[เล่าครั้งแรก] NO PAIN NO GAIN - เส้นทาง 4 ปีกับการลดนํ้าหนักจาก 104.4kgs ♡
bonitarendell 9 6helllooo สัวสดีค่ะ เพื่อนๆ ชาวจีบัน :)
ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่าที่ผ่านมาเคยเป็นแต่คนอ่าน แต่ไม่เคยเขียน นี่คือการตั้งกระทู้ครั้งแรก.. จะว่าครั้งแรกในชีวิตก็ได้ 5555555 ♡ ที่อยากเขียนก็เพราะอยากแชร์เรื่องราวและประสบการณ์ของตัวเอง ช่วงนี้เห็นคนแชร์เรื่องลดนํ้าหนักเยอะ เลยอยากเเชร์บ้าง เผื่อจะให้มุมมองที่แตกต่าง บ้างเล็กน้อย :)
เอาล่ะ... อย่างแรกขอเริ่มด้วยรูป cliché ก่อนนะคะ - my BEFORE & NOW (ขอเป็น 'now' ก่อนนะค๊าาา เพราะยังอยากจะลดอีก ><)
การตัดสินใจที่จะลดนํ้าหนัก ครั้งแรกแบบจริงจังเกิดขึ้นเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ตอนอายุประมาณ 23 แรงบันดาลใจทั้งหมดทั้งปวงมาจากเพื่อนสนิทคนนึง (you know who you are) ที่พยายามพูดให้เห็นถึงความสําคัญของสุขภาพ ตอนนั้นเราหนักมากกกก นํ้าหนักอยู่ที่ 104.4 กิโลกรัม เพื่อนเป็นห่วงมาก!!! แต่ที่ตลกคือเราไม่ได้เป็นห่วงตัวเองเลย... แต่พอเห็นความพยายามของเพื่อนที่คอยหมั่นเคี่ยวเข็ญ เราก็เลย เอาวะ! ลดก็ลด! เพื่อนเรา line หาเราทุกวัน ทุกเช้าทุกเย็น หา menu อาหารที่ใช่ หาข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ และหา before & after stories มาให้อ่านเพื่อเป็นแรงพลักดัน
เราก็ทําตามที่เพื่อนบอกทุกอย่าง cheated sometimes แต่ส่วนมากทําตาม และเริ่มเข้า fitness พร้อม personal trainer, ที่บ้านก็อยากให้ลดมาก (มาก มาก มาก) แม่พร้อมลงทุนทุกอย่าง
ส่วนเราควบคุมเรื่องกิน เรางดแป้ง ค่อยๆ งด จนสามารถไม่กินได้
ช่วงนั้นหันมากินผัก กินเส้นบุก กับทุกๆ อย่างแทน (ตอนแรกทรมานนะ แต่ไปๆ มาๆ มันก็ไม่ยากขนาดนั้น) แต่หลังๆ ก็ drop เรื่องออกกําลังกาย เพราแท้เเล้วเราเป็นคนขี้เกียจ ><
1 ปีผ่านไป...... เราลดได้ประมาณ 10 กว่าโล คราวนี้เปลี่ยนที่ทํางานใหม่ เปลี่ยนมาทําวงการแฟชั่น ในหัวคิดอยู่อย่างเดียว "ฉัน.ต้อง.สวย" 555555 อยากแต่งตัวสวยๆๆๆๆ อยากเหมือนเพื่อนที่ทํางาน ก็เลย อ่ะ เอาอีก ไม่กินแป้ง ทุกเที่ยงจะกินสลัด พยายามที่จะไม่กินแป้ง และทําได้ แต่ก็ไม่ออกกําลังกายเหมือนเดิม เน้นอย่างเดียวคือควบคุมการกิน ขนมก็กินอยู่นะ กินแบบ อยากอะไรก็กินคําเดียว แล้วก็ทิ้ง... อันนี้ work สําหรับเรามาก ลองดูกันได้ ทําแบบนี้นํ้าหนักก็ลงเรื่อยๆ จาก size 18 เป็น size 16 และ ค่อยๆ แตะๆ 14 จนได้ ทําเรื่อยๆ อีกประมาณ 1 ปี คนเริ่มเห็นความแตกต่าง คนเริ่มชม และที่สําคัญเราเริ่มใส่ เสื้อผ้าสวยๆ ได้แล้ว :)
หลังจากนั้น... ก็หยุด 5555 เพราะไม่ได้มีแรงบันดาลใจอะไรมาก แต่ก็ไม่ได้หยุดซะทีเดียว จน.... 55555 ให้ทาย ;) จุดเปลี่ยนของผู้หญิงทุกคนก็คงไม่พ้นเรื่องรักๆ ชอบๆ กับเพศตรงข้าม 55555 คราวนี้แหละ ฮึดเลยยยยยย ทําทุกอย่างเพื่อจะสวยขึ้นในระยะเวลาอันสั้น จากคนไม่ออกกําลังกาย ก็หันมาต่อยมวยอย่างจัดหนัก!!! กินอาหารดีมากกกๆๆๆๆ เข้าทุกสูตรบนโลกนี้ที่เคยถูกค้นพบ นํ้าหนักลงไปเยอะมาก ลงไปเหลือ 77 โลในเวลาอันสั้น (เกือบ 10โล) และก็ maintain ได้ต่อไปจน.... เขาต้องกลับประเทศ :( #byebyeinspiration
หลังจากนั้นนํ้าหนัก ก็ขึ้นๆ ลงๆ ไม่ได้ตั้งใจอะไร และแล้วการกินกลางคืนซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ก็เกิดขึ้น เพราะเริ่มเรียน ป โท เรียนไปด้วย ทํางานไปด้วย #หนักมาก (กินนะ ไม่ใช่เรียน หรือทํางานที่หนัก 5555) คราวนี้นํ้าหนักพุ่งค่ะ เดินทางเยอะ กินเยอะ ขึ้นเป็น 10 โล! หน้าบวมมาก จนรู้สึกว่าไม่ได้แล้ว ที่บ้านเริ่มทัก น้องชาย พี่ชาย และที่สําคัญแฟนน้องชาย ที่ปกติไม่เคยว่าเราเลย :(
พอดี๊ พอดี เพื่อนแนะนํา bootcamp ให้เรา สิ่งหนึ่งคือเราโชคดีมาก ที่มีเพื่อนดี เพื่อนอยู่ด้วยตลอด เป็นแรงบันดาลใจ และ กําลังใจที่ดีที่สุด เรามีเพื่อนสนิทไม่กี่คน ทุกครั้งที่เราลด เพื่อนเราก็เหมือนลดด้วย 555! ช่วยกันส่งข้อมูล inspirations/quotes ต่างๆ ให้เราทําสําเร็จ thanks guys xxx
01.07.15 เป็นวันแรกที่เริ่มเข้า bootcamp กล้าๆ กลัวๆ เพราะ ทุกคนน่าจะทราบว่า bootcamp โหด แต่... เอาวะ! ครั้งนี้มีเวลาแค่ 3 เดือน เพราะจะไปเรียนต่อ อยากสวย อยากใส่ชุดสวยๆ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ทําเพื่อตัวเองจริงๆ และค้นพบวิธีลดนํ้าหนักที่ถูกต้องที่สุด
Routine คือ ออกจากบ้าน 6โมง เริ่มออกกําลังกาย 7โมง - 8โมง (จันทร์ - ศุกร์) และไปทํางาน ต่อด้วยเรียน ปโท ต่อ... ฟังดูโหดเนอะ สําหรับคนที่ไม่ค่อยออกกําลังกาย แต่เพื่อความสวย เราทําได้ค่ะ ไปอย่างน้อย 4 วันต่ออาทิตย์ เช้าไหนที่ลุกไม่ขึ้นก็จะพูดกับตัวเองว่า "NO PAIN NO GAIN" เท่านั้นแหละ จะพุ่งตัวอาบนํ้า และไปออกกําลังกาย 5 อาทิตย์แรก นํ้าหนักลง 5 กิโล มีครั้งหนึ่งชั่งแล้วนํ้าหนักขึ้น เรานี่เกือบร้องไห้เลย มานั่งทบทวนว่าทําอะไรผิดไป การกินก็กินดีมาก แต่ก็แค่บอกตัวเองว่าทําต่อไป พออีกอาทิตย์ชั่งนํ้าหนักก็ลงสมใจ :)
เรื่องการกิน เราเน้นกินผักต้ม/ ไก่/ เนื้อ/ ปลา อะไรแบบนี้ค่ะ พูดได้เลยว่า 80% กิน clean และ ที่เหลือคือเลือกกิน จากที่กินกาแฟหวานๆ แบบที่เคยๆ กินกันก็งด กินเฉพาะเสาร์อาทิตย์ และที่สําคัญมี CHEAT DAY เหมือนที่ฝรั่งเขาแนะนํากัน การลดนํ้าหนักต้องมี CHEAT DAY ค่ะ วันที่กินอะไรก็ได้ 1-2 วันต่ออาทิตย์ (แต่ไม่ใช่กินระเบิดลงนะคะ 5555 still need to control!) อันนี้ทําให้เราไม่โหย ไม่อยาก และไม่ทรามาน มีความสุขกับการลดนํ้าหนัก
วันนี้เข้าวันที่ 68 แล้วตั้งแต่เดือนมิถุนายน เราเห็นผลการเปลี่ยนแปลงในตัวเองแบบไม่เคยเห็นมาก่อน น้องชายมากอดบอกเห้ยยยยยย เอวมาาาาาาา (หน้าท้องลดไป 15cms และยังมีดส้น ABS ที่หน้าท้อง!) เพื่อนๆ และครอบครัวพากันชม อะไรแบบเนี๊ยะแหละค่ะ ที่ทําให้เราเดินต่อไป มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เชื่อเรา ถ้าเราทําได้ทุกคนก็ทําได้ เราไม่ได้หวังที่จะผอม เอวบาง ร่างน้อย แต่เราแค่อยากสวย รักเสื้อผ้าก็อยากแต่งตัวสวยๆ และสุขภาพดี เราโอเคกับการเป็น plus size และนี่คือเป้าหมายของเรา :)
ก่อนจะไป ขอทิ้งท้าย 3 คําง่ายๆ
1. No Pain No Gain - ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ไม่มีใครเกิดมาพร้อมทุกอย่าง หาจุดด้อยให้เจอแล้วแก้
2. Consistency - ทําให้สมํ่าเสมอ ในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะการกิน หรือการออกกําลังกาย ทําแล้วหยุด ทําแล้วหยุดไม่เกิดผลหรอก
3. Commitment - ความยึดมั่น เมื่อเลือกจะทําอะไร ก็จงทําให้ดีที่สุด
โหหหหหห้ ยาววววมากกกกก ยาวกว่าที่คิดไว้เยอะ ไม่รู้อ่านจบกันหรือเปล่า 55555 แต่หวังว่าคนที่อ่านจนจบคงได้ข้อคิดดีๆ หรือได้รับแรงบันดาลใจจากเราบ้าง :) inspirations are everywhere การเริ่มต้นคือสิ่งที่ยากที่สุด แต่ก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุด :D
( link ไปโซเชียลส่วนตัว ใส่ไว้ใน My Page เท่านั้นจ้า : จีบันทีม)
ขอบคุณนะ แล้วจะมาเล่าตอนต่อไปให้ฟังค่ะ
bye bye
B xoxox