MAKE UP FRESH : มาแต่งหน้าสดให้สดชื่นไปทั้งวันกัน !

สวัสดีค่ะ วันนี้แก้วกลับมาตั้งกระทู้อีกรอบนึงค้าเรื่องของเรื่องก็คือ ช่วงนี้แก้วทำงานติดต่อกันนานหลายชั่วโมงค่ะ แล้วช่วงเวลาที่ทำงานก็ยังคงเป็นช่วงที่ทำให้รู้สึกล้าได้เหมือนเดิม เพราะแก้วเริ่มงานประมาณเที่ยง แล้วก็ตียาวไปจนถึงประมาณสี่ทุ่มค่ะ ช่วงเวลาทำงานนี้ ทำให้แก้วค้นพบว่านอกจากใจเราจะรู้สึกล้าแล้วนั้น หน้าเราก็จะดูล้าและโทรมเร็วขึ้นด้วยค่ะ  สาเหตุที่โทรมนั้น เป็นเพราะหน้าหมอง และเริ่มมีสิวผด สิวอุดตันขึ้นเป็นบางจุด เนื่องจากแต่งหน้าติดต่อกันนานหลายชั่วโมงเกินไป ผิวไม่ได้หายใจเท่าที่ควรค่ะ แต่ทำไปทำมา แก้วก็ค้นพบวิธีแก้ตรงนี้ค่าาา  ก็คือเมื่อแก้วแต่งหน้าให้บางลง เหมือนมันทำให้ผิวหายใจได้ดีขึ้นค่ะ จบงานวันนั้นไปแล้ว หน้าจะไม่ดูล้าดูหมอง และไม่อิดโรยเท่ากับตอนที่ลงเครื่องสำอางหนาๆ และที่สำคัญคือลดโอกาสการเกิดสิวอุดตันด้วยค่ะเพราะฉะนั้น ครั้งนี้แก้วจะมารีวิวเกี่ยวกับการแต่งหน้าสไตล์ธรรมชาติ ที่แก้วชอบแต่งเป็นการส่วนตัว มาแชร์เพื่อนๆค้า ซึ่งจะเป็นวิธีที่เหมาะสำหรับเพื่อนๆที่กำลังมองหาการแต่งหน้าเบาๆ หรือมีเวลาเร่งด่วนยามเช้าค่ะข้อดีก็คือจะใช้ไม่กี่ไอเท็มเท่านั้นในการแต่ง ใช้เวลาแต่งไม่นาน ช่วยประหยัดเวลา ผิวยังหายใจได้ค่ะ และเรทราคาแต่ละไอเท็มที่แก้วรีวิวครั้งนี้จะอยู่ในช่วงเรทกลางๆค่ะ -- แต่แน่นอน ว่าถึงแต่งไม่เยอะ แต่ยังช่วยเสริมให้หน้าเราไม่โทรมเป็นซอมบี้ได้อยู่ค้าอ่ะ มาเริ่มกันดีกว่า ~ไอเท็มที่แก้วใช้ทั้งหมดจะมีตามนี้ค้า

มาเริ่มจากขั้นตอนแรกสุดของการแต่งหน้าค่ะ ก่อนลงแต่งหน้า สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับแก้ว คือตัวบำรุง และตัวกันแดดดีๆค่ะ เพราะผิวหน้าของเราต้องการสิ่งบำรุงดีๆก่อนที่จะออกไปเผชิญโลกทั้งวันเหมือนกันค่ะ และบอกไว้เลยนะคะ การที่เราละเลยครีมกันแดด มันเป็นความผิดพลาดมหันต์ ! จริงๆนะ !เพราะรังสี UV-A และ UV-B สามารถทำร้ายผิวเราได้ลงลึกถึงผิวชั้นใน ทำให้คอลลาเจนถูกทำลาย เกิดเป็นริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้ รวมไปถึงทำให้ผิวเราหมองคล้ำได้สุดๆอีกเหมือนกันค่ะ นอกจากนี้ ยังทำให้หน้าเราเป็นฝ้าได้สุดๆอีกด้วย แต่ที่สุดกว่านั้นก็คือ การรักษาที่หายช้ามากกกเพื่อป้องกันความเสียดายอันเจ็บใจทั้งหมดทั้งมวล ควรหาครีมกันแดดดีๆติดตัวเอาไว้ค่ะ สมมติเพื่อนๆคนไหนเป็นคนที่ไม่ชอบลงสกินแคร์เยอะแยะ อย่างน้อย ก็ต้องทากันแดดไว้ก่อนค่ะซึ่งส่วนตัว แก้วเพิ่งจะได้มีโอกาสลองผลิตภัณฑ์ครีมกันแดดตัวใหม่ค่ะ เป็นตัวล่าสุดที่ได้ลองใช้  เป็น Tomato Mousse Sunscreen กันแดดมูสมะเขือเทศ มี SPF50 PA+++ ค่ะ ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ได้มาในรูปแบบครีมโลชั่น แต่มาเป็นมะเขือเทศในรูปแบบเนื้อมูสค่ะ

เนื้อมูสจะมาเป็นสีชมพูอ่อนๆแบบนี้ กลิ่นหอมมาก และเนื้อสัมผัสนุ่มมากกก เคลมว่าในเนื้อมูสมีสารสกัดไลโคปีนจากมะเขือเทศ ซึ่งมีสรรพคุณทำให้ผิวผ่องใส อมชมพู ลดริ้วรอย และสามารถป้องกันรังสีUVได้ในตัวค่ะครีมกันแดดนี้จะถูกออกแบบมาให้เป็นเนื้อมูส ที่สามารถอยู่ติดทนได้นาน และเป็นได้ถึง 4 อย่างในหนึ่งเดียวค่ะ นั่นคือเป็นทั้งตัวบำรุง ครีมกันแดด เบสแต่งหน้า และแป้งค่ะ  เหมาะสำหรับเพื่อนๆที่มีชั่วโมงเร่งด่วนในยามเช้า หรือเพื่อนๆคนไหนที่อยากทำทุกขั้นตอนเสร็จภายในครั้งเดียวค่ะตัวเนื้อมูสตอนทา จะทาง่าย เกลี่ยง่าย และไม่เป็นคราบค่ะ เพียงแต่เพื่อนๆต้องเกลี่ยให้ดีๆสม่ำเสมอนะคะโดยส่วนตัวแก้วเป็นคนผิวผสม และเป็นคนผิวขาวค่ะ จากการใช้แก้วทาแล้ว หน้าแก้วก็ไม่ได้วอกนะคะ แต่ขาวขึ้นเหมือนเราลงเบสและแป้งตามปกติ  ที่สำคัญคือทาแล้วไม่หนักหน้า และหน้าไม่มันระหว่างวันค่ะ

จะว่าไปแล้ว อีกประเด็นหนึ่งที่เป็นปัญหาสำหรับเราทุกคนก็คือ เราไม่สามารถเติมครีมกันแดดระหว่างวันได้ เพราะมันไม่สะดวก และเหนือสิ่งอื่นใด ก็คือ มันเป็นไปไม่ได้  เพราะไม่มีใครอยากจะลบเครื่องสำอาง(ที่อุตส่าห์แต่งมาแล้ว!)ทั้งหมด แล้วมาลงครีมกันแดดใหม่ตั้งแต่เริ่มแรกผลิตภัณฑ์ตัวนี้ก็เลยทำให้แก้วอยากทดลองใช้เติมระหว่างวันดูค่ะหนึ่งในกฏของลูกผู้หญิง ก็คือ มันเป็นการทดลองเนอะ ไม่ลองก็ไม่รู้เนอะ เนอะ เนอะ ~

ปรากฏว่าสามารถเติมระหว่างวันได้ค่ะ ตอนเกลี่ยต้องแน่ใจก่อนนะคะว่านิ้วมือสะอาด และต้องเกลี่ยระวังนะคะ ดูดีๆว่าสม่ำเสมอมั้ย หน้าจะขาวขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยค่ะ เพราะฉะนั้นอย่าลงเยอะ หรือบ่อยเกินไปนะคะ และถ้าใครลงบลัชออนมา บลัชออนจะถูกลบหายไปนะคะ  อาจจะต้องเติมเพิ่มนิดนึงค่ะ

ใครที่มองหากันแดดเวอร์ชั่นล้ำๆ เป็นได้ถึง 4 อย่าง 4 สเต็ป ในเพียงหนึ่งขั้นตอน และมีประสิทธิภาพกันแดดที่ดีจริงๆ  สามารถลองดูตัวนี้ได้ค่ะ แก้วแนะนำๆแต่ถ้าหากเพื่อนๆคนไหน ใช้ครีมกันแดดที่ไม่ได้ลงเป็นเบสกับแป้งในตัว หรือใช้ตัวนี้แล้ว อยากจะลงคอนซีลเลอร์เพิ่ม ก็ลงได้นะคะ ไม่มีปัญหาค่ะส่วนตัวแก้วไม่ชอบลงหน้าหลายตัว ถ้ามีเบสลง ก็อยากจะลงแค่บางๆค่ะ  ถ้าเพิ่มขึ้นมา ก็จะขอเพิ่มคอนซีลเลอร์แค่บางจุดก็พอ จัดมันไปเลย ใต้ตาแพนด้า รอยสิวบางจุด จิ้วๆ ~ มันเป็นเรื่องส่วนตัวที่คนอื่นไม่ต้องรู้ว่าเรามี ฮ่าาาล่าสุดมีคนแนะนำคอนซีลเลอร์ตัวนี้มาค่ะ Primer Teint Concealer SPF20 ของแบรนด์ SOLAแก้วอยากลองใช้เพราะกิตติศัพท์ว่าไม่มัน เกลี่ยง่าย ไม่เป็นคราบระหว่างวัน และมี SPF20 ค่ะ ซึ่งจากการใช้ก็เป็นจริงอย่างที่เค้าเคลมกันจริงๆ ใช้ง่ายมากค่ะ พอใจมากๆ

หลังจากลงหน้าไปแล้ว ก็มาลงคิ้วกันค่ะถ้าเมื่อก่อนมีคนถามว่าส่วนไหน เป็นส่วนแต่งหน้าที่แก้วขาดไม่ได้ แก้วคงตอบว่าอายไลน์เนอร์ เพราะเห่อการกรีดตามาก  แต่มาตอนนี้ ต้องตอบว่าคิ้วค่ะ ฮ่าาา  ก็อย่างที่เรารู้ๆกันอยู่แล้วเนอะ ว่าคนคิ้วไม่แรง พอไม่แต่งคิ้วแล้ว จะออกมาเป็นยังไงข้ามๆ แก้วไม่พูดถึงตอนไม่เขียนคิ้วดีกว่า ลงรายละเอียดกันแค่เขียนคิ้วเนอะ จะได้ไม่ถูกทำร้ายทุกวันนี้แก้วใช้ 3 ตัวค่ะ คือ IN2IT waterproof Eyebrow Colour, ดินสอเขียนคิ้ว Catrice Eye Brow และ Essence Eye Brow Gel Mascara 

สาเหตุที่ยอมใช้เวลาแต่งส่วนนี้เยอะ ไม่ใช่เพราะมีปมคิ้วน้อยนะคะ แต่รู้สึกว่ายอมทำ 3 สเต็ปแล้วมันออกมาดูเป็นธรรมชาติค่ะ อาจจะฟังดูเยอะ แต่พอทำจริงๆ จะเร็วมากค่ะเริ่มจากลง IN2IT waterproof Eyebrow Colour เพื่อให้ส่วนคิ้วถูกเติมสีให้เต็มสม่ำเสมอ ทั่วถึงทั้งหมดค่ะ -- ในส่วนนี้ เราไม่จำเป็นต้องลงสีให้ได้เป็นรูปร่างเวอร์ๆค่ะ ที่เราต้องการคือลงสีให้ทั่วถึงเท่านั้นจากนั้นถึงมาใช้ ดินสอเขียนคิ้ว Catrice Eye Brow มาเขียนให้ได้เป็นรูปโครงร่างของคิ้วค่ะ ซึ่งแก้วเลือกเป็นสี 020 Date With Ash-ton ที่เลือกสีนี้ เพราะนอกจากเข้ากับสีผมตัวเองแล้ว ก็เป็นเพราะชื่อด้วยค่ะ อ่านแล้วนึกถึง Ashton Kutcher รู้สึกดี เหมือนเขียนคิ้วไปเดทกับพ่อหนุ่มแอช (ไม่เกี่ยว แต่อยากบอกค่ะ)ซึ่งในส่วนนี้ จะขึ้นกับว่าเพื่อนๆอยากให้โครงสร้างคิ้วตัวเองออกมาเป็นสไตล์ไหนนะคะ ลองหัดเขียน และเปลี่ยนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอรูปคิ้วที่ตัวเองชอบค่ะ  แบรนด์นี้แก้วว่าเขียนง่าย ปัดง่าย สีสม่ำเสมอดีค่ะจากนั้นก็ปัด Essence Eye Brow Gel Mascara เพื่อให้ขนคิ้วดูเป็นธรรมชาติค่ะ ขั้นตอนนี้อาจจะข้ามไปก็ได้ แต่ถ้าทำแล้วมันจะดูธรรมชาติจริงๆน้า  ตัวนี้ปัดง่าย ใช้ง่ายค่ะ ลองกันได้

จากนั้นก็มาถึงส่วนของตา  ตัวแก้วเองเคยลงอายแชร์โดวเยอะๆไปทำงาน แต่ขอพูดตามความจริงนะคะ เมื่อเทียบกับตอนลงเบาๆ แก้วรู้สึกสบายหน้าขึ้น และหน้าไม่ดูหมองตอนเลิกงาน 4 ทุ่มจริงๆ  ก่อนหน้านี้ไม่ใช่เพราะโทนสีพลาด หรือสีหลุดนะคะ แต่แค่ลงหนักเกิน บางครั้งก็ทำให้หน้าเราดูเหนื่อยง่ายได้แก้วเลือกเป็นเฉดนู้ดของ Maybelline NY ค่ะ พาเลทนี้สีจะไม่แรงแซงทางโค้งเหมือนรุ่นอื่นนะคะ แต่ถ้ามองหาสีเบาๆ แต่ติดทน แก้วแนะนำรุ่นนี้ค่ะหลังๆแก้วชอบสีทองๆ เพราะหน้าดูสว่างดีค่ะ  ตอนลงแก้วลดจากหลายสี เหลือแค่สีเดียว เอาแบบนั้นเลย ฮ่าาาาจากนั้นก็ลงอายไลน์เนอร์ค่ะ ซึ่งถ้าเป็นการแต่งหน้าธรรมชาติ แก้วเห็นด้วยกับคำว่ายิ่งกรีดบาง ชิดติดขอบตาได้แค่ไหน ยิ่งดูทำให้ตาโตขึ้น(นิดนึง) กับธรรมชาติมากขึ้นเท่านั้น แก้วก็เลยกรีดบางค่ะ ล่าสุดลองของ IN2IT ไป กรีดง่ายนะคะ ไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้นเลย ใช้ดีค่ะจากนั้นก็ปัดมาสคาร่าตามปกติค่ะ ดัดขนตา แล้วปัดมันซะ  ซึ่งแก้วไม่ใช้ขนตาปลอมค่ะ

จากนั้นขั้นตอนง่ายค่ะ บลัชออน ~

    แก้วเลือกโทนนู้ดชมพูค่ะ  เพราะอยากให้สีชมพูช่วยขับสีบนหน้าเบาๆมากกว่าเป็นปื้ดๆ

    ตอนนี้ลองของ Color Show Blush Meybelline NY ค่ะ ตัวนี้ปัดแล้วสีไม่แรง แต่ออกไปทางช่วยให้หน้ามีลุคดูอมชมพู ใสๆ ค่ะ

    จากนั้นลงลิปบาล์มกับลิปสติกสีที่ต้องการได้เลยค่ะ

    ซึ่งตอนนี้แก้วใช้ลอปบาล์ม 2 แบรนด์ ก็คือ Skinplants และ Burt's Bees Pomegranate ค่ะ พอดีบ้าสายธรรมชาติ เลยสอย 2 ตัวนี้มาใช้ค่ะ อิอิ  เอาอยู่มาก เวลาไปอยู่ที่เย็นๆ ไม่ปากแห้งระหว่างวันเลยค่ะ

    จากนั้นก็ลงสีลิปที่ชอบไปได้เลยค้า 

เสร็จแล้ววว แต่งหน้าแบบไวๆ เบาๆ เน้นสายธรรมชาติค่ะใครที่กำลังมองหน้าวิธีการแต่งหน้าง่ายๆเร็วๆ ไม่หนักหน้า และไม่ทำให้หน้าล้า ลองเอาไปใช้กันได้นะค้า ที่สำคัญ ดื่มน้ำระหว่างวันเยอะๆด้วยนะคะ เพราะน้ำเป็นตัวสำคัญของการบำรุงผิวให้ดูไม่ล้าค่ะขอบคุณมากค้า ที่แวะมาอ่านกระทู้แก้วกันไว้เจอกันใหม่ค่ะ 

Discussion (2)