[REVIEW] 4 คอนซีลเลอร์แบรนด์ดัง ตัวไหนปัง☺ ตัวไหนพัง☹
HeSheIt site 17 12อโลฮ่าาา ทุกคน! อย่างที่รู้จากชื่อละเนอะ วันนี้เราจะมารีวิวและทดสอบคอนซีลเลอร์กันนนนน คอนซีเลอร์ที่เราจะเอามารีวิววันนี้มีแบรนด์อะไรบ้างรุ่นอะไรบ้าง ไปชมจากรูปข้างล่างกันเล้ยยยยยก่อนอื่นเราขอออกตัวก่อนเลยนะว่าเราเป็นคนที่อาจจะรีวิวแล้วผลออกไปในแง่ลบหน่อยๆ เพราะเราคาดหวังไว้เยอะกับทุกตัวเสมอและส่วนใหญ่ทุกตัวจะมีทั้งข้อดีและข้อเสียของมัน การใช้คอนซีลเลอร์ของเราค่อนข้าง heavy duty เลยนะ ส่วนใหญ่เราจะทาตั้งแต่ 6 โมงเช้า แล้วกลับมาล้างออกตอน 2 ทุ่ม บร๊ะเจ้า 14 ชม. 5555555 แล้วก็เราจะค่อนข้างเน้นความเป็นธรรมชาตินะ ละบอกเลยว่าเวลาเราทาคอนซีลเลอร์เนี่ย ไม่เคยมีใครจับได้เลยว่าทา เพราะฉะนั้นเราจะเน้นเรื่องความธรรมชาติเป็นพิเศษ
product ที่เราจะมารีวิวในวันนี้มีดังต่อไปนี้:
- Maybelline Instant Age Rewind Eraser Dark Circles Treatment Concealer #light
- COLLECTION lasting perfection concealer #01 #03
- Urban Decay naked skin concealer #med-lightneutral
- NARS radiant creamy concealer #custard
- การ oxidize หรือเปลี่ยนสี จะสวอชไว้บนแขนละทิ้งเอาไว้
- ความติดทนนาน วัดจากการใช้จริงบนหน้า แต่จะเซ็ตด้วยแป้งด้วย
- การตกร่องหรือการcreaseที่ใต้ตา ดูทั้งหลังทาทันที และหลังทาทั้งวัน
- coverage หรือ ความปกปิด
ตัวแรก! Maybelline Instant Age Rewind Eraser Dark Circles Treatment Concealer สำหรับตัวนี้เราได้มาในสี light น้าา ก่อนอื่นไปดูที่เฉดสีกันก่อนเลย
- การ oxidize สำหรับ swatch ข้างบนคือ swatch ที่เราป้ายลงไปสดร้อนๆนะ และอันถัดลงมาคืออันที่ปล่อยทิ้งไว้สักพัก ตัวนี้ถือว่าไม่ค่อย oxidize นะเพราะปกติเราเป็นคนที่ทุกอย่างค่อนข้างจะ oxidize บนผิวเรา
- ความติดทนนาน ตัวนี้ติดทนน้อยที่สุดใน 4 ตัวที่เอามารีวิว แต่มันก็ไม่ใช่ว่าหลุดง่ายนะ ก็อยู่ได้ซัก 5 ชม. จากนั้นก็เลือนๆหายๆ ไปละ
- การตกร่องหรือการcreaseที่ใต้ตา ตัวนี้ตอนแรกที่ได้มาคิดว่ามันจะเนื้อครีมมี่ ชุ่มชื่นๆหน่อย แต่มันแอบเซทตัวแล้วแห้งอะ เนื้อคล้ายๆ NARS แต่ปกปิดได้น้อยกว่า ตัวนี้ถ้าเราทาชิดขอบตาเกินไปมันก็แอบมีตกเข้าไปในร่องบ้างนะ ก็ crease พอๆกับ NARS แหละ
- coverage หรือ ความปกปิด เราว่าตัวนี้เป็น light to medium coverage เราเคยลอง layer เพิ่มเข้าไปแล้วแต่มันเหมือนจะไม่เพิ่มความปกปิดสักเท่าไหร่ทีแต่จะเพิ่มความสว่าง ตัวนี้เราไม่แนะนำให้เอามาปิดสิวนะเพราะมันให้ brightening effect ซึ่งมันจะไปเน้นความนูนของสิวเรา ตัวนี้มันให้ความเป็นธรรมชาติดีนะกับใต้ตา ใครใต้ตาไม่คล้ำมากละอยากได้ลุคใสๆน่าจะชอบ ราคาก็ย่อมเยาว์ด้วยยย
ตัวที่ 2!!! COLLECTION lasting perfection concealer #01 #03สำหรับตัวนี้ ราคาถูกมากกกกกกก เพราะเราซื้อมาตอนช่วง 1 แถม 1 เว็บ Konvy.com คุ้มไปอี๊กกกกก*Tips* ถ้าอยากจะใช้ตัวนี้ให้ได้ผลดีที่สุดควรใช้นิ้ววอร์มผลิตภัณฑ์ที่หลังมือแล้วค่อยแตะนะ ห้ามใช่beauty blender เกลี่ยเด็ดขาด มันจะทำให้เป็นคราบอย่างแรง
- การ oxidize หรือเปลี่ยนสี ตัวนี้บอกเลยว่า oxidize หนักมากก มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เห็นจากเบอร์ #03 ก็คงจะพอดูออกกันเนอะ ซึ่งช่วงแรกที่เราใช้ตัวนี้ เราก็มีปัญหาเกี่ยวกับการ oxidize ของมันเหมือนกันนะ เราเลยสอยเบอร์ #01 ตามมาทีหลังเพื่อที่จะเอามาผสมกัน (ถ้าใครอยากรู้ทริคในการทำให้ concealer ไม่ oxidize ก็บอกได้นะ เดี๋ยวจัดให้!)
- ความติดทนนาน ตัวนี้ติดทนนานมากกก ตอนสวอชนี้คือใช่ทิชชู่เปียกเช็ดยังไงก็ออกไม่หมด ยังมี stain เหลืออยู่เลย สำหรับบนใบหน้าตัวนี้จะติดทนค่อนข้างนานแต่ถ้าใช้ในส่วนที่หน้ามัน ก็ยังมีเป็นคราบบ้างระหว่างวัน ตัวนี้ถือว่าติดทนนานสุดใน 4 ตัวนี้
- การตกร่องหรือการcreaseที่ใต้ตา ตัวนี้เราแอบไม่ค่อยชอบเอามาใช้ใต้ตา เพราะเนื้อมันแห้งมากกกกก และมันก็ตกร่องง่ายมากกถ้าใครอยากให้ใต้ตาดูเป็นธรรมชาติก็ข้ามตัวนี้ไปเลย เพราะทาแล้วเห็นชัดมากว่าทา แต่เอามาทาส่วนอื่นของใบหน้าเช่นปิดสิว ได้ดีมาก
- coverage หรือ ความปกปิด 10 10 10 ไปเลยจ้าาา ปิดได้ทุกสิว แถมอยู่คงทนมาก ขอบอกว่า stain ของมันที่เราบอกว่าเช็ดไม่ออกอะ วันนี้ตื่นมาอาบน้ำ ก็ยังออกไม่หมดเลยยยย 5555555555
ตัวที่ฉามมมมม (3 ก็ได้แมะ55555) Urban Decay naked skin concealer #med-lightneutralบอกก่อนเลยว่านี่คอนซีเลอร์ตัวแรกที่เราซื้อ ละตอนแรกรู้สึกผิดหวังกับมันมากๆ
- การ oxidize หรือเปลี่ยนสี ที่ตอนแรกเราผิดหวังกับเจ้าตัวนี้นั้นเป็นเพราะเรื่องการ oxidize ของมันนี่แหละ แต่พอเราเริ่มรู้จักใช้ beautyblender กับ primer มันกลับไม่ค่อย oxidize แล้ว เราเลยคิดว่ามันน่าจะเป็นเพราะผิวเรา แต่คอนซีเลอร์ตัวนี้ก็ยังถือว่ามีปัญหาเรื่องการ oxidize อยู่ เพราะเราเคยเห็นคนอื่นบ่นอยู่เหมือนกัน
- ความติดทนนาน เราว่ามันค่อนข้างติดทนอยู่นะ เพราะด้วยสีของมัน เราเลยชอบเอามาปิดสิว ซึ่งขอบอกความดีงามของตัวนี้เลยนะว่าทาทิ้งไว้นานแค่ไหน หน้าจะมันแค่ไหน มันก็ไม่เป็นคราบเลยจ้าาาาาา โอ้ยคือดีย์ แต่มันก็หลุดระหว่างวันนะ
- การตกร่องหรือการcreaseที่ใต้ตา ตัวนี้เนื้อดีมากกกกก crease น้อยที่สุดเลยตัวนี้ คือเนื้อมันค่อนข้างเหลว ทาแล้วไม่รู้สึกว่ามันกองอยู่ที่ผิว ทาแล้วก็กลืนไปเลย
- coverage หรือ ความปกปิด ตัวนี้ก็ปกปิดได้ดีเลยนะแต่เราว่าเพราะความเหลวของ texture เลยทำให้มันอาจจะปกปิดได้น้อยกว่าเจ้าNARSนี๊ดดดดหน่อย นิดมากๆจริงๆ คือพอจะมาทำรีวิวแล้วกลับไปลองใช้ใหม่ นี่แอบหลงรักเจ้าตัวนี้เหมือนกันนะเนี่ย ทั้งๆที่ตอนแรกรู้สึกเฟลกับความ oxidize ของมันมาก
ตัวสุดท้ายแล้วววว NARS radiant creamy concealer #custardตัวนี้เป็นตัวที่เราหยิบใช้บ่อยที่สุดแล้ว ที่จริงแทบจะใช้แต่ตัวนี้เลยแหละ
- การ oxidize หรือเปลี่ยนสี ก็อย่างที่เห็นในรูปเลย ตัวนี้ก็จะ oxidize นิดหน่อยแต่มันดันเป็นสีที่ oxidize แล้วเข้ากับผิวเรามากๆ เราเลยชอบใช้ตัวนี้มากๆ
- ความติดทนนาน ตัวนี้ก็ติดทนนานมากกกกกกกกก เช่นกัน แต่ข้อเสียของมันเลยคือเมื่อไหร่ที่ทิ้งไว้เกิน 10 ชม. และหน้ามัน มันจะเป็นคราบแบบอย่างเห็นได้ชัดเลยอะ
- การตกร่องหรือการcreaseที่ใต้ตา ตัวนี้ก็ crease เหมือนกันนะ แต่เราก็คนพบวิธีที่จะไม่ให้มัน crease ละนะ เอาาอยากรู้อะเดดด ถ้าอยากรู้ก็บอกกันมาละกันเดี๋ยวจะเปิดเผยวิธีลับนี้ให้ 555555
- coverage หรือ ความปกปิด ตัวนี้ก็ปกปิดดีมากกก ความปกปิดมันกำลังพอดีอะ แบบคือปกปิดแต่ให้ความเป็นธรรมชาติอยู่ เนื้อก็ดีอยู่นะ