ฉันจะไม่ยอมแก่! รีวิว “เซรั่ม” ใช้ดีแบบข้ามปี ตั้งแต่ถูกยันแพง มาดูกันว่า…ทดแทนกันได้มั้ย?

20 3

สวัสดีค่ะทุกคน :) สำหรับสาวๆ 30+ ไม่มีใครที่ “อยากแก่” หรอกจริงมั้ยคะ ถึงอายุจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และรู้อยู่แก่ใจว่าสังขารมันไม่เที่ยงก็ตาม แต่ถ้าเรามีไอเท็มที่สามารถบล็อคความแก่ไว้ได้…ก็คงจะดีไม่ใช่น้อย และไอเท็มนั้นก็คือ “เซรั่ม” นั่นเอง โดยเราจะเลือกเซรั่มที่ใช้ดีจนอยากบอกต่อมาแชร์กันรัวๆ ในส่วนของราคา เลเวลก็จะแตกต่างกันไป เรียกได้ว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นสาวที่มีเงินอยู่ในเลเวลไหน…ก็สามารถไม่แก่ได้เหมือนกัน แต่แบรนด์ไหนจะเป๊ะที่ตรงใจเรามากที่สุด มาดูกันเลยค่ะ

Level 1: งบน้อย…หยอดกระปุก | Yanhee Serum Vit E (ราคา 129 บาท)

เริ่มกันที่ตัวแรกกับ “Yanhee Serum Vit E” หนึ่งในโปรดักส์ของ “โรงพยาบาลยันฮี” แต่มีขายที่ 7/11 จริงๆ มันมีหลายสูตรนะ แต่สาวๆ 30+ อย่างเราก็ต้องสูตรนี้แหละ ที่จะช่วยในเรื่อง “ลดริ้วรอย” เป็นหลัก และก็มาพร้อมกับสรรพคุณอีกมากมายที่จะเปลี่ยนให้เรากลับไป 20 หมาดๆ อีกครั้ง  Texture + กลิ่น            สำหรับ “เนื้อเซรั่ม” มีความเป็นเจล แต่พอเกลี่ยแล้วจะเป็นน้ำใสๆ ตอนแรกก็คิดว่าเซรั่มคงจะเหมาะกับคนผิวแห้งเพียงอย่างเดียว แต่คงเป็นข้อยกเว้นของแบรนด์นี้ เพราะมันบางเบามากจริงๆ จะหน้าแห้งหน้ามันก็ใช้ได้หมดนะ และในส่วนของ “กลิ่น” ไม่มีสักแอะเลยค่ะคุณขา เลยคิดว่าน่าจะไม่มีแอลกฮอล์แน่นอน ใครที่รู้ตัวว่าผิวแพ้ง่ายจะต้องเลิฟตัวนี้การซึมซาบลงสู่ผิว            บางทีก็คิดว่ามันซึมซาบเร็วเกินไปมั้ย เกลี่ยไปแป๊บเดียวก็ซึมลงสู่ผิวไปหมดแล้ว เราเลยไม่ค่อยรู้สึกว่ามันให้ความชุ่มชื้นสักเท่าไหร่ ถ้าใครคาดหวังอยากจะมีผิวที่ดูชุ่มชื่น ตัวนี้อาจจะยังไม่ตอบโจทย์นะผลลัพธ์            หลังจากที่เราใช้มาสักระยะ (ประมาณ 2-3 เดือนไม่แน่ใจ) ก็ไม่ได้เห็นผลอะไร ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ริ้วรอยที่อยากจะลดก็ไม่ลด สุดท้ายแล้วมันช่วยอะไรเราได้บ้างปะเนี่ย งงเว่อร์ >< Level 2: งบเบาๆ สบายกระเป๋า | Olay Regenerist Micro-Sculpting Serum (ราคาปกติ 1,099/ ลดเหลือ 799)

เคยใช้แบรนด์นี้มาก่อน แต่ก็เลิกใช้ไป เพราะไม่ค่อยถูกโฉลกกับครีมเท่าไหร่ (แบบว่าเหนอะหนะหนักมาก) แต่สำหรับ “Olay Regenerist Micro-Sculpting Serum” ก็ทำให้เรามองใหม่…ว่ามันก็ไม่ได้แย่อะไรขนาดนั้นนะ ในส่วนของราคาต้องบอกก่อนนิดนึงว่า เราซื้อตอนช่วงโปรที่ร้าน Boots มันเหลือ 799 บาท (จากปกติ 1,099 บาท) บอกไว้ก่อน เผื่อไปซื้อตอนนี้ แล้วราคาไม่ตรงกับเราTexture + กลิ่น            สิ่งที่เป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์นี้เลยก็คือ “กลิ่น” มันหอมดีแหละ แต่หนักไปทางฉุนซะมากกว่า (แต่ก็ขึ้นอยู่ที่ความชอบของแต่ละคนด้วย) ถ้าหน้าใครที่ไวต่อแอลกฮอล์ ก็ไม่ค่อยอยากจะแนะนำสักเท่าไหร่ เนื้อเซรั่มมีความเป็น “ครีม” สีนวลๆ วาวๆ เหมาะกับคนผิวแห้งมากๆการซึมซาบลงสู่ผิว            การซึมซาบลงสู่ผิวก็อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจนะ ไม่ช้าแต่ก็ไม่เร็วไป และก็รู้สึกว่าหน้ามีความชุ่มชื่นจริงๆ แต่แอบทิ้งความมันไว้นิดนึงนะ ไม่ค่อยปลื้มตรงนี้เท่าไหร่ผลลัพธ์            ถ้าถามว่าช่วย “ลดริ้วรอย” ขนาดนั้นมั้ย ในระยะสั้นคือไม่เห็นผลอะไร แต่พอใช้ไปสักระยะก็จะเห็นว่ารอยย่นเบาๆ บริเวณหางตามีความลดลง ไม่รู้ว่าคิดไปเองมั้ย แต่มันเกิดขึ้นจริงๆ นะแก เริ่ดมาก ><Level 3: งบคุ้มค่า ใครๆ ก็สอยได้ | Oriental Princess Ultimate Renewal Concentrated Serum (ราคา 1,375 บาท)

มาต่อกันที่ “Oriental Princess Ultimate Renewal Concentrated Serum” ต้องบอกเลยว่าเป็นเซรั่มที่เหมาะกับสาววัย 30+ ที่ไม่ยอมแก่มากจริงๆ เขาบอกว่าดูแลริ้วรอยแนวนอน ตั้ง ลึก มองแว้บแรกคิดว่าแพง และโหวว มันทำได้จริงหรอ แต่มันคุ้มค่ากับที่เสียไปจริงๆ นะ คุ้มค่ายังไงน่ะหรอ…เดี๋ยวเล่าให้ฟังTexture + กลิ่น            เนื้อเซรั่มสัมผัสได้ถึง “ความเข้มข้น” แต่เวลาเกลี่ยแล้วไม่รู้สึกเหนอะหนะเลยนะ มันกลืนไปกับผิวได้ดีจริงๆ สำหรับ “กลิ่น” ก็หอมแบบธรรมชาติเบาๆ ไม่ได้หอมขนาด Olay ถ้าใครที่ชอบกลิ่นประมาณนี้ ต้องไม่พลาดนะจ๊ะการซึมซาบลงสู่ผิว            ตอนแรกคิดว่ามันต้องซึมซาบช้าแน่ๆ เลย เพราะเนื้อเซรั่มมันเข้มข้น แต่เอาจริงๆ คือซึมซาบกำลังดี ยิ่งเกลี่ยยิ่งเพลิน ประเด็นสำคัญเลยก็คือ ใช้แล้วหน้าชุ่มชื้นเว่อร์ เหมือนว่ามันสามารถกักเก็บความชุ่มชื่นไว้ที่หน้าได้ บอกเลยว่าสาววัย 30+ สาวที่หน้าแห้ง หรือสาวที่งบไม่เยอะมาก ใช้อันนี้ยังไงก็เหมาะ!ผลลัพธ์            ความดีงามอีกอย่างที่เราเทใจให้เต็มๆ เลยก็คือ มันช่วยลดริ้วรอยได้จริง มีความใช้แล้วหน้ากระชับ นุ่มๆ เด้งๆ เหมือนก้นเด็ก ฮ่าๆ และริ้วรอยบริเวณหางตา หรือแก้มก็ดูจางลงแบบรู้สึกได้ด้วยหลังใช้ไป 2 สัปดาห์ เลิฟหนักมาก Level 4: งบเหลือใช้…แล้วไงใครแคร์ | Biotherm Life Plankton Essence (ราคา 2,300 บาท)

เหตุผลที่ใช้ตัวนี้เพราะว่า “เงินเหลือ” (อย่าเพิ่งหมั่นไส้เรา ฮ่าๆ) กับ “Biotherm Life Plankton Essence” บอกก่อนเลยว่าเราค่อนข้างชอบตัวนี้เลยทีเดียว (ดูจากปริมาณก้นขวดสิ) แต่อาจจะติดที่ราคาว่าแอบแร๊งง ถ้าใครมีงบเหลือใช้จะลองตัวนี้ก็ได้ไม่ว่ากันTexture + กลิ่น            ด้วยความที่เป็น “เอสเซนส์” มันเลยเป็นน้ำๆ สีขาวขุ่นๆ เกลี่ยแล้วรู้สึกเย็นๆ ในส่วนของกลิ่นก็ไม่ได้ฉุนอย่างที่คิด เป็นกลิ่นหอมแบบเบาๆ ใครที่กังวลว่ากลิ่นจะแรง หายห่วงเลยค่ะการซึมซาบลงสู่ผิว            ในส่วนของการซึมซาบลงสู่ผิว มันก็ซึมซาบเร็วนะ ให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดี ไม่ได้แห้งแล้วแห้งเลยเหมือน Yanhee นะ แต่มันจะเหนอะๆ หน้า ถ้าใครไม่ชอบก็ข้ามไปได้เลยผลลัพธ์            ตอนแรกซื้อมา เพราะเคยเห็นบล็อกเกอร์ หรือรีวิวตามเว็บต่างๆ เคลมกันว่ามันช่วยลดริ้วรอยได้ แต่พอใช้ไปนานๆ รอยแดงจากสิวมากกว่าที่ลดลง เราเลยใช้เป็นไอเท็มที่ช่วยลดรอยแดงจากสิวแทนไปเลย กลายเป็นว่าซื้ออย่างนี้แต่ได้ผลอีกอย่างซะงั้นเลย แต่ถามว่ารับได้มั้ย รับได้อยู่แล้ว เพราะปัญหาของรอยสิวมันก็ลดลงจริงๆ แต่ถ้าชะนีที่อยากได้เรื่องริ้วรอย ต้องลองมาตัวอื่นแทนLevel 5: งบเศรษฐิณี…รวยๆ โปรยเงิน | SK-II Facial Treatment Essence (ราคา 5,990 บาท)

ปิดท้ายกันที่ “SK-II Facial Treatment Essence” แบรนด์ที่ใครๆ ก็แนะนำให้ใช้ แต่ต้องอาศัยงบที่หนักหนาเอาการ เพราะราคาครึ่งหมื่นไปแล้วค่ะคุณขา (เราไม่ได้ซื้อเอง แต่แม่ซื้อให้ เอาไว้ใช้ด้วยกัน) ปริมาณก็เยอะดีนะ แบ่งกันใช้กับแม่ จนตอนนี้ยังไม่หมดเลยจ้าTexture + กลิ่น            พูดถึง “เอสเซนส์” กันก่อน มันก็เป็นน้ำแบบปกตินี่แหละ แต่ความพีคมันอยู่ที่ “กลิ่น” ซึ่งสมคำร่ำลือมากจริงๆ เพราะตอนแรกที่เราใช้ก็ไม่คิดว่ากลิ่นจะมาเบอร์นี้นะ เรียกได้ว่ากลิ่นแปลกๆ เตะจมูกสุดฤทธิ์ ถ้าใครไม่ชอบก็คงจะหยี แต่ใช้ไปนานๆ ก็จะชินเองการซึมซาบลงสู่ผิว            ในส่วนของการซึมซาบลงสู่ผิว ก็ดีงามสมราคา เพราะนอกจากจะซึ่มซาบเร็วแล้ว ความชุ่มชื้นก็ดีงามไม่แพ้กัน เหมาะกับคนผิวมันมากๆ คอนเฟิร์มเลยผลลัพธ์            ความพีคที่สุดของ SK-II คือ “ผิวหน้าแข็งแรงขึ้น” ความหย่อนคล้อยทั้งหลายดูเต่งตึงขึ้น ผิวหน้ามีความกระชับ ริ้วรอยอะไรก็ตามก็ดูลดลงแบบรู้สึกได้ โดยเฉพาะแม่เราจะปลื้มมากเป็นพิเศษเลยทีเดียว ไม่แปลกใจเลยว่าทำไม “สู่ขวัญ” ถึงสวยอมตะขนาดนั้น แต่ราคาก็ทำกระอักเลือดเหมือนกัน ฮ่าๆสรุปความเลิฟ

สรุปแล้ว “เซรั่ม” (พูดรวมๆ ว่าทั้งหมดคือเซรั่มแล้วกันนะ) เอาจริงๆ แล้ว “ราคา” มันก็มีผลต่อประสิทธิภาพอยู่แล้วแหละ สังเกตได้จาก SK-II ที่แพงสุด แต่ประสิทธิภาพก็ดีสุดเช่นเดียว แต่ในเรื่องบางเรื่อง มันก็สามารถทดแทนกันได้ อย่างเช่น “การซึมซาบลงสู่ผิว” ที่แต่ละแบรนด์ก็ไม่ได้แตกต่างกันมาก แต่แค่ Oriental Princess, Biotherm, SK-II ซึมซาบได้ดีที่สุดเท่านั้นเอง

เอาเป็นว่าถ้าใครอยากได้เซรั่มที่เน้นประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยเป็นหลัก เราขอแนะนำเป็น “Oriental Princess Ultimate Renewal Concentrated Serum” และ “SK-II Facial Treatment Essence” ก็แล้วกัน เพราะสองตัวนี้ได้ผลที่ใกล้เคียงกันมากๆ ถ้าใครงบเยอะแบบรวยๆ โปรยเงิน ก็จัด SK-II ไปเลย ดีต่อใจ แต่ถ้าใครอยากได้ราคาที่เป็นมิตรก็จัด Oriental Princess ไม่เสียหาย :)


melinda_may

melinda_may

FULL PROFILE