เนียน แน่น หนักมาก ! Review รองพื้น/บีบี 8 ตัว หน้าเนียนเป๊ะปังทั้งวัน

กราบสวัสดีงามๆชาวจีบันทุกคนนนนนนนนคะ ต้องบอกเลยว่า ณ บัด nowwwww !! งานเผยผิว หนังหน้าดี หน้าเนียน กำลังมาาา แล้วยิ่งชะนีตนไหนที่แต่งหน้าแล้วผิวหน้าดูเนียนใส ดูเป็นธรรมชาติเหมือนไม่แต่งนั้น ทำให้เหล่าชะนีที่มีปัญหา ประกอบกับผ่านสมรภูมิ (สิว) มาสาหัส ต้องอิจฉาหนักมากกกกก กรี๊ดร้องดังมากกกกก 5555 ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อความสวยสะพรึงจึงต้องพึ่งแอพ วันนี้ด๊อทตี้จึงจะมาทำการรีวิวรองพื้น/บีบี สำหรับชะนีที่ไม่ต้องการพึ่งแอพ ต้องการหน้าแน่น เนียน สวย เป๊ะ สวยได้โดยไม่ต้องใช้แอพ ถึงจะแอบใช้บ้างก็เหอะ อิอิ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ไปรับชมกันโล้ดดดดดดดดด !!!!

1. Biore Aqua rich watery bb 3d effect spf 50 pa+++ราคา 375 บาท

เป็นครีมกันแดดเนื้อบีบี เนื้อครีมของเจ้าตัวนี้คล้ายเนื้อรองพื้นเลยคะ ซึ่งเนื้อบีบีจะมีลักษณะเป็นเนื้อครีมมี่ เนื้อเข้มข้น เกลี่ยยากนิดนึง บีโอเรทุกสูตรมีแอลกอฮอล์หมด แต่บีโอเรสูตรนี้มีแอลกอฮอล์น้อยที่สุด สำหรับเจ้าตัวนี้เหมาะสำหรับคนที่มือใหม่หัดแต่งหน้า หรือ ขี้เกียจแต่งหน้า หรือ เหมาะสำหรับวันสบายๆไม่อยากให้ดูโบ๊ะ พอทาแล้วรู้สึกไม่หนักหน้า ดูบางเบา ก็สามารถใช้ตัวนี้ได้เลย มีแค่สีเดียว ปกปิดพวกรอยดำรอยสิวได้พอสมควร แต่ถ้าเป็นรอยสิวแบบหนักมาก สิวปูดบวมมาก เอาไม่อยู่คะ ส่วนเรื่องของควบคุมความมันถ้าอยู่ห้องแอร์ก็สามารถอยู่ได้ 3-4 ชั่วโมง แต่ถ้าคนที่หน้ามันมากๆ ผิวหน้ามีปัญหาเช่นมีสิว หลุมสิว รูขุมขนกว่าง ถ้าออกแดดนานๆ ทำกิจกรรม outdoor เอาไม่อยู่จริงๆ หน้าดรอประหว่างวันคะ สำหรับเจ้าตัวนี้ด๊อทตี้ให้ 6/10 คะแนนคะ

2. Redearth Smooth Canvas Brightening bb cream green tea & geraniumราคา 1,190 บาท เป็นบีบีครีมที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ จากชาเขียว และ geranium ซึ่งชาเขียวมันมี Vitamin C ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งและช่วยในการปกป้องผิวไม่ให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย ส่วน geranium ช่วยฟื้นฟูให้ผิวดูสดใสมีชีวิตชีวา เพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิว และสารสกัดจาก Peppermint Oil ช่วยฟื้นฟูและยกกระชับผิวให้แลดูอิ่มเอิบ เปล่งปลั่ง มีชีวิตชีวาอีกด้วย ซึ่งเมื่อได้ลองใช้แล้ว เจ้าบีบีตัวนี้มีลักษณะเป็นครีมมี่ มีสีเดียว เมื่อทาไปแล้วซักพักเนื้อครีมจะกลืนไปกับสีผิว ปกปิดได้ดีระดับนึงคะ แต่ถ้ามีรอยดำรอยสิวที่ค่อนข้างเห็นชัด เอาไม่อยู่จริงๆ อาจจะต้องใช้คอนซีลเลอร์ด้วย ส่วนเรื่องควบคุมความมัน ควบคุมความมันได้ดีพอสมควร ชะนีหน้ามันมากๆ อยู่ได้แค่ 2-3 ชม. ยิ่งทำกิจกรรม outdoor อย่าถามถึงเรื่องคุมมัน พอพ้นไป 2-3 ชม. หน้าเยิ้ม ดรอปนิดหน่อยคะ พอซับๆ เติมแป้งก็พออยู่ได้นะ แต่บีบีตัวนี้ข้อดีที่เห็นชัดๆเลยคือ ไม่ทำให้เป็นสิว ไม่แพ้ เพราะบีบีบางตัว บางแบรนด์ ระหว่างวันก็มีสิวขึ้นละ แต่ตัวนี้ไม่มีคะ แต่ราคาไม่ใช่เล่นๆเลย สำหรับตัวนี้ด๊อทตี้ให้คะแนน 6.5/10 คะแนน

3. Maybelline super cover bb spf 50 pa++++ราคา 249 บาท (ตอนลดราคา) ถ้าไม่ลดราคา 299 บาท บีบีตัวนี้กำลังอยู่ในกระแสเลย โด่งดังมาจากญี่ปุ่น พอเข้าไทยปุ้บ ฮอตปั้บบบ อะไรจากขนาดนั้น ด๊อทตี้เองพอเห็นปุ้บก็เลยรีบสอยปั้บ อยู่ในช่วงลดราคาพอดี 5555 ที่สำคัญคือ หมดเร็วมากกกกกกกกกก แทบจะกรีดร้อง กว่าจะได้มาครอบครองคือต้องรอ ซึ่งเจ้าบีบีตัวนี้อย่างที่ทางแบรนด์เคลมไว้ว่า เป็นบีบีที่ดีที่สุดที่ผลิตมา บีบีตัวนี้มี 2 เฉดสี คือ 01 natural สำหรับคนผิวขาว ผิวขาวชมพู ส่วน 02 medium สำหรับ คนผิวสองสี ผิวเหลือง ด๊อทตี้ใช้สี 02 คะ ปล.สี 02 หมดเร็วมากกกกก ก่อนอื่นขอบอกก่อนนะคะว่าทางแบรนด์เค้าเคลมมาว่า บีบีตัวนี้ประกอบไปด้วย 8 in 1 benefits ซึ่งได้แก่

1. ปกปิดรอยสิว รอยแดง จุดด่างดำได้อย่างไร้ที่ติ

2. ปกปิดรูขุมขน

3. ติดทนยาวนานตลอดวัน

4. ปกป้องผิวจากความคล้ำเสียของรังสียูวีเอแล­ะบีด้วย SPF50 PA++++

5. ปกป้องผิวจากทุกมลภาวะ

6. ผิวแลดูกระจ่างใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

7. ผิวดูเนียนเรียบขึ้น

8. สีผิวแลดูสม่ำเสมอได้รับการทดสอบจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญว่าไม่ทำให้เกิดสิวอุดตันและไม่แพ้ ซึ่งเมื่อลองใช้แล้วปรากฎว่า ปกปิดรอยสิว รอยแดง รอยดำ รูขุมขน ได้ดีเลยคะ สามารถเพิ่มเลเยอร์การปกปิดได้ไปถึง full coverage มันดีตรงที่ปกปิดแต่ยังดูเป็นผิวอยู่ คือเกร๋อ่าาาา ชอบตรงนี้แหละ ให้ความรู้สึกไม่หนักหน้าเลย บางเบา ส่วนเนื้อบีบีเกลี่ยง่ายมาก ไม่เป็นคราบ ติดทนได้ดีเลยคะ พอตกบ่ายให้ลุคดิวอี้ หน้าไม่ดรอป ไม่หมองเลย ข้อดีของเจ้าบีบีตัวนี้คือมีค่ากันแดด SPF 50 PA++++ สามารถใช้แทนกันแดดได้เลย ส่วนเรื่องควบคุมความมัน ควบคุมได้ดีพอสมควร ถ้าอยู่ห้องแอร์อยู่ทนได้ 4-5 ชม. แต่ถ้าต้องออกแดด ทำกิจกรรมข้างนอก คนที่หน้ามันมากๆ อาจจะต้องใช้ไพรเมอร์ช่วยอีกเเรง ที่ชอบก็คือ ไม่ทำให้เกิดอาการผิวอุดตัน สิวไม่ขึ้น ด๊อทตี้รู้สึกว่าเนื้อบีบีเมื่อทาลงไปแล้วยังให้ความรู้สึกว่าผิวยังได้หายใจอยู่ สำหรับบีบีตัวนี้ถือว่าเป็นลูกรักของด๊อทตี้เลย ให้ 9.5/10 คะแนน หักตรงมีเฉดสีให้เลือกน้อย

4. Redearth miracle wear matt genius fluid foundationราคา 1,690 บาท ด๊อทตี้ใช้สีเบอร์ 40 miracle สำหรับแบรนด์ redearth ได้รีวิวตัวบีบีไปแล้ว สำหรับตัวนี้เป็นรองพื้นเนื้อ matt ทางแบรนด์เคลมว่า ด้วยความที่เป็นเนื้อแมทท์ให้สัมผัสนุ่มลื่นดุจกำมะหยี่ ซึ่งก็ให้ความรู้สึกแบบนั้นจริงๆ แบรนด์นี้แน่นอนว่ามีส่วนผสมสารสกัดจากธรรมชาติ ซึ่งรองพื้นตัวนี้มีส่วนผสมหลักคือ

- Silicon Powder ช่วยดูดซับความมัน ติดทนนาน

- Rosemary ช่วยกระตุ้นผิว

- Vitamin E ช่วยให้ความชุ่มชื่น

- Rosehip Oil ช่วยกระตุ้นการเกิดผิวใหม่, ปรับผิว, ต่อต้านริ้วรอย

- Hyaluronic Acid เป็นแหล่งกำเนิดแห่งความอ่อนเยอว์ เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ตามธรรมชาติ ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน และความยืดหยุ่นให้กับผิว

- Titanium Dioxide ช่วยปกป้องแสง UV ซึ่งเมื่อได้ลองใช้ดูแล้วรู้สึกว่าเนื้อรองพื้นไม่เหลวซะทีเดียวมีความเป็นครีมมี่อยู่ รู้สึกว่าเกลี่ยง่าย ให้การปกปิดระดับกลาง ถ้าเป็นสิวปูด บวมแดง คิดว่าน่าจะเอาไม่อยู่ ควรจะใช้คอนซีลเลอร์ช่วย ในเรื่องของควบคุมความมันได้พอสมควร เนื่องจากมี Silicon Powder ช่วยดูดซับความมัน แต่ถ้าคนที่หน้ามันมากๆ ก็เอาไม่อยู่ มีหน้าเยิ้มระหว่างวัน หน้าดรอปนิดหน่อย ราคาโหดเอาเรื่องเหมือนกัน คิดว่าไม่คุ้มค่ากับที่เสียตังไป สำหรับตัวนี้ด๊อทตี้ให้ 7/10 คะแนน

5. Artistry hydrating foundation spf 20 pa+++ราคาปกติ 1,590 บาท ราคาที่ด๊อทตี้ซื้อมาเพราะเป็นสมาชิก อยู่ที่ 1,272 บาท สำหรับรองพื้นของแบรนด์ artistry ด๊อทตี้เคยปลาบปลื้มแป้งพัฟของทางแบรนด์นี้อยู่ไม่ใช่น้อยเลย มาส่วนของรองพื้นต้องบอกว่า รองพื้นตัวนี้ผสมสารกันแดด เหมาะสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง ทางแบรนด์มีคำเคลมว่า รองพื้นตัวนี้คืนความชุ่มชื้นให้ผิว เนื่องจากมี Nourish 3 Complex ซึ่งประกอบไปด้วย Desert Hydration Complex/ Essential Fatty Acids ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของทางแบรนด์ ซึ่งจะช่วยคงระดับความชุ่มชื้นในผิวได้นาน ปกป้องผิวจากการทำร้ายโดยมลภาวะแวดล้อม มีหลายเฉดสีให้เลือกอยู่เหมือนกันคะ มีทั้งหมด 7 เฉดสี ด๊อทตี้ใช้เฉดสีเบอร์ sand 55 เมื่อได้ลองใช้แล้ว เนื้อรองพื้นเกลี่ยง่าย ปกปิดระดับกลาง ไม่รู้สึกหนักหน้าเลย ดูเป็นธรรมชาติ แต่ด้วยความที่เป็นคนหน้ามัน ซึ่งรองพื้นตัวนี้มีความชุ่มชื่นอยู่ไม่ใช่น้อยเลย พอใช้ไปซักพักจะรู้สึกได้เลยว่า หน้ามีความเป็นดิวอี้ แต่ถ้าถามว่าคนหน้ามันมากใช้ได้รึป่าว เอาไม่อยู่จริงๆ ใช้แล้วอาจจะเยิ้มได้ สำหรับตัวนี้ด๊อทตี้ให้ 8/10 คะแนน

6.Revlon colorstay makeup foundation spf 15ราคา 550 บาท (ตอนลดราคาเหลือ 400 กว่าบาท)ไม่พูดถึงรองพื้นตัวนี้ คงโดนด่าแน่นอน 5555 โด่งดังมากกกก ก.ไก่ 80 ล้านตัว รองพื้นเรฟลอนในตำนาน ทางแบรนด์เคลมว่าติดทน 24 ชม. (เว่อออออออ) เอาจริงๆคือ ก็ไม่ได้ติดทนขนาดทั้งวันทั้งคืนหรอก คงไม่มีใครทาทิ้งไว้ ไม่ล้างหน้า ใช่ปร่ะะะ 5555 ด๊อทตี้ใช้เบอร์ 240 medium beige สำหรับเนื้อรองพื้นมีลักษณะเหลวๆ ย้ำว่าเหลวววว เกลี่ยง่าย อยู่ทน อยู่นาน มีความแน่นจริงๆ ทั้งแน่นทั้งเป๊ะ ซึ่งเป็นรองพื้นสำหรับแต่งหน้ารับปริญญา on the budget หรือแต่งหน้าไปงานราตรี หรืองานอื่นๆ ไม่เหมาะกับแต่งหน้าเบาๆสบายๆ ไปเรียนงี้ ไม่เวิร์ค เพราะถ้าทาดูก็รู้ว่าแต่งหน้ามาคะ แต่ราคาก็คุ้มค่ากับการใช้สอยมากๆ ปกปิดรอยสิว รอยดำ รอยแดง โดยไม่ต้องใช้คอนซีลเลอร์เลย ควบคุมความมันได้ดีเยี่ยม เคยทาไปเล่นน้ำสงกรานต์คือเอาอยู่จริงๆ หน้ายังเป๊ะปัง ไม่หลุดแต่อย่างใด แต่ !!!!! จากที่ใช้มา ไอที่เคลมว่า lightweight feel ตอแหลคะ 5555 มันบางเบาตรงหนายยยยยย ทาแล้วรู้สึกเหมือนฉาบปูน เนื้อรองพื้นมันหนาจริงๆ เอาเป็นว่า ถ้าใครต้องการรองพื้นดีๆซักตัว ปกปิด คุมมัน แต่งบน้อย ตัวนี้คือช๊อยส์แรกๆที่ตัดสินใจจะซื้อ สำหรับตัวนี้ด๊อทตี้ให้ 9/10 คะแนน หักตรงเนื้อรองพื้นมันหนามากๆ และ ไม่มีฝาปั๊ม

7. Estee lauder double wear maximum cover spf 15ราคา 1,450 บาทสำหรับรองพื้นตัวต่อมา เป็นรองพื้นทางแบรนด์ estee lauder ตระกูล double wear เฉดสีที่ด๊อทตี้ใช้คือ 1N3 Creamy vanilla ที่ตัดสินใจซื้อเพราะดูกูรูเมคอัพฝรั่งใช้ เลยซื้อ โดยไม่ได้สนใจอะไรเล้ยยยยย เห็นว่าแบบเอ้ยตระกูลนี้ปกปิดเริศ พุ่งตรงไปที่เคาน์เตอร์ทันที 5555 ซึ่งสำหรับรองพื้นตัวมีลักษณะเป็นครีมมี่ ทางแบรนด์เคลมว่า เป็นรองพื้นที่ไม่ใช่ปกปิดแค่หน้า แต่ปกปิดตามร่างกายได้ด้วยนะจร้าาาาา เช่น รอยสิวที่หลัง เนินอก ไรงี้ รอยสักเราคิดว่าน่าจะรอดอยู่นะ ยังไม่เคยลองเอามาใช้กับรอยสัก จากที่ได้ใช้กับหน้าแล้ว อื้อหืออออออ อยากจะกรีดร้องไปถึงเฮติ คือแบบถ้าไม่เซียนจริง รองพื้นเป็นปื้นนะจ้ะ คือแห้งเร็วมากกกกถึงมากที่สุด และที่สำคัญคือใช้ในปริมาณที่น้อยจะดีมาก บีบมาทีเดียวเยอะๆไม่เวิร์คเลยยย เพราะเกลี่ยไม่ทัน บอบช้ำมาก ณ จุดๆนี้ แต่ลองเอามาใช้เป็นคอนซีลเลอร์แล้วมันดีมาก แจ่มแมวมากๆ คือปกปิดเอาอยู่จริงๆ กลบความมืดมน ร่องรอยอารยธรรมได้มิดชิด เอามาเป็นอายไพรเมอร์ก็เวิร์ค ไม่ตกร่องแต่อย่างใด ควบคุมความมันได้ดีเยี่ยม ปกปิดรูขุมขนได้แบบยอมจร้าาา คือเห็นน้อยมากจริงๆ สำหรับตัวนี้ด๊อทตี้ให้ 9/10 คะแนน หักตรงมันแห้งเร็วไปหน่อยอ่ะ เกลี่ยไม่ทัน ฮือออออ T_____T

8. Estee lauder double wear stay-in-place makeup spf 10 pa++ราคา 1,750 บาท เป็นรองพื้นหัวหน้าตระกูล double wear สำหรับรองพื้นตัวนี้ถือว่าเป็นลูกรักของด๊อทตี้เลย รักมาก ตัดใจไม่ลงคงไม่ยอมจริงๆ 5555 สุดท้ายก้กลับมาตายรังทุกที ส่วนตัวใช้เฉดสี 3W0 Warm creme เป็นรองพื้นที่มีลักษณะเหลว เค้าเคลมว่าเริ่ดเป๊ะตลอด 24 ชั่วโมง ออกมามีหลายเฉดสีมากกกกกกกก จากที่ได้ลองใช้แล้วรู้สึกว่าเกลี่ยง่ายกว่ารุ่น maximum cover (ตัวข้างบน) แต่ถ้าเกลี่ยช้าก็แห้งเหมือนกัน แต่ตัวนี้เกลี่ยทันกว่าตัวข้างบน ให้การปกปิด full coverage เลย ปกปิดรอยสิว จุดด่างดำ รอยแดง รอยปะทุต่างๆ คือเอาอยู่จริงๆ ควบคุมความมันได้ดีเยี่ยม ตกบ่ายหน้ายังเป๊ะ ยังปัง ยังแน่น ครบเครื่องอยู่ ให้ลุคดิวอี้ คือชอบมากกก ปลื้มปริ่มมากกกก หน้าเนียนเว่อร์ยังกะรีทัชมา แล้วจะไม่ให้รักได้ไง ถูกมั้ย 5555 แต่ราคาก็โหดเอาเรื่องเหมือนกัน แต่ถ้าถามเรื่องความคุ้มค่าคือคุ้มจริงๆ เหมาะสำหรับแต่งหน้าไปงานราตรี รับปริญญา คือมันดีจริงๆ ไม่รู้จะชมอะไรแล้ว เอาเป็นว่าเอาไปแล้ว 10/10 คะแนน ถึงจะไม่มีฝาปั๊มแต่ยังไงก็ให้เต็ม 10 อิอิ

จากรูปจะเห็นได้ว่า การปกปิดของรองพื้น/บีบีทั้ง 8 ตัว สรุปได้ว่า

ปกปิดได้มากที่สุด คือ Estee lauder double wear stay-in-place > Estee lauder double wear maximum cover > Revlon colorstay makeup foundation spf 15 > Maybelline super cover bb ส่วนเรื่องควบคุมความมันที่ดีที่สุด คือ Estee lauder double wear stay-in-place

สำหรับวันนี้ ด๊อทตี้ขอบคุณทุกๆคนที่ติดตามนะคะ หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นช่องทางหนึ่งในการตัดสินใจที่จะเลือกซื้อรองพื้น/บีบี ที่สำคัญเวลาจะเลือกซื้อ ควรจะเลือกซื้อเฉดสีให้ตรงกับสีผิวหน้าของเราด้วยนะคะ และดูด้วยว่าเหมาะกับสภาพผิวของเรารึเปล่า เพราะไม่อย่างงั้นคุณอาจจะต้องรู้สึกมานั่งเสียใจและเสียดายเงินที่เสียไปภายหลัง ขอบคุณทุกๆคนที่รับชมและติดตามคะ ขอบคุณคะ :)