับ FC ของ Taylor Swift ซุปตาร์ทรงอิทธิพลที่มีประวัติเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันมาหลายปี ด้วยความแค้นฝังลึกทำให้เหล่า Swifties มุ่งมั่นอยากจะให้ทั้งโลก boycott แร็พเพอร์ดังไปด้วย

นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่มองว่า การเรียกร้องให้ไอดอลใช้ชีวิตในรูปแบบที่แฟนๆต้องการเป็นสิ่งที่สื่อถึงความไร้วุฒิภาวะ หากจะสื่อว่า เป็นการประทำที่มาจากความรัก ก็ไม่ได้ต่างจาก toxic love ที่บีบคั้นไอดอลให้ขาดอิสระและฝืนใจปกปิดตัวตน แม้แต่รสนิยมทางดนตรีก็ถูกจำกัดให้ต้องผ่านการอนุมัติจากแฟนๆ ซึ่งสร้างแรงกดดันให้กับไอดอลแทนที่จะส่งพลังงานด้านบวก หลายคนยังเน้นย้ำว่า ความชื่นชมในผลงานดนตรีเป็นเรื่องของปัจเจก ไม่ควรนำสิ่งนี้มาพิพากษากัน การที่ Giselle หรือจะเป็นไอดอลคนใดที่แชร์ภาพคอนเสิร์ตและแสดงความชื่นชมดนตรีของ Ye ก็ไม่ใช่ความผิด หรือเป็นการสื่อได้ว่า จู่ๆพวกเค้าจะออกตัวแรงเหยียดชาวยิวหรือบุกขึ้นเวทีไปแย่งไมค์จาก Taylor Swift!

แม้จะเกิดเสียงวิจารณ์ดุเดือด Ye คืออยู่ในกลุ่ม Top Artist ของประเทศเกาหลีใต้มายาวต่อเนื่องเกินพันวัน และการันตีถึงความ mass จากอันดับสองจากรายชื่อศิลปินที่มียอดผู้ฟังมากที่สุดที่ Spotify เกาหลีในตอนนี้ ดราม่าจะมีมากมายก่ายกองขนาดไหน  แต่ความนิยมของ Ye ในเกาหลีใต้นั้นไม่มีแผ่ว


ความชื่นชอบผลงานของ Ye คือ red flag จริงหรือ? ส่งความเห็นกันหน่อยว่า คุณคิดอย่างไรกับเรื่องนี้...


candy

candy

ติดตาม Mouth On The Web แล้วอย่าลืม Mouth On The Face นะคะ ^ ^

FULL PROFILE