Review: รีวิว สิ่งที่ใช้แล้วชอบในช่วงหน้าร้อน

17 6

สวัสดีค่ะ สาวๆหนุ่มๆชาวจีบันทุกๆคน วันนี้จะมารีวิวมาแนะนำ สิ่งที่ใช้แล้วชอบในช่วงหน้าร้อน มีปนๆกันไปหลายสรรพสิ่ง น้ำหอมบ้าง เครื่องสำอางค์บ้าง บอดี้โลชั่น ปนๆรวมๆกันไป ให้เพื่อนๆได้ชมกัน พร้อมแล้วก็ไปชมกันเลยค่ะ

ขออภัยหากทำอะไรผิดพลาด มือใหม่นะคะ หวังว่าเพื่อนๆคงจะชอบกัน

1. Narciso Rodriguez l'eau for her (edt)

นาร์ซิโซ โรดริเกวซ เป็นน้ำหอมตัวโปรดของเราค่ะ ชอบกลิ่นมาก

กลิ่นให้อารมณ์ เซ็กซี่เล็กๆ ส่วนตัวแล้ว สำหรับเราขวดดำ กลิ่นแรงไปนิดค่ะ ชอบตัวนี้มากกว่า

กลิ่นหอมติดทนค่ะ นับว่าเป็นตัวโปรดของเรา

2. O.P.I สีBarefoot in Barcelona

ปกติไม่ค่อยได้ซื้อน้ายาทาเล็บซักเท่าไหร่ เพราะทาเล็บฝีมออนุบาลมาก555+ แต่เราชอบสีนี้เพราะหลายๆ Blogger เคลมมาว่า สีนู้ดสีนี้ เป็นสีนู้ดที่เข้าได้กับทุกสีผิว มาลองแล้ว เออจริงด้วยแหะ ทาง่าย แห้งเร็ว เป็นสีที่เรียบๆง่ายๆดีค่ะ

3. Giorgio Armani Luminious Silk Foundation เบอร์ 7,5

ส่วนตัวช่วงหลังๆมานี้ เป็นคนผิวผสม ถึง ค่อนข้างแห้งค่ะ ผิว โทนร้อนตรงแก้มกับจมูกจะออกชมพูนิดๆ NC 40-42 บางดี ทาแล้วดูได้ผิวลุคฉ่ำๆ เราใช้กับแป้งฝุ่น Bobbi Brown เลิศมากค่ะ แต่ราคามหาโหดเหลือเกิน

รุ่นนี้สำหรับสาวผิวมัน อาจต้องมองข้ามไปเลยค่ะ หลายสำนักพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าตัวนี้ไม่คุมความมัน

4. Anastasia Beverly Hills Contour Kit – Light to medium

ABH Contour Kit นี้เป็นพาเล็ทรวมสีไฮไลท์+คอนทัวร์ค่ะแถวบนจะเป็นสีไฮไลท์ 3สี (Vanilla, Banana, Sand) แถวล่างสีคอนทัวร์3สี(Java, Fawn, Havana)สองสีแรกจะเป็นสีด้าน หรือ แมท คือไม่มีชิมเมอร์ ส่วนสีริมท้ายสุด (Sand) จะเป็นสีชิมเมอร์ส่วนตัวแล้วคือเราติดใจสีคอนทัวร์มากกว่าค่ะ ใช้บ่อยสุดคงเป็นคอนทัวร์ตัวกลาง (Fawn) เพราะมันเข้ากับสีผิวเราได้ดีกว่า ค่อยๆ Build ตรงส่วนที่เราอยากให้เกิด มิติ หรือสร้างโหนกแก้ม สันจมูกส่วนสี Havana เราชอบใช้เวลาคัดเบ้าตา กับคอนทัวร์ ช่วงไหปลาร้า

แต่ข้อเสียคือ ขายราคาแพงขนาดนี้ น่าจะให้กระจกมาด้วยในตัว จะได้ใช้ได้ง่ายมากขึ้น เราซื้อมาจากร้าน Kicks ในราคา 55 euro ราคาโหดมากค่ะ แล้วหมดไวมาก กว่าเราจะได้มา คือถามแล้วถามอีก ฮ่าพอได้มาปุ๊บถัดมาอีก อาทิตย์ เขาเอาแบบ ที่เป็นคอนทัวร์ ชนิดครีม มาขาย เสียดายมากกกก

5. Clarins Shimmer Oil

เป็นน้ำมันทาผิววิ้งๆผสมชิมเมอร์ ของ คลาแรงส์ใช้ได้กับใบหน้า และสาสารถใช้ทาผมได้ด้วย ตัวนี้ที่ประทับคือ กลิ่นหอมอ่อนๆค่ะ ปกติ พวกชิมเมอร์ ออยส์ กลิ่นจะตุๆไปหน่อยน่ะเราว่า อย่างที่ผ่านมาเคยลองใช้ทั้ง ของ Nuxe กับ H&M ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ ตัวนี้เราดูๆวางๆค่ะ เพราะถึงเวลามันจะลดราคา ลดทีคือลดแบบ 30-40% ปีนี้เราได้มาทันหน่อย เวลาใส่พวกแขนกุด ชุดเดรส เปิดหัวเข่าอะไรพวกนี้ เราชอบทา ผิวมันดู สู้ไฟ วิ้งๆดีเวลากระทบแดด ยิ่งถ้าเป็นคนผิวแทนน้ำผึ้ง ขอบอกเลยว่ามันแจ่มมาก ติดทนไม่หลุดง่ายด้วย ที่สำคัญที่สุดคือ ถึงจะเป็นออยส์ก็จริง แต่ซึมง่ายมากค่ะ ไม่ทำให้รู้สึกผิวเหนอะหน่ะ

6. Biotherm Life Plankton Essence

บอกตามตรงเลยว่า ตอนแรกเห็นบลอกเกอร์ กูลงกูรูบิวตี้ อวยๆๆๆกันแบบ ไม่อยากจะใช้ซะงั้น ไปๆมาๆ ใกล้เข้าช่วงหน้าร้อน จู่ๆผิวหน้าช่วงหน้าผากรู้สึกแห้งตึงๆ บวกกับช่วงนั้น ลดราคา20% ลองไปสอยมาขวดหนึ่ง

Essence โลชั่นใสๆ (ก่อนใช้ควรเขย่าด้วยจ้า) ตบลงผนผิวให้กระจายซึมสู่ผิว ใช้ไปซัก 2 อาทิตย์ จะรู้สึกได้เลยว่าผิวดีขึ้น (ไม่ได้ช่วยให้ขาวขึ้นน่ะ) แต่รูขุมขนกระชับขึ้นค่ะ ตอนนี้ใช้มาได้จะสองเดือนแล้ว ใช้คู่กับผงวิตมินซี ของ Philosophy โดยรวมค่อนข้างพอใจค่ะ

สรุปถึงจะชอบตัวนี้ก็จริง แต่ๆๆๆ หมดขวดนี้คงไม่ซื้อต่อเพราะ เราเชื่อว่าต้องมีตัวที่เด่นกว่านี้แน่นอน

7. MOROCCANOIL Treatment

เนื่องจากเป็นคนที่มีสภาพผมเสีย เพราะผ่านการย้อมบ้าง ดัดผมหนีบผมบ้างล่ะ เลยหาเจ้าน้ำมันตัวนี้มาใช้ค่ะ ขวดนี้ใช้มาเป็นขวดที่ 5 แล้ว เราชอบแบบขวดเล็กมากกว่า ขวดเล็กแบบนี้เราใช้ได้ประมาณครึ่งปี ปีหนึ่งซื้อสองครั้ง ขวด25 ml. ขวดล่ะ 11 euro ถือว่าไม่แพงนะ

ผลที่ได้จากการใช้ : แนะนำเลย เป็นออยล์ที่ใช้ตอนผมหมาดๆ หลังสระผม หยดใส่มือคือนิดเดียวพอค่ะ กลิ่นหอมมากไม่เหนียวมือ ผมนุ่มมากกกก ตื่นเช้ามาก็นิ่มมม ลื่นน ให้วอลลุ่ม ผมดูมีน้ำหนักมากขึ้น ตัวนี้ใช้ในระยะยาว ผมก็เริ่มดีๆขึ้น ค่ะคือผ่านมาอีกวัน กลิ่นก็ยังติดที่ผมอยู่ ให้ความชุ่มชื้นด้วยค่ะ ตรงปลายผม ไม่ค่อยจะสากเท่าไหร่เลย หมดขวด ซื้อต่อแน่นอนค่ะ ไว้เจอกันอีกนะยาหยี555

8. Clarins Daily Energizer Lovely Lip Balm.

พอดีลิปมันที่แม่ซื้อให้จากเมืองไทยหมดเกลี้ยงแล้ว เลยไปลองหาลิปบาล์มตัวใหม่มาลอง ดูผลออกมาใช้ดีค่ะ ค่อนข้างพอใจพอสมควร อีกอย่างคือไม่ได้แพงอะไรมาก แต่ที่เราใช้แล้วสุดคือของ La Roche-Posay ลิปบาล์มบำรุงที่เป็นหลอดบีบ เสียดายตรงที่เลิกผลิตไปแล้วรุ่นนั้น ทำไมนะทำม้ายยย!!!

9. Rimmel London สีNotting Hill Nude #720

ลิปสติกสีนู้ดอมพีชหม่นชมพูๆมานิดๆให้ความชุ่มชื้นอีกด้วยรู้สึกรุ่นนี้จะให้ความชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนๆราคาสบายเป๋าตังค์คุณภาพดีค่ะยี่ห้อนี้เขาไม่แพงมีหลายตัวมากที่น่าใช้สีนี้กับลิปสติกของเฮีย Tom Fordสี Spanish Pinkสีใกล้เคียงกันมากค่ะ

10. Yves Rocher Healthy Glow Effect Blush

บลัช จาก อีฟ โรเช กันบ้าง แปลกนะค่ะ ที่ยี่ห้อนี้ไม่ค่อยพูดถึงกันเท่าไหร่ แต่เราชอบน่ะพวกครีมทามือ ทาเท้า ครีมอาบน้ำใช้ดีทั้งนั้นเลย เราสั่งเอาทางไปรษณีย์ค่ะ เมืองที่เราอยู่เขาปิดร้านไปนานแล้ว ตัวนี้เป็นบลัชชนิดเหลว สีแดงๆคล้าย tint ของ Benefit นั่นแหละค่ะ เราได้มา 7,90ยูโร บวกของแถม ครีมอาบน้ำ หนึ่งขวด บลัชสีสวย ใช้คู่กับ beauty blender ค่อยๆเกลี่ยไม่ต้องลงเยอะ ก็สวยติดทนนานค่ะ ให้ลุคดิวอิ้ บนพวงแก้มนิดๆ

11. Rimmel London Stay Blushed สี 004 Sunkissed Cherry

บลัชเนื้อครีม สีออกไปทาง coral ไม่ถึงกับส้มจ๋าอะไรขนาดนั้น ออกแนวส้มๆบ่มแดดหน่อย เหมาะกับสาวผิวเข้มค่ะเราว่า พิกเม้นต์แน่นพอสมควร ต้องรีบเกลี่ยหน่อยค่ะ เพราะเขาแห้งไวมาก

12. Max Factor Masterpiece Transfrom High Impact Volumising Mascara มาถึงตามาสคาร่ากันบ้างค่ะ สำหรับรุ่นนี้ค่อนข้างดังพอสมควรในแถบ ออสเตเรีย กับแถวฝั่งสแกนดินาเวียร์ รุ่นนี้ปัดง่ายค่ะ ไม่จับตัวเป็นก้อน เราเป็นคนติดขนตาปลอมไม่เป็นเลย เพราะฉะนั้น เราชอบใช้พวกมาสคาร่า ที่สามรถตอบโจทย์เราได้ แบบต้องการให้ดูยาวขึ้น ไม่จับกลุ่มเป็นก้อน แต่ข้อเสียคือ ไม่มีแบบกันน้ำค่ะรุ่นนี้

13.MAC Extended Play Gigablack Lash

ปกติไม่ค่อยชอบมาสคาร่า ของ mac เคยผิดหวังกับยี่ห้อ mac มาก่อน ลาขาดไม่ใช้ไปหลายปีเลยค่ะ จนกระทั่ง เรื่องของเรื่องคือ ปกติขนตาล่างเราใช้ของ Clinique ที่เป็นรุ่นจิ๋วๆเล็กๆ รุ่นนั้นทางบริษัท เค้าผลิตมาสักพักแล้ว จน ไปดู ช่างแต่งหน้า สองพี่น้อง Pixiwoo ในยูทูป เห็นนางปัดขนตาล่างแล้วแบบดูยาวขึ้นแล้วมันจับเส้นเรียงงาม เลยบึ่งไปที่เค้าน์เตอร์ ส่วนตัว แล้วยังไงๆก็ไม่ได้ดีเท่า ของคลีนีค แต่รุ่นนี้มันให้ความหนาซะมากกว่าค่ะ แต่ถ้ารอให้แก้งรอบบนึง แล้วปัดต่อรอบที่สองจะให้ความยาวเพิ่มมาอีกค่ะ

14.Anastasia Beverly Hills brow witz สี Dark Brown

คงไม่ต้องพูดถึงอะไรมากกับเจ้าตัวนี้ ดีสมคำร่ำลือ เป็นดินสอหมุนแบบ auto เป็นดินสอหมุนแบบ อีกด้านเป็นหัวแปรงจัดขนคิ้วได้ตามต้องการ เขียนง่าย เขียนให้เบามือ ก็จะได้คิ้วที่ดูงามแบบธรรมชาติ

แต่ข้อเสียคือ หมดง่ายจ้ะ

15. Lindex Lipliner เบอร์ 11

ดินสอเขียนริมฝีปาก จาก Lindex ร้านเสื้อผ้า ร้านดังในยุโรปจากสวีเดน ที่หันทำเครื่องสำอางค์ในราคาสบายๆ ลิปสีนี้ ไปทางสี muave ค่ะ แนวสีกะปิตุ่นๆอะไรประมาณนี้ คนดังที่ชอบสีนี้นึกถึง ไคลีย์ เจนเนอร์ เราเอามาเขียนเป็นลิปสติกทางมันทั้งปากเลย ชอบอยู่ตรงที่สีติดทนมากค่ะคุณขา วันนู้น นั่งกินข้าวเหนียว ปีกไก่อบ สียังไม่หลุดออกเลยค่ะ ล้างออกยากเหลือเกิน เรานี่กว่าะล้างออกได้ ต้องใช้น้ำมันมะพร้าวเช็ดออกเลยค่ะ สีสวย ติดทน ราคาไม่แพง 5ยูโร เองค่ะ สีนี้เมื่อเทียบกับสี Soar ของ MAC เราว่าสีนี้ยังดูสวยกว่าอีกค่ะ แต่ข้อเสียคือ ปากแห้งง่ายมาก เนื่องจากมันเป็น lipliner ควรลงลิปบาล์มก่อนค่ะ

หลังจาก เช็ดออก หนึ่งรอบ หลุดยากจริงอะไรจริง

16.Balmain Paris Repair Mask

มาสก์ผม จาก Balmain ยี่ห้อผ้าเสื้อระดับ ไฮ-เอนด์ ที่หันทำ ผลิตภัณท์เกี่ยวกับเส้นผม และ clip-in hair extensions

สภาพผมเส้นเล็กของเราคือผมยาวหยักศกฟูๆ( semi-curl) ปลายผมแห้งมาก เนื่องจากผ่านการทำสีผม และความร้อนจากเครื่องดัดผม ผมหวีบ้างไม่หวีบ้าง คือไม่ค่อยได้ใช้หวีเหมือนชาวบ้านเขา ชอบปล่อยให้มันเซอๆ (เซ่อๆ ไปบ้าง) สงสัยจะเป็นญาติกับ กัปตัน Jack Sparrow 555+

มาสก์ผม จาก ยี่ห้อเสื้อระดับ ไฮเอนด์ ที่หันทำ ผลิตภัณท์บำรุงเส้นผม และ

ผลที่ได้จากการใช้ : ไปได้มาตอนที่เขามีการลดราคา 20% เนื้อครีมลื่นๆ ไม่เหนียวมือ เวลาเรา ขี้เกียจๆ เหนื่อยๆ เราก็ เอาตัวนี้มาหมักทิ้งไว้ แล้วเอาผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นบิดหมาดๆ มาพันหัวไว้ แล้วก็ พอกหน้าไปด้วย ทิ้งไว้สัก 10-15นาที แล้วผมนิ่มมาก เงาวิ๊ง ยิ่งใช้หมักผมไปด้วยเอาผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นบิดหมาดๆ มาพันหัวไว้ แล้วเข้าซาวน่า ผมนิ่มๆ ลื่นและหอมมาก ถึงเวลานั้นเราจะเป็นดั่งคนโรคจิต นั่งไปดมผมตัวเองไปฟืดฟาดๆ555 นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของ Argan oil ช่วยทำให้ผมชุ่มชื้นขึ้น

17 Himalaya Herbals Intensive Moisturizing Cream

โลชั่นทาผิว ในราคาย่อมเยาว์ แต่คุณภาพนี่เยี่ยมมากค่ะ ใช้มาตั้งแต่หน้าหนาวยันหน้าร้อน สำหรับผิวกายโชคดีหน่อยคือเป็นคนผิวไม่แห้ง เพราะเราขยันโบกครีมทาผิว ทุกวัน เราชอบตรงที่มีส่วนผสมของน้ำมันอัลมอนด์ กลิ่นหอมมากค่ะ เราทาทั้งตัวยันเท้าเลย ผิวนุ่มขึ้น เน้นเรื่องให้ความชุ่มชื้นด้วยค่ะ ตัวนี้ใช้ทากับผิวหน้าได้ด้วย หมดกระปุกใช้ต่อแน่นอนค่ะ

สิ้นสุดกันที กับการรีวิวกระทู้ (แหม่ ทำไมเวลาพิมพ์งาน thesis ส่งอาจาร์ย ไม่ขยันพิมพ์ยาวๆแบบนี้มั่งฟ่ะ!!)

ฝีมือการถ่ายรูปองเราอาจจะกากไปบ้าง ไม่ว่ากันนะคะ

ไปก่อนเน้อทุกคน โบกมือหยอยๆ ไปกินข้าวเช้าแพร่บ สวัสดีแล้วไว้เจอกันใหม่ค่ะ :)


annabeg

annabeg

FULL PROFILE