[Review]จัดเต็มกับ Mistine Joops 6หลอด 34สี!!
ningmd80fr 60 34สวัสดีวันศุกร์ วันสุข ค่าชาวจีบันทุกคน
ในกระทู้นี้นิ้งก็จะมารีวิว Lip Tube ของมิสทีนตัวใหม่ ซึ่งตั้งแต่เห็นพี่ป่านศรีชะนีมีของโพสต์ลงเพจครั้งแรก
นิ้งก็มือไม้สั่นอย่างบ้าคลั่ง ต้องหาที่สั่งซื้อทันที
ชื่อเต็มๆของเจ้าตัวนี้ก็คือ
Mistine Joops Color Rich Tube
หรือแปลเป็นแบบไทยๆได้ว่า ลิปหลอดมิสทีนสีเต็ม นั่นเอง
ในกระทู้นี้นิ้งก็จะมารีวิว Lip Tube ของมิสทีนตัวใหม่ ซึ่งตั้งแต่เห็นพี่ป่านศรีชะนีมีของโพสต์ลงเพจครั้งแรก
นิ้งก็มือไม้สั่นอย่างบ้าคลั่ง ต้องหาที่สั่งซื้อทันที
ชื่อเต็มๆของเจ้าตัวนี้ก็คือ
Mistine Joops Color Rich Tube
หรือแปลเป็นแบบไทยๆได้ว่า ลิปหลอดมิสทีนสีเต็ม นั่นเอง
มีในครอบครองทั้งหมด 6สี
ค่าเสียหายหลอดละ 49 บาท!!!!
ถูกมากกกก ปลาบปลื้มสุดๆ ได้มาถูกกว่าที่ขายในเซเว่นอีก
จริงๆแล้วมันมีทั้งหมด 11 สีนะคะ แต่เรางก เลยสอยมาแค่6สีที่คิดว่าน่าจะได้ใช้งานจริง
อีก2สี ที่ขายในเซเว่น หลอดละ5กรัม เท่าที่ส่องมาจากเพจพี่ป่าน พี่ป่านแจงว่าเป็น สีชมพูที่อ่อนกว่าสี1 และสีส้มที่อ่อนกว่าสี2เจ้าค่า
ส่วนสีสุดท้ายจะเปิดตัวในวันที่5สิงหาคม ศกนี้!
มาดูรูปแบบ Packaging กัน
ด้านหน้า-ด้านหลังกล่อง พร้อมแหล่งที่ผลิต+คำโปรย ว่าสีติดทน สีทนได้เค่อะ(นั่นมันสีทาบ้าน)
ส่วนรูปแบบ บรรจุภัณฑ์ที่บรรจุเนื้อผลิตภัณฑ์ เป็นหลอดบีบ ฝาเกลียว ขนาดกะทัดรัดพกพาง่าย
บรรจุหลอดละ 8 กรัม
ส่วนประกอบหลักๆก็มี สารเคมีต่างๆที่ใช้ในการ formulate ลิปสติก แต่ลิปตัวนี้จะพิเศษตรงที่มีสารบำรุงหลายชนิด รวมถึง สารประกอบ Silica และ Talc รวมอยู่ด้วย ดังนั้นเมื่อทาแล้วลิปก็จะไม่เหนียวเหนอะหนะ ออกไปทางแมต แต่ไม่รู้สึกแมตจนปากแห้ง อย่างไรก็ตาม แนะนำให้ทาลิปมันบำรุงก่อนปาดด้วยนะคะ เดี๋ยวปากจิแตกเอา
Swatch สีที่มีในครอบครอง อันได้แก่
สี 1,2,3,4,6, และ 8
เนื้อผลิตภัณฑ์: บีบออกมา กลิ่นหอมแนวเบอร์รี่ๆแบบลิปกลอสตามท้องตลาดทั่วไป
เนื้อคล้ายๆ Etude House Rosy Tint แต่มีความวาวมากกว่า เม็ดสีแน่นเกินคาด แน่นพอๆกับ Wet n Wildเลย
พอปาดแล้วก็เซตตัวแมต ให้ความรู้สึกเนื้อ velvet สวยงามตามท้องเรื่อง
มาเริ่มมหากาฬ ปาดป้าย ใส่สีตีลิป กันค่ะ!
01 ชมพู สแนพพี้: ชมพูเข้ม อมม่วง+แดง ทาแล้วไม่หวานหรือดูจนเกินไป
02 ส้ม เดรสซี่: เป็นสีส้มที่ส้มมากกกก ทาแล้วเด่น เห็นตั้งแต่ปากซอยยันท้ายซอยแน่ๆเลยคับพี่น้อง!!
03 ส้มชมพู ไลท์ลี่: เป็นส่วนผสมของสีชมพูเข้มและสีส้มที่ออก แดงๆชมพูๆ
ที่ปาดบนปากเราแล้วมันแดงแบบไม่แปร้ดมาก กำลังพอดี
04 ชมพู ไนซ์: ชมพูโคตรนม แบบ น่ารักอ่ะ
06 ส้มนู้ด แน๊ตตี้: สีพีชอมชมพู ที่ออกแนวลั้ลลา น่ารักมากๆ
08 นู้ดสไมล์ลี่: สีนู้ดที่อาจจะเปลี่ยนคุณเป็นคนป่วยได้ในบัดดล ที่ไม่เหมาะจะทาเดี่ยวเล้ยยย คิดว่าทางแบรนด์คงformulate มาให้ผสมกับสีนู้สีนี้ให้อ่อนลงมากกว่า
เว้นแต่ว่า แต่งsmoky eye แล้วปาดก็กำลังเข้ากันนะคะ
ผลของการละเลงสีแม่แบบกับสี8 ในอัตราส่วน 1:1
ทุกสีแบบ คีบับ น่ารักขึ้น+มีความเป็นนมขึ้น
ลองละเลงกับสีอื่นๆบ้าง เลือดศิลปิน+นักคณิตศาสตร์เริ่มพลุ่งพล่าน
ถ้าตามหลักคณิตศาสตร์ เรื่องความน่าจะเป็น สี6หลอด มันต้องผสมได้ 6! =5*5*4*3*2*1 =720สี สิ!!!
ลองละเลงสามสี อัตราส่วน 1:1:1
สามสียังไม่สาแก่ใจ สี่สีไปเลยพี่น้องเอ๋ยยยย
อัตรส่วน 1:1:1:1
เอา6สีมาละเลงปนกัน ในอัตราส่วนที่เท่าๆกันทุกสี
มุ้งมิ้ง ฟรุ้งฟริ้งสุดๆ
แถมอีกสีนึง พยายามผสมให้ใกล้เคียง Wet n Wild#Just Peachy สีโปรดของเราและสาวๆอีกหลายๆคน
อัตราส่วน
#06:#08= 1:1
#02:#04= 0.25 : 0.25
6หลอด ผสมได้(อย่างน้อย) 34สี!!!!!!!
ยังๆ รีวิวนี้มันคงไม่จบ
ดูไปดูมาสีบางสีก็คล้ายๆ wet n wild อยู่นะ เพื่อแก้ข้อกังขา งานปาดจึงมา
โดยรวมแล้ว เนื้อลิป Mistine Joops เม็ดสีแน่นและแจ่มพอๆกับลิปที่เอามาเปรียบเทียบด้วยเลย
Mistine Joops#01 vs. Wet n Wild# Don't Blink Pink:
- จริงๆแล้วสีที่ใกล้เคียงกับ Wet n wild#Don't blink pink น่าจะเป็น Mistine Joops#07 ชมพูม่วงเลิฟลี่มากกว่า เพราะสีมิสทีนจุ๊บส์เบอร์1 จะเจือสีแดงด้วย
Mistine Joops#02 vs. Wet n Wild Carrot Gold:
- นับว่าคล้ายกันพอสมควร แต่Mistine Joops#2 จะเจือสีเหลืองมากกว่า
Mistine Joops#04 vs. Wet n Wild Think Pink vs. Etude House Rosy Tint Lips#6
- สีคล้ายกันมากกกกกก จนเกือบจะเหมือนสีเดียวกัน ทีแรกก่อนจะสั่งก็คิดนะว่ามันจะซ้ำกับน้องเปียกกับน้องอีทู้ดมั้ย แต่บ้าสีชมพูนมเลยสั่งมาไว้ใน collection ผีบ้าคักๆ จนหม่อมแม่ถามแล้วว่าจะซื้อมาทำไมเยอะเยะ 55555 ไม่เป็นไร ความสุขของผีบ้าชมพูนม
ในเมื่อปาดแล้ว ก็ทดสอบความอึดด้วยซะเลย กิกิกิ*แสยะยิ้มอย่างโรคจิต*
สี swatch สดๆ
เปิดน้ำก๊อกใส่แรงๆ ไม่มีใครยอมใครทั้งนั้น ตรงสีชมพูคือ มันแอบเลอะรากไทรย้อยของไม้ประดับที่อยู่ข้างๆก๊อก= =
เช็ดแรงๆ
ยัง ยัง ไม่พอ ราด make-up remover แล้วเช็ด1ครั้ง ปฏิบัติ!
เช็ดแรงๆอีกทีสองที ออกเหอะ แขนเริ่มแดงแล้ว
ยังคงหลงเหลือร่องรอยอารยธรรมเล็กๆ
ทดสอบความอึดอีก ดูซิสีจะยังทนได้มั้ย
ทาMistine Joops#01 ไปงานซ้อมรับปริญญา นั่งเรือด่วนเจ้าพระยาชมวิวชิวๆขาไป
เดินหาบัณทิต 3-4คน เดินเลียบท่าช้าง-ท่าพระจันทร์ หาก๋วยเตี๋ยวกิน ดื่มน้ำดื่มท่า
นั่งเรือด่วนเจ้าพระยากลับ เดินตลาดต่ออีกชั่วโมง ต่อรถสองแถว+รถเมล์เข้าบ้าน
รวมเวลาทั้งสิ้นประมาณ7ชั่วโมง
ในรูป รูปแรกคือตอนประมาณเที่ยง รูปที่2ห้าโมง
สีลิปมีหลุดไปบ้าง แต่ยังคงเหลือร่องรอยว่าทาลิปอยู่ ไม่ได้ ปากเปล่าเล่าเปลือยแต่อย่างใด
ส่วนตัวคิดว่าอึดมากกว่า wet n wild กับEtude House Rosy Tint lips นะ
เราเป็นคนหิวน้ำบ่อย ถ้าทา wet n wild หรือ Rosy tint lips ไม่เกินสามชั่วโมงสีก็หลุดไปหมดแล้ว
สรุป
packaging:
.5
ขอหักนิดนึงโทษฐานที่เป็นหลอดบีบทำให้พกพาไปเติมค่อนข้างลำบาก คือมันต้องใช้นิ้วหรือแปรงเกลี่ยอ่ะ
ถ้าเป็นจิ้มจุ่มน่าจะดีกว่านี้
Texture:
ขอหักนิดนึงโทษฐานที่เป็นหลอดบีบทำให้พกพาไปเติมค่อนข้างลำบาก คือมันต้องใช้นิ้วหรือแปรงเกลี่ยอ่ะ
ถ้าเป็นจิ้มจุ่มน่าจะดีกว่านี้
Texture:
เม็ดสีแน่นๆ แจ่มๆ ไม่แหนะแบบนี้ เอาไปเลย เอาไป เอาใจทั้งใจไปได้เลย
ความทน:
เป็นลิปที่ทนที่สุดในบรรดาลิปสติกในกรุละ
Total: 4.5/5
จบบริบูรณ์
ยาวไปมั้ย555 ขอบคุณทุกคนที่เลื่อนลงมาอ่านจนจบนะคะ ^_____^
ตอนทำรูปนี่ตาลายพอสมควร แนะนำว่าควรสอยนะคะ ราคาเบาๆ แต่คุณภาพเกินราคาและผสมสีสนุกมาก
ตามท้องตลาดเรทราคาน่าจะอยู่ที่ประมาณ 49-89 บาท สินค้าไทยจริงๆก็ดีไม่แพ้สินค้านอกนะ
ขอบคุณนักวิทยาศาสตร์ในห้องแลบด้วยที่ formulate ลิปสูตรนี้ขึ้นมา
ให้หญิงไทยงบน้อยอย่างเราได้ชื่นชมและครอบครอง