How to - - แต่งหน้ารับปริญญา พาฝัน .. .- - >W<
fernstu5146สวัสดีจ้าหลังจากห่างหายการทำฮาวทูไป นานโข นับตั้งแต่ เวอร์ชั่น ตอนแต่งหน้าใสๆ ไป >W<
ไม่รู้มิตรรักแฟนเพลงจะคิดถึงหน้าค่าตากันบ้างรึเปล่า 55+
เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงรับปริญญาของหลายๆสถาบัน
รวมทั้งเปนอนาคตอันใกล้ของ สาว ถาปัดคนนี้เช่นกัน
วันนี้เลยมาทำฮาวทูสำหรับโจทย์
แต่งหน้ารับปริญญาเป็นพิเศษ มาฝากกันจ้า
>W<
ตามเดิมเลย ค่ะ ถ้ามีอะไรคอมเม้น รึว่า ให้กำลังใจอย่าคอมเม้นทิ้งไว้
ให้เปนกำลังใจ ให้ ว่าที่ ( บัณฑิต) คนนี้ปีหน้าด้วยนะคะ >W<
ไม่รู้มิตรรักแฟนเพลงจะคิดถึงหน้าค่าตากันบ้างรึเปล่า 55+
เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงรับปริญญาของหลายๆสถาบัน
รวมทั้งเปนอนาคตอันใกล้ของ สาว ถาปัดคนนี้เช่นกัน
วันนี้เลยมาทำฮาวทูสำหรับโจทย์
แต่งหน้ารับปริญญาเป็นพิเศษ มาฝากกันจ้า
>W<
ตามเดิมเลย ค่ะ ถ้ามีอะไรคอมเม้น รึว่า ให้กำลังใจอย่าคอมเม้นทิ้งไว้
ให้เปนกำลังใจ ให้ ว่าที่ ( บัณฑิต) คนนี้ปีหน้าด้วยนะคะ >W<
หลังจากคันไม้คันมืออยู่นาน
วันนี้ได้ฤกษ์ทำฮาวทูซักที เริ่มจาก หลังอาบน้ำเสร็จเลยจ้า
ปกติเราใส่แว่นอยู่หอนะคะ สบายตาดี
ก่อนอื่นเราเริ่มจากลงตัวโทนเนอร์ ASNI กระชับตัวขุมขน
ตัวเดย์ครีม ASNI บำรุง
เพื่อบำรุงก่อนที่จะเริ่ม แต่งหน้ากันก่อนนะคะ
และที่สำคัญปัจจัยหลักที่ขาดไม่ได้สำหรับแต่งหน้ารับปริญญา
กันแดดเจ้าค่ะ สำหรับเราเราใช้ตัวกันแดดของนิติพล นะคะ (ซื้อไว้ตั้ง
แต่ตอนรักษาสิวแล้วยังไม่หมด)
เพื่อไว้เผชิญกับแสงแดดอันแรงกล้า
แนะนำให้ใช้กันแดดตัวที่ไม่เหนียวมากนะคะ ถ้าค่า spf ต่ำหน่อย
ความหนืดจะน้อยลงแต่เราลงตัวรองพื้น และเมกอัพเบส ที่มีกันแสงแดด
อยู่แล้วเพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวจ้า >W<
และสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันแดดคราวนี้คือ
เบส คุมความมันค่ะ สำหรับเรา ตัว เบสคิสเป็นตัวที่
กันเรื่องหน้ามันได้เยี่ยมที่สุดแล้ว ทาตรงบริเวณทีโซนที่เราวงไว้เลยจ้ะ
และเบสใส MODEL Co เพื่อ ปรับเรื่องรูขุมขน ให้ดูกระชับ เล็กลง
และปาดรองพื้นได้ง่ายจ้ะ ตัวนี้หลังลงแล้ว ต้องทิ้งระยะเวลาไว้ซัก 5 นาที
เพราะถ้าลงรองพื้นต่อทันทีมันจะเป็นคราบจ้ะ
ตัวนี้ทาตรงบริเวณแก้มกับหน้าผากจ้ะ
ภาพขวาบน เป็นก่อนทาเบสใส
ภาพขวาล่าง เป็นภาพหลังทาเบสใสแล้วค่ะ ไม่รู้รู้สึกไปเองรึเปล่าแต่รู้สึกว่า หลุมดูตื้นขึ้น แฮะ
จะสังเกตได้ว่า เราค่อนข้างมีปัญหาเรื่องแพนด้า และรอยสิวอยู่เยอะ
เราเลยใช้ตัวคอนซีลเลอร์ under eye ของ Lunasol แต้มตรงรอย และใต้ตา
ตรงใต้ตา ทาใต้ ลงมานิดนึงแล้วค่อยตบเกลี่ยขึ้น (ตบนะจ๊ะห้ามปาดไม่งั้นจะเป็นคราบจ้ะ)
ส่วนตรงรอยสิวก็เน้น ตบเช่นกัน ค่ะเกลี่ยให้ กระจายออกไป
แพนด้าจากซ้ายบน พอมาดู ขวาล่าง หายเกลี้ยงไปหมดแล้ว >W<
มาดูตัวรองพื้นกันค่ะ
วันนี้เราเลือกใช้ Shu รุ่น Face architect ( 55+ แอบซื้อเพราะชอบชื่อ ตรงกับคณะที่เรียนดี )
สำหรับตัว รองพื้นรุ่นนี้จะเป็นเนื้อครีมนะคะ
ซึ่งเหมาะสำหรับแต่งหน้ารับปริญญามากกว่าแบบน้ำจ้ะ
เพราะจะติดทนมากกว่า
ตอนทา เราแต้มอยู่ 5 ที่แล้วค่อยใช้นิ้วตบกระจายออก
เพื่อให้สีผิวดูสม่ำเสมอกันขึ้นนะคะ
สำหรับเฉดดิ้งเราใช้แป้งตัวที่
สีเข้มกว่าผิวหน้าเรา ปาดรอบกรอบหน้าค่ะ
(คราวที่แล้วเราเคยเสนอว่า ให้ใช้ฟองน้ำชุบน้ำ แล้วปาดรองพื้น
แต่วันนี้เนื่องจากเราลงเบส ใสไป พอลองวิธีนี้แล้วเป็นคราบ (ว่ะ) ค่ะ วันนี้เลยใช้นิ้วตบแทนจ้ะ)
จากนั้นใช้ทิชชู่แผ่นบางๆ กดทับหลังจากทารองพื้น
แล้วค่อยตามด้วยแป้งฝุ่นนะคะ
ใช้ตัวพัฟกดย้ำๆ ให้ทั่วหน้า
วิธีนี้จะทำให้ตัวเครื่องสำอางค์ติดทนมากขึ้นค่ะ
มาถึงเขียนคิ้วกันจ้ะ
เราเอาสีเข้มเขียนที่ตรงขอบล่างก่อนแล้วค่อยใช้สีอ่อน เขียนตรงคิ้วด้านบน
จะทำให้หน้าดูซอฟต์ขึ้น
วันนี้เราเขียนเน้นให้หนาหน่อยเพื่อให้ดูเป็นธรรมชาติจ้ะ
หลังจากเขียนคิ้วเสร็จ ถ้าสาวๆคนไหน มีคิ้วที่ค่อนข้างเข้ม
แนะนำให้เอามาสคาร่าปัดคิ้ว ลองปัดทับสีคิ้วที่เข้มดูนะคะ
จะทำให้ตัวคิ้วไม่เข้มมาก ดูไม่ดุ แต่กลายเป็นสาวหวานไปเลยจ้า
มาถึงขั้นตอนการแต่งตาดูบ้าง
เนื่องจากชั้นตาเราค่อนข้างหลบในนะคะ
เราเลยใช้ เทป 3เอ็ม ตัดเป็นแถบ แล้วติดตรงเหนือชั้นตา
ทำให้ ชั้นตาโดยรวมดูโตขึ้น และชั้นตาดูชัดเจนขึ้นจ้า
>W<
หลังจากติดเทปสามเอ็มแล้ว เราเอา ตัว eyeshadow mineral สีน้ำตาลอ่อน
ทารอบเปลือกตาเลยจ้ะ
แล้วค่อยใช้สีน้ำตามเข้มทาบริเวณปลายหางตาดังภาพ
แล้วเอาสีทองทาทับ ตรงบริเวณที่วงไว้เลยจ้ะ
(อายชาโดว์ทั้งหมดนี้มาจาก พาเลท KMA นะคะ )
จากนั้นกรีดอายไลเนอร์ชนิดเจล (ถ้าคนหนังตามันมาก แนะนำให้ทาอายชาโดว์
ฝุ่นทับตัวอายไลเนอร์อีกทีนะคะ จะทำให้ตัวอายไลเนอร์ไม่ตกมากลายเป็นแพนด้าค่ะ)
จากปลายหางตามาครึ่งตา จากหัวตา มาครึ่งตา (วิธีนี้จะเขียนตาได้คมมากขึ้นค่ะ)
และเขียนขอบตาล่างโดยเชื่อมส่วนปลายหางตาเข้ามา
จากนั้นเอาอายชาโดว์ สีขาวมุก ทับตัวอายชาโดว์อีกที กันแพนด้า
แถมทำให้ตาดูดุน้อยลงด้วยจ้ะ
มาดูหลังจากทาอายชาโดว์ และกรีดอายไลเนอร์เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ
ตาโตต่างกันเห็นได้ชัดจริงๆ T^T
แต่ช้าก่อนนน
เราลืมทามาสคาร่า
สำหรับคนที่ไม่ชอบติดขนตาปลอม แนะนำใช้ที่ดัดขนตาดัดสามช่วง
แล้ว เวลาปัด เน้นปัดตรงช่วยโคนนะคะ เพราะจะทำให้ ตัวขนตา มันเด้ง
งอนทั้งวันจ้ะ >W<
สำหรับเรา เราขนตาสั้น
เลยใช้วิธีติดขนตาปลอมเอาค่ะ
ขนตาปลอมเจ๊เล้ง เบอร์ 35 << 10 บาท
และ กาวติดขนตาปลอม BSC จ้ะ << กาวตัวนี้เป็นสีดำ เลยค่ะ
ต่างกับแบบอื่นที่กาวมักจะเป็นสีขาว เวลาติดเลยเนียนมากเลยจ้ะ แนะนำๆ
ด้วยดั้งอันน้อยนิด
เราเลยใช้วิธีแรเงา เฉดดิ้ง และไฮไลท์มานำเสนอจ้ะ เริ่มจาก
เอาสีกลางของพาเลท แต่งคิ้ว Kate มาไฮไลท์ข้างจมูกก่อน แบบนี้เลยจ้ะ
และไฮไลท์ให้ดั้งดูโด่งขึ้น ด้วยสีขาวมุกจากพาเลทของ LUNASOL จ้ะ
ส่วนปากเราทาด้วย
Tint สี ส้ม 03 ด้านใน
แล้วทาด้วยกลอสของ Coffret d'or สีชมพูทับ
เพื่อเพิ่มความเป็นประกายให้กับริมฝีปากจ้ะ >W<
สำหรับตัวปัดแก้ม
เราเลือกสี น้ำตาลเฉดดิ้งบริเวณข้างแก้มให้หน้าดูเรียวขึ้น
และสีส้มตรงบริเวณพวงแก้มด้านในค่ะ
แค่นี้หน้าเราก็ดูเรียวยาว สมใจเลยจ้า >W<
แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จขั้นตอนการแต่งหน้าแล้วค่ะ
มาดู ภาพ Before กับ After กันค่ะ
อืมมมมมม ... เข้าใจแล้ว ว่าทำไม เพื่อนถึงบอกให้แต่งหน้าตลอด
หลังจากเจอเราตอนสภาพทำงานเข้าไป .. T^T
เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศ รับปริญญา
ขอแวะไปทำ ผม แต่งเสื้อผ้าก่อนนะคะ
เริ่มจากปอยผมด้านหน้าหยิบขึ้นมาบิด แล้วติดกิ๊บ ด้านหลังนะคะ
สำหรับเรา T^T เราไม่มีกิ๊บตัวที่เป็นสีดำแบบหนีบอ่ะจ้ะ เอามา
ประกอบแก้ขัดไปก่อนจ้า
ม้วนเก็บทั้งสองข้างเพื่อเป็นการเปิดหน้า
ส่วนตัวผมด้านล่าง ม้วน แกนให้ดูเป็นสาวหวาน ขึ้นจ้า
แค่นี้ก็พร้อม แล้วค่ะ
เฉดสีแบบนี้ดูสุภาพและดูเป็นธรรมชาติด้วยค่ะ
>W< เราชอบแต่งโทนสีน้ำตาลมาก
และภาพสุดท้ายของวันนี้ ขอขอบคุณทุกๆท่านที่แวะเข้ามาชมนะคะ
หวังว่าฮาวทูครั้งนี้คงสามารถเป็นวิทยาทาน เรื่องการแต่งหน้ารับปริญญาไม่มากก็น้อยนะคะ
ขอบคุณมากค่า >W<
Discussion (46)