โตแล้วไปคนเดียวได้ #เชียงใหมหน้าฝน @อยู่ดินกินดีฟาร์มสเตย์
Aor_napapat 8 2สวัสดีคะ พอดีช่วงวันหยุดยาว 28-30 กค. เราจองตั๋วเครื่องบินไปเชียงใหม่คนเดียว 5555 ไปคนเดียวจริงๆค่ะ บางทีเราก็อยากอยู่กับตัวเองบ้าง จริงๆมันแค่คำปลอบใจต่างหาก ตั้งแต่อยู่เป็นโสดมานี้ เราเริ่มทดลองกินข้าวคนเดียว เดินเล่นคนเดียว ดูหนังคนเดียว ช่วงแรกๆอาจเก้ๆกังๆบ้าง แต่ตอนนี้เริ่มชินแล้วแหละ แล้วตอนนี้ฉันกำลังจะอัพเลเวลความโสดด้วยการลองเที่ยวคนเดียวดู ฉันจองที่พักไว้ที่ อยู่ดินกินดีฟาร์มสเตย์ เห็นรีวิวใน agoda ค่อนข้างโอเค ดูเงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อน สิ่งที่พกไปแบบขาดไม่ได้เลยคือ ขาตั้งกล้อง แหะๆ พอถึงสนามบินเชียงใหม่ก็เช่ารถเลยคะ วันแรกเราเที่ยวในเมืองไหว้พระขอพรก่อน ส่วนวันที่สองนี่แหละค่ะ highlight ของทริปนี้
ฉันขับรถตรงไปแม่ริม เปิด GPS ไปที่ อยู่ดินกินดีฟาร์มสเตย์ ตอนขับเข้าซอยไปนี่เริ่มลึกเรื่อยๆ ใจนี่ตกไปอยู่ตาตุ่มละว่ามาถูกทางไหม ดีที่ยังสังเกตุเห็นป้ายบอกทางอยู่ ขับไปจากทางลาดยางกลายเป็นทางลูกรัง นี่ถ้าตาม GPS อย่างเดียวไม่เห็นป้ายบอกทางเราเลี้ยวรถกลับแน่ค่ะ ไม่นอนมันละ แต่พอถึงนี่ยิ้มออกเลยค่ะ มันฟินมาก คือสวยแบบสงบ ร่มรื่น พี่เจ้าของเป็นกันเองมากค่ะ
สิ่งที่โดดเด่นของที่นี่คือบ้านดินค่ะ เราชอบแนวคิด การตกแต่ง การเลือกใช้ชีวิตอยู่ของพี่ๆเจ้าของที่นี่ เราเข้าไปถึงก่อนใครเพื่อนเลยคะ ไปถึงตอนบ่ายสองพอดี ไม่มีใครเลย ได้โอกาศตั้งกล้องสิค้าบพี่น้อง เราชอบมากเลยอะ ทุกอย่างในนี้พี่เขาปลูกเอง มีข้าว มีผลไม้ มีปลา มีที่ให้นั่งสูดอากาศบริสุทธิ์ได้เต็มปอด ถึงเราจะมาคนเดียวแต่ไม่เหงาเลยนะ มันเหมือนอยู่บ้านตัวเองเลยคะ วิ่งเล่น ดูนั่นดูนี่ มีความสุขอะ
ตอนเย็นไม่มีอาหารค่ะ พอดีทางฟาร๋มสเตย์ไม่ได้จัดของ เราเลยต้องออกไปกินข้าวข้างนอก ขับไปเรื่อยๆไปเจอร้านนั่งเล่นริมธาร เป็นร้านกาแฟข้างแม่น้ำ สวยมากค่ะ นั่งไปฟินไป แต่ร้านปิดหกโมงเย็น เราไปก็ห้าโมงครึ่งละ นั่งได้แปปเดียวก็รีบกลับ จริงๆยุงเยอะด้วยหละ เดี๋ยวตัวแดงพอดี ที่นี่เราไม่ได้ถ่ายรูปไว้เพราะรีบกินรีบกลับ 5555
พอกลับมาถึงฟาร๋มสเตย์ ก็ได้ยินเสียงเปียโน ตอนแรกเข้าใจว่าเปิดเพลง เดินไป อ้าว พี่เจ้าของฟาร๋มเขาเล่นเอง เราก็เลยเดินขึ้นไปนั่งบนดาดฟ้า ลมเย็นๆฟังเพลงดีๆ มันฟินมากเลยอะ พอตกกลางคืนนี่เรานั่งฟังเพลงจากมือถืออยู่หน้าบ้านเลย จริงๆเรานอนไม่หลับค่ะ มันมีทั้งเสียงนก เสียงจิ้งหรีด เสียงอะไรก็ไม่รู้ชัดไปหมด ต้องใช้เวลาทำตัวให้ชิน ต้องทำให้ตัวเองง่วงมากถึงมากที่สุดอะ ถึงจะนอนให้ไม่ได้ยินเสียงพวกนี้ได้ บังเอิญบ้านที่เราพักมีที่นั่งอยู่ตรงแม่น้ำพอดี มีไฟดวงนึง หมาตัวนึงนั่งเป็นเพื่อนเราดูดาวไป ถ้าอกหักนี่นั่งน้ำตาไหลแน่เลยเรา
ตอนเช้ามีอาหารเช้าให้ค่ะ เป็น American brakefast แล้วก็กาแฟอุุ่นๆ เราชอบตรงที่ทานอาหารเช้ามากเลยอะ เขาตกแต่งได้แบบตรงใจเราเลย
หลังจากทานข้าวเสร็จก็เดินเล่นรอบๆอีกครั้ง ซึมซับความฟินก่อนกลับมาทำงานเหนื่อยๆที่กรุงเทพต่อเนอะ กลับมายืนเบียดบนรถไฟฟ้า กลับมาเจอรถติดแม้กระทั่งบนทางด่วน กลับมาเจองานที่มีปัญหา กลับมาเจอหน้าคนที่ไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าเขาอีกครั้ง 555 โอ๋ๆๆๆ ไม่ดราม่านะ ปลอบใจตัวเองก็เป็นนะเราอะ
คิดว่าคราวหน้าคงแวะมาที่นี่อีกค่ะ คือนอกจากความสงบแล้ว ยังมีความเป็นกันเอง อากาศดีๆ ผู้คนไม่พลุกพล่าน เราเดินไปด้านหลังเห็นมีเล้าไก่ด้วย ไก่เต็มเลย 555 ที่นี่มี wifi ด้วยนะ สัญญาณโทรศัพท์ก็มีค่ะ มันไม่ได้ไกลจากตัวเมืองมาก ขับรถไปก็ไม่ได้ลำบากมากมายนัก ไม่ต้องสมบุกสมบัน แต่ได้ความฟินกลับมาครบ สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งไดร์เป่าผม ทีวี ตู้เย็นมีครบ ให้คะแนนเต็ม 10 เลยค่ะ