My Vacation Beauty Prep + review

3 2

สวัสดีค่าทุกคน สำหรับวันนี้ เราจะแชร์เรื่องการเตรียมอุปกรณ์บิวตี้ไปเที่ยวญี่ปุ่นในแบบของเราแบบที่ไม่มากไม่น้อยเพราะ ไปไม่กี่วันและไปแบบแบคแพค จึงต้องเลือกที่ essentials จริงๆ และรวดรีวิวของบางชิ้นที่แบบช๊อบชอบด้วย มือใหม่นะคะ ผิดพลาดอย่างไรขออภัยมา ณ ที่นี้

เริ่มกันเลยละกัน การทำความสะอาดผิวเราเอาทิชชู่เปียกไป แบบที่เช็ดเครื่องสำอางกันน้ำออกได้ชัวร์ๆ เบาด้วย

ส่วน skin care นั้น เราเอา CLARINS Double Serum ไปขวดเดียว มันเป็นเซรั่มครึ่งหนึ่งกับออยล์ครึ่งหนึ่งในขวดเดียวกัน ที่กดออกมามิกซ์กัน เราผิวผสม อยู่ห้องแอร์เป็นหลัก ใช้กดปั๊มเดียวอยู่ ก่อนนอนกดใส่มือหนึ่งทีถูกๆ มือให้อุ่นๆ แล้วประคบหน้า สูดหายใจลึก โคตรอโรมาเธราปีเลยจ้า.. ค่อยๆ ประคบไปทั้งหน้ารวมรอบตาและลำคอด้วย ทางวาสลีนหนาๆ ที่ริมฝีปาก จบจ้า ตื่นมาผิวหน้าดี๊ดี มันไม่ใช่แค่อิ่มน้ำนะ แต่รู้สึกได้ว่าผิวแข็งแรง รูขุมขนแน่น ตอนเช้ากดครึ่งปั๊ม ประคบแบบเดียวกัน ง่ายที่สุดในโลก ^_^ ยิ่งญี่ปุ่นช่วงนี้หนาว เราว่าน่าจะเหมาะ ตั้งแต่เราใช้มาก็ไม่มีสิวอุดตันนะ ปลื้มตรงนี้ แต่ทั้งนี้ ผิวแต่ละคนไม่เหมือนกันเนอะ ฟังหูไว้หู อะไรที่มีอยู่ ใช้ดีอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนใช่ป่ะคะ

ต่อมาเป็นเครื่องสำอางมั่ง เราเน้นงานผิวมาก่อน พูดถึงงานผิวสุขภาพดี คุชชั่นเป็นตัวเลือกหนึ่งที่สรรสร้างได้ และเราก็มาประทับใจของ The Face Shop มากๆ จนอยากรีวิว มันคือ Oil Control Water Cushion เคลมว่า All proof กันได้ทุกอย่าง รักษาความชุ่มชื้น ทำให้รู้สึกสดชื่น ติดทนนาน กันแดด SPF 50+ PA+++ #ดีงามพระรามห้าเลอค่าพระรามสี่ ในราคาที่เบากว่ายี่ห้ออื่นๆ มาก เราซื้อมาตอนโปรพอดี 649 บาทแถมรีฟิวหนึ่งตลับ ข้อเสียคงมีสีให้เลือกน้อย ของเราเป็นสี V203 Natural Beige อันเดอร์โทนเหลือง เราใช้แทนกันแดดไปในตัว ไม่รู้พอไหมแต่ช่างมัน … มาดูหน้าตาคุชชั่นกันดีกว่า ตลับสวยงามตามท้องเรื่อง เหมือนคุชชั่นแบรนด์อื่นๆ แต่ไม่ก๋องแก๋งนะ

เปิดออกมามีพัฟสีเนื้อแน่นๆ ตามสไตล์คุชชั่น

กดลงไปหนึ่งที เป็นเนื้อน้ำนะ ค่อยกดๆ ได้ครึ่งหน้ากำลังดี ความรู้สึกคือ เบาหน้า

ต่อไปรีวิวพลีชีพ โนฟิลเตอร์ โนแอพ แสงธรรมชาติ

ผิวหน้าเรามีปัญหากระฝ้านะ สีผิวไม่สม่ำเสมอ ทาแล้วก็ปกปิดพอสมควร จริงๆ ก็บิ้วปิดเพิ่มได้อีก แต่เราพอแค่นี้ เพราะยิ่งทาหนายิ่งเฟคยิ่งเค้กยิ่งโบ๊ะและเมือกนะเออ… รอยแดง รอยสิว ปิดหมด ขี้แมลงวัน กระฝ้ายังมีโผล่มาให้เห็นบ้าง แต่ก็ไม่มายด์อ่ะ ทาเสร็จ เหมือนสีจะดรอปมาตี๊ดส์นึงนะ แต่ไม่ใช้หมองแบบของเข้า มันเป็นลักษณะกลืนเข้ากับผิวน่ะ ใครติดหน้าขาวผ่องอาจไม่ชอบใจ แต่ถ้าต้องการความเป็นธรรมชาติ คือกำลังดี เวลาหน้าโดนไฟส่องหรือแสงแดดตกกระทบ จะโกลว์เบาๆ ดูผิวสุขภาพดี แต่ไม่ฉ่ำวาวเท่าของแบรนด์อื่น พอแห้งแล้วจับดูรู้สึกไม่แห้ง แต่ก็ไม่เปียกขนาดยี่ห้ออื่น ใครไม่ชอบฟีลนี้ลงแป้งฝุ่นได้ แต่เราไม่ พอตกบ่ายเย็นก็ยังดูผ่องอยู่นะ คุมมันได้ระดับนึงเลย พอนานไปหลายๆ ชั่วโมงก็ยังมีมันบ้าง เอาทิชชู่ซับผ่องเหมือนเดิม

ส่วนบรัชออนเราใช้ SHU UEMURA tint in gelato lip & cheek color สี CR03 สี coral ชมพูอมส้ม ซื้อมานานจะเกินปีแล้วมั๊งไม่แน่ใจ ไม่ค่อยได้ใช้ เพราะทาปากไม่ค่อยโอ มันแห้งๆ แต่ทาแก้ม สีกำลังสวย ตอนนี้พยายามใช้บ่อยๆ จะได้หมดๆ ^^ เนื้อดี ไม่มัน ทาแล้วนวลไปกับผิว แบบในรูปรีวิวหน้าเราช่องขวามือ พกง่ายเป็นธรรมชาตินะ ไม่ใช่ไม่ดี ดีทีเดียว แต่มีตัวเลือกที่ดีพอๆ กันให้เลือกอีกเยอะ เว้นแต่ว่าเป็นสาวกลุงชู ก็จัดไว้ประดับคอลเล็กชั่นสวยๆ

ตัวสุดท้ายที่จะรีวิวคือ ลิป Maybelline แท่งนี้สี REB08 Rebel Bouquet อยากรีวิวจริงๆ ใครชอบ MAC สี Please Me ต้องชอบแน่ๆ เพราะมันคือสีโทนที่ใกล้กันมาก แต่เนื้อไม่แมทแบบแมค ใช้แล้วปากไม่แห้งสีแบบรูปเราช่องขวามือน่ะ แนะนำมาก ราคาไม่แพง เนื้อลิปก็ดี๊ดี

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันนะคะ หวังว่าจะได้รับความบันเทิง และได้ไอเดียในการเตรียมจัดกระเป๋าบ้างไม่มากก็น้อย


Legally Pretty

Legally Pretty

FULL PROFILE