{Review} LUSH Cosmetics 4 ไอเทมสุดหอมชนิดที่ซื้อแล้วซื้ออีก ใช้แล้วทั้งน่ากิน ทั้งฟิน ทั้งสวย! (Part 2)
Yveshann146สวัสดีค่า ;)
อีฟเคยได้มีโอกาสทำบทความเกี่ยวกับ LUSH Cosmetics ไปบ้างแล้ว
ผลตอบรับค่อนข้างดีมากๆ วันนี้อีฟเลยกลับมาทำ Part 2 ตามสัญญาค่ะ
ใครที่ไม่เคยอ่าน Review ของ Lush Cosmetics ใน Part 1
สามารถอ่านได้ตามลิงค์ด้านล่างนี้เลยนะคะ
{Review} LUSH Cosmetics เคล็ดลับตัวหอมผิวนิ่มแบบธรรมชาติชนิดที่ซื้อแล้วซื้ออีก! (Part 1)
อย่างที่อีฟเคยเกริ่นไว้แล้วว่า ทำไมอีฟถึงเลือกใช้ LUSH และใช้มาตลอด
LUSH เค้าได้เคลมแบรนด์ของเค้าเอาไว้ว่า....
LUSH เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำ handmade ทุกชิ้นนั้นทำขึ้นกับมือ
LUSH ผลิตจากวัตถุดิบสดใหม่จากธรรมชาติ
LUSH ไม่มีการใช้ไขมันสัตว์ผสม หรือทดลองกับสัตว์
LUSH มีกลิ่นหอมจัดที่ติดตัวไปตลอดทั้งวัน
ซึ่งวันนี้อีฟจะมา Recommend 4 ไอเทม ตัวเด็ดของ LUSH
ที่ไม่ว่าใครได้ลองใช้แล้ว จะต้องซื้ออีกอย่างแน่นอนค่ะ
มาเริ่มกันเลยดีกว่า :)
เริ่มกันที่ตัวแรกนะคะ
LUSH Cosmetics
Fresh Face Mask : Cupcake 75g.
กระปุุกจะเป็นแบบแบนๆ หน่อยค่ะ บรรจุครีมมาร์กเอาไว้ด้านใน
แค่เปิดกระปุกออกมา กลิ่นโกโก้ช็อคโกแลตก็ตะลบอบอวลไปทั่วห้อง
ตัวนี้เป็นเหมือน มาร์ก Chocolate Treatment ชนิดเข้มข้นเลยทีเดียว
(อย่าเผลอเอาไปทาขนมปังนะคะ มันไม่ใช่ nutella นะเอ้อ ฮ่า)
จะมีการผสมโคลนชนิดนึงแบบเบาบาง เข้าไว้กับผงโกโก้
ที่เมื่อมาร์สลงบนหน้าแล้วช่วยดูดซึมสิ่งสกปรกบนใบหน้าได้ดีเยี่ยม
บวกกับใบสะระแหน่ ให้ผิวหน้าชุ่มชื้นหลังใช้ค่ะ
เนื้อมาร์กนั้นไม่เหนียวหนึบค่ะ แต่ก็ไม่ถึงกับเหลวเกินไปนัก
ทาบนหน้าได้ง่าย เกลี่ยสบายๆ ค่ะ
ด้วยความที่ผลิตภัณฑ์ของ LUSH นั้นเป็นของสด
มาร์กหน้าหรือครีมส่วนมากจึงทำสดด้วยเช่นกัน
หลังการใช้อีฟเลยจะเก็บในตู้เย็นค่ะ ไม่ให้ตัวมาร์กนั้นเหลวเกินไป
และยังคงรูปของความเป็นครีมเอาไว้ได้
วิธีใช้ :
มาร์กทิ้งไว้ 10-15 นาทีแล้วล้างออกค่ะ ด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำอุ่นๆ
ใครผิวแห้ง ผิวบอบบางใช้ตัวนี้ถือว่าโอเคสำหรับอีฟค่ะ
หลังใช้อีฟรู้สึกว่าหน้านุ่มมากจากการพอกโกโก้ช็อคโกแลต ฮี่ :3
ตัวที่สองที่อีฟจะมา Recommend ของ LUSH Cosmetics นะคะ
ตัวนี้คนถามมาเยอะมากตั้งแต่อีฟทำรีวิวครั้งแรก จนมาถึงตอนนี้
Lip scrub : Bubblegum 25g.
หน้ากระปุกก็บอกอยู่แล้วนะคะ ว่าเป็นลิปสครับแบบน้ำตาลสีชมพู
ที่มี รสชาดเหมือนขนมสายไหม ซึ่งขอยอมรับว่าหอมมากจริงๆ ค่ะ
กลิ่นจะออกขนมๆ แคนดี้ๆ อดไม่ได้ที่จะหยิบมาใช้ มาดมเลย
ด้านหลังกระปุกจะเขียนไว้ว่ามีการผสม โจโจ้บาออยด์ด้วย
เสหมือนว่ามีมอยซ์เจอร์ไรเซอร์เล็กน้อยในตัวให้ปากนั้นชุ่มชื่น
ตัวสครับเปิดออกมาจะเป็นน้ำตาลสีชมพูสดใสแบบนี้ค่ะ
ขัดแล้วช่วยให้ริมฝีปากเรียบเนียน ชมพู ลดริมฝีปากหมองคล้ำ
ช่วยให้ทาลิปแล้วสีติดทนริมฝีปากขึ้นด้วย
ตัวนี้เคลมเอาไว้ว่า 100% Vegan เลยค่ะ
ไม่มีการทดสอบในสัตว์หรือใช้ไขมันสัตว์แน่นอน
เม็ดสครับไม่หยาบมาก แต่ก็ไม่ถึงกับเล็กจิ๋วหลิว
ขัดไม่เจ็บปากกำลังดีค่ะ ถูไปมาได้นาน ไม่ละลายกับปาก
อีฟจะใช้ก่อนทาลิปแต่งหน้า
และใช้อีกรอบหลังล้างเครื่องสำอางออกหมดแล้ว
หลังขัดเลียออกได้เลย อร่อย ไม่ต้องเช็ด!
(ชอบตรงนี้! ฮ่า)
ต่อไปเป็นตัว Lip tint ค่ะ ปริมาณ 8g.
Lip Tint : It Started With A Kiss
Lip Tint : Latte
เป็น Lip Tint แบบตลับนะคะ พกพาสะดวก apply ง่ายๆ ไม่ยุ่งยาก
โดยทินต์ตัวแจ่มๆ ของ LUSH เค้าก็มีสองตัวนี้แหละค่ะ
จะ เป็นลิปทินต์แบบที่ผสมเนื้อบาล์มเข้าไปด้วยในการบำรุง
เพราะฉะนั้นถ้าถามอีฟถึงการติดทน บอกเลยว่าไม่ทนมาก
อีฟทดลองแล้ว 6 ชั่วโมงถือว่าโอเคค่ะ ถ้าไม่ทานอะไรหรือดื่มน้ำบ่อยๆ
(ทำใจด้วยความที่มันผสมเนื้อบาล์มอ่ะเนอะ)
มาดูความแตกต่างของทั้งสองตัวกันดีกว่าค่ะ
Lip Tint : Latte
ตัวนี้จะเป็น ลิปทินต์แบบมีชิมเมอร์ค่ะ กลิ่นจะออกกาแฟ ผสมอัลมอนด์
จะทาติดง่ายกว่า It Started With A Kiss
เพราะเนื้อชิมเมอร์นั้นจะบางเบาและนุ่มกว่า
คนผิวแทนๆ ทาลิปสีนี้สวยมากๆ ค่ะ
อันนี้อีฟแอบเอามาใช้เป็นบรอนเซอร์ช่วงโหนกแก้ม
คือเวิร์คเลยสำหรับลุคโกลวกลางคืน เติมได้เรื่อยๆ ด้วย
Lip Tint : It Started With A Kiss
สีจะออกดอกกุหลาบแดง กลิ่นหอมมากกกกกกกกกกกกกก
อีฟชอบกลิ่นมากๆ บางทีก็ดมแทนยาดมเลย (ฮ่า)
เป็น กลิ่นแอปเปิ้ลๆ ผสมวนิลลากับไวท์ช็อคโกแลต
มันเลยหอมผสมผสานกันแบบบอกไม่ถูกค่ะ
สีอาจจะมองดูแดงจัด แต่พอทาออกมาจะออกชมพูโรส
ส่วนจะสีจัดเข้ม หรือ สีอ่อนนั้น ขึ้นอยู่กับการทาย้ำๆ ของเราตามใจชอบเลยค่ะ
ใช้ทำพวกสีปากแดงระเรื่อสไตล์เกาหลียังได้เลย
*ตัวนี้คนจะใช้เยอะกว่าตัว latte ค่ะ
Swatch สีค่ะ
ของ Latte และ It Started With A Kiss
สังเกตได้ว่าตัว Latte นั้นชิมเมอร์เด่นชัดเจนค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะ อีฟหวังว่าเพื่อนๆ จะถูกใจกับ 4 ไอเทม
ที่่ทั้งน่ากินและน่าใช้ของ LUSH Cosmetics นะคะ
เอาไว้คราวหน้าถ้าอีฟมีไอเทมอะไรจากแบรนด์นี้ น่ากิน น่าใช้
อีฟจะเอามารีวิวให้ดูกันอีกค่า
มีคนถามมามากมาย ว่า "หาซื้อได้ที่ไหน?"
ในไทยอาจจะหายากซักนิดเพราะไม่มี official shop นะคะ
แต่ใครที่สนใจ อีฟแนะนำว่าให้หาซื้อจาก LUSH HK ค่า
ส่งไว แล้วก็ได้ราคาที่โอเค อาจจะเสียค่าภาษีบ้าง
แต่ถ้ายอมเสีย และอยากลองใช้อีฟก็ว่าคุ้มราคา ไม่ถึงกับแพงเว่อค่ะ
สุดท้ายถ้ามีส่วนไหน หรืออะไรผิดพลาด ก็ขออภัยมา ณ ทีนี้ด้วยค้าบ
แล้วเจอกันใหม่ article หน้า ค่ะ <3
xoxo
Discussion (6)
ปกติจะใช้หลังจากใช้ Let the good time roll สครับหน้าก่อน
ใช้แล้วหน้านิ่มมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไม่ระคายเคืองด้วยค่ะ
ใช้ได้เป็นปี เพราะเราใช้ นิดเดียว
สงสัยต้องไปตำ ลิปทิ้นท์ บ้าง