HOW TO : DIY Mask หน้าขาวกระจ่างง่ายๆ ด้วยวิธีธรรมชาติจากผลไม้

15 6

สวัสดีค่ะ วันนี้แก้วมารีวิว DIY Maskหน้าขาวกระจ่าง ด้วยวิธีง่ายๆ จากผลไม้ธรรมชาติ ค่ะสูตรนี้ต้องขอบอกก่อนว่า แก้วใช้มาเป็นปีๆแล้ว และได้ผลดีมาก เป็นสูตรที่ได้มาจาก Tata harper อีกทีนึงค่ะเวลาที่ต้องออกแดด หรือมีความรู้สึกว่าหน้าตัวเองกำลังหมองลงอย่างเห็นได้ชัด แก้วชอบหยิบสูตรนี้มาใช้ค่ะ เพราะมันเห็นผลชัดเจนมาก ว่าหน้าเราขาวขึ้น แล้วก็ทำง่ายมากๆด้วย

ที่บอกว่าง่าย ก็เพราะว่ามันเป็นทำมาจากผลไม้ที่หาง่ายมาก นั่นคือ สับปะรด กับ มะละกอส่วนวิธีทำก็ง่ายมากๆอีกนั่นแหละค่ะ  เอามาปั่นรวมกันให้หมด 555

มันเป็นสูตรที่เหมาะมาก หากเราขี้เกียจทำอะไรเยอะแยะ ขี้เกียจหาส่วนผสมวุ่นวาย จริงมั้ยคะ 

แต่ถึงจะดีจริง จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ใช้มาเป็นปี แก้วอยากจะแนะนำนิดนึงค่ะ ว่าหากผิวหน้าเราบอบบาง มีสิวอักเสบอยู่ สูตรนี้แก้วไม่แนะนำให้ใช้เพราะมันจะทำให้อักเสบมากขึ้นกว่าเดิมได้และแนะนำให้มาร์คตอนช่วงสุดสัปดาห์ หรือไม่ก็ช่วงเย็นๆ ที่กลับบ้านแล้ว และสามารถพักหน้าอยู่ในบ้านได้ ไม่ต้องออกไปเจอมลพิษ ฝุ่น หรือแดด ให้ผิวอักเสบค่ะสำหรับแก้ว เวลามาร์คหน้าเสร็จ ไม่ว่าจะสูตรไหน  หน้าเราควรจะได้พัก ไม่ควรออกไปเจอสิ่งกระตุ้นให้ผิวอักเสบค่ะ 

เริ่มแรก นี่คือส่วนผสมที่ต้องการค่ะ สับปะรด มะละกอ น้ำผึ้ง โยเกิร์ต  แค่นี้ค่ะ ไม่เยอะแยะ และหาง่ายมาก จริงมั้ยคะ

ทั้งสับปะรด และมะละกอ เป็นผลไม้ที่มีเอนไซม์อยู่ในตัวเองเยอะมาก (เอนไซม์โบรมีเลน และปาเปน) เอนไซม์จะสามารถช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายไปแล้วของเราได้ค่ะ จึงสามารถช่วยให้ผิวดูผ่องมากขึ้น ขาวมากขึ้นและเพราะเหตุผลเดียวกันนี้ แก้วถึงไม่แนะนำคนที่มีสิวอักเสบใช้สูตรนี้ เพราะเคยเป็น แล้วมาใช้ ปรากฎว่าอักเสบขึ้นค่ะ -3-ใช้ปริมาณผลไม้ ประมาณชนิดละ 4-5 ชิ้นใหญ่ ค่ะ ประมาณในรูป (แต่ในรูปสับย่อยอีกทีค่ะ)

จริงๆสูตรเต็มๆของ tata เค้าจะมีสตอเบอร์รี่ด้วย แต่แก้วขอตัดทิ้งค่ะ เพราะไม่ได้ซื้อมา 5555และจากประสบการณ์ ใช้ผลไม้แค่ 2 ชนิดนี้ ก็ได้ผลดีค่ะ แต่ใครอยากใส่เพิ่มก็ได้นะ อิอิ

น้ำผึ้ง เป็นผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ช่วยบำรุงให้ผิวชุ่มชื้นได้ และลดการระคายเคืองจากสับปะรด มะละกอ ได้ด้วยค่ะจัดไปประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ค่ะ

โยเกิร์ตสูตรธรรมชาติ มีกรดที่สามารถช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายไปแล้วของเราได้เช่นเดียวกันค่ะจัดไปประมาณ 2 ช้อนโต๊ะส่วนเรื่องของชนิดโยเกิร์ตนั้น หากใครอยากให้มาร์คที่ได้ไม่เหลวเกินไป อาจใช้เป็น greek yoghurt แทนก็ได้ค่ะ มันจะข้นขึ้นแต่แก้วใช้เป็น yoghurt ธรรมดาค่ะ ชอบเป็นการส่วนตัว เพราะรู้สึกว่าข้นกำลังพอดี เวลาทาหน้าค่ะ 

อ่าฮ่ะ ขั้นถัดไป ง่ายกว่าเดิมค่ะ  ปั่นๆๆใครไม่มีเครื่องปั่น ก็อาจต้องขยันสับเองนิดนึงนะคะ  เนื้อผลไม้ที่ได้มา อาจจะใหญ่ไปนิด น่ารำคาญนิดหน่อย แต่ตามหลักก็ใช้ได้ค่ะ ไม่เป็นไรแก้วเองก็เคยทดลองนั่งสับเองเหมือนกัน ก็ใช้ได้เหมือนกันค่ะ

จะได้ออกมาเป็นสมูทตี้ตามนี้ค่ะ ใครใคร่กิน กินได้นะ

ขั้นถัดไป เป็นขั้นตอนที่เพิ่มขึ้นมาจากมาร์คหน้านิดนึงค่ะ จะมีการสครับเล็กน้อย เพื่อขจัดเซลล์ผิวที่ตายออกไปตักน้ำตาลโอทึ้งประมาณ 1 ช้อนโต๊ะใส่มือค่ะ  แนะนำให้เป็นโอทึ้ง หรือน้ำตาลที่ละเอียดมากๆ เพราะเวลาสครับหน้า จะช่วยให้ผิวไม่อักเสบค่ะเอาอันใหญ่ๆมาถูหน้า เสี่ยงหน้าพังค่ะ

ต่อมา ตักสมูทตี้ที่ปั่นไว้แล้วของเรา มาผสมกับน้ำตาลได้เลยค่ะ ตักมาประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะค่ะ

ผสมๆ แล้วก็ลงบนหน้า สครับให้ทั่ว เบาๆ ไม่ต้องรุนแรงหน้า ผิวหน้าเป็นผิวที่บอบบางมากกก แตะนิดแตะหน่อย ก็เจ็บปวดล่ะ หากเราออกแรงรุนแรงมาก ก็ประชดเรา เหี่ยวไปเลย

สครับเสร็จแล้ว ก็มาร์คทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออกให้สะอาดค่ะ

ใช้เสร็จแล้ว อาจมีรู้สึกคันๆนิดนึงบ้างค่ะ เพราะเอนไซม์จากผลไม้ (อย่าจินตนาการว่าคันแบบหมามุ่ยนะ มันแค่นี๊ดดดนึง)

ใช้ประมาณ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์  ก็เห็นผลค่ะ หน้าขาวขึ้นด้วยวิธีธรรมชาติ และง่ายมากๆ

สมูทตี้มาร์คหน้านี้ ไว้ในตู้เย็น จะเก็บไว้ได้ประมาณ 3-5 วันค่ะ ขึ้นกับตู้เย็นแต่ละคน

ทีนี้ เป็นวิธีเสริม ที่แก้วชอบทำหลังจากมาร์คหน้าสูตรนี้เสร็จค่ะตบๆ Hadalabo สูตร Arbutin Whitening Lotion  (ขวดน้ำเงิน) นิดนึง  แล้วไปดูหนัง เล่นคอม ตามเรื่องค่ะเพราะรู้สึกว่ามันยิ่งช่วยให้หน้าดูขาวขึ้น ใสขึ้น

แล้วก่อนนอน ก็ทาน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นค่ะ  ตัวนี้แก้วว่าช่วยให้หน้าใสขึ้น แต่ไม่ได้ขาวขึ้นค่ะซึ่งปัจจุบัน แก้วก็ทาแค่น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ก่อนนอนนะ  ไม่มีทาบำรุงตัวอื่นเลย  มันช่วยให้หน้าดีขึ้นมากกก เต่งตึงขึ้นมากกด้วย

และนี่ก็เป็นวิธีง่ายๆ ธรรมชาติๆ ที่สามารถบำรุงให้หน้าขาวขึ้นได้ค่ะเพื่อนๆคนไหนสนใจ ก็ลองดูกันได้นะ 

ขอบคุณมากค่ะ


samanthachiew

samanthachiew

ชอบแต่งเรื่องสั้น เรื่องยาว มากมาก
ชอบดูหนังมากมาก
ชอบเม้าท์เรื่องหนังมากมาก
ชอบที่จะลอง natural product มากมาก
ก็เลยกลายมาเป็นแบบทุกวันนี้ค่ะ กลิ้งไป เขียนไป
ขอบคุณที่แวะเวียนมาอ่านบทความค่ะ ปิ๊งๆ

FULL PROFILE