ได้เวลาตำ! มาดู “ไอเทมใหม่เด็ดๆ จาก Eveandboy” ในช่วงเดือนนี้ โอ๊ยชะนีเห็นแล้วต้องรูดบัตร!
Aurora_littletwins 32 17เฮ่ลโหล้ววว หลังจากโหมงานหนักช่วงเดือนสองเดือนที่ผ่านมา ทำให้ไม่มีเวลาไปส่องหาเครื่องสำอางค์ใหม่ๆ กับเค้าบ้างเลยยเมื่อวานนี้ฤกษ์งามยามดี พอมีเวลาว่างแบบกรุบกริบ ต้องขอเข้าไปส่องร้านค้าคู่ใจอย่าง Eveandboy ซะหน่อยค่ะ ว่าช่วงเดือน สองเดือนที่ผ่านมามีอะไรแปลกหูแปลกตามาให้อัพสวยบ้างและหลังจากที่เดินวนวนซ้าย วนขวา ขึ้น-ลง จนหนำใจแล้ว ก็ได้พูดคุยกับพี่พนักงานค่ะ ว่ามี คสอ. หรือสเกินแคร์อันไหนบ้างน้าที่ออกใหม่และน่าตำ!พี่เค้าเลยพาไปรู้จักกับเจ้า 5 สิ่งนี้ค่ะ ที่พอรู้ตัวอีกที…ก็เผลอหยิบเข้าตะกร้ามาแล้วซะงั้นนไปค่ะ ไปดูอาณุภาพการทำลายล้างเม็ดเงินของแต่ละตัวกันดีกว่าาา <3มาเริ่มที่เชลฟ์แรก!
เริ่มต้นเชลฟ์แรกที่สเนลไวท์เลยละกันค่ะ เชลฟ์นี้นี่น้องหอยเรียงอัดแน่นเต็มไปหมด ทั้งครีม ทั้งมาส์ก ทั้งมิสท์ แต่ที่เห็นแล้วสะดุดตาหน่อยก็คงจะหนีไม่พ้น “เซรั่ม มิราเคิล” ที่เคยเห็นป้ายริมถนนเต็มไปหมด เลยอยากรู้ว่าใช้แล้วจะดีจริงมะโอ๊ยอยากได้ อยากตำ!
ตำชิ้นที่ 1 เซรั่ม NAMU LIFE SNAILWHITE MIRACLE INTENSIVE REPAIR(ราคา 1,190/ 30 ml.)
มาดูที่ชิ้นแรกค่ะ รูปร่างลักษณะจะเป็นกล่องติดโลโก้แบรนด์ขาวชมพูตามแบบของสเนลไวท์ (พักนี้ชองเห็นน้องหอยยี่ห้ออื่นทำตัวกลมกลืนเต็มไปหมด) แต่ส่วนที่ทำให้สะดุดตาเจ้ากล่องนี้ก็คงจะเป็นคำว่ามิราเคิลนี่แหละ หื้มม… อยากพบกับความอัศจรรย์แล้วคร้าา
แกะออกมาปุ๊ปจะเจอกับเจ้าขวดกระปุ๊กลุ๊กหน้าตาน่ารักน่าชังขวดนี้ค่ะ โดยส่วนผสมภายในตัวเซรั่มก็จะมี เมือกหอยทาก อัลฟ่าอาร์บูติน กิ๊กกาไวท์ และ ซีราโมซายส์ เอชพีค่ะ โดนที่ส่วนผสมเหล่านี้เนี่ย เค้าบอกว่าจะเป็นตัวช่วยทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ เต่งตึง เรียบเนียน กระชับรูขุมขน และเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวค่ะ
สำหรับช่วงเวลาในการใช้ก็คือสามารถทาได้ทั้งตอนช่วงเช้าและก่อนนอน หลังล้างหน้าสะอาด ก็จัดการบำรุงด้วยเซรั่มตัวนี้ได้ทันที โดยวิธีการคือให้กดลงมาบนฝ่ามือประมาณ 1-2 หัวปั๊มค่ะ จากนั้นลูบฝ่ามือให้ทั่ว เเล้วเอาไปตบเบาๆที่หน้า เพื่อให้เซรั่มซึมเข้าไปในผิว ตัวนี้เค้าบอกว่าเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้ ไม่รู้ว่าจะจริงมั้ย ต้องไปลอง อิอิ
อะโชว์เนื้อเซรั่มให้ดูหน่อยดีกว่า สีของเซรั่มตัวนี้จะออกแนวขาวๆ ขุ่นๆค่ะ ส่วนกลิ่นก็ไม่เหม็นไม่หอม อารมณ์เป็นกลิ่นประจำของสเนลไวท์อ่ะแหละ ตบแล้วนางจะยืดๆ หน่อยตามสไตล์ หลังจากที่ลองใช้ครั้งแรกนะคะ (ย้ำว่าครั้งแรก) รู้สึกว่าเนื้อเซรั่มค่อนข้างซึมไวนะ มีความลื่นๆ ปนเหนียวนิดๆ เหมือนมีฟิล์มมาเคลือบหน้าเอาไว้อ่ะ ครั้งนี้เราทาตอนก่อนนอน ตื่นเช้ามารู้สึกว่ารูขุมขนกระชับขึ้นอ่ะ หน้านุ่มๆ เนียนขึ้นนิดหน่อย เอ๊ออ นางมิราเคิลสมชื่อ ส่วนเรื่องความกระจ่างใสอาจจะต้องลองใช้มากกว่า 1 ครั้งมั้งคะ ถึงจะเริ่มเห็นผล เอาไว้ยังไงเก๊ามาบอกอีกทีละกันน
ไปต่อกันที่เชลฟ์ที่สองโลดด เมบะลีน นิวหยวกก!!
ในส่วนของเมเบอลีนนั้น เมื่อก่อนเราติดใจในเเป้งพัฟของนางมากค่ะ และในฤดูกาลนี้ต้องบอกว่าเป็นยุคของคุชชั่นที่เข้ามามีอิทธิพลกับสาวๆ อย่างเราซะเหลื๊อเกินนน และครั้งนี้พี่เมเบอลีนตัวแม่เรื่องเครื่องสำอาง มีหรือจะเมินเฉย นางก็เข้าร่วมกระแส ปล่อยคุชชั่นของตัวเองออกมาเหมือนกัน!
ตำชิ้นที่ 2 Maybelline Super BB Cushion( ราคา 399 บาท)
เฮลโหลวว แนะนำตัวให้น้องคุชชั่นอันนี้ซักนิด คือเราซื้อน้องมาในร่างเบอร์ 03 ค่ะ สี Naturalความพิเศษของเจ้ากล่องนี้ก็คือ เค้าว่ามีความซุปเปอร์! ใน 3 เรื่องด้วยกัน นั่นก็คือ
- Super ปกปิด! คือ ช่วยปกปิดได้เรียบเนียนมว๊าก แม้ในระยะ 3 เซนก็ไม่กลัวว
- Super บำรุง! คือ มีมอยส์เจอไรซิงเอสเซ้นส์กว่า 60%
- Super ป้องกัน! คือ ช่วยป้องกันแสงแดดได้ด้วย SPF 29 PA+++
จัดการแกะออกจากกล่อง ก็จะเจอตลับคุชชั่นสีน้ำตาลอมม่วงอ่อนๆ ด้านๆ แบบนี้ค่ะ ให้ลุคเรียบหรูดูโกลวว
เปิดมาส่องข้างในกันบ้างเนาะ เปิดออกมาจะเจอตลับสองชั้นค่ะ ชั้นเเรก (ชั้นบน) จะเป็นที่เก็บพัฟ ส่วนชั้นที่สอง (ชั้นล่าง) จะเป็นชั้นที่บรรจุคุชชั่นค่ะ เนื้อดูชุ่มฉ่ำครีมมี่มว๊ากกกกก น่าใช้สุดๆ ในส่วนของแป้งพัฟก็นุ่มๆ แต่แน่นดีค่ะ ดูน่าใช้ ดูไม่กินเนื้อคุชชั่นวิธีการใช้ก็คือเหมือนคุชชั่นทั่วไปค่ะ สามารถลงทีเดียวได้เลย (นางเป็นเหมือนแป้งที่รวมร่างกับรองพื้นมาแล้ว) โบกครั้งเดียวจบ
ว่าแล้วก็มาเทสให้ดูกันดีกว่า จากรูปคือหลังมือด้านบนคือส่วนที่ลงคุชชั่น ส่วนด้านล่างไม่ได้ลงเราจะเห็นว่าผิวในส่วนที่ลงเนี่ยเรียบเนียนกลืนไปกับผิวมว๊ากก ในส่วนของการทดลองใช้บนหน้าครั้งแรกนั้นพบว่า เรื่องผิวเนียนเรื่องการปกปิดนี่สมคำเคลมมากๆ ค่ะ คือเริ่ด! แต่ส่วนความโกลวนั้น รู้สึกว่าเฉยๆ มันไม่เชิงโกลว มันดูแบบหน้ามันๆ มากกว่า คืออารมณ์หน้าแมตต์แต่มันอ่ะค่ะ งงมะ? 5555 ส่วนเนื้อคุชชั่นเวลาทาแล้วจะเย็นๆ หน่อยๆ เนื้อบางเบาสบายหน้ามากกก เกลี่ยง่าย รวมๆ เลยคือทาแล้วหหน้าออกมาดูธรรมชาติค่ะ ดูใสๆแบบหลอกคนได้ว่า ไม่นะ! ชั้นไม่ได้ทาแป้งน้าาาา ถือว่าคุ้มราคาค่ะ แต่ถ้าใช้ตัวนี้แต่งไปออกงานคิดว่าไม่น่าจะเอาอยู่
เอาล่ะ มาต่อกันที่เชลฟ์ที่สามกับเอสโทรกันบ้าง
ลิปเอสโทรเนี่ย ก็ถือเป็นอีกแบรนด์นึงที่เม็ดสีแน่นมาก แซ่บสะใจคือเมื่อก่อนนางก็มีแต่ลิปแท่งเนื้อแมตต์ปกติค่ะ แต่ล่าสุดนางออกเวอร์ชั่นใหม่มาเป็นลิปจิ้มจุ่ม! แต่ยังเป็นเนื้อแมตต์เหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคือความแซ่บ! และเเซ่บกำลังสองเข้าไปอีกเพราะตอนนี้กำลังลด 50% อยู่ด้วยนะ
ตำชิ้นที่ 3 ESTRO Oasis Liquid Matte Lip-Fix( ราคา 225 บาท)
หน้าตาแพ็กเกจนางก็จะเหมือนลิปจิ้มจุ่มทั่วไปค่ะ ด้านหน้าจะคลุมโทนขาวดำ เดี๋ยวเรามาดูข้างในกันดีกว่า ว่าวันนี้เก๊าสอยสีอะไรมาน้าาา
ท้าดาาาาาา #งานปากแดงก่ำต้องมาาาาาา #ลิปสีเข้มแบบที่เรารักแท่งนี้เป็นสี 106 Harsh ค่ะ หื้มมมม สีนี่แบบ อยากปาดแล้ว อยากปาดแล้ววว!!
ก่อนปาด ขอเปิดฝาออกมาให้ดูตัวแปรงกันก่อนค่ะ มีความก้านยาวเวอรรร์ (แต่นางไม่ใช่ทุเรียนนะ นางคือลิปอ่ะแหละ) มีความแอบกังวลว่าเวลาปาดจะถนัดมั้ยนะ นี่ตอนซื้อก็ไม่ได้คิดเล๊ยยยย เก๊าก็ดูแต่สีอย่างเดียว สำหรับวิธีการใช้เนี่ย เค้าแนะนำให้ปาดขึ้นปาดลงค่ะ อย่าปาดเเนวขวาง เพราะสีมันจะไม่เสมอกัน (เสี่ยงต่อการหนาเป็นจุดๆ ไม่สม่ำเสมอ) ใครไม่มั่นใจในฝีมือการวาดขอบก็สามารถใช้ดินสอเขียนขอบปากวาดก่อนก็ได้ แล้วค่อยลงลิปตัวนี้ แต่ถ้าใครชำนาญด้านการจิ้มจุ่ม ก็ตวัดมือไปเลยแรงๆ
โอเค มา! เปิดฝาออกมาแล้วก็ได้เวลา Swatchhhhhhhh นี่ๆๆ อันนี้คือปาดแค่ครัั้งเดียวนะคะ คือสีนางแบบเเซ่บนะ ให้ลุคผู้หญิงมั่นๆ ไม่ได้สีแปร๊ดแบบนางร้าย แต่จะออกแนวนางเอกร้ายๆ ไรงี้อ่ะแกรร เป็นสีที่ทาแล้วให้ลุคดูแกรนด์ ดูฉลาดด 55555 (คิดไปเอง) ส่วนผลในการทดลองใช้ครั้งแรกพบว่า นางมีความเหนียววว ทาแล้วต้องรอซักพัก (พักใหญ่ๆ) เพื่อให้นางแห้งสนิทค่ะ พอนางแห้งสนิทก็จะยังมีความเหนียวอยู่หน่อยๆ เวลาเม้มปากก็จะแบบ มีความต้องพยายามดึงปากบนออกจากปากล่าง แต่พอเวลาผ่านไปซักพัก 10-15 นาที นางก็จะอยู่ตัวค่ะ เม็ดสีเข้มแน่นดี ไม่มีหลุดลอกเลย อันนี้ต้องยอมให้จริงๆ จะจิบกาแฟ แทะไก่ กัดขนมปัง สีก็ยังอยู่ เวลาล้างก็ต้องใช้รีมูฟเวอร์หน่อยนะคะ ล้างธรรมดาไม่ค่อยออก แต่สามารถใช้มือลอกได้เบา ๆนางจะหลุดออกมาเป็นแผ่นๆ เลยล่ะ
ต่อค่ะ เดินค่ะ เดินวนไปเชลฟ์ที่สี่ Cezanne ค่ะ
ในส่วนของ cezanne นั้น คุณพี่พนักงานบอกว่า ณ ขณะนี้นางมีไฮไลท์กับเฉดดิ้งแบบสติ๊กออกมาใหม่ค่ะด้วยความที่อยากลอง แต่ก็อยากประหยัดงบ เลยต้องเลือกมาแค่ตัวเดียวงานนี้เลยเลือกตัวเฉดดิ้งละกันค่ะ (เพราะเป็นคนหน้าบาน) น่าจะคุ้มค่ากว่า
ตำชิ้นที่ 4 CEZANNE Shading Stick( ราคา 270 บาท)
รูปร่างหน่าตาของน้องก็จะเป็นแท่งจิ๋วเล็กๆ คิวท์ๆ น่าพกค่ะ
พอแกะออกจากกล่องมาปุ๊ป หุ่นของน้องอาจจะเหมือนกาวยู้ฮูอยู่หน่อยๆ แต่เชื่อเถอะว่านางเป็นเฉดดิ้งจริงๆน้าาา 5555สำหรับตัวนี้เค้าบอกว่าเป็น เฉดดิ้งเนื้อครีมสีน้ำตาลธรรมชาติ เอาไว้ลงเพื่อสร้างมิติให้ใบหน้าดูเรียวเล็ก (เล็กลงแบบเห็นได้ชัด) และเหมาะกับทุกสีผิวค่ะ
เปิดฝาออกมาจะเป็นลักษณะแบบนี้ค่ะลักษณะเนื้อของเฉดดิ้งจะเป็นเนื้อครีมค่อนข้างนุ่มลื่น เกลี่ยง่าย สีจะน้ำตาลๆ กลมๆ ไม่ติ่งสีส้มหรือสีแดง สีไม่ค่อยหลอกค่ะมีความเป็นเงาสมจริงอยู่นะ สำหรับวิธีการใช้ก็คือสามารถใช้เจ้าแท่งน้อยๆ อันนี้ปาดลงที่หน้าได้เลย หรืออาจจะใช้เป็นแปรงมาเเตะเนื้อครีมก่อน แล้วค่อยเอาไปปาดๆลงที่ผิวหน้าก็ได้
อันนี้ลองปาดให้ดูก่อนนะคะ คือเนื้อสีอย่างที่บอกว่ามันจะเป็นสีน้ำตาลเนื้อๆ ไม่ส้ม ไม่แดง หลังจากที่ลองใช้ครั้งแรก เรารู้สึกว่าตัวนี้ไปทำหน้าที่เป็นเฉดดิ้งอัพเงา อัพสันจมูกได้เริ่ดมากกก แต่ว่าพวกโครงหน้าเบ้าหน้า คิดว่ายังเฉยๆค่ะ ยังไงก็แล้วแต่ ใครชอบงานเนรมิตดั้งพันล้านภายในพริบตาก็ไปสอยมาใช้ซะ นางเวิร์คค นี่ชี้เป้าแล้วน้าาาาา
อะๆๆๆ เดินวนมาเยอะแล้ว ขอจบที่เชลฟ์สุดท้ายกันละกันน้า
ว่ากันด้วยแบรนด์ฟรีดอม ตัวนี้ฟังนี้เผินๆ เหมือนมาจาก USA แต่จริงๆ แล้วนางข้ามน้ำข้ามทะเลมาจาก ลอนดอน UK ค่ะ ชื่อเต็มๆ ของนางก็คือ Freedom Makeup London คือเคยได้ยินมาจากเพื่อนที่อังกฤษเหมือนกันว่าพาเลทตาของตัวนี้สีสวยแล้วก็ใช้ดี แต่ก็ไม่เคยลองซักที วันนี้เลยต้องจัดค่ะ!!
ตำชิ้นที่ 5 FREEDOM House of GlamDolls SPIRIT DOLL Palette( ราคา 590 บาท)
ในส่วนของชิ้นที่ห้านี้มีความฟูลออปชั่นสุดๆเห็นแพ็กเกจชิ้นใหญ่ๆ แน่นๆ แบบนี้ลองเดากันดูซิว่าข้างในจะมีอะไรบ้างน้าาาา…:D
ลองแกะออกมาก็จะเจอกับตลับสีดำเงาๆ ค่ะ ดูสวย ดูแกรนด์อีกแล้ววว ไหนๆ ไปส่องข้างในกันซิ!
ท้าดาาาาาาา!!นี่มันคือพาเลททาตา ทาแก้ม ทาปาก เบ็ดเสร็จในตลับเดียวนั่นเองค้าาาโดยในนี้จะประกอบไปด้วย Eyebrow powder + Highlight + Eyeshadow + Blusher + Lipglossเรียกว่าขนกันมาแน่นๆ เต็มกล่องเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีแผงกระจกที่ใหญ่มากๆ มาให้ด้วยยรักเลยค่ะส่องแล้วได้อรรถรสสุด!
โอเค โยนแผ่นพลาสติกบอกชื่อสีออกไป แล้วมาซูมมม ซูมดูเม็ดสีแต่ละอันแบบชัดๆ กันดีกว่าส่วนบนจะเป็นงานคิ้วกับไฮไลท์นะคะ ตรงกลางเป็นอายแชโดว์ มุมล่างจะเป็นบรัช ส่วนริมขวาจะเป็นบรรดาลิปกลอสค่ะสำหรับพาเลทนี้ที่เราใช้ครั้งแรกจะเป็นกลุ่มอายแชโดว์ค่ะ (ทีเหลือยังไม่ได้ลอง) ใช้แล้วพบว่าเออเม็ดสีก็สวยดีนะ มีความวิ้งๆ กากเพชรเบาๆ ไม่ฟู่ฟ่าเกินไป ตลับนี้ส่วนมากสีเข้มค่ะ ต้องเบามือหน่อย แถมยังไม่เหมาะกับ everyday look เหมาะกับการลงไปปาร์ตี้ยามค่ำคืนมากว่า อายแชโดว์ที่ทาตอนเช้าก็มีความหลุดลอย ปลิวไปบ้าง ถ้าทางที่ดีเพื่อความเซฟ ก่อนจะลงตัวนี้ให้ลง Eye primer ก่อนดีกว่าค่ะ จะได้ร้อนแรงได้ยาวนานขึ้น!
เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับรีวิวไอเทมใหม่น่าตำประจำเดือน May-June ที่ผ่านมาเห็นมั้ยคะว่าแต่ละตัวมันน่าตำแค่ไหน!สาวจีบันที่กำลังสนใจตัวไหน ก็ขอบิ้วแรงๆเลยว่าไปสอยมาใช้เลยยยแต่ละนางคือคุ้มค่า คุ้มราคาอยู่น้าาาแต่ถ้าใครมีคำถามอะไรเพิ่มเติมก่อนจะไปสอย ก็มาทิ้งคอมเมนท์ไว้ด้านล่างได้นะค้าาแล้วเก๊าจะแวะมาตอบน้าาาสำหรับวันนี้ขอลาละค่าาา ขอไปทำงานหาเงินมารูดบัตรก่อนนะตัวเองXoxo