MHUNOIII - รีวิว THE BODY SHOP Skin Defence Multi-Protection Essence SPF50 PA++++ บางเบาขั้นเทพไม่มันไม่วอก
Speak Out 19 6แสงแดดกับประเทศไทยเป็นอะไรที่เกิดมาคู่กันเนอะ
หลายปีมานี้เค้าว่าคนไทยตระหนักถึงความจำเป็นในการทากันแดดขึ้นมาก
รู้แหล่ะว่าต้องทาแต่สิ่งที่ทำให้ท้อใจในการทา
คือปัญหาเนื้อกันแดดที่เหนียวข้น ทาละมันเยิ้มหนักหน้า ดีไม่ดีว่อกไปอี๊กกก
เลยตัดปัญหากันด้วยการไม่ทา....ผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือสีผิวหมองคล้ำมีฝ้ากระไปตามระเบียบ
บล็อคนี้เลยมีรีวิวกันแดดที่รับประกันว่าเนื้อบางเบาโดนใจคนไทยมาฝากกัน
เป็นกันแดดเนื้อเอสเซ้นส์ที่เมื่อสัมผัสผิวจะกลายเป็นน้ำทันที....บางเบาพอมะ อิอิ
นอกจากจะกันแดดได้จัดเต็มแล้วยังช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะได้ด้วย
แถมราคายังสบายกระเป๋าสำหรับกันแดดเคาท์เตอร์แบรนด์
ไปชมรายละเอียดกันเลยค่า
THE BODY SHOP
Skin Defence
Multi-Protection Essence SPF50 PA++++
-----------------------------------------------------------------------
ขนาด 40 ml ราคา 990 บาท
หาซื้อได้ที่ร้านเดอะบอดี้ช็อปทุกสาขาค่า
เช็คสาขาใกล้บ้านได้ที่ >>>CLICK<<<
รายละเอียดผลิตภัณฑ์ตามคำเคลม
กันแดดเนื้อเอสเซ้นส์บางเบาเป็นพิเศษ
โดยเนื้อน้ำนมจะเปลี่ยนเป็นน้ำทันทีที่ทา
ไม่อุดตันรูขุมขน ให้สัมผัสบางเบาสบายผิว ไม่เหนอะหนะ
เป็นสูตรอ่อนโยนด้วยสูตรธรรมชาติ(Vegetarian) 100%
ซึ่งส่วนผสมก็ได้มาจากโครงการร้านค้าชุมชนเป็นการสนับสนุนเกษตรกรด้วย
ไม่มีส่วนผสมของพาราเบน/น้ำมันแร่/พาราฟิน
กันแดดได้ครบถ้วนทั้งรังสี UVA และ UVB ด้วยค่า SPF 50 PA++++
พร้อมปกป้องผิวจากมลภาวะด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระให้ผิวแข็งแรงขึ้น
และช่วยยับยั้งความหมองคล้ำด้วยสารสกัดจากสาหร่ายสีแดงและวิตามินซี
ซึ่งทางแบรนด์เรียกตัวนี้ว่าเป็น "Skin Guardian" หรือ ผู้พิทักษ์ผิว....เท่เชียว!
รายละเอียดส่วนผสม
กันแดดตัวนี้จัดเป็นกันแดดในกลุ่ม Chemical Sunscreen หรือ Organic Sunscreen
ทำหน้าที่เป็นเหมือนฟิลเตอร์ช่วยดูดซับรังสีไว้ไม่ให้ทะลุผ่านผิวหนังของเราได้
ข้อดีข้อเด่นของสารกันแดดในกลุ่มนี้เลยคือ "ไม่ขาวลอย ไม่ว่อก"
เพราะฉะนั้นใช้ได้กับทุกสีผิว และทุกเพศนะฮะ คุณผู้ชายก็ทาได้รับประกันว่ารอด
-------------------------------------------------------------------
สารกันแดดในส่วนผสมมีดังนี้
Ethylhexyl Methoxycinnamate ปกป้องผิวจากรังสี UVB
Butyl Methoxydibenzoylmethane
หรือ Avobenzone ปกป้องผิวจากรังสี UVA-I และ UVA-II
Octocrylene ปกป้องผิวจากรังสี UVฺB และ UVA-II
และเป็น Stabilizer ช่วยให้ Abvobenzone เสถียรขึ้น
-------------------------------------------------------------------
มีสารให้ความชุ่มชื่นในกลุ่มฺ Glycol , Glycerin
มีสารบำรุงจากพืชธรรมชาติอย่าง Sclerocarya Birrea Seed Oil
หรือ Marula Oil เป็นน้ำมันที่ได้จากเมล็ดของต้นมารูล่าต้นไม้ป่าของแอฟริกาใต้
มีวิตามิน E & C สูง ให้ความชุ่มชื่นดี มีโปรตีนและโอเมก้า
และเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะ
ซึ่งเค้าบอกมาว่าน้ำมันมารูล่านี้เค้ารับมาจากโครงการร้านค้าชุมชน
จึงเป็นการช่วยสนับสนุนอาชีพเกษตรกรของคนในท้องที่อีกทางหนึ่ง
อีกหนึ่งจุดขายของส่วนผสมธรรมชาติก็คือสารสกัดจากสาหร่ายสีแดง
หรือ Palmaria Palmata Extract เป็นสารในกลุ่มไวท์เทนนิ่ง
ที่ช่วยจำกัดการสังเคราะห์เม็ดสีเมลานินและลดการส่งผ่านเม็ดสีสู่เซลล์ผิว
รวมถึงยังเป็นสารในกลุ่มต้านอนุมูลอิสระด้วยเช่นกัน
มีส่วนผสมของ Vitamin C ในรูปของ 3-0 Ethyl Ascorbic Acid
ซึ่งมีความเสถียรสูง ทนแสงแดด ทนความร้อนได้ดี
ไม่เป็นกรด ไม่ทำให้ระคายเคือง ดูดซึมสู่ผิวได้โดยง่าย
ช่วยลดการสร้างเม็ดสี และช่วยต้านอนุมูลอิสระ
สารกันเสีย คือ Phenoxyethanol , Chlorphenesin
เป็นสารกันเสียที่มีความปลอดภัยต่อผิวและไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม
***ไม่มีส่วนผสมของ Paraben , Mineral Oil , Paraffin
เค้าเคลมมาว่าผ่านการเทสว่าสามารถใช้ได้ในผิวระคายเคืองง่ายและไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
แต่มีส่วนผสมของ Alcohol และ น้ำหอม (Fragrance)
เพื่อความสบายใจถ้าใครผิวระคายเคืองง่ายมากๆป้ายเทสก่อนทาที่หน้าก็ได้ฮะ
จุดที่แนะนำให้ป้ายเทสคือหลังใบหูเพราะผิวบอบบางพอๆกะผิวหน้า
ป้ายไว้ซัก 24 ชั่วโมงแล้วสังเกตอาการดูเนอะ
ลักษณะบรรจุภัณฑ์
มาในหลอดสีขาวทึบแสงเรียกได้ว่าเรียบง่ายแต่ดีงาม
ป้องกันครีมจากการเสื่อมเพราะแสงแดดและอากาศได้ดี
น้ำหนักเบา บีบกะปริมาณง่าย และพกพาสะดวก
แต่ต้องสังเกตกันนิดนึงนะคือเค้าเป็นกันแดดแบบที่ต้องตั้งใจดูชื่อนิดนึง
เพราะเค้าไม่ได้เขียนว่าเป็น Sunscreen บนหลอดเลย
จะรู้ว่าเป็นกันแดดก็ตรงค่า SPF 50 และ PA++++ นี่หล่ะ
ด้านหลังหลอดจะแจ้งไว้ว่าหลังการเปิดใช้
กันแดดจะมีอายุการใช้งาน 12 เดือน
ลักษณะเนื้อและกลิ่น
ขอยกให้เรื่องของเนื้อกันแดดเป็นจุดขายที่เด่นที่สุดไปเลย
เค้าเคลมมาว่าเป็นเนื้อเอสเซ้นส์ที่บางเบาพิเศษ
คอนเฟิร์มให้เลยเพราะเปิดหลอดมาแค่บีบเบาๆย้ำว่าเบามาก
เนื้อกันแดดก็ไหลปื้ดออกมาแล้ว ใครเปิดใช้ทีแรกระวังหกกันนิดนึงเน่อ
เนื้อเอสเซ้นส์สีขาวมีความเหลวมากกก
ตอนทาจะรู้สึกเย็นผิวนิดๆ เกลี่ยง่ายที่สุดของที่สุด
ความพิเศษคือเมื่อเกลี่ยจากเนื้อที่เหมือนน้ำนมจะเปลี่ยนเป็นน้ำ
ที่เห็นเป็นสีขาวตอนแรกหายไปกลายเป็นเนื้อใสซึมผิวเกลี้ยงเลย
ซึมไวเว่อร์ๆ ใครเบื่อกับการทากันแดดแล้วต้องรอเซ็ตตัว
ตัวนี้ตอบโจทย์นะทาเสร็จแล้วแต่งหน้าต่อได้เลย
กลิ่นบีบออกมาตอนแรกได้กลิ่นแอลกอฮอล์นิดนึง
แต่พอทาลงผิวแล้วไม่ค่อยได้กลิ่น
หลังทาจะเหลือกลิ่นหอมติดผิวแค่จางๆ
ทาบนหน้าเทียบให้ดูจะเห็นว่าไม่ทำให้ผิวมัน ไม่เหนอะหนะ
แต่ไม่ได้เซ็ตตัวแบบแห้งแมทท์นะ
ผิวจะดูเงาๆนิดๆแบบมีฟิลม์บางๆเคลือบผิวอยู่ ไม่ทำให้ผิวดูแห้ง
วิธีการทากันแดดให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
วิธีการทากันแดดนี่แหละปัญหาใหญ่สุดของคนไทยเลย
ว่าทำไมใช้กันแดดแล้วแต่ผิวยังหมองคล้ำอยู่ ปัญหาคือใช้ปริมาณน้อยไปมากกกก
ตามหลักแล้วถ้าต้องการทากันแดดให้ได้ค่า SPF และ PA ตามที่แสดงหน้าหลอด
คุณหมอผิวหนังแนะนำให้ใช้ในปริมาณ 2 มิลลิกรัมต่อพื้นที่ผิวหนึ่งตารางเซนติเมตร
หน่วยวัดตวงแบบนี้งงแน่นอน เอาว่าถ้ากันแดดเนื้อครีม
สำหรับทาใบหน้าไม่รวมคอให้บีบออกมายาวประมาณสองข้อนิ้วกลาง
ส่วนกันแดดเนื้อเหลวๆแบบนี้บีบออกมาประมาณเหรียญสิบบาทนะจ๊ะสำหรับการทาทั่วหน้า
และสำหรับลำคอก็ใช้ในปริมาณเดียวกัน อาจจะดูเยอะแต่ขอบอกเค้าทาแบบนี้ทุกวันนะ
ทาตอนแรกยังไม่ชินกับปริมาณลองแบ่งทาสองรอบเอาก็ได้
แต่ถ้าเราเลือกกันแดดที่เนื้อบางเบาก็สามารถโบกทีเดียวจบได้เลยรวดเร็วกว่านะ
ซึ่งเค้าจะบีบใส่มือแล้วประกบมือหากันแบ่งเนื้อครีมให้กระจายทั่วๆฝ่ามือ
แล้วทาลงไปที่แก้มที่พื้นที่กว้างสุดก่อน ที่เหลือค่อยไปทาทีโซน
วิธีการทาแบบนี้เวิร์คกว่าแต้มห้าจุดมากนะเออใช้ได้ทั้งการทาสกินแคร์และกันแดดเลย
ช่วยให้ทาได้เร็วกว่าซึมง่ายกว่า ที่สำคัญคือไม่ไปเพิ่มภาระความมันให้ทีโซน
ลองนึกดูดีเวลาแต้มห้าจุด 3 จุดไปโปะอยู่ตรงทีโซนแล้วนะ
ไม่แปลกใจเล้ยยยที่หน้าจะเยิ้มง่ายระหว่างวัน โบกจุดที่มันซะเยอะเชียว
และสำหรับคนมีปัญหาฝ้ากระเค้าแนะนำว่าหลังทาทั่วหน้าแล้ว
ให้บีบกันแดดออกมาอีกหน่อยแล้วแต้มตรงจุดที่มีปัญหาอย่างของเค้าคือโหนกแก้ม
ทาย้ำตรงจุดเหล่านั้นไปอีกรอบจะได้ช่วยป้องกันไม่ให้ฝ้ากระเข้มขึ้นเนอะ
ในเรื่องความมันเค้าผิวแห้งตอบให้มิได้จริงๆ
เลยขอเทสกับกระดาษซับมันให้ละกันนะ
ลองบีบทิ้งไว้ห้าชั่วโมงผลลัพธ์ตามภาพเลย
แทบไม่มีน้ำมันออกมาเลยนะฮะ
ด้วยเท็กซ์เจอร์ที่บางเบามากและน้ำมันน้อย
เค้าว่าคนผิวมันผิวผสมลองตัวนี้แล้วนะจะปลื้มเลยหล่ะ
สรุปความรู้สึกหลังการทดลองใช้
จุดเด่นที่สุดของกันแดดตัวนี้เลยคือเนื้อกันแดดเค้าบางเบามากๆๆๆ
เกลี่ยง่ายสุดพลัง ใครเคยมีข้ออ้างว่าไม่ทากันแดดเพราะมันเหนอะหนะอยากให้ได้ลอง
ซึมผิวง่าย เซ็ตตัวไว ไม่ต้องเสียเวลารอแต่งหน้าต่อได้เลย
เค้าลองเทสกับสกินแคร์และเมคอัพหลายตัวทั้งเนื้อเบาเนื้อหนัก
ส่วนตัวสำหรับเค้าไม่ขึ้นขุยหรือเป็นคราบเลยนะโอเคมาก
ตัวกันแดดเองไม่มีสีทาแล้วไม่ทำให้สีผิวเปลี่ยนจึงใช้ได้กับทุกสีผิว ไม่ทำให้เมคอัพสีเพี้ยนด้วย
เดี๋ยวจะลองเอาให้คุณผู้ชายที่บ้านใช้ดูนางชอบบ่นว่ากันแดดเหนอะและว่อก
ถ้าตัวนี้ทาแล้วยังจะเหนอะอีกคงต้องให้กางร่มกันแดดเอาละ555
ในเรื่องของส่วนผสมก็โอเคดีกันรังสี UV ได้ครบถ้วน
เค้ารักตรงค่า PA++++ นี่หล่ะ ขอบอกว่าเวลาเลือกกันแดด
ให้ดูค่านี้เยอะๆ ซึ่งตอนนี้ถือว่าสี่บวกเยอะสุดละ
เพราะค่า PA คือจะช่วยกันรังสี UVA ที่เป็นรังสีคลื่นยาวทำลายผิวชั้นลึก
ทำให้คอลลาเจนอีลาสตินลดลงซึ่งเป็นสาเหตุของริ้วรอยก่อนวัยนะเออ!
ส่วนค่า SPF ช่วยกันรังสี UVB ที่ทำให้ผิวไหม้เบิร์น ค่านี้ 30-50 ก็พอแล้วฮะ
และส่วนผสมที่เสริมมาในเรื่องการต้านอนุมูลอิสระและช่วยเรื่องการเป็นไวท์เทนนิ่ง
ก็ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองที่ต้องเจอมลภาวะที่ทำร้ายผิวเราทุกวันได้ดี
ซึ่งเป็นคอนเซ็ปต์ที่สกินแคร์หลายๆแบรนด์หันมาให้ความสนใจเนอะ
แต่อย่างไรก็ตามหลักๆเค้าคือกันแดดอยากผิวสวยอย่าลืมขยันทาบำรุงควบคู่ด้วยนะจ๊ะ
กันแดดตัวนี้มีแอลกอฮอล์จึงจำเป็นอย่างมากที่เราควรทาสกินแคร์ให้ความชุ่มชื่นก่อน
โดยเฉพาะอย่างเค้าที่เป็นผิวแห้ง เพราะแอลกอฮอล์เองระเหยได้ไว
นอกจากจะทำให้กันแดดไม่เหนอะผิวแล้วอาจจะดึงความชุ่มชื่นผิวออกไปตอนที่ตัวมันเองระเหยด้วย
การป้องกันง่ายๆก็คือการใช้สกินแคร์ที่ให้ความชุ่มชื่นทาลงไปก่อนทากันแดดจ้า
เค้าผิวแห้งแต่ขยันโบกครีมบำรุงลองใช้กันแดดตัวนี้แล้วไม่มีปัญหานะผิวไม่ได้แห้งลงจ้า
สรุปเป็นกันแดดที่ใช้ได้ทุกวัน ป้องกันแสงแดดได้ครบถ้วน
ดีงามตรงเนื้อบางเบา ในราคาที่ไม่ได้สูงเกินไปเมื่อเทียบกับปริมาณ
ใครตามหากันแดดที่ให้สัมผัสสบายผิวอยู่ควรค่าแก่การไปลองมากๆฮะ
-----------------------------------------------------------------------------
Disclaimer : Sponsored Content by THE BODY SHOP
***All opinions are my own
Information : https://www.facebook.com/TheBodyShopTH
https://www.thebodyshop.co.th