แชร์ประสบการณ์"หน้าติดสเตียรอยด์" สาวๆผิวแพ้ง่ายๆโปรดระวัง

เป็นสมาชิกใหม่ของเวป Jeban นะคะ วันนี้มีประสบการ์ณจริงที่เกิดกับตัวเองมาในเรื่องของการเปลี่ยน คสอ + skincare อยู่บ่อยๆ เพราะตามแฟชั่นบ้าง เพื่อนแนะนำบ้าง โฆษณาออกใหม่ โปรโมชั่นบ้าง คือเรียกได้ว่าเยอะ ใช้ไม่หมดเปลี่ยน เบื่อเปลี่ยน  ทั้งๆที่ผิวตัวเองก้แพ้ง่ายนะคะ ผิวค่อนขาว และ บาง บางครั้ง หลายๆครั้งใช้แล้วก้แพ้ ก้จะไปหาหมอ เอายามากิน เอาครีมมาทา พอทายาก้หาย ใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ แพ้อีกก้ทายาอีก ก้หาย เป็นแบบนี้อยู่เรื่อยเป็นมานานเป็นปี ไปหาหมอกี่ครั้ง หมอก็ให้ TA 0.02% มาทาบางๆ ถ้าหายแล้วหยุดทาทันที ตลอดเวลาเราไม่รู้เรื่องว่าหน้าเรากำลังติดสเตียรอยด์แล้ว

ล่าสุดหน้าแพ้  skincare ตัวนึง ไปหาหมอเอายามาทาไป 1 สัปดาห์ (หมอ รพ เอกชน ย่านสะพานควาย) ผื่นมันก้ค่อยๆลดลง แล้วก้หาย ยังนึกในใจ ยาหมอนี่ดีแฮะ ทาไม่กี่วันผื่นก้ยุบ ดีๆๆๆ พอผื่นหายก้หยุดทาแล้วกลับมาใช้ skincare ตัวใหม่ อีกประมาณ 3 วัน อ้าว..ผื่นกลับขึ้นมาแล้ว เรากลับไปหาหมอที่เดิม หมอก้ให้ยามาทาอีก พอทายาก้หาย (ช่วงระหว่างทายาไม่ใช้อะไรเลยนะคะ ทาแต่ยาบางๆเช้าเย็น)

พอผื่นหายเราก้ลองหยุดไม่ใช้อะไรเลย ปรากฎว่า 2-3 วันต่อมา หน้าก้เริ่มแดง + ผื่นขึ้นมาอีก + คันๆยิบ วิธีเดิมคือกลับไปหาหมออีกครั้ง คราวนี้ยิ่งแย่ใหญ่ เพราะไม่ได้ใช้อะไรเลย ทำไมพอหยุดยาหน้ามันกลับมีผื่นขึ้น หน้ามันแดงและคันด้วย หมอก้ให้ยามาทา บอกผิวมันยังระคายเคือง ยังแพ้อยู่น่ะ ทายาต่อนะ

จะบอกว่าไม่แล้วอ่ะ เรารู้สึกหน้าเราไม่ปกติแล้ว ไม่ได้แพ้ธรรมดาแล้ว เพราะทุกครั้งที่แพ้ ทายามันก้หายแล้ว นีเราหายแล้ว ก้เป็นขึ้นมาอีก ทายาหาย หยุดยา ผื่นก้กลับมาอีก ร้อนรนไปหมดไม่รู้จะทำงัยดี จึงตัดสินใจเปลี่ยนหมอ..

 

Discussion (29)

เราไปศึกษาเพิ่งเติมและพบว่าการที่หน้าเกิดอาการแพ้ง่ายนั้นเกิดมาจากหน้าถูกสารสเตียรอบเข้าไปกดภูมิทำให้พอเวลาเราเลิกให้ ผิวหน้าจึงมีอาการอ่อนแอง่ายต่อปัจจัยต่างๆ อีกทั้งบางรายงานบอกเอาไว้เกี่ยวกับสารนั้นยังเข้าสู่เส้นเลือดและมันจะใช้เวลานานมากกว่าจะขับตัวเองออกมาหมด คือเราต้องรอและใช้เวลาให้มันฟื้นฟูตัวมันเอง โดยขณะที่รอ เราสามารถเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพื่อให้ผิวเรากลับมาแข็งแรงเป็นปกติได้เร็วขึ้น หลังจากที่เราหาหมอที่นีตนาตเป็นเวลาทั้งหมด2เดือน หมดเงินกับค่ายาและวีบีมไปสามหมื่นบาท เราจึงรู้สึกถึงเวลาควรพอได้แล้วเพราะไม่ไหวจะจ่ายต่อไปแล้ว55 แต่หน้าเราดีขึ้นมาก ไม่ใช่แค่มากสิค่ะ มากมากมากกก ก่อนจะจากคุณหมอเป็นครั้งสุดท้ายเราถามคุณหมอก่อนไปว่า "ถ้าคนที่ไม่มีกำลังรักษาแล้วเกิดเป็นโรคนี้ขึ้นมาเค้าจะรักษาตัวเองได้อย่างไรแบบไม่เสียตังมาก" คุณหมอบอกง่ายๆว่า "ไม่ต้องทำอะไรกับหน้าเลยปล่อยมันไว้และให้เวลาเยียวยา" ฟังดูง่ายแต่ทำยากมากค่ะเราเข้าใจดีเพราะหลังจากเลิกหาหมอ เราก็กลับมารักษาด้วยตัวเอง คือเราแอบเกเรคุณหมอนิดหน่อยคือใช้ไข่ขาวผอกหน้าทุกวัน วันละ15นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำป่าว ทำวันละครั้งตั้งแต่ที่หยุดสเตียรอย เพื่อดีท็อกสารออกไป มันเวิคกับเรามากค่ะ ทำอยู้2อาทิตย์ เพราะหน้าจะแห้งมากๆ แล้วเมื่อเราไม่ได้ใช้มอย์เจอร์มันจะยิ่งเพืชิ่มความแห้งไปอีก จึงต้องจำกัดเวลา หน้าดีขึ้นสุดๆตอนนี้จากที่เป็นมาก็7เดือนแล้ว ชีวิตเราเปลี่ยนไปมากๆไม่ว่าจะการกิน วิถีการใช้ชีวิต เรากินน้ำป่าวอุณภูมิห้อง กินผักเยอะมาก กินผลไม้ ไม่กินพวกเบเกอรี่(เพราะมีส่วนผสมนมเนยชีส ตัวกระตุ้นการเกิดอาการข้างเคียงสำหรับคนเป็นสิวสเตียรอยอย่างดี) นอนเร็วขึ้น ใส่หมวกเวลาออกแดด เพราะปัจจุบันนี้เราก็ยังไม่กล้าทาอะไรบนหน้า (เคยดื้อแอบบไปใช้แล้วแพ้) แล้วก็ไม่แต่งหน้า ปัจจุบันหน้าเราดีขึ้นมาก หน้าดีกว่าแต่ก่อนมากๆ สมัยก่อนเราไม่แต่งหน้าออกจากบ้านไม่ได้เลยไม่มั่นใจ เดี๋ยวนี้เราทาแต่ปากแล้วหน้าสดเลยค่ะ เพื่อนเราทักว่า "หน้าไม่แต่งตอนนี้ดูดีกว่าตอนสมัยก่อนจะเป็นอีก" บางทีถ้าผิวพูดได้มันคงอยากบอกว่า น่าจะดูแลมันแบบนี้ตั้งนานแล้ว ^^ ยังไงเราเอาใจช่วยคนที่เป็นทุกคนนะค่ะ สู้ๆ เราเคยเป็นหนักมากๆเราเข้าใจความรู้สึกดี สู้ๆค่ะ เวลาจะช่วยเยียวยาเอง
เราอยากมาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังค่ะ เราหน้าโดนสารสเตียรอยและตอนนี้ผิวหน้าหายดีเกือบ100%แล้ว ซึ่งหน้าตอนนี้กลับมาดีกว่าตอนยังไม่ติดสเตียรอยเสียอีก (หมายเหตุ วิธีของเราใช้กับผิวหน้าเราเองแล้วได้ผลแต่ไม่รับรองว่าจะได้ผลกับทุกคนนะค่ะ) เริ่มต้นสาเหตุที่ทำให้เราติดสเตียรอยไปแบบไวๆเลยนะค่ะ เราใช้ครีมของเพื่อนเราคนนึงเพราะเห็นว่ามีเครดิตเป็นดาราจึงไว้ใจใช้ครีมของเค้า แรกๆปัญหาสิวรอยสิวหายหน้าขาวใส ใช้ๆหยุดๆบ้างเป็นเวลา1ปี แล้วกลับมาใช้อีก เอามาทาแค่ตรงที่เป็นสิวอีก1ปี (เพราะทาปุ๊บตื่นเช้ามาสิวยุบปั๊บ) พอหยุดเพื่อเปลี่ยนครีมใหม่เท่านั้นแหละค่ะ ผื่นขึ้น หน้าแดง หน้าสาก ตุ่มเล็กๆ เต็มไปหมด มาถึงวิธีการรักษาเลยนะค่ะ หลังจากที่เป็นแล้วเราเข้าไปเสริชดูอาการจนพบว่าตัวเอง "ผิวหน้าติดสเตียรอย" เราเริ่มจากไปหาหมอตามคลินิคต่างๆ ไปมาสองที่ ทั้งสองที่ให้ใช้ยาทาที่มีส่วนผสมสเตียรอยเพื่อการรักษาร่วมกับมอย์เจอร์ไรซ์เซอร์ให้ความชุ่มชื่น แต่สเตียรอยให้ใช้ในปริมานน้อยและจำกัดวันใช้ แต่เราเป็นคนใจร้อนและไม่ชอบการยืดเยื้อ55 เนื่องจากไม่อยากใช้สเตียรอยต่ออยากเลิกแบบเด็ดขาดจึงไปพบคลินิคแห่งหนึ่งซึ่งมีการรักษาผิวที่ติดสเตียรอยแบบไม่ใช้สเตียรอยในการรักษา ที่นั่นชื่อว่า "นีตนาต" ตั้งอยู่ที่ถนนแจ้งวัฒนะ คุณหมอชื่อคุณหมอ สมนึก คุณหมอรักษาโดยการให้หยุดใช้ทุกอย่าง ล้างหน้าด้วยน้ำป่าว ง่ายๆเลยคือปล่อยหน้ามันไว้แบบนั้น ไม่ต้องทำอะไรกับมันทั้งสิ้น หลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นตัวกระตุ้น เช่น อาหารทะเล ชากาแฟ เนื้อ แอลกอฮอล์ และให้วิตามินมาทาน3ตัว จำได้คร่าวๆว่ามี วิตามินซี ยาแก้คันแก้แพ้ และยิงv.บีมเพื่อรักษาเส้นเลือดภายใต้ผิวหน้าที่ถูกสเตียรอยกดเอาไว้จนอ่อนแอให้กลับมาแข็งแรง...
....จากประสบการณ์ตรง ประสบการณ์จริง ไม่มีปิดเคยเป็นเลยค่ะ แต่ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้วแต่ก็ยังมีผื่นขึ้นอยุ่บ้าง ช่วงบริเวณคาง ก่อนอื่นต้องขอท้าวความให้ฟังนิดนึงนะค๊ะ มันเริ่มจากเรามีอาการคันและมีผื่นขึ้นเล็กน้อยที่หน้า แต่ด้วยความลำคาญและห่วงสวยเลยไปหลงใช้ยาอยุ่ตัวนึงที่ทางร้านแนะนำให้ ร้านนี้เป็นร้านขายยาค่ะ ร้านตั้งอยุ่ในซอยพรธิสารคลอง6 ซึ่งเราก็ได้บอกกับเภสัช ว่าเรามีอาการคันยิบๆ และมีผื่นขึ้นเวลาเหงือออก เภสัชก็จัดเลยค่า เป็นยาทาคล้ายน้ำนม ส่วนขวดที่ใส่ ก็เหมือนกับซื้อขวดแล้วมาบรรจุยาเอง เพราะยาไม่มีฉลากหรือรายละเอียดใดๆทั้งสิ้น มีแค่สติ๊กเกอร์ติดที่ขวด ว่าทาตอนไหน แก้ผื่น คัน เท่านั้น แต่ด้วยความที่เรายังเด็ก ยังไม่มีความรุ้เรื่องสารสเตียรอยด์ เลยหลงใช้ยาตัวนั้นอยุ่นาน 2 ปี โดยที่เภสัชก็ไม่ได้บอกเลยว่ายาตัวนี้มีสเตียรอยด์ผสมอยุ่ ช่วงที่ใช้ยาอาการผื่นคันหายค่ะ ส่วนสิวก็มีขึ้นบ้างนิดหน่อย แต่หน้าจะดูใส ขาวอมชมพู จนมีคนทักว่าหน้าใสมาก คือจริงๆแล้วผิวหน้าเรากำลังจะบางลงต่างหากเลยดูว่าใส ซึ่งตอนหลังๆ มีช่วงนึงที่หมดแล้วเราไม่ได้ไปซื้อ คืออยากลองเปลี่ยนครีมใหม่ที่เห็นในโฆษณาดูบ้าง ก็เลยไปซื้อครีมที่โฆษณามาใช้ แต่ปรากฏว่าพอใช้ได้ 2-3 วัน ผื่นก็มาเลยจร้า คันยิบๆ แสบๆ แดงๆ ไอ้เราก็คิดว่าแพ้ เลยหยุดใช้ครีมตัวใหม่ แต่อาการก็ไม่ดีขึ้น ก็เลยกลับไปซื้อยาจากที่เดิมมาใช้อีก เราพยายามจะเปลี่ยนครีมอยุ่หลายยี่ห้อ แต่ก็เป็นแบบเดิม จึงยอมใช้ยาตัวเดิมมาตลอด....จนวันนึงเราสังเกตเห็นเส้นเลือดขึ้นที่ข้างแก้ม แต่ก็ยังไม่ได้ใส่ใจอะไรมากมายปล่อยเลยตามเลย จนเพื่อนเริ่มทัก คนรอบข้างเริ่มทัก ว่าทำไมเห็นเส้นเลือดชัดมาก และหน้าจากขาวใสอมชมพูก็เริ่มแดง ต่างจากผิวตัวเยอะมาก จึงทำให้เราเป็นกังวนมาก ว่าทำไมหน้าถึงเป็นแบบนี้ จึงทำให้มาถึงจุดเปลี่ยนที่ทำให้เราเลิกใช้ยาตัวนั้น ...เราได้ไปหาหมอที่ราชเทวีคลีนิก ขอเอ่ยชื่อคลีนิกเลยแล้วกันค่ะ แต่จำชื่อคุณหมอไม่ได้แล้วนะ ตอนที่ไปรักษาก็นำตัวยาที่เราใช้จนติด ไปให้คุณหมอดูด้วย คุณหมอเลยบอกว่าเราติดสเตียรอยด์นะ ติดมานานแล้วด้วย แล้วก็ให้เลิกใช้ยาตัวเดิมซ๊ะ แต่การรักษาต้องใจเย็น ค่อยเป็นค่อยไป เราจำได้ว่าช่วงที่รักษาที่คลีนิกราชเทวี มันทรมานมาก ทั้งคัน ทั้งแสบแดง คือหมอไม่สามารถให้ยาแรงได้เลย เพราะผิวหน้าเราอ่อนแอมาก เราเลยพยายามทน ช่วงอาทิตแรกที่ไปหาหมอก็ให้ยาแล้วนัดเราอีกอาทิตหน้า แต่!!! ผ่านไปแค่ 3 วันเท่านั้นเราต้องกลับไปหาคุนหมอใหม่เพราะทนอาการแสบคันเห่อ ไม่ได้จริงๆ คุนหมอเลยทายาที่มีสารสเตียรอยด์ชนิดอ่อนให้ เพื่อบรรเทาอาการ แต่ไม่น่าเชื่อ!! หลังทาแค่ 2-3 ชั่วโมง ผื่นยุบ หายคัน หน้าดูเรียบขึ้นทันตา เลยมานึกย้อน หน้าเราติดไอ้สารบ้าตัวนี้มากขนาดนี้เลยหรอ เฮ้อ!!! หลังจากวันนั้นเราก็ทนมาตลอด ไปหาหมอตามนัดตลอด ผ่านไปเกือบเดือน เราก็เริ่มรุ้สึกว่าอาการเริ่มโอเคขึ้น แต่ก็ยังไม่หายขาด ก็ยังคงมีอาการคัน แดง ผื่น อยุ่บ้าง แต่น้อยลงจากเมื่อก่อน เราก็รักษาอยุ่ประมาน 3 เดือน ถามว่าหมดเงินไปเยอะมั้ย อืม!!! เยอะมาก 2-3 หมื่น บางคนอาจจะไม่เท่าไหร่ แต่สำหรับเรามันเยอะมาก แล้วตอนนั้นก็เรียน ไม่ได้ทำงานเลยต้องขอแม่ตลอด การรักษาที่คลีนิกนี้ถือว่าโอเคระดับนึง แต่อาการไม่หายขาดค่ะ หน้ายังไม่เรียบ ลูบหน้าตัวเองก็ยังมีผื่น มีเม็ดขึ้นอยุ่ โดยเฉพาะตรงช่วงคางจะเหมือนมีสิวเสี้ยวขึ้นเป็นหนามๆเยอะมาก... ...เราเลยตัดสินใจเปลี่ยนคลีนิกมาเป็นวุฒิศักด์คลีนิก มาทำที่คลีนิกนี้มีทั้งเลเซอร์ ทรีทเม้น กดสิว ตามสเต็บเค้า ตามคอร์สเค้านั่นแหละ ราคาก็แพงเอาเรื่องนะ คอร์สเลเซอร์+ทรีทเม้น 10 ครั้ง ประมานนี้ หน้าดีขึ้นค่ะ ดูใสขึ้น ปัญหาหน้าต่างๆ ค่อยๆ ลดลงไประหว่างการรักษา แต่มีอยุ่อย่างนึงที่ยังอยุ่คือรอยเส้นเลือด เหมือนกับยิ่งรักษายิ่งเห็นเส้นเลือดชัดขึ้น จนแม่บอกไม่ต้องรักษาแล้วเหมือนจะทำให้หน้ายิ่งบาง เราก็เลยรักษาแค่ในคอร์สแค่นั้น พอจบคอร์สก็ไม่ได้รักษาอีก รักษากะวุฒิศักดิ์คลีนิกอยุ่4-5เดือนนะ แต่พอยาหมด ครีมหมด หน้าก็เริ่มมีผื่นเหมือนเดิม ทำเอาเราเซ็งอย่างแรง อาการติดยามาอีกแล้ว... ...เราก็เลยเปลี่ยนคลีนิกใหม่ ไปรักษากับพรเกษมคลีนิก มารักษาที่นี่ แพงหนักกว่า 2 ที่แรกอีกจร้า.. แต่เรื่องยา ขั้นตอนการตรวจรักษาที่น่าค้นข้างจะโอเค มีการตรวจสิวส่องกล้อง ว่าสิวเกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง ควรเลี่ยงหรืองดอะไร เรามารักษาที่นี่นานสุด ความถี่ในการรักษาแรกๆ เกือบทุกอาทิต มาหลังๆก็เดือนละครั้ง 2เดือนครั้ง 3 เดือนครั้ง ก็แล้วแต่เราจะไป คุณหมอจะให้เราเลเซอร์สิวอุตตัน รอยแดงดำ ทำทรีทเม้น กดสิวร่วมด้วย ประมานนี้ การเลเซอร์สิวอุตตันสิวเสี้ยนที่คางที่นี่ทำได้ดี พอเลเซอร์ไปเรารุ้สึกเลยว่าสิวออกมาเยอะมากหลังจากเลเซอร์ คือมันผุดออกมาเองตามแนวที่ยิงเลเซอร์ 2-3 วันมันถึงจะหยุดผุด 555 ชอบเลย คางดูเรียบขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ไม่ใช่ว่ามันจะหายขาดนะ แต่มันก็หายไปนาน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เราค่อยๆห่างยานานขึ้น นานขึ้น กลายเป็นว่านานๆใช้ยาทีนึง จึงทำให้ผิวหน้าเราค่อยๆปรับสภาพไป จากที่เคยใช้ยาทุกวัน ก็ค่อยลดเป็น 2 ครั้งต่อสัปดา เหลือ1ครั้งต่อสัปดา เหลือ 2สัปดาครั้ง ค่อยๆห่างไป ประมานนี้ เพราะอาการติดสเตียรอยด์จะให้เลิกปุบปับมันไม่ได้หรอกค่ะ มันยิ่งจะทำให้เราทรมาน ต้องค่อยเป็นค่อยไปบวกกับรักษาอย่างถูกต้อง ตรงจุด แล้วช่วงระหว่างที่ทำการรักษาควรปฏิบัติตามแพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด ห้ามใช้สบู่ ห้ามใช้โฟม ไม่ใช้ลองพื้น ไม่ถูหน้าแรง ไมแกะ ไม่บีบ รบกวนผิวหน้าให้น้อยที่สุด แค่นี้ก็ผ่านมันไปได้แล้วค่ะ
ขอ e-mail ไไว้ปรึกษาด้ไหมคะ พอดีสามีเป็นแบบคุณเลยค่ะ อยากให้เค้าหายค่ะ ขอบคุณล่วงหน้านะคะ อันนี้ e-mail เราค่ะ hugmefanclub@gmail.com
ยาที่หมอให้มาทานคือ แอนตี้ฮีสตามีนหรือเปล่าคะ