แว็กซ์น้องหนูแบบHollywood

ได้ฤกษ์ดูแลน้องหนูของเราเสียที หลังจากที่หาข้อมูล+เตรียมใจมานาน
เมื่อ วานจึงตัดใจไปลองร้านแว็กซ์ใหม่ที่เซ็นทรัลเวิร์ลมาค่ะ ทั้งที่ใจจริงอยากไปลองร้านที่คุณ vodka เคยบอก แต่โทรไปเบอร์ที่ให้ไว้ก็ไม่มีใครรับ ครั้นจะถ่อสังขารไปถึงร้านโอภาสก็ไกลไป ก็สรุปเลยว่าร้านนี้ใกล้ที่สุดค่ะ

ไปถึงร้านก็ต้องกรอกข้อมูล ส่วนตัว ประมาณ 3 หน้าค่ะ ตอนแรกก็ตกใจ เอ๊ะ! จะมาแว็กซ์ขนเนี่ย ต้องกรอกข้อมูลด้วยเหรอ

แต่เอาเหอะกรอกก็กรอก หลังจากนั้นเค้่าก็บอกให้เราไปห้องน้ำก่อน นัยว่าให้ไปล้าง+เช็ดให้สะอาดก่อนนั่นแหละ เสียดายที่นี่ไม่มีห้องน้ำในตัวให้เข้า ก็เลยต้องเดินไปเข้าในส่วนกลางที่ห้างจัดไว้

กลับมาอีกรอบ ก็เข้าไปในห้องส่วนตัวมิดชิด มีเขียง เอ้ย! เตียงรออยู่ เตียงก็ประมาณเตียงตรวจคนไข้ในโรงพยาบาลนั่นแหละค่ะ จากนั้นก็ให้เราถอด กกน. ออก   เอ๊ะ! (รอบ2) ที่นี่ไม่มีชุด/ ผ้า อะไรให้เราเปลี่ยนเลยเรอะ จะมีก็แต่กระดาษสาเทียมแผ่นบางๆรองใต้ก้นเราเท่านั้นแหละค่ะ

จาก นั้นเจ้าหน้าที่ก็เริ่มตัด เล็มความยาวให้เหลือประมาณ 1 ซ.ม. แล้วก็เริ่มป้ายยางซิลิโคนอุ่นๆ บนน้องหนูของเราทีละแถบ เริ่มจากด้านข้างก่อน นัยว่าเจ็บน้อยสุด ดีหน่อยที่เขาใช้ไม้พายแบบไม้ไอติมอันใหญ่ๆอันใหม่ ทุกครั้งที่จุ่มยางในหม้อ จึงน่าจะไม่มีปัญหาเรื่องเอายางส่วนเกินใส่กลับไปในหม้อ แล้วเราก็รอให้ยางจับตัวให้ได้ที่ เชื่อไหมว่าระหว่างนี้มีแต่ความเงียบและเงียบ รอว่าเมื่อไรที่เค้าจะดึงยางออกไปสักที

ระหว่างนี้ก็ชวนเค้าคุย เค้าก็ถามคำตอบคำ เหมือนไม่ค่อยอยากจะคุยเลย ทำไงดีละ่ กลัวก็กลัว นี่มันครั้งแรกของชั้นนะ ช่วยสร้างความคุ้นเคยหน่อยได้ไหม

ทันทีทัน ใดนั้น แควกกกกกก โอ๊ยยยยย ไหนว่าเจ็บนิดเดียวไง หลอกกันนี่นา แล้วเค้าก็เลยบอกเราว่าส่วนที่จะเจ็บมากกว่านี้ยังไม่ได้ลงมือ

พนักงาน : พี่คะตรงนี้น่ะ เจ็บน้อยสุดแล้วค่ะ ตรงกลีบส้มน่ะสุดๆ
                แต่ก็เจ็บไม่นานนะคะ 10 นาทีก็หาย

ไอ้เราก็งง มาบอกอะไรตอนนี้ บอกแล้วฉันเลิกทำได้เหรอไงยะ มาถึงขั้นนี้ก็ลุยสถานเดียว ปลอบใจว่า เอาน่ามีคนทำมามากกว่านี้ตั้งเยอะ ยังรอดมาได้เลย ว่าแล้วก็หันไปคว้าผ้าคลุมที่พนักงานเอามาคลุมให้ (ก็ไม่รู้ว่าจะคลุมทำไม ไม่ได้แก้ผ้านี่นา เอ.....หรือป้องกันเลือดโชก 5555 คิดไปนั่น) เอามุมผ้ามาขมวดเป้นปมแล้วก็คาบไว้ค่ะ เลียนแบบนางเอกหนังตอนคลอดลูกสักหน่อย คิดอะไรไปเรื่อยๆ ก็แควกอีกแล้วค่ะ แล้วก็สุดๆจริง น้ำตาไหลพรากเลย ในที่สุดก็รู้ว่า "เจ็บจนพูดไม่ออก" เป็นอย่างไร หลังจากนั้นพนักงานก็เอาแหนบมาตามเก็บรายละเอียด ซึ่งก็ไม่รู้ว่าชาจนไม่เจ็บ หรือว่าเจ็บแค่นี้เทียบไปไม่ได้กับไอ้ที่เจอมาเมื่อกี้ 

พอเสร็จปุ๊บพนักงานก็บอกให้เราลุกขึ้นนั่ง แล้วเจ้าหล่อนก็เอาอุปกรณ์ที่ใช้กับเราเมื่อกี้ มายืนเหนือปากถังขยะ แล้วก็ฉีดสเปรย์แอลกอฮอล์ ปื๊ด ปื๊ด เอาทิชชู่เช็ดตาม แล้วก็เสียบไว้ในกล่องอุปกรณ์ดังเดิม เอ๊ะ (รอบ 3) ล้างแค่นี้ จะสะอาดไหมเนี่ย ฆ่าเชื้อหมดเหรอ แล้วที่ใช้กับเราเมื่อกี้ ก็ผ่านการฆ่าเชื้อแบบนี้ใช่ไหม.....

หลังจากนั้น  พนักงานก็เดินออกจากห้องไป แล้วก็ไม่ปิดประตูให้ด้วย เราก็ได้แต่อึ้ง  ว่าเฮ้ย ฉันยังไม่ได้ใส่กุงเกงลิงเลยนะเฟ้ย หรือจะให้ฉันใส่ทั้งที่ประตูยังเปิดอย่างงี้เนี่ยนะ แม้ว่าจะนุ่งกระโปรงอยู่ก็เหอะ สุดท้ายก็เลยต้องเดินไปปิดประตูเอง ยังไงๆก็ยังอายเป็นนะ 

เดินออกมาจากห้องพร้อมจ่ายค่าเสียหาย 1500 บาท (ตามที่เจ้าหน้าที่บอกไว้ ตอนที่โทรมาจองคิว แล้วก็เลยเพิ่งรู้ว่าถ้าจ่ายด้วยบัตรวีซ่าจะลดให้อีก 3% ทำไมไม่บอกก่อนเนีย จะได้หยิบบัตรมาด้วย ครั้นจะให้เดินกลับไปเอาบัตรที่ลานจอดรถก็ไม่ไหวอ่ะ  ที่ไม่ได้เอาบัตรมาก็เพราะกลัวว่าเป็นภาระ มาตัวเปล่าดีกว่า

หลังทำไปแล้ว 1 วัน สิ่งที่ได้กลับมาคืออาการปวดๆน้องหนูกับสิวอักเสบเม็ดเล็กๆ4-5 เม็ด รอดูอยู่ว่าเป็นเพราะขนคุด หรือเปล่า 

สุดท้ายเลยได้ข้อคิดว่า .
1. ควรจะทำในที่ๆมีคนลองมาก่อนแล้ว
2. สอบถามโปรโมชั่นทุกครั้ง