[REVIEW] 4 คอนซีลเลอร์แบรนด์ดัง ตัวไหนปัง☺ ตัวไหนพัง☹

17 12

อโลฮ่าาา ทุกคน! อย่างที่รู้จากชื่อละเนอะ วันนี้เราจะมารีวิวและทดสอบคอนซีลเลอร์กันนนนน คอนซีเลอร์ที่เราจะเอามารีวิววันนี้มีแบรนด์อะไรบ้างรุ่นอะไรบ้าง ไปชมจากรูปข้างล่างกันเล้ยยยยยก่อนอื่นเราขอออกตัวก่อนเลยนะว่าเราเป็นคนที่อาจจะรีวิวแล้วผลออกไปในแง่ลบหน่อยๆ เพราะเราคาดหวังไว้เยอะกับทุกตัวเสมอและส่วนใหญ่ทุกตัวจะมีทั้งข้อดีและข้อเสียของมัน การใช้คอนซีลเลอร์ของเราค่อนข้าง heavy duty เลยนะ ส่วนใหญ่เราจะทาตั้งแต่ 6 โมงเช้า แล้วกลับมาล้างออกตอน 2 ทุ่ม บร๊ะเจ้า 14 ชม. 5555555 แล้วก็เราจะค่อนข้างเน้นความเป็นธรรมชาตินะ ละบอกเลยว่าเวลาเราทาคอนซีลเลอร์เนี่ย ไม่เคยมีใครจับได้เลยว่าทา เพราะฉะนั้นเราจะเน้นเรื่องความธรรมชาติเป็นพิเศษ

product ที่เราจะมารีวิวในวันนี้มีดังต่อไปนี้:

  1. Maybelline Instant Age Rewind Eraser Dark Circles Treatment Concealer #light
  2. COLLECTION lasting perfection concealer #01 #03
  3. Urban Decay naked skin concealer #med-lightneutral
  4. NARS radiant creamy concealer #custard
โอ้โหหห แต่ละตัวมีแต่คำชมมากมายทั้งจาก beauty blogger และ youtuber ทั้งหลาย แต่วันนี้เราจะมาทดสอบให้เห็นกันแบบจะๆไปเลยว่า ตัวไหนปัง และ ตัวไหนพังถ้าใครอยากเรารีวิวแบบละเอียดแบบแต่ละตัว หรือถ้าอยากให้สอน trick ในการคอนซีลใต้ตาให้เป็นธรรมชาติหรือการกลบสิวให้มิดด้วยคอนซีเลอร์ ก็คอมเม้นกันมาเลยน้าาาาในการทดสอบคอนซีเลอร์ทั้ง 4 ตัวนี้เราจะใช้แบบทดสอบ 4 อย่างเป็นตัววัดคือ:
  1. การ oxidize หรือเปลี่ยนสี จะสวอชไว้บนแขนละทิ้งเอาไว้
  2. ความติดทนนาน วัดจากการใช้จริงบนหน้า แต่จะเซ็ตด้วยแป้งด้วย
  3. การตกร่องหรือการcreaseที่ใต้ตา ดูทั้งหลังทาทันที และหลังทาทั้งวัน
  4. coverage หรือ ความปกปิด
*สวอชของแต่ละตัวให้ดูที่ 2 อันบนน้าาา* เราเป็นคนท่ีขอบตาดำมากกกเลยนะเพราะเราเป็นภูมิแพ้ แล้วก็ใต้ตาค่อนข้างแห้งด้วย (ทั้งๆที่ผิวมันมาก-_-) แถมยังมีเส้นริ้วๆที่ใต้ตาด้วย เรียกว่าปัญหามาครบกันเลยทีเดียว concealerทั้งหมดนี้แต่ละตัวเราใช้มามากกว่า 2-3 เดือนแล้ว และรีวิวครั้งนี้ก็มาจากประสบการณ์จริงของเรา

ตัวแรก! Maybelline Instant Age Rewind Eraser Dark Circles Treatment Concealer สำหรับตัวนี้เราได้มาในสี light น้าา ก่อนอื่นไปดูที่เฉดสีกันก่อนเลย

  1. การ oxidize สำหรับ swatch ข้างบนคือ swatch ที่เราป้ายลงไปสดร้อนๆนะ และอันถัดลงมาคืออันที่ปล่อยทิ้งไว้สักพัก ตัวนี้ถือว่าไม่ค่อย oxidize นะเพราะปกติเราเป็นคนที่ทุกอย่างค่อนข้างจะ oxidize บนผิวเรา
  2. ความติดทนนาน ตัวนี้ติดทนน้อยที่สุดใน 4 ตัวที่เอามารีวิว แต่มันก็ไม่ใช่ว่าหลุดง่ายนะ ก็อยู่ได้ซัก  5  ชม. จากนั้นก็เลือนๆหายๆ ไปละ
  3. การตกร่องหรือการcreaseที่ใต้ตา ตัวนี้ตอนแรกที่ได้มาคิดว่ามันจะเนื้อครีมมี่ ชุ่มชื่นๆหน่อย แต่มันแอบเซทตัวแล้วแห้งอะ เนื้อคล้ายๆ NARS แต่ปกปิดได้น้อยกว่า ตัวนี้ถ้าเราทาชิดขอบตาเกินไปมันก็แอบมีตกเข้าไปในร่องบ้างนะ  ก็ crease พอๆกับ NARS แหละ
  4. coverage หรือ ความปกปิด เราว่าตัวนี้เป็น light to medium coverage เราเคยลอง layer เพิ่มเข้าไปแล้วแต่มันเหมือนจะไม่เพิ่มความปกปิดสักเท่าไหร่ทีแต่จะเพิ่มความสว่าง ตัวนี้เราไม่แนะนำให้เอามาปิดสิวนะเพราะมันให้ brightening  effect ซึ่งมันจะไปเน้นความนูนของสิวเรา ตัวนี้มันให้ความเป็นธรรมชาติดีนะกับใต้ตา ใครใต้ตาไม่คล้ำมากละอยากได้ลุคใสๆน่าจะชอบ ราคาก็ย่อมเยาว์ด้วยยย
ตัวนี้ใครงบน้อยละอยากเอามากลบแพนด้าก็ดีอยู่นะ เราว่ามันก็สมกับราคาดี แต่ถ้าอยากได้concealerถูกและดีมากลบรอยด่างดำบนหน้าเชิญไปที่ตัวถัดไปเลยจร้าาาา

ตัวที่ 2!!! COLLECTION lasting perfection concealer #01 #03สำหรับตัวนี้ ราคาถูกมากกกกกกก เพราะเราซื้อมาตอนช่วง 1 แถม 1 เว็บ Konvy.com คุ้มไปอี๊กกกกก*Tips* ถ้าอยากจะใช้ตัวนี้ให้ได้ผลดีที่สุดควรใช้นิ้ววอร์มผลิตภัณฑ์ที่หลังมือแล้วค่อยแตะนะ ห้ามใช่beauty blender เกลี่ยเด็ดขาด มันจะทำให้เป็นคราบอย่างแรง

  1. การ oxidize หรือเปลี่ยนสี ตัวนี้บอกเลยว่า oxidize หนักมากก มากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เห็นจากเบอร์ #03 ก็คงจะพอดูออกกันเนอะ ซึ่งช่วงแรกที่เราใช้ตัวนี้ เราก็มีปัญหาเกี่ยวกับการ oxidize ของมันเหมือนกันนะ เราเลยสอยเบอร์ #01 ตามมาทีหลังเพื่อที่จะเอามาผสมกัน (ถ้าใครอยากรู้ทริคในการทำให้ concealer ไม่ oxidize ก็บอกได้นะ เดี๋ยวจัดให้!)
  2. ความติดทนนาน ตัวนี้ติดทนนานมากกก ตอนสวอชนี้คือใช่ทิชชู่เปียกเช็ดยังไงก็ออกไม่หมด ยังมี stain เหลืออยู่เลย สำหรับบนใบหน้าตัวนี้จะติดทนค่อนข้างนานแต่ถ้าใช้ในส่วนที่หน้ามัน ก็ยังมีเป็นคราบบ้างระหว่างวัน ตัวนี้ถือว่าติดทนนานสุดใน 4 ตัวนี้
  3. การตกร่องหรือการcreaseที่ใต้ตา ตัวนี้เราแอบไม่ค่อยชอบเอามาใช้ใต้ตา เพราะเนื้อมันแห้งมากกกกก และมันก็ตกร่องง่ายมากกถ้าใครอยากให้ใต้ตาดูเป็นธรรมชาติก็ข้ามตัวนี้ไปเลย เพราะทาแล้วเห็นชัดมากว่าทา แต่เอามาทาส่วนอื่นของใบหน้าเช่นปิดสิว ได้ดีมาก
  4. coverage หรือ ความปกปิด 10 10 10 ไปเลยจ้าาา ปิดได้ทุกสิว แถมอยู่คงทนมาก ขอบอกว่า stain ของมันที่เราบอกว่าเช็ดไม่ออกอะ วันนี้ตื่นมาอาบน้ำ ก็ยังออกไม่หมดเลยยยย 5555555555

ตัวที่ฉามมมมม (3 ก็ได้แมะ55555) Urban Decay naked skin concealer #med-lightneutralบอกก่อนเลยว่านี่คอนซีเลอร์ตัวแรกที่เราซื้อ ละตอนแรกรู้สึกผิดหวังกับมันมากๆ

  1. การ oxidize หรือเปลี่ยนสี ที่ตอนแรกเราผิดหวังกับเจ้าตัวนี้นั้นเป็นเพราะเรื่องการ oxidize ของมันนี่แหละ แต่พอเราเริ่มรู้จักใช้ beautyblender กับ primer มันกลับไม่ค่อย oxidize แล้ว เราเลยคิดว่ามันน่าจะเป็นเพราะผิวเรา แต่คอนซีเลอร์ตัวนี้ก็ยังถือว่ามีปัญหาเรื่องการ oxidize อยู่ เพราะเราเคยเห็นคนอื่นบ่นอยู่เหมือนกัน
  2. ความติดทนนาน เราว่ามันค่อนข้างติดทนอยู่นะ เพราะด้วยสีของมัน เราเลยชอบเอามาปิดสิว ซึ่งขอบอกความดีงามของตัวนี้เลยนะว่าทาทิ้งไว้นานแค่ไหน หน้าจะมันแค่ไหน มันก็ไม่เป็นคราบเลยจ้าาาาาา โอ้ยคือดีย์ แต่มันก็หลุดระหว่างวันนะ
  3. การตกร่องหรือการcreaseที่ใต้ตา ตัวนี้เนื้อดีมากกกกก crease น้อยที่สุดเลยตัวนี้ คือเนื้อมันค่อนข้างเหลว ทาแล้วไม่รู้สึกว่ามันกองอยู่ที่ผิว ทาแล้วก็กลืนไปเลย
  4. coverage หรือ ความปกปิด ตัวนี้ก็ปกปิดได้ดีเลยนะแต่เราว่าเพราะความเหลวของ texture เลยทำให้มันอาจจะปกปิดได้น้อยกว่าเจ้าNARSนี๊ดดดดหน่อย นิดมากๆจริงๆ คือพอจะมาทำรีวิวแล้วกลับไปลองใช้ใหม่ นี่แอบหลงรักเจ้าตัวนี้เหมือนกันนะเนี่ย ทั้งๆที่ตอนแรกรู้สึกเฟลกับความ oxidize ของมันมาก

ตัวสุดท้ายแล้วววว NARS radiant creamy concealer #custardตัวนี้เป็นตัวที่เราหยิบใช้บ่อยที่สุดแล้ว ที่จริงแทบจะใช้แต่ตัวนี้เลยแหละ

  1. การ oxidize หรือเปลี่ยนสี ก็อย่างที่เห็นในรูปเลย ตัวนี้ก็จะ oxidize นิดหน่อยแต่มันดันเป็นสีที่ oxidize แล้วเข้ากับผิวเรามากๆ เราเลยชอบใช้ตัวนี้มากๆ
  2. ความติดทนนาน ตัวนี้ก็ติดทนนานมากกกกกกกกก เช่นกัน แต่ข้อเสียของมันเลยคือเมื่อไหร่ที่ทิ้งไว้เกิน 10 ชม. และหน้ามัน มันจะเป็นคราบแบบอย่างเห็นได้ชัดเลยอะ
  3. การตกร่องหรือการcreaseที่ใต้ตา ตัวนี้ก็ crease เหมือนกันนะ แต่เราก็คนพบวิธีที่จะไม่ให้มัน  crease ละนะ เอาาอยากรู้อะเดดด ถ้าอยากรู้ก็บอกกันมาละกันเดี๋ยวจะเปิดเผยวิธีลับนี้ให้ 555555
  4. coverage หรือ ความปกปิด ตัวนี้ก็ปกปิดดีมากกก ความปกปิดมันกำลังพอดีอะ แบบคือปกปิดแต่ให้ความเป็นธรรมชาติอยู่ เนื้อก็ดีอยู่นะ
ที่จริงแล้งตัวนี้ขอบอกเลยนะว่ามันไม่สุดสักทางแต่มันก็ดีมากเลยนะ คือถ้ามีไว้ก็อุ่นใจดีอะ เพราะมัน multi-purpose มากๆ ปิดสิวก็ได้ ใต้ตาก็ดี อยู่คงทนดีแต่ก็แอบเป็นคราบนิดหน่อย ใครอยากลองเริ่มใช้ concealer ละมีงบเราขอให้เริ่มที่ตัวนี้เลยยยยยย เอ่ออีกอย่างตัวนี้ความถี่ของเรนจ์สีมันค่อนข้างดีด้วยสำหรับผิวคนไทย เราคิดว่ามันไม่ได้ดีแบบหวือหวา แต่มันตอบโจทย์อะ คนเลยชอบกันเยอะสรุปๆๆๆๆ อยากได้แบบธรรมชาติใช้ใต้ตาได้ดีก็สอย urban decay กับ maybelline อยากได้concealer เอาไว้ปิดสิวก็สอย collection ถ้าอยากได้แบบค่อนข้างทำได้ดีทุกด้านก็สอย NARS โล้ดดดดดดอันนี้เราเขียนเป็นครั้งแรกเลยน้าา ถ้าอยากแนะนำหรืออยากให้รีวิวอะไรอีกก็เขียนบอกมาเลยน้าาาาาใครอยากไปอ่านงานอื่นของเราในอนาคตก็ไปดูได้ที่ web ที่เราเขียนไว้ใน info ของเราเลยนะ


HeSheIt site

HeSheIt site

Email: hesheitsite@gmail.com

FULL PROFILE