Item ที่หลงรักไม่ยอมเปลี่ยนใจ

9 1
ก่อนอื่นขอพล่ามเรื่องรองพื้น VS BB ก่อนนะคะ
เรียกว่าเป็นการแสดงความเห็นส่วนตัวดีกว่า
เพราะมันแล้วแต่คนชอบ
แต่เราแค่อยากจะแชร์ให้ทุกคน

     เกริ่นก่อน โดยส่วนตัวเราชอบใช้รองพื้นสูตรน้ำ หรือพวกแบบบางเบา มากกว่าการใช้บีบีครีม สภาพผิวเป็นคนหน้ามัน มีรอยสิวนิดหน่อย แล้วก็จะมีสิวเทียมตรงหน้าผาก แต่จะมองไม่เห็นเพราะมันไม่มีหัว ต้องลูบถึงจะรู้ว่ามันแบบ อื้อหือออ   
เราจะรีวิว2ตัว คือ L'oreal lucent magique light infusing foundation VS Etude house collagen moistfull bb cream 
 
     

ประเด็นคือเราเห็นคนชอบตั้งกระทู้ว่า บีบีที่ทำให้หน้าไม่มัน คุมมัน ไม่อุดตัน ปกปิด บลาๆๆ เราเลยอยากแชร์ความเห็นส่วนตัวว่า รองพื้นสูตรน้ำบางตัว บางเบากว่าบีบีครีมด้วยซ้ำ เม็ดสีก็ชัดกว่า ตรงตามจุดประสงค์ที่จะเอามาใช้มากกว่า เพราะเราใช้พวกเบสเมคอัพเพื่อ ปรับสภาพ ปกปิดรอยแดง อะไรแบบนี้นิ จะเอาส่วนผสมบำรุงไปทำไม แต่บีบีจะเหมาะกับคนที่ใช้ชีวิตประจำวันอย่างเร่งรีบ มีเวลาแต่งหน้า5นาทีไรงี้ ก็นะ แล้วแต่คนชอบ 
 
(ซ้าย-L'oreal,ขวา-Etude)
ขอแยกเป็นข้อๆดีกว่านะ
1. เราใช้บีบีครีมแล้วอุดตันเป็นสิว เพราะเรารู้สึกว่าในบีบีครีมจะมีน้ำมัน หรือพวกสารบำรุง ทำให้หน้ามันเร็ว 
2. บีบีครีมเม็ดสีไม่แน่น เพราะมันจะมีการผสมระหว่างน้ำมัน สารบำรุง กันแดด ทำให้เม็ดสีมันเจือจางกว่ารองพื้น 
3. ส่วนใหญ่บีบีครีมจะไม่มีโทนสีเหลือง จะเป็นพวกโทนสีชมพู พอหน้าแล้วหน้าเทา 
 

  บางคนบอกว่า รองพื้นจะไปบางกว่าบีบีครีมได้ยังไงรองพื้นมันต้องหนากว่า เราว่ามันอยู่ที่ปริมาณที่ใช้มากกว่า เหมือนถ้าวันไหนใช้รองพื้น เราจะใช้แค่ 1 ปั๊ม ต่อหน้า โดยปั๊มที่หลังมือ แล้วแต้ม5จุด แล้วเกลี่ย มันก็จะบางๆไม่หนา 

P.S. สาวกบีบีครีมอย่าว่าเราน้าาา
 
มาต่อกันที่ไอเทมที่เราคิดว่าลงตัวกับตัวเองมากที่สุด และคงไม่เปลี่ยนใจไปไหนแล้ว
 
 
 
 
ตัวแรก - ทุกคนน่าจะรู้จักกันดี กับ น้ำเกลือ พอล้างหน้าเสร็จปุ๊ป เราก็เอาน้ำเกลือเทใส่สำลีแล้วก็ลูบตามแนวขน ไม่ได้หวังเรื่องการรักษาสิวแต่อย่างใด แต่แค่รู้สึกว่าพอเราล้างหน้าเสร็จปุ๊ป บนหน้าเราก็จะมีพวกคลอรีนหรือบลาๆจากหน้าประปาหลงเหลืออยู่ แค่เป็นความโรคจิตส่วนตัว แบบชอบให้หน้าคลีนๆก่อนลงบำรุงจะได้บำรุงเต็มที่

ตัวที่สอง - โทนเนอร์ป้าพอลล่า พอรอให้น้ำเกลือที่เช็ดแห้งเราก็เอาโทนเนอร์นี่แหละเทใส่มือ แล้วลูบตามแนวขน แล้วตบๆเบา โดยไม่ได้ใช้สำลี เพราะ!มัน!เปลือง! โทนเนอร์แพงกว่า AHA กับ BHA ซะอีก และโทนเนอร์ตัวนี้ไม่มีแอลกอฮอลล์ เรารู้สึกว่ามันเหมือนบำรุงเบาๆมากกว่า

ตัวที่สาม - BHA 2% Lotion ตัวนี้มีลักษณะเป็นน้ำ เราก็รอให้โทนเนอร์แห้ง แล้วก็ลงตัวนี้โดยไม่ใช้สำลีอีกเช่นเคย ตัวนี้จะช่วยรักษาสิวให้สิวมันสุก แต่ฤทธิ์เดชของมันสู้พวกยาแต้มสิวไม่ได้ เหมือนแบบแค่ให้สิวเม็ดเล็กๆมันหลุดมากกว่า แบบเอามือลูบคือหลุดติดมาเลย โดยไม่ได้แกะ แคะ แงะ แต่อย่างใด
 
 
 
ตัวที่สี่ - เอสเซ้นของ Aqua Label ตอนนี้วัตสันกำลังมีโปรชิ้นที่สอง 1 บาทอยู่ มันยิ่งกว่าคุ้มซะอีก ตัวนี้เอารีวิวจากพี่ปูเป้ เพราะซื้อเพราะอ่านรีวิวพี่ปูเป้มาเหมือนกัน 
Credit : https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=pupesosweet&month=08-06-2012&group=9&gblog=49
 
ตัวที่ห้า - เป็นเซรั่มของ It's skin ตัวนี้เหมาะมากกับคนหน้าแห้ง ปกติเราจะใช้เซรั่มประมาณ 3 ปั๊ม,หยด/หน้า แต่ตัวนี้เราใช้แค่หยดเดียว เพราะไม่งั้นหน้าจะมันมาก เท่าที่ใช้มาประมาณ 3-4 สูตร ของยี่ห้อนี้คือ เห็นผลชัดเรื่องความชุ่มชื้น แต่เรื่องความขาว ใส ริ้วรอย บลาๆๆ ยังไม่เห็นผลที ขนาดใช้หมดทุกขวด
 
 
 

ตัวที่หก - ในตอนเช้า พอเช็ดน้ำเกลือเสร็จปุ๊ป เราก็จะเอาน้ำแร่ของ Nu skin มาฉีด มันให้ความชุ่มชื้นได้พอสมควร เหตุผลที่ต้องลงคือครีมกันแดดเรามีแอลกอฮอลล์ เลยอยากลงให้ผิวชุ่มชื้นเหมือนเป็นเกราะไว้(ความโรคจิตส่วนตัว) ถ้าเป็นคนหน้าแห้งก็ลงมอยซ์เจอไรเซอร์ได้ แต่ถ้าคนหน้ามันละก็แนะนำเลย ให้ความชุ่มชื้นแต่หน้าไม่มัน

ตัวที่เจ็ด - ครีมกันแดดบิโอเร รักสุดๆ ไม่คิดจะเปลี่ยนใจ บางเบา เหมาะสำหรับลงก่อนแต่งหน้ามากๆๆๆๆๆ เพราะมันบางเบาเหมือนไม่ได้ทา ทำให้เวลาลงเมคอัพไม่รู้สึกหนักหน้า สบายผิว 
 

ตัวที่แปด - ขอมาเรื่องผมบ้าง พอสระผมเสร็จ เราจะใช้ Dove heat defence ตัวนี้ฉีด แล้วจึงไดร์ผม แต่เราจะใช้เฉพาะบริเวณผม ไม่ให้โดนหนังศีรษะเด็ดขาด เพราะผมเราอ่อนแอมาก แบบว่าโดนสารเคมีละร่วงง่าย

ตัวที่เก้า - หลังจากไดร์ผมเสร็จ เราก็ใช้ Spray leave-on conditioner ซึ่งตัวนี้สนนราคา 80 บาทเท่าน้านนน ซื้อที่โลตัส พอฉีดเสดก็ขยำผม(?) ให้มันแบบซึมๆไรงี้ รอให้แห้ง แล้วหวี ผมลื่นสวยเก๋มาก

ผลจากการใช้สองตัวบน ไม่รู้ว่าเพราะตัวไหน แต่ขอบอกรวมๆว่า สุขภาพผมเราดีขึ้นมาก จากเมื่อก่อนพอไดร์ผมเสร็จ จะมีผมแบบชี้(เหมือนเวลาทดลองเอากระดาษถูผมแล้วผมชี้ตามอะ) แต่พอใช้สองตัวนี้ปัญหานั้นก็หมดไปค่ะ ผมเรียงตัวมีน้ำหนัก สวยฮามมม

ตัวที่สิบ - ตัวนี้คือยาปลูกผม ซื้อมา3ขวด 2400 บาท ลักษณะเป็นหลอดหยด เราก็จะหยดเฉพาะบริเวณที่มีผมน้อยๆคือ ตรงบริเวณไรผม ผมด้านหน้าและก็ตรงแถวๆท้ายทอย  เมื่อก่อนหัวเราจะเห็นแสกกลางชัดมาก(หัวล้านนั่นเอง) เราใช้ตัวนี้แล้วรู้สึกว่าเหมือนจะมีผมขึ้นบริเวณที่แสกกลางด้วย แบบจะเห็นรอยแสกกลางไม่ชัดเจนเหมือนเมื่อก่อน แต่ผมร่วงลดลงมั้ยก็ลดนะ แต่ไม่เคยนับ เราจะสังเกตจากเวลาสระผมแล้วจะมีผมที่รังผึ้งอะ แต่ตัวนี้อย่าเพิ่งไปซื้อมาใช้นะคะ ถ้าใครที่มีปัญหาผมร่วงแนะนำให้ไปพบหมอก่อน ตัวนี้คือไปหาหมอมาแล้ว หมอจ่ายตัวนี้มาให้ แต่เอายาที่หมอขวดละ 1,300 บาท เลยหาซื้อมาใช้เอง

จบละครัช ไปนอนดีกว่า ฮิ ^^



 


Pimcy

Pimcy

FULL PROFILE