Review :: My routine Skincare รีวิวสกินแคร์ที่ใช้ปัจจุบัน ครั้งที่ 1 !!

 สวัสดีค่าาา 

จิ๊บยังไม่เคยรีวิวสกินแคร์ที่ใช้แบบครบเซตสักทีเลย 

วันนี้เลยว่าจะมาพูดถึงสกินแคร์ที่ใช้บ่อยๆเป็นประจำ 

จริงๆแล้ว นี่เป็นสกินแคร์ทีมที่ 2 (เรียกทีมนะ ฮ่าๆ) ที่ใช้ตั้งแต่เริ่มดูแลผิวหน้ามา

ทีมที่ 1 นั้น เป็นเครือ Kanebo เกือบทั้งหมด หรือก็คือ ยี่ห้อ Lunasol นั่นเอง 

แต่ ณ ปัจจุบัน Lunasol เลิกนำเข้า skincare แล้ว จิ๊บเลยต้องเปลี่ยนเซตใหม่ 

แต่ก็ยังมีหลายตัวที่ใช้เป็นของเครือ Kanebo อยู่ แต่ต้องบอกก่อนว่า 

จิ๊บใช้สกินแคร์นอกเหนือจากนี้ก็เยอะมากกกค่ะ ลองมาเยอะ แต่ที่ใช้ประจำๆจริงๆก็ตามที่จะบอกต่อจากนี้ค่ะ 

ส่วนอะไรเป็นอย่างไรนั้น อ่านต่อเลยค่ะ 






ก่อนที่จะมาพูดถึงสกินแคร์ที่ใช้นั้น ก็อยากจะพูดถึงสภาพผิวของจิ๊บสักนิดนึงก่อน
สภาพผิว : แห้ง - แห้งมากกกก ( เคยวัดค่า Moist ใต้ผิวกับเครื่องวัดของ Kanebo แล้วได้ค่าเป็น 0 ตอนแรกคิดว่าเครื่องมีปัญหา แต่พอวัดอีก 2 ที ก็พบตัวเลขเดิม ) 

ปัญหาหลักๆ : พอเจออากาศเย็นก็จะลอกเป็นขุย กับแพ้ eye cream หลากยี่ห้อ ทำให้ใต้ตาไม่ได้รับการบำรุงเลยเป็นริ้วเล็กๆ


 = ชอบมากกกกกก จัดได้ว่าเป็น Must have 

 = ค่อนข้างโอเค ถือว่าใช้ได้ ชอบพอสมควร 

ส่วนตัวที่ไม่ได้ชอบ ไม่ได้นำมารีวิวนะค่ะ 


















Step ที่จะรีวิวต่อจากนี้ จะเรียงลำดับหลังจากล้างหน้าเสร็จแล้ว 

เริ่มด้วย Toner หรือบางยี่ห้อ Brightener จิ๊บรวม 2 อย่างนี้เข้าด้วยกัน 

เพราะมีความรู้สึกว่าคุณสมบัติใกล้กันมาก แต่เคยมี BA บอกว่า มันคืออันเดียวกัน 

(ต้องขอออกตัวก่อนว่าไม่ได้ expert ด้านสกินแคร์ ใช้แล้วชอบเป็นพอ นี่ก็เอามาบอกเล่า เท่านั้น ) 







หน้าที่หลัก : ช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ซึ่งจะทำให้ผิวหน้าเราจะกระจ่างใสขึ้น


ตัวที่ใช้หลักๆ คือ


 Blanchir Superior White Luster ( Kanebo ) 



- ตัวนี้เนื้อจะเป็นสีขุ่นๆ อมเหลืองขุ่นๆ กลิ่นโอเค ไม่เหม็น ปริมาณที่ใช้ประมาณ 1 ปั๊ม ใช้เช็ดทั่วหน้า เว้นรอบดวงตา 

- ผลที่ได้ ถ้าไม่ได้ใช้เป็นประจำ หรือใช้เป็นครั้งแรกๆ จะพบว่า สำลีดำเล็กน้อย จิ๊บใช้ตัวนี้แล้วพบว่าผิวหน้าลื่นเรียบขึ้นด้วยค่ะ 



 Freshel facial toner ( Kanebo ) 



- ตัวนี้ราคาไม่แพง เป็นน้ำใสๆ คล้ายน้ำเปล่า ปริมาณที่ใช้ 1-2 ปั๊ม ใช้เช็ดทั่วหน้าเว้นรอบดวงตา 

- ผลที่ได้ ตัวนี้ไม่ค่อยเห็นผลอะไรมากนั้น ถึงขั้นเฉยๆ แต่ใช้เช็ดเรื่อยๆ ทุกวัน ก็ให้ความรู้สึกว่าผิวสะอาดดี 
















ต่อด้วย step ต่อไป Lotion 

เคยมีพี่ BA บอกว่า Lotion ก็คือ Toner = = เคย งง ไปอยู่ช่วงนึง 


แต่ก่อนจิ๊บใช้ Lotion & Emulsion ของ Lunasol ค่ะ เพราะชอบกลิ่นมากก 








 Clinique Clarifying lotion เบอร์ 1 เหมาะกับผิวแห้ง 



ตอนนี้ใช้ของ Clinique ค่ะ เป็นตัว 3 steps ตัวดังของเค้าก็ว่าได้ 

จิ๊บใช้ เบอร์ 1 เพราะผิวแห้ง แต่เท่าที่ได้ลองแล้วค้นพบกับตัวเองว่า 

เอาเบอร์ 1 มาผสมเบอร์ 2 ในอัตราส่วน 3 : 1 จะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าสำหรับจิ๊บ 

ผลที่ได้ : ผิวหน้าดีขึ้นมาก รู้สึกผิวสะอาดมากกก เพราะเป็นโลชั่นจำพวกผลัดเซลล์ ชอบมากกกกกกกกกกกกกกกก - แนะนำๆ -

แต่มีกลิ่นแอลกอฮอล์แรงมากกก หลายคนอาจไม่ชอบ

( Exfoliation หมายถึงการที่ทำให้ผิวหนังที่ตายแล้วถูกผลัดเปลี่ยน )








ก่อนที่เราจะไปทา Emulsion เราจะต้องทาบำรุงจำพวก 

essence/ serum/ eye cream หรือบำรุงเข้มข้นตัวอื่นซะก่อนค่ะ

อันนี้จิ๊บใช้มาหลายตัว แต่ตัวที่ชอบหลักๆมีเพียง 3 ค่ะ 

(รีวิวละเอียด ซูมเนื้อครีม ขอต่อเป็นบล็อกย่อยรอบต่อๆไปนะค่ะ)












เริ่มจากทางด้านซ้าย 

 Clinique derma white Clinical brightening essence ( ซ้าย ) 


-ตัวนี้เนื้อของเอสเซนจะเป็นสีขาวขุ่นๆหยุ่นๆเสมือนเนื้อซิลิโคน เวลาทาให้ความรู้สึกเดียวกัน แต่ไม่ได้เป็นซิลิโคนแต่อย่างใดแค่คล้าย ทาแล้วจะลื่นๆ ปริมาณที่ใช้ 1 ปั๊ม ก็สามารถทาได้ทั่วหน้า

-ผลที่ได้รับ รู้สึกหน้าเรียบเนียนขึ้น ไม่หมองคล้ำ ไม่แพ้กลิ่น แทบจะไม่รุ้สึกเลยว่ามีกลิ่น ขาวขึ้นไม๊ ก็นิดหน่อย แต่ไม่ได้รุ้สึกว่าขาวขึ้นอย่างเห็นได้ชัดนัก



 Blanchir whitening conclusion แพคเกจเก่า ตอนนี้เปลี่ยนแล้ว ( กลาง ) 


- ตัวนี้เนื้อสีขาว ซึมไว กลิ่นไม่ค่อยมีเช่นกัน ชอบพอประมาณ ใช้มานานมากตั้งแต่เริ่มบำรุง เรียกได้ว่าเป็น must have อยู่ช่วงหนึ่ง หน้าดีขึ้นมากกก เคยแนะนำให้เพื่อนใช้ 2 คน ติดใจทั้ง 2 คนเลย 

-ผลที่ได้รับ โดยรวมสภาพผิวดีขึ้นมาก กระจ่างใส แต่แพงงงงมากกก ควรใช้ติดต่อกันเป็นอาทิตย์ 



 Skinfood Omija whitening serum 


-ตัวนี้ซื้อมาตอนไปเกาหลี เหมามายกเซ็ต แต่ชอบตัวนี้ที่สุดในไลน์นี้ เนื้อสีขาว ซึมไวมากกกเช่นกัน กลิ่นหอมๆแบบผสมน้ำหอมชัดเจน แต่ก็ไม่แรงมาก ตอนนี้เป็น Must have top of mind เลยก็ว่าได้ จะขึ้นขวดที่ 3 แล้ว 

-ผลที่ได้รับ แค่คืนเดียวจิ๊บก็รู้สึกเห็นผลแล้ว เพราะที่หน้าจะมีเหมือนเม็ดๆไม่ใช่สิวอุดตัน แต่ทาคืนเดียวยุบ !! คืออึ้งมากเล่าให้แม่ฟังหาว่าเวอ่ร์ เลยให้ลอง สุดท้ายแม่ชอบด้วยอีกคน เมื่อเทียบกับ serum ที่ใช้ปัจจุบัน ถูกกว่ามาก แล้วยังทำให้หน้าใสเหมือนกัน ขาวขึ้น ชุ่มชื้นนิดๆ

( รีวิวละเอียดๆ รอบล็อกถัดๆไปนะค่ะ )









ตามด้วย step ต่อไป Emulsion หรือจำพวกน้ำนม 








อันนี้ก็ใช้ของ Clinique เช่นกัน

แต่ Clinique ใช้ชื่อว่า 

 Clinique dramatically different moisturizing lotion 


อันนี้จริงๆแล้วมี 2 สูตร คือสำหรับผิวธรรมดา และ สำหรับผิวแห้ง

ตัวนี้เป็นสำหรับผิวแห้ง 

หลังจากที่ใช้คู่กับ Clinique Clarifying lotion แล้วจิ๊บว่าเวิร์คมากกกก 

คือใช้ตัวนี้แล้วหน้าจิ๊บไม่มีแห้งเป็นขุยเลย แต่กลิ่นออกจะแปลกๆสักนิดค่ะ 

หลายคนบอกว่ากลิ่นเหมือนสีโปสเตอร์ แต่จิ๊บว่ามันก็ไม่ถึงกับเหม็นนะ ใช้ 1 ปั๊ม

ผลที่ได้รับ : ผิวหน้าชุ่มชื้นขึ้นมาก ไม่แห้งลอกเป็นขุย ผิวนุ่มๆขึ้น ชอบตัวนี้มากกกเช่นกัน







ต่อมา Day cream และ Night cream 

เริ่มกันที่ Day cream นะค่ะ 








ที่ใช้หลักๆมี 2 ตัว 








 Clinique superdefense SPF 25/PA+++ age defense moisturizer 


-เนื้อครีมตัวนี้สีขาวออกครีมๆนิดๆ ข้นๆหน่อยๆ ไม่ผสมน้ำหอม 

-ผลที่ได้รับ ทาแล้วหน้านุ่มๆ ป้องกันริ้วรอยได้เล็กน้อยตามชื่อ มีกันแดดในตัว แต่ก็ทำให้หน้ามันนิดๆ 



 L'Oreal white perfect DAY SPF17/PA++ 


- เนื้อครีมสีขาว นุ่ม ไม่หนักมาก กลิ่นหอมกุหลาบอ่อนๆ ทาแล้วให้ความชุ่มชื้น วาวๆอีกด้วย

- ผลที่ได้รับ ค่อนข้างโอเคเลยเมื่อบำรุงช่วงเช้า ทำให้หน้ารุ้สึกชุ่มชื้นขึ้น เมคอัพติดทนขึ้นเล็กน้อย 

เคยรีวิวตัวนี้ไปแล้วตอนที่ได้มาใหม่ๆ ย้อนอ่านดูเพิ่มเติมได้ ที่นี่





มาถึงตาของ Night Cream กันบ้าง

ไนท์ครีมที่จิ๊บใช้เน้นหลักๆเลยเป็นเรื่องของความชุ่มชื้น 

อย่างที่รู้กันว่าผิวหน้าจิ๊บแห้งมากกก เลยมี 3 ไอเทมในดวงใจดังนี้ 























 Clinique Moisture Surge ( ซ้าย ) 


- ตัวนี้ชื่อเสียงดังกระฉ่อนก็ว่าได้ ให้ความชุ่มชื้นโครตๆเลยค่ะ ตื่นมาล้างหน้าจะรู้สึกเหมือนมีฟิลม์บางๆเคลือบผิวเราไว้อยู่ด้วย กลิ่นหอมอ่อนๆ ตัวนี้ช่วยได้ดีมากเมื่อตอนที่ผิวหน้าจิ๊บเป็นขุย ลอก 

- ผลที่ได้รับ รู้สึกว่าวันไหนหน้าแห้งๆ ลอกๆ โบกครีมนี้ก่อนนอน ตื่นมาหน้านุ่มเด้งเลยทีเดียว 



 Etude House Collagen Moistfull cream ( กลาง ) 


- ตัวนี้คล้ายกับ Moisture surge มากกกกกก เรียกได้ว่าแทบแทนกันได้สำหรับจิ๊บ แต่ถูกกว่ามากกกกกอีกเช่นกัน จิ๊บใช้มากระปุกที่ 2 แล้วค่ะ ถ้าเทียบกับตัวอื่นในไลน์ จิ๊บชอบครีมมากที่สุดค่ะ สีของครีมก็คล้ายกับ moisture surge มากเช่นกัน

- ผลที่ได้รับ บางวันขี้เกียจมากๆ ก็ทาแค่ตัวนี้ตัวเดียวหลังจากล้างหน้าเสร็จแล้วนอนเลย ตื่นมา หน้านุ่มเด้งมากกก ปลื้มสุดๆ เป็นตัว Must have สำหรับจิ๊บอีกเช่นกัน 



 Skinfood Omija cream ( ขวา ) 


- ตัวนี้ครีมขาวๆ ทาแล้วให้ความชุ่มชื้นเล็กน้อย แต่เน้นบำรุงให้ผิวขาวขึ้น กลิ่นหอมอ่อนๆ 

- ผลที่ได้รับ ไม่เห็นผลอะไรมากมาย แต่ทาแล้วผ่อนคลาย เนื้อครีมเบาๆไม่หนัก ไม่ถึงกับปลื้มมากมายนัก 














เอารูปสภาพผิว ณ ปัจจุบันมาให้ชม อาจดูเพิ้งๆนิดๆ แต่รูปนี้เห็นสภาพผิวชัดที่สุดแล้ว 

ส่วนใหญ่ที่บรรยายไปขอย้ำว่าเป็นความคิดเห็นของจิ๊บ ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับ 

สภาพผิวของทุกคนและแต่ละคน อาจจะเหมาะกับผลิตภัณฑ์ต่างกันนะค่ะ 



ก่อนที่จะมีการบำรุงที่ดีนั้น จุดเริ่มต้นแรกคือการทำความสะอาดผิวที่ดีด้วยค่ะ 

ล้างหน้าให้สะอาด ไม่หมักหมมเมคอัพไว้ที่หน้าข้ามคืน

สำหรับวันนี้ก็ขอตัวก่อนนะค่ะ 

สำหรับเรื่องราวสกินแคร์หน้า น่าจะเป็นเรื่องของ Cleansing ที่ใช้เป็นประจำค่ะ 



 

Discussion (9)

 โอยยยย กิเลสเกาะอีกแล้ว 555
ถ้าใช้ตามทั้งหมดนี่แล้วผิวหน้าจะใสเหมือน จขกท. มั้ยค่ะ? ผิดดีจังเลยอ่ะสวยๆๆ ตาร้อนเลยเห็นป่าว...

จขกท สวยมว๊าก
น่าใช้มากค่ะ เกิดกิเลสมาอีก อิอิ
หน้าใส สุโค่ยยยยย!!!

ผิวหน้าเนียนละเอียดมากเรยคะ่ อยากได้ผิวหน้าแบบนี้บ้างจังงง

สวยๆๆๆค่ะ ชอบมากกกก