5 ข้อต้องรู้ ช็อปแบบไหน ถึงจะมีเงินเก็บ
DokChanMoney 33 19สาวๆ ท่องไว้นะคะว่า ผู้หญิงอย่างเราแค่ สวยปังยังไม่พอค่ะ ต้องทำให้ กระเป๋าตังค์ตุงด้วยนะคะ (ตุงด้วยเงินเก็บนะคะ ไม่ใช่ตุงเพราะสลิปบัตรเครดิต) เพราะฉะนั้นเพื่อให้สาวๆ ได้ช็อปสบายๆ ไปพร้อมกับมีเงินเก็บแบบชิลๆ “นักสืบดอกจัน” หรือจะเรียกเก๋ๆ ว่า DokChanMoney มีกลเม็ดเคล็ดลับฉบับสาวช่างช็อปมาแบ่งปันกันค่ะ
1. ตั้งงบช็อปต่อเดือน
แอบไปอ่าน Make a wish เห็นสาวๆ ส่วนใหญ่ตั้งเป้าหมาย Beauty Budget 2017 กันไว้ประมาณ 1,000-3,000 บาท ... นี่ล่ะ ใช่เลย เพราะจะมากจะน้อยไม่สำคัญ ถ้าเรารู้สึกว่า “พอจ่ายไหว” แต่สิ่งที่สำคัญ คือ เราจะได้รู้ลิมิตของตัวเองว่า ในแต่ละเดือน หรือ แต่ละปีเราจะช็อปได้ไม่เกินกี่บาท และที่สำคัญกว่า คือ ถ้าเดือนไหนช็อปไม่ถึงงบที่ตั้งไว้ ... อ๊ะๆๆๆ อย่าแอบเอาไปสมทบกับงบเดือนถัดไปนะคะ เพราะนี่ คือ โอกาสเก็บเงิน รีบตัดใจหยิบส่วนที่เหลือไปหยอดกระปุกค่ะแถมให้อีกนิด พอเราได้ลองตั้งงบทำสวยแล้ว อย่าลืมตั้งงบกับค่าใช้จ่ายรายการอื่นๆ ด้วย ก็น่าจะดี เช่น งบกิน งบเที่ยว งบทำบุญ งบอื่นๆ อีกมากมายเสนอไอเดียเพิ่มอีกหน่อย แทนที่เราจะตั้งงบเป็นตัวเลขกลมๆ แบบตายตัว อาจจะเปลี่ยนมาตั้งเป็นเปอร์เซ็นต์ของรายได้ เพราะถ้าเป็นงบแบบนี้ ถ้ามีรายได้เพิ่ม เราก็ช็อปเพิ่มได้ หรือ ถ้าอยากช็อปเพิ่ม ก็แค่หารายได้เพิ่ม (แล้วจะได้ออมเพิ่มด้วย ดี๊ดี)
2. เก็บส่วนลดที่ได้จากป้าย Sale
ก็รู้ๆ กันอยู่ว่า สาวๆ ส่วนใหญ่จะเป็นภูมิแพ้ ป้าย Sale เห็นเป็นไม่ได้ คันไม้คันมืออยากจะปรี่เข้าไปมุง บางทีซื้อกลับมาแล้วก็ยังมึนๆ เหมือนโดนป้ายยา ... นี่ชั้นทำอะไรลงไป แต่ต่อจากนี้ เห็นป้าย Sale ที่ไหน ไม่ต้องรอช้า เดินหน้าลุยคุ้ยกระบะ ได้เลยค่ะ เพราะว่า ทุกบาททุกสตางค์ที่ประหยัดได้จากการซื้อสินค้าลดราคา เราจะเอาไปเก็บกันค่ะ ตัวอย่างเช่น เดือนนี้มีโปรฯ ดี ซื้อสำลี 40 บาท ลดเหลือ 20 บาท จัดไปค่ะ แล้วกำเงิน 20 บาทที่เป็นส่วนลดไปหยอดกระปุกไว้ค่ะ ไม่จำกัดเฉพาะสินค้าเพื่อความงามเท่านั้นนะคะ แต่กะปิ น้ำปลา ผ้าอนามัย ก็ใช้เงื่อนไขเดียวกันค่ะ
3. รับเงินทอนแล้ว หย่อนใส่กระปุก
เวลาที่จ่ายเงินไปหลายครั้งเราจะได้เงินทอนกลับมา อย่ารอช้า เก็บไปหยอดกระปุกสิคะ ซื้อข้าว 35 บาท จ่ายไป 40 บาท แม่ค้าทอนมา 5 บาท ... เก็บค่ะซื้อกาแฟ 120 บาท หยิบแบงก์ร้อยสองใบส่งไป ได้ทอนมา 80 บาท ... เก็บค่ะซื้อเครื่องสำอาง 570 บาท ส่งแบงก์พันไปหนึ่งใบ พนักงานทอนมา 430 บาท ... จะเก็บเท่าไหร่ดีคะ ถ้าแบบนี้มี 2 ทางเลือกค่ะ อย่างแรกขอเก็บขำๆ 30 บาทก็ได้ หรือจะทุ่มสุดตัวเก็บไป 430 สวยๆ รวยๆ กันไป บางคนบอกว่า “ไม่ได้เงินทอนค่ะพี่ เพราะหนูใช้บัตรเครดิต” บอกเลยว่า ใช้บัตรเครดิตก็ใช้วิธีนี้ได้ค่ะ ก็แค่หยิบเงินจากกระเป๋าเข้าไปใส่ในกระปุก ให้เท่ากับจำนวนเงินทอนที่น่าจะได้ถ้าจ่ายด้วยเงินสด
4. ซื้อแค่ไหน เก็บแค่นั้น
โตแล้ว จะช็อปเท่าไหร่ก็ได้ แต่ถ้าจะช็อปด้วย มีเงินเก็บด้วยก็ต้องสูตรนี้เลยค่ะ “ซื้อแค่ไหน เก็บแค่นั้น” ถ้าใช้วิธีนี้รับรองกระปุกเงินระเบิดแน่นอน เพราะไม่ว่าเราจะช็อปไปกี่บาท ต้องเก็บเงินเข้ากระปุกในจำนวนเดียวกัน เช่น วันนี้ช็อปไป 500 บาท ก็ต้องหยอดกระปุก 500 บาทด้วยหรือจะเพิ่มความท้าทายให้ตัวเองอีกนิด ต้องมี ค่าปรับ สำหรับของที่ซื้อมาเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ต้องถูกปรับ แทนที่จะเก็บเงินเท่ากับราคาของ ต้องเก็บเงินเป็น 2 เท่าของราคาของชิ้นนั้น (คราวหน้าอย่าพลาดอีก เพราะถ้าพลาดบ่อย ไม่เหลือเงินกินข้าวแน่ๆ)
5. เก็บเงินแบบคอมโบเซ็ต
จริงแล้วเราจะเลือกเก็บเงินแบบไหน วิธีอะไรก็ได้ แต่ถ้าคิดจะทุ่มสุดตัว จะลองทำทุกอย่างรวมกันก็ไม่มีใครห้าม แถมยังช่วยให้เงินเก็บเพิ่มขึ้นเร็วด้วย เช่นตั้งงบช็อปเดือนละ 3,000 บาท แต่ของที่หมายตา ติดป้าย Sale ตัวโต ลดจาก 3,000 บาท เหลือ 2,500 บาท ... จัดไปค่ะ เพราะช็อป 2,500 บาท แต่เราจะมีเงินเก็บถึง 4,000 บาท
- เงินเหลือจากงบช็อปรายเดือน 500 บาท ... เก็บค่ะ
- ได้ส่วนลด 500 บาท ... เก็บค่ะ
- หยิบแบงก์พัน 3 ใบจ่ายไป ได้เงินทอน 500 บาท ... เก็บค่ะ
- ซื้อของไป 2,500 บาท ตามสัญญาต้องกันเงินออกมา 2,500 บาท ... เก็บค่ะ
เห็นไหมล่ะ เดือนนี้ได้เงินเก็บเข้ากระเป๋าเหนาะ 4,000 บาท ลองคิดดูว่า ถ้าเราทำแบบนี้ได้ทุกเดือน ปีนี้ (เหลืออีก 7 เดือน) น่าจะได้เกือบ 30,000 บาท กดเครื่องคิดเลขคร่าวๆ ได้งบเที่ยวญี่ปุ่นสบายๆ เห้ยยย มันดีอ่ะ ^^
เอาไว้สิ้นปีมาเปิดกระปุกอวดกันอีกทีดีกว่าว่า สาวๆ ช็อปไปเก็บเงินไป จะได้กันคนละกี่บาท หรือสาวๆ คนไหนมีเคล็ดลับเด็ดๆ ดีๆ เอามาแบ่งปันกันบ้างนะคะ เผื่อจะได้เปลี่ยนเป้าหมายจากญี่ปุ่นเป็นยุโรป แอร๊ยยยย ตื่นเต้นๆ