::REVIEW:: Amsel Collagen Plus 10,000 mg. Berry Mixed & Strawberry Flavor
aom_narawadee 4 1สวัสดีจ้าาา สาวๆจีบันทุกท่าน
สาวๆรู้หรือไม่ว่า การสร้างคอลลาเจนในร่างกายจะเริ่มชะลอตัวลงตั้งแต่อายุ 20 ปีเป็นต้นไป และทุกวันนี้เราสูญเสียคอลลาเจนในร่างกายลดลงเรื่อยๆ เฉลี่ยปีละ 1.5 % ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยนั้นเอง และปัจจัยต่างๆ ที่เราไม่สามารถเลี่ยงได้ในชีวิตประจำวันอีก ไม่ว่าจะเป็นความเครียดจากการเรียน การทำงาน แสงแดด มลภาวะต่างๆ หรือแม้กระทั่งการแต่งหน้าทุกวันโดยไม่ได้รับการดูแลที่ดี ก็เป็นสาเหตุเช่นกัน ซึ่งนั้นทำให้มีวิธีการเติมคอลลาเจนที่หลากหลาย และวิธีที่สะดวกและง่ายที่สุด คือ การทานคอลลาเจนแบบชงนั้นเอง คอลลาเจนที่พูดถึงก็คือ Amsel Collagen Plus Berry Mixed & Strawberry Flavor ที่ออมได้มาจากการร่วมกิจกรรมกับทางจีบันนั้นเอง
เราไปดูหน้าตาของผลิตภัณฑ์กัน
เป็นคอลลาเจนแบบชง กลิ่นเบอร์รี่มิกซ์และสตรอเบอร์รี่ และใน 10,000 mg. ไม่ได้มีเพียงคอลลาเจนอย่างเดียว
ยังอีก 3 ตัว ได้แก่
1. นิปปิ เปปไทด์ (ฟิช คอลลาเจน เปปไทด์) พบในปลาทะเลน้ำลึก เป็นคอลลาเจนบริสุทธิ์ 100 % ที่ผ่านการไฮโดรไลซ์ จนโมเลกุลมีขนาดเล็ก จึงทำให้ดูดซึมได้ง่าย
2. คอลลา (ฟิช คอลลาเจน) มีอนุภาคที่เล็กเพียง 1,000 ดาลตัน ช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้เร็ว เสริมสร้างให้ผิวแข็งแรง เรียบเนียนยิ่งขึ้น
3. ไฮโดรไลเซส คอลลาเจน เปปไทด์ มีขนาดเล็กเพียง 300-500 ดาลตัน ทำให้ร่างกายดูดซึมได้ง่าย และนำไปใช้ได้เร็วขึ้น มีสารไฮยาลูรอนิค ที่ช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ทำให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง
จากที่ได้ลอง Amsel Collagen Plus Berry Mixed & Strawberry Flavor
- กลิ่น หอมมิกซเบอร์รี่ แต่ก็แอบมีกลิ่นคาวนิดหน่อย ให้อภัยได้ 5555+
- รสชาติ เปรี้ยวหวานอร่อยดี จากข้อมูลของผลิตภัณฑ์บอกว่าใช้ซูคราโลสแทนน้ำตาล
พอดีแม่เราเป็นเบาหวาน แต่ท่านอยากลองทาน เราเลยไปหาข้อมูลมาว่าคนเป็นเบาหวานท่านได้ไหม
เกร็ดความรู้
ผู้ป่วยโรคเบาหวานใช้ Sucralose ได้หรือไม่?
ได้แน่นอน จากการศึกษาทดสอบทางด้านคลีนิค ยืนยันว่าผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถใช้ Sucralose ได้อย่างปลอดภัย โดยที่ร่างกายของเราไม่สามารถย่อยหรือดูดซึม Sucralose จึงไม่เกิดพลังงานแต่อย่างใด และไม่ทำให้เกิดน้ำตาลในกระแสเลือดดังเช่นการบริโภคน้ำตาลทั่วไป ผลิตภัณฑ์อาหารที่มี Sucralose เป็นสารให้ความหวานมีรสชาติที่ดี พลังงานต่ำ จึงเป็นทางเลือกสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
- และสุดท้ายในเรื่องของผิวยังไม่เห็นผลที่แน่ชัด เนื่องจากมีการทานแบบ อยากทานเมื่อไรก็ทาน เลยทำให้ยังไม่เห็นผลในเรื่องนี้ ^^
ส่วนเรื่องของราคาอยู่ที่กล่องละ 900.- ซึ่งใน 1 กล่องจะมีด้วยกัน 10 ซอง
และใน 1 ซอง จะมี 12 กรัมจ้าาา (ตกราคาซองละ 90 บาท ถือว่าแพงอ่ะ)
แต่ถ้าเทียบกับส่วนประกอบและผลที่ได้รับก็โอเคนะ ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุน ^^
และสุดท้าย ท้ายสุดเขาได้ให้
Tips ในการทานคอลลาเจนมาด้วย คือ
1. ควรทานอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ สามารถทานได้ในเวลาที่สะดวก โดยไม่จำเป็นต้องรอตอนท้องว่าง
2. เพื่อผลลัพธ์ที่ดี แนะนำให้ทานก่อนนอน เพราะเวลาที่นอนร่างกายจะซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และสามารถดูดซึม คอลลาเจนไปใช้งานได้อย่างเต็มที่
3. ในการทานช่วง 2 สัปดาห์แรก จะเห็นผลเรื่องของผิวที่ชุ่มชื่นและเรียบเนียนขึ้น ในส่วนของการลดร่องลึกและริ้วรอย ใช้เวลาประมาณ 2 เดือน
4. นอกจากการรับประทานคอลลาเจนแล้ว สิ่งสำคัญคือ การดูแลสุขภาพตัวเองด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผักผลไม้ พักผ่อนให้เพียงพอ และหาเวลาไปออกกำลังกายร่วมด้วย คอลลาเจนจะได้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผู้ป่วยโรคเบาหวานใช้ Sucralose ได้หรือไม่?
ได้แน่นอน จากการศึกษาทดสอบทางด้านคลีนิค ยืนยันว่าผู้ป่วยโรคเบาหวานสามารถใช้ Sucralose ได้อย่างปลอดภัย โดยที่ร่างกายของเราไม่สามารถย่อยหรือดูดซึม Sucralose จึงไม่เกิดพลังงานแต่อย่างใด และไม่ทำให้เกิดน้ำตาลในกระแสเลือดดังเช่นการบริโภคน้ำตาลทั่วไป ผลิตภัณฑ์อาหารที่มี Sucralose เป็นสารให้ความหวานมีรสชาติที่ดี พลังงานต่ำ จึงเป็นทางเลือกสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
- และสุดท้ายในเรื่องของผิวยังไม่เห็นผลที่แน่ชัด เนื่องจากมีการทานแบบ อยากทานเมื่อไรก็ทาน เลยทำให้ยังไม่เห็นผลในเรื่องนี้ ^^
ส่วนเรื่องของราคาอยู่ที่กล่องละ 900.- ซึ่งใน 1 กล่องจะมีด้วยกัน 10 ซอง
และใน 1 ซอง จะมี 12 กรัมจ้าาา (ตกราคาซองละ 90 บาท ถือว่าแพงอ่ะ)
แต่ถ้าเทียบกับส่วนประกอบและผลที่ได้รับก็โอเคนะ ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุน ^^
และสุดท้าย ท้ายสุดเขาได้ให้
Tips ในการทานคอลลาเจนมาด้วย คือ
1. ควรทานอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ สามารถทานได้ในเวลาที่สะดวก โดยไม่จำเป็นต้องรอตอนท้องว่าง
2. เพื่อผลลัพธ์ที่ดี แนะนำให้ทานก่อนนอน เพราะเวลาที่นอนร่างกายจะซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ และสามารถดูดซึม คอลลาเจนไปใช้งานได้อย่างเต็มที่
3. ในการทานช่วง 2 สัปดาห์แรก จะเห็นผลเรื่องของผิวที่ชุ่มชื่นและเรียบเนียนขึ้น ในส่วนของการลดร่องลึกและริ้วรอย ใช้เวลาประมาณ 2 เดือน
4. นอกจากการรับประทานคอลลาเจนแล้ว สิ่งสำคัญคือ การดูแลสุขภาพตัวเองด้วยการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นผักผลไม้ พักผ่อนให้เพียงพอ และหาเวลาไปออกกำลังกายร่วมด้วย คอลลาเจนจะได้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
... Bye Bye ...
เจอกันใหม่กระทู้หน้า
เจอกันใหม่กระทู้หน้า