จำนวนผู้ติดตามสำคัญแค่ไหนในการ cast นักแสดง?

ช่วงไม่กี่วันมานี้ พ่อลูกนักแสดง Ethan Hawke และ Maya Thurman Hawke ร่วมเปิดประเด็นร้อน เผยเบื้องหลังการคัดเลือกนักแสดงที่อาจจะทำให้หลายคนรู้สึกข้องใจ
จริงหรือที่ฝ่าย casting ในวงการ Hollywood หันมาให้ความสำคัญกับยอดผู้ติดตามทาง social media ยิ่งกว่าการเฟ้นหานักแสดงฝีมือเยี่ยมที่สามารถสวมบทบาทได้เป๊ะสุด?


  

ระหว่างการให้สัมภาษณ์รายการ Happy Sad Confused ทาง Podcast นางเอกสาว Gen Z ได้แชร์ประสบการณ์ชวนอึดอัดคับข้องใจเกี่ยวกับแนวทางวงการบันเทิงยุคใหม่ที่พิจารณาอิทธิพลทาง social media ในการคัดเลือกนักแสดง

"เส้นที่คั่นกลางระหว่างความเป็นนักแสดงและคนดังนั้นมันเลือนรางมากเลยค่ะ"

"ฉันมองว่า ถ้าเป็นคนดังก็ต้องนำเสนอบุคลิกลักษณะเป็นจุดดึงดูดความสนใจ ซึ่งฉันต้องการจะเป็นนักแสดงที่สามารถดึงดูดความสนใจด้วยผลงาน ไม่ใช่การนำเสนอความมีตัวตน แต่วงการนี้มีความเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆและคุณก็ต้องคอยตามให้ทัน ต้องทำความเข้าใจว่า สิ่งเหล่านี้มันเริ่มไม่ชัดเจน"

"ฉันไม่สนใจ Instagram เลย Instagram งี่เง่าออก ว่ามั้ยล่ะ แต่จะบอกให้รู้ไว้ หากคุณมีผู้ติดตามจำนวนมาก ก็ช่วยให้ได้รับเงินทุนสนับสนุนการสร้างหนัง ฉันก็อยากจะแสดงหนังไงล่ะคะ มันจึงเป็นเส้นทางที่น่าสับสนจริงๆ"

Maya ยังเล่าว่า เธอเคยคิดจะลบบัญชี Instagram จึงขอคำปรึกษากับผู้กำกับที่มีความคิดหลักแหลมหลายคน แต่พวกเค้าได้ให้คำเตือนเธอไว้ว่า หากทำเช่นนั้น เธอก็จะมีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบในการออดิชั่น เนื่องจากพวกโพรดิวเซอร์จะยื่นข้อมูลจำนวนผู้ติดตามของนักแสดงมาให้ผู้กำกับพิจารณา เมื่อไร้บัญชี instagram เธอก็จะสูญเสียผู้ติดตามไปด้วย ในวงการนี้ มีผู้กำกับน้อยคนที่ไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องจำนวนผู้ติดตามของนักแสดง อาจจะมีผู้กำกับอยู่สักสิบคนที่มีชื่อเสียงอิทธิพลเพียงพอและสามารถพิสูจน์ว่าพวกเค้ามีดีและเก่งกาจแค่ไหน พวกเค้าจะไมำงานได้อย่างอิสระและมีความเป็นส่วนตัว ไม่ต้องจัดทีมมาเกาะติดถ่ายเบื้องหลังการถ่ายทำหรือขอให้เธออัดคลิปอิริยาบถในกองถ่าย ซึ่งจะช่วยให้นักแสดงจดจ่อกับการทำงานได้อย่างเต็มที่

หลายคนเห็นด้วยว่า ไม่ควรใช้จำนวนผู้ติดตามทาง social media มารวมอยู่ในหลักเกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกนักแสดง เพราะวิธีสร้างกระแสเช่นนี้ไม่ได้นำมาซึ่งความสำเร็จในระยะยาว แม้จะหยิบยื่นโอกาสให้กับผู้ที่มียอดติดตามหลักล้านจนไปถึงร้อยล้าน ก็ยังไม่ใช่เครื่องมือการันตีความสำเร็จ  และมันยังเป็นกระบวนการในอุตสาหกรรมบันเทิงที่ไม่เป็นธรรมต่อนักแสดงที่มีพรสวรรค์อันแท้จริง

อย่างไรก็ตาม การระบายความในใจของ Maya ก็ไม่ได้ทำให้ชาวเน็ทบางกลุ่มรู้สึกคล้อยตามนัก พวกเค้ามองว่า เธอถือการ์ด nepo-baby เป็นใบเบิกทางเข้าวงการ พ่อแม่ของเธอเป็นศิลปินบันเทิงระดับ high profile เธอย่อมคุ้นเคยกับแสงสปอทไลท์และสร้าง connection กับคนในวงการมาตั้งแต่เด็กๆ ทั้งนามสกุลคุ้นหูและรูปโฉมคุ้นตาทำให้สื่อให้ความสนใจเธอตั้งแต่ยังไม่เป็นสาว เธอเคยแสดงซีรีส์และหนังที่พ่อแม่เป็นผู้กำกับ/โพรดิวเซอร์ ผู้ชมอาจจะให้ feedback เรื่องการแสดงของเธอในด้านบวกและให้เครดิตที่เธอเคยผ่านการคัดเลือกให้ศึกษาในสถาบันศิลปะการแสดงชั้นนำ Juilliard แต่ Maya ก็ยอมรับอย่างตรงไปตรงมาถึงความโชคดีที่สามารถใช้สถานะทางสังคมเอื้อประโยชน์ต่อการสานความฝัน ทำให้มีเสียงวิจารณ์ตามมาว่า แม้เธอจะไม่ได้มีผู้ติดตามจำนวน 9 ล้านทาง Instagram เธอก็ยังมีข้อได้เปรียบจากเป็นทายาทของ Ethan Hawke และ Uma Thurman ที่ช่วยผลักดันให้คว้าโอกาสมากกว่านักแสดงโนเนมไร้ backup อยู่ดี

ประเด็นเรื่อง nepo-baby ยังสร้างข้อถกเถียงอย่างไร้ข้อสรุป ยังมีคนที่เชื่อว่า Maya คือหนึ่งในทายาทคนดังที่มีความสามารถน่าจับตามอง เธอฝึกปรือฝีมือด้วยบทบาทหลากหลายมาตลอด 8 ปี ทั้งยังผ่านประสบการณ์ร่วมแสดงบทสมทบในหนังที่เข้าชิงรางวัล Oscar มาแล้ว เธอย่อมมีสิทธิ์เต็มที่ในการออกมา call out ระบบ casting ที่ให้ความสำคัญผิดจุดจนอาจจะสร้างความเสียหายต่อคุณภาพของผลงาน และยังบั่นทอนกำลังใจนักแสดงที่ไม่ได้มีตัวเลขผู้ติดตามสูง รวมถึงคนที่หวงความเป็นส่วนตัว ไม่ได้ต้องการจะแชร์ชีวิตตัวเองผ่าน social media

พระเอก/ผู้กำกับหนุ่มใหญ่ได้แชร์ประสบการณ์ที่คล้ายคลึงกับลูกสาวของเขาดังนี้

"ในบางครั้งเมื่อผมวางแผนจะสร้างหนัง ใครสักคนจะแนะนำผมว่า คุณควรจะเลือก Suzie มาแสดงนะ ผมจึงถามกลับว่า เธอเป็นใครงั้นเหรอ? เธอมีผู้ติดตามสิบล้าน ผมก็ถามอีกว่า โอเค ก็เจ๋งดี เธอเคยผ่านการแสดงมาบ้างมั้ย? ไม่เคยหรอก แต่... ทำให้ผมรู้สึกว่า ว้าว ถ้าใช้วิธีนี้แล้วจะช่วยให้สร้างหนังสำเร็จรึไง? บ้าไปแล้ว"
"'ถ้าไม่ได้เปิดเผยชีวิตตัวเองต่อสาธารณชนผ่านสังคมออนไลน์ ก็จะไม่มีอนาคตทางการงานงั้นเหรอ? และหากมีผู้ติดตามมากๆ ก็อาจจะมีสิทธิ์คว้าบทไปได้? มันอะไรกันนี่?"

Ethan ยังเผยว่าเขาเรียนรู้เรื่องการใช้ Instagram จากลูกสาว เธอจะช่วยแนะนำเรื่อง post แบบใดจึงจะเหมาะสมหรือควรลบทิ้ง บัญชีของเขามีผู้ติดตามราวๆ 1.5 ล้าน แต่ยังมีนักแสดงระดับ A List อีกหลายคนที่เลือกไม่ใช้สมัครบัญชี Instagram และ platform ใดๆ (หรือสมัครไว้แต่ไม่ตั้ง public) แต่มีข้อน่าสังเกตคือ นักแสดงดังเหล่านั้นได้สร้างชื่อเสียงโด่งดังติดลมบนมานานหลายปี ไม่ว่าจะเป็น Ryan Gosling, Robert Pattinson, Keanu Reeves, Scarlett Johansson, Saoirse Ronan, Kristen Stewart ซึ่งพวกเค้าต่างขึ้นชื่อลือชาเรื่องความหวง privacy เมื่อเปรียบเทียบกับนักแสดงรุ่นใหม่หลายคน บัญชี Instagram น่าจะเป็นปัจจัยที่แทบจะขาดไม่ได้สำหรับการก้าวเดินบนเส้นทางบันเทิง

ในปี 2023 Elle เคยให้สัมภาษณ์ในรายการ Podcast เดียวกันกับ Maya ถึงประสบการณ์ที่ถูกปัดตกจากการออดิชั่นที่ฝังใจ

"ฉันเคยเข้าร่วมคัดตัวนักแสดงเพื่อหนังเรื่องหนึ่ง จะไม่ขอระบุชื่อแล้วกัน ฉันพลาดจากการคว้าบทหนังฟอร์มใหญ่ ซึ่งมันอาจจะไม่ใช่สาเหตุที่แท้จริงก็ได้ แต่มันเป็นเสียงตอบรับที่ฉันได้ยินมา นั่นคือ ในขณะนั้น ฉันยังไม่มียอดผู้ติดตาม Instagram มากพอ มันเป็นหนังทุนสูง เป็นแฟรนไชส์"

"การที่ไม่ได้บทด้วยเหตุผลแบบนั้น เป็นสิ่งที่ฉันไม่ยอมรับเลยค่ะ"

"หลายครั้งที่ฉันทำสำเร็จได้มาจากจังหวะที่เหมาะสมและโชคช่วย แต่ฉันไม่อยากจะเล่าเลย ที่จริงแล้วมันยังมีจำนวนผู้ติดตามทาง social media เป็นส่วนช่วย ฉันเคยเข้าร่วมการออดิชั่นงานชิ้นหนึ่ง เป็นรอบตัดสินระหว่างฉันและนางเอกอีกคน เธอเป็นนางเอกที่เก่งกาจเหนือชั้นกว่าฉันมากๆเลยค่ะ แต่ฉันมียอดผู้ติดตาม ฉันจึงได้งานนั้นไป มันไม่ใช่เรื่องที่ถูกที่ควร แต่มันก็เป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมนี้ไปซะแล้ว"

เล่าลือกันว่า บทที่ Sophie กล่าวถึง คือ Jean Grey แห่ง X-men ส่วนนางเอกที่พลาดจากการออดิชั่นครั้งนี้ไปอาจจะเป็น Saoirse Ronan สาวไอริชที่คร่ำหวอดในงานแสดงหนังรางวัลมาตั้งแต่เด็กและเข้าชิง Oscar มาแล้ว แต่ Saoirse เคยให้สัมภาษณ์ว่า เธอมองตัวเองสวมบทบาทในหนัง Marvel ไม่ออก หากเป็นหนังตระกูล Bond จะตรงใจเธอมากกว่า ชาวเน็ทจึงเล็งไปยัง Elle Fanning ซึ่งสื่อที่มีแหล่งข่าวน่าเชื่อถือเคยรายงานว่า เธอเคยออดิชั่นบทนี้เช่นกัน เมื่อรวมกับคำบอกเล่าของเธอเมื่อสองปีก่อนว่า ถูกปัดตกไปจากหนังแฟรนไชส์ทุนสร้างสูงเพราะยอดผู้ติดตามไม่มากพอ ยิ่งทำให้หลายคนมั่นใจว่า ฝ่าย casting ของหนัง Marvel เรื่องนี้นี่เองที่คัดเลือกนักแสดงนำหญิงจากการพิจารณายอดผู้ติดตาม

ผู้ติดตามมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจคัดตัวนักแสดงจริงหรือ?

ไม่ได้มีแต่กลุ่มนักแสดงที่ออกมาแชร์ความรู้สึกต่อประเด็นยอดผู้ติดตามที่ส่งผลต่อผลออดิชั่น Joe Russo ผู้กำกับ/โพรดิวเซอร์/นักเขียนบท แชร์ลิงค์ข่าวการให้สัมภาษณ์ของ Maya พร้อมบอกเล่าประสบการณ์ว่า เขาถูกห้ามปรามไม่ให้คัดเลือกพระเอกที่เคยผ่านการแสดงในซีรีส์ Game of Thrones ให้มาแสดงหนัง เพราะเขาคนนั้นมีผู้ติดตามทาง Instagram ไม่ถึงล้าน แต่มีอยู่แล้ว 9 แสน" คล้ายกับจะประชดว่า หากตัวเลขผู้ติดตามของเขาเพิ่มขึ้นมาอีกสักหนึ่งแสน ก็มีความเป็นไปได้ที่จะผ่านเกณฑ์ casting

บางคนก็ยกตัวอย่าง Kim Kardashian ที่ได้รับเลือกให้รับบทเด่นใน American Horror Story ว่า ผู้สร้างอาจจะต้องการเพิ่มพลังโพรโมทด้วย platform ของราชินี internet ที่อัดแน่นไปด้วยผู้ติดตามหลายร้อยล้าน เสียงตอบรับมีทั้งแง่บวกและแง่ลบ แต่ก็ช่วยสร้างกระแสให้ผู้ชมสนใจมากขึ้น

แต่ถึงแม้คนวงในจะยืนยันว่า นักแสดงที่มียอดผู้ติดตามสูงลิบลิ่วอาจจะได้เปรียบในการออดิชั่น แต่ผู้รับผิดชอบคัดตัวนักแสดงก็ไม่ได้ยึดติดกับตัวเลขผู้ติดตามเสมอไป

ผู้อำนวยการฝ่าย casting ที่มีชื่อเสียง 3 คนได้เผยแนวทางการทำงานกับเว็บไซต์ www.castingnetworks.com ดังนี้

Julie Schubert จาก Houseof Card, The Departed

• ยอดผู้ติดตามไม่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของเธอ แต่เนื้อหาของสิ่งที่นักแสดงนำเสนอผ่าน social media  ที่สะท้อนถึงความคิดของพวกเค้าต่างหากที่เธอจะนำมาพิจารณา

Tiffany Little Canfield จาก Wicked, Only Murders in the Building

• ตัวเลขของผู้ติดตามเป็นแนวทางใหม่ที่บ่งบอกระดับชื่อเสียง ถ้าเป็นโพรเจคท์ที่กำลังมองหานักแสดงที่โด่งดัง การวัดจำนวนผู้ติดตามก็อาจเข้ามามีบทบาทในกระบวนการคัดเลือก หากเป็นการออดิชั่นเพื่อบทที่ต้องเน้นฝีมือการแสดง ก็ต้องเฟ้นหานักแสดงมากความสามารถไว้ก่อน

Bess Fifer จาก Severance, This World Is Not My Own

• ยอดผู้ติดตามของนักแสดงไม่สำคัญสำหรับเธอ สำหรับบทนำ ก็อาจจะระดมหาไอเดียนอกกรอบพร้อมกับหารือเพิ่่มเติมบ้าง แต่ตัวเลขไม่ได้มีผลที่จะทำให้เรียกมาเจรจากัน"

ในขณะที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า การยึดติดกับยอดผู้ติดตามเป็นวิธีทางการตลาดที่ไม่ยุติธรรมกับนักแสดงที่ไม่นิยมการแชร์ภาพส่วนตัวลง social media แต่ก็มีผู้เห็นโต้แย้งว่า ตัวเลขผู้ติดตามที่สูงพรวดพราดของนักแสดงหลายคนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากแจ้งเกิดในผลงานโด่งดังพลิกชีวิต ดูจากกรณี Millie Bobby Brown และ Jenna Ortega  ทั้งสองเป็นนางเอก Gen Z ที่สั่งสมประสบการณ์จากนางเอกวัยใสก้าวมาเป็นดาวรุ่งอนาคตไกล จำนวนผู้ติดตามหลายสิบล้านไม่ได้เป็นสิ่งบ่งชี้ว่า พวกเธอมีความพยายามด้อยกว่านักแสดงคนอื่น แต่เป็นผลลัพธ์จากการพิสูจน์ฝีมือทางการแสดงให้โลกได้ประจักษ์ เปรียบเหมือนกับการเปิดประตูแห่งโอกาสเพื่อทะยานสู่สถานะขวัญใจมวลชน