Baby cheeks ว่าด้วยเรื่องรูปหน้าและการปัดแก้ม

 
สวัสดีค่าาา เพื่อนๆที่รักทุกคน(о^ิз^ิо)
 
 
 
วันนี้จูนจะมาว่าด้วยเรื่องการปัดแก้มกันค่ะ 
 
 
 
 
 
 
ขอทำความเข้าใจนิดนึงว่า ทั้งหมดที่จูนเขียนนี้ 
มาจากทัศนคติและความเข้าใจจากสิ่งที่ได้เรียนรู้สะสมมา
 
เพราะฉะนั้น การปัดแก้มของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันออกไป
เพื่อนๆสามารถคอมเม้นแชร์เทคนิคอื่นๆ ให้เพื่อนๆได้รับประโยชน์กันได้นะคะ
จูนก็จะขอเกี่ยวเกี่ยวความรู้ไปด้วยคนจ้าาาา
 
รอบนี้จูนเน้นการปัดแก้ม และไฮไลท์+เฉดดิ้งนะคะ 
เพราะงั้นสีตาและปากจะเป็นสีเดียวกันทั้งหมด 
เพื่อจะได้เห็นความแตกต่างของสิ่งที่จูนเน้นได้อย่างชัดเจนค่ะ
 
เอาล่ะจ้าาา มาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ(-ι_- )
 
 
 
 
ชนิดของบลัชออน
 
บลัชออนโดยทั่วไปจะแบ่งได้ 3 ชนิด ตามสภาพผิว ได้แก่ แบบเจล แบบครีม และแบบฝุ่น
 
 
 
 
 
 
แบบเจล
เหมาะสำหรับ ผิวมัน-ผิวผสม
วิธีใช้ หลังจากลงรองพื้น ให้แต้มบลัชเจลลงบนแก้มแล้วใช้นิ้วเกลี่ยให้สีกระจายอย่างรวดเร็ว
ข้อดี ติดทนนาน สีเรียบเนียนสนิทกับผิว เสมือนธรรมชาติสร้างมา ฮาๆๆๆ
ข้อเสีย กะปริมาณยาก แห้งเร็วและเป็นคราบง่ายมาก เวลาใช้ ควรลงทีละข้าง มิฉนั้นแก้มจะเป็นจ้ำๆเหมือนยุงกัดนะจ๊ะ -*- 
 
 
แบบครีม
เหมาะสำหรับ ผิวผสม-ผิวแห้ง
วิธีใช้ เช่นเดียวกับการลงรองพื้นแบบเจล คือลงหลังจากทารองพื้น 
ยกเว้นบางยี่ห้อสามารถลงบลัชครีมหลังจากทาแป้งได้ ลองสอบถามจากบีเอของยี่ห้อนั้นๆได้นะคะ
ข้อดี ติดทนพอสมควร ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว เป็นธรรมชาติ
ข้อเสีย กะปริมาณยาก แม้จะแห้งช้ากว่าแบบเจล แต่ก็มีโอกาสเป็นคราบและสีไม่สม่ำเสมอ เพราะงั้นลงที่ละข้างอย่างใจเย็นดีกว่าจ้า
 
 
 
 
 
 
 
 
แบบฝุ่นอัดแข็ง
เหมาะสำหรับ ทุกสภาพผิว
วิธีใช้ ใช้ปัดแก้มหลังจากทาแป้ง 
ข้อดี มีสีให้เลือกหลากหลาย ใช้งานง่าย ควบคุมปริมาณสีได้ดี
ข้อเสีย ความทนทานน้อยที่สุดเมื่อเทียบกันทั้งสามแบบ เฉดสีอาจเพี้ยนไปในช่วงบ่ายหรือตามสภาพผิว
 
บลัชออนแบบฝุ่นในปัจจุบันนี้ มีหลากหลายแบบมากๆ ทั้งแบบสีเดี่ยว แบบไล่โทนสี 
และแบบมีลวดลาย ซึ่งแบบหลังนี้บางคนอาจจะงงว่าจะใช้ยังดีหว่า?
 
ใช้ไม่ยากค่ะคุณผู้อ่านที่รัก^^ แค่เอาแปรงปัดแก้ม วนให้ัทั่วบลัชออน สีมันจะผสมกันออกมาเป็นสีใหม่
ซึ่งทางผู้ผลิตเขาคิดค้นมาแล้วว่าพอมันรวมกันแล้ว สีแจ่มเจิดดดดด!
 
 
ภาพบลัชออนแบบไล่โทนสีและแบบลายสวยๆที่แบรนด์ต่างๆทำออกมายั่วพวกเรา อร๊างงงงง(≧♉ฺ≦)
 
 
 
 
 
ที่นี้ มาเลือกโทนสีที่เหมาะกับผิวกันค่ะ
 
จริงๆแล้วจูนอยากจะบอกว่า 
"ไม่ว่าคุณจะโทนสีผิวแบบไหน ขอเพียงแต่คุณมีความมั่นใจ ถึงปัดสีแรงแค่ไหนยังไงก็สวย"
ประโยคนี้มันเป็นเรื่องจริงนะคะสาวๆ ไม่ใช่แค่คำพูดที่สวยหรู 
 
รอยยิ้มและความมั่นใจมันสามารถลบจุดด้อยทุกอย่างของคุณไปได้ 
ขอแค่คุณเชื่อมั่นในตัวคุณเองเท่านั้นค่ะ
 
...แต่ถึงกระนั้นก็เถอะ ในเมื่อวันนี้เราจะล้วงลับตับแตกกันเรื่องบลัชออน
การรู้เรื่องสีที่เหมาะกับผิว ก็จะช่วยเสริมความงามให้มากยิ่งขึ้นไปอีกเนอะ d(ゝc_,・。)
 
 
 
 
ผิวขาว-ขาวอมชมพู
เฉดสีที่เหมาะกับผิว ได้ทุกเฉด โดยเฉพาะชมพู-พีช 
 
บางคนปัดโทนส้มแล้วดับ ก็คงขึ้นอยู่กับผิวของแต่คนด้วย
 
 
 
 
 
 
ผิวขาว-ขาวเหลือง
เฉดสีที่เหมาะกับผิว พีชอมชมพู-ส้ม 
 
ผิวขาวเหลืองมักจะมีปัญหาสีบลัชออนเพี้ยนได้ง่าย โดยเฉพาะกับโทนชมพู ซึ่งบางคนเมื่อปัดออกมาแล้วจะออกอมแดง
วิธีแก้ปัญหาคือ ถ้าอยากได้แก้มแบบชมพูเบบี้พิงค์ ให้คุณเลือกบลัชที่มีสีอมม่วงปน สีที่ได้จะออกชมพูหวานๆดั่งที่ใจต้องการค่ะ
 
 
 
 
 
 
 
ผิวเหลือง-ผิวสีน้ำผึ้ง
เฉดสีที่เหมาะกับผิว พีช-ส้ม-น้ำตาลอิฐ 
 
หากสาวผิวเข้มคนใดมีปัญหาปัดบลัชออนแล้วสีไม่ค่อยออก ลองใช้บลัชออนที่ผสมซิมเมอร์ปัดก่อน 
แล้วปัดทับด้วยบรอนเซอร์ดูนะคะ หน้าจะได้รูปและผิวดูอบอุ่นสุขภาพดี จนน่าอิจฉา><
 
*บรอนเซอร์ เรียกง่ายๆให้เข้าใจ ก็คือบลัชออนสีน้ำตาลนี่แหละจ้าาาา
 
 
 
 
 
จบเรื่องโทนสี ก็มาว่ากันต่อเรื่องแปรงปัดแก้มสำหรับบลัชออนแบบฝุ่นกันนะก๊าบบบบ
 
 
 
 
 
แปรงปัดแก้ม อะไร ยังไง?
 
แปรงปัดแก้มที่ดีควรจะ ไม่กินเนื้อบลัช(เพราะจะทำให้เปลือง^^") เบลนสีได้ดี มีขนาดพอเหมาะกับพวงแก้มของคุณ
ซึ่งจูนเองก็ไม่สามารถฟันธง โช๊ะแด๊ะ! ได้ว่า แปรงปัดแก้มอันไหนจะดีที่สุด ของอย่างนี้มันต้องลองกันเองค่ะคุณผู้อ่านที่รัก
 
ไม่เกี่ยวกับว่าต้องเป็นของที่มียี่ห้อ หรือทำมาจากขนแกะในกระเพาะแพะ!
แต่ของอย่างนี้ ตัวคุณเองเท่านั้นที่จะตัดสินได้ มันขึ้นอยู่กับความชอบค่ะคุณขาาาาา
 
 
 
จูนเชื่อว่า พวงแก้มสวยๆมันก็ไม่จำเป็นต้องมาจากแปรงเทพเสมอไป มันขึ้นอยู่กับการฝึกฝนและพัฒนาฝีมือของเราต่างหากล่ะค่ะ ชิมิ?
 
 
 
 
 
รูปแบบแปรงปัดแก้ม จะแบ่งได้เป็น 2 ลักษณะ คือ แบบหัวกลมมน และแบบปลายเฉียง
 
แบบหัวกลมมน เป็นหัวแปรงที่ใช้ง่าย สามารถเบลนสีใด้ดี ให้ความเป็นธรรมชาติ 
 
 
 
 
แบบปลายเฉียง เป็นแปรงที่ใช้ปัดสำหรับการคัดรูปหน้า หรือใช้กับบลัชออนแบบไล่โทนสี
 
 
 
 
ยังมีแปรงปัดแก้มอีก 1 แบบ ที่จูนอยากจะแนะนำค่ะ
ก็คือแปรงแบบDuo Fiber หรือที่เรียกกันอีกนามนึงว่า แปรงขนเม่น
 
แปรงแบบนี้สามารถใช้ได้สารพัดประโยชน์ ซึ่งการปัดแก้มโดยการใช้แปรงDuo Fiberนี้ จะให้ที่บางเบาและกระจายออกได้ดี เนื่องจากปลายขนแปรงไม่แน่น มีการสปริงตัวมาก
 
 
 
 
 
 
...แล้วขนแปรงล่ะ มีผลยังไงกับการปัดแก้มบ้างน๊า?
 
ขนแปรงนิ่มนุ่มมมมมม เหมาะสำหรับการปัดสีเข้มๆ จะทำให้สีนัวร์ สม่ำเสมอ เปล่งปลั่ง
 
ขนแปรงแข็งเล็กน้อยหรือแปรงขนสัตว์ เหมาะกับบลัชที่สีอ่อนๆหรือเนื้อบลัชแข็ง เพราะจะทำให้จิกสีได้ดี และเน้นเฉพาะบางส่วนของรูปแก้มได้แม่นยำ
 
 
 
 
มาถึงเรื่องใหญ่ การปัดแก้มมีผลยังไงกับรูปหน้า อู้วววววว~
 
 
เริ่มด้วยรูปหน้าปรกติของจูน ที่ยังไม่ได้ปัดแก้มค่ะ
 
 
 
 
 
การปัดแก้มแบบธรรมชาติที่เหมาะสำหรับสาวโครงหน้ากลม-เหลี่ยม
 
อุปกรณ์ที่ใช้
บลัชออนสีเข้ม+ไฮไลท์+เฉดดิ้ง
 
 
 
 
เทคนิค
 
1. ทำปากจู๋ จะเห็นโหนกแก้มโผล่ขึ้นมา อิอิ นั่นคือแนวที่เราใช้เป็นจุดกำหนดการปัดแก้มค่ะ
 
 
2. ปัดด้วยบลัชออนสีเข้มที่ช่วงขมับเข้ามา แต่ไม่เกินเส้นที่ขีดไว้ในภาพ หากปัดเข้ามามากเกินไปจะทำให้สีตัดกับช่วงกราม ดูหลอกตา
3. ปัดไฮไลท์ช่วงโหนกแก้ม แล้วใช้สีที่ติดบนแปรงมาปัดเบาๆที่ปลายจมูกและปลายคาง เพิ่มมิติให้หน้าไม่แบนและยาวขึ้น
4. ไล้เฉดดิ้งที่กรอบหน้าด้านข้างเล็กน้อย เน้นที่ช่วงกราม แต่อย่าปัดเกินเส้นที่ขีดไว้ ไม่งั้นหน้าจะเป็นปื้นและดูหลอกตาเกินไป
 
 
 
 
เทียบให้ดู ด้านซ้าย ปัดแบบธรรมชาติเหมาะสำหรับรูปหน้ากลม-เหลี่ยม ด้านขวา ไม่ได้ปัดแก้ม
 
 
 
 
ข้อควรระวัง
การลงเฉดดิ้งเข้มๆสำหรับสาวหน้ากลมนั้น จะทำให้หน้าดูเรียวยาว เป็นความคิดที่ผิด! เพราะหน้าจะเป็นปี๊ดดำ ยิ่งเน้นกรอบหน้ามากขึ้นไปอีก
และการลงไฮไลท์ั้งพวงแก้ม ก็ยิ่งผิด!!! เพราะแก้มคุณจะอิ่มขึ้น กว้างขึ้น แลดูอึดดดดดดขึ้น >"<
 
 
ถ้าคุณต้องการความเป็นธรรมชาติ ให้ไล้เฉดดิ้งไปตามกรอบหน้าด้านข้างเบาๆ 
แล้วเพิ่มไฮไลท์เฉพาะจุด ที่โหนกแก้ม หน้าผาก สันจมูก และปลายคาง 
จะทำให้ดูหน้ามีมิติมากกว่าการโบกเฉดดิ้ง กระหน่ำไฮไลท์จนดูเกินงามนะคะ ( ´,_ゝ`)フ
 
 
 
 
 
 
 
การปัดแก้มแบบธรรมชาติที่เหมาะสำหรับสาวโหนกแก้มสูง
 
อุปกรณ์ที่ใช้
บลัชออนสีเข้ม+บลัชออนสีอ่อน+เฉดดิ้ง
 
 
 
 
 
เทคนิค
 
1. ปัดด้วยบลัชออนสีเข้มที่ช่วงขมับเข้ามา เบลนจนถึงช่วงกลางของแนวกึ่งกลางของดวงตาแต่ไม่ถึงปีกจมูก การใช้สีเข้มปัดเข้ามาเพิ่อช่วยเพิ่มความลึกให้แก่โหนกแก้ม
2. ปัดบลัชออนสีอ่อนผสมซิมเมอร์เล็กน้อยช่วงข้างจมูก เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ และให้หน้าดูแคบขึ้น
3. ใช้สีที่ติดบนแปรงมาปัดเบาๆที่ปลายจมูกและด้านข้างของหน้าผาก ให้สีสมดุลกลมกลืน
4. ไล้เฉดดิ้งที่กรอบหน้าด้านข้างเล็กน้อยตั้งแต่ขมับลงมา เน้นที่ช่วงกรามแต่ไม่ต้องปัดถึงคาง
 
 
 
 
เทียบให้ดู ด้านซ้าย ปัดแบบธรรมชาติสำหรับสาวโหนกแก้มสูง - ด้านขวา ไม่ได้ปัดแก้ม
 
 
 
 
ข้อควรระวัง
อย่าปัดบลัชออนสีเข้มใต้โหนกแก้ม และอย่าลงไฮไลท์ที่โหนกแก้ม!!!
เพราะมันจะยิ่งเน้นให้โหนกแก้มสูงมากยิ่งขึ้นไปอีกนะคะ โอ้ววววว ก๊อตตตตต(♛ฺД♛ฺ)
 
 
 
 
 
 
การปัดแก้มแบบธรรมชาติที่เหมาะสำหรับสาวหน้าแคบแบน
 
 
อุปกรณ์ที่ใช้
บลัชออนสีเข้ม+บลัชออนสีอ่อน+ไฮไลท์+เฉดดิ้ง
 
 
 
 
เทคนิค
 
1. ปัดด้วยบลัชออนสีเข้มที่ด้านข้างของใบหน้าช่วงกกหูเล็กน้อย แล้วไล้เข้ามาตามแนวใต้โหนกแก้ม คล้ายตัวCดังในภาพ
2. ปัดบลัชออนสีอ่อนผสมซิมเมอร์แล้วเบลนให้กระจายทั่วพวงแก้ม 
3. ใช้สีที่ติดบนแปรงมาปัดเบาๆที่ปลายจมูกและด้านข้างของหน้าผาก ให้สีสมดุลกลมกลืน
4. ปัดไฮไลท์ที่โหนกแก้ม เน้นให้แก้มเปล่งปลั่งมากยิ่งขึ้น
5. ไล้เฉดดิ้งที่กรอบหน้าด้านข้างเล็กน้อยช่วงขมับแล้วเว้นที่ข้างแก้ม  มาปัดเน้นเบาๆอีกทีที่ใต้โหนกแก้มและกราม
 
 
 
 
เทียบให้ดู ด้านซ้าย ปัดแบบธรรมชาติสำหรับสาวหน้าแคบแบน - ด้านขวา ไม่ได้ปัดแก้ม
 
 
 
 
ข้อควรระวัง
อย่าลงเฉดดิ้งมากเกินไป เพราะจะทำให้หน้ายิ่งแคบบบบบบ
 
 
 
 
 
 
 
 
การปัดแก้มแบบธรรมชาติที่เหมาะสำหรับสาวหน้ายาว
 
อุปกรณ์ที่ใช้
บลัชออนสีเข้ม+บลัชออนสีอ่อน+ไฮไลท์+เฉดดิ้ง (แบบเดียวกับสาวหน้าแคบและแบน)
 
เทคนิค
 
1. ปัดด้วยบลัชออนสีเข้มที่ด้านข้างของใบหน้าช่วงกกหูเล็กน้อย แล้วไล้เข้ามาตามแนวใต้โหนกแก้มบางๆ
2. ปัดบลัชออนสีอ่อนผสมซิมเมอร์แล้วเบลนให้กระจายทั่วพวงแก้ม 
3. ใช้สีที่ติดบนแปรงมาปัดเบาๆที่ปลายจมูกและด้านข้างของหน้าผาก ให้สีสมดุลกลมกลืน
4. ปัดไฮไลท์ที่โหนกแก้ม เน้นให้แก้มเปล่งปลั่งมากยิ่งขึ้น
5. ไล้เฉดดิ้งที่ไรผมบริเวณหน้าผาก  และปลายคาง เพื่อสร้างมิติให้หน้าดูสั้นลง
 
 
 
 
เทียบให้ดู ด้านซ้าย ปัดแบบธรรมชาติสำหรับสาวหน้ายาว - ด้านขวา ไม่ได้ปัดแก้ม
 
 
 
 
ข้อควรระวัง
อย่าปัดเฉดดิ้งที่ด้านข้างของใบหน้าเพราะจะทำให้ดูหน้าแคบและยาวมากขึ้น ปัดไฮไลท์ที่โหนกแก้มจะช่วยกระจายแสงออกทางด้านข้างให้หน้าอิ่มขึ้น
 
 
 
 
 
 
โอเคครบ!!! จบกระบวนท่า เย้ๆๆๆ ㄟ(≧◇≦)ㄏ
 
 
 
 
มาดูภาพรวมกันหน่อย


จะเห็นได้ว่ารูปหน้าจูนเปลี่ยนไป ทั้งๆที่จูนแต่งตา ทาปาก สีเดียวกัน สีที่ใช้ปัดแก้มก็เป็นโทนเดียวกัน 

ปรับขนาดของใบหน้าให้เท่าๆกัน แต่ใบหน้าทั้ง4ภาพ มีความกว้าง ยาวไม่เหมือนกันเลย!!!

เห็นไม๊ค่ะ เมื่อเราเปลี่ยนวิธีการปัด รูปหน้าก็เปลี่ยนตามไปด้วย OHHHHH
 
 
 
 
*คลิีกที่ภาพเพื่อขยาย*
 
 
จบแล้วจ้า เทคนิคการปัดแก้มแบบฉบับของจูน
 
หวังว่าเนื้อหาจะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆบ้างนะคะ
 
 
ก่อนจากกัน ขอย้ำอีกครั้งว่า
 
 
สิ่งสำคัญที่สุด คือความมั่นใจและรอยยิ้ม
 
 
ไม่ว่าจะปัดแก้มหรือแต่งหน้าแบบใด
 
 
คุณก็จะดูสวยสดใสเสมอค่ะ
 
 
 
 
คุณผู้อ่านที่รัก^3^
 
 
 
 
~สวัสดีค่ะ~

Discussion (34)

มีประโยชน์มากๆๆเลยคะพี่จูน ^^
ขอบคุนมากเลยจ้า
แปรงน่าใช้มากเลย อันที่เป็นขนเม่นน่าสนใจมากกก
 ขอบคุณมากนะคะ  เป็นประโยชน์มากๆเลย :))