(รีวิว) แชร์ประสบการณ์สักคิ้ว 3 มิติเสริมโหวงเฮ้ง VS ลบรอยสักคิ้วสามมิติ

8 3

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ทุกคน  มาดามหรืออ้อยเองนะคะ  วันนี้เราก็จะมารีวิวสักคิ้วสามมิติเสริมโหวงเฮ้ง และมาแก้ทรงใหม่ที่ร้าน  Blink eyebrow  ย่านสาธุประดิษฐ์ 53  ก่อนอื่นเรามาดูรูปก่อนแก้ทรงใหม่-หลังแก้ทรงใหม่กันค่ะ

เมื่อประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว  เราเคยสักคิ้วสามมิติจากหาดใหญ่ ตอนนั้นทำงานอยู่ที่ใต้ค่ะ ช่วงนั้นเป็นช่วงแรกๆ ที่คิ้วสามมิติเข้ามาใหม่ๆ และไม่ฮิตมากเหมือนทุกวันนี้  สมัยนั้นจะมานั้งหารีวิวอ่านข้อมูลเหมือนเดี่ยวนี้ก็หายากเต็มทนนะคะ ตอนนั้นที่เคยทำมันเจ็บมากจนต้องเอามือจับเตียงตอนที่สักคิ้วเลย และมีรอยเลือดที่คิ้วตอนนั้นด้วย และปฏิญาณตนว่าจะไม่ศัลยกรรมบ้าบออะไรในชีวิตอีกแล้ว T_T

คิ้วที่ทำครั้งแรกจากหาดใหญ่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว  เราไม่ชอบรูปคิ้วที่ทางร้านเขียนให้  ทำคิ้วเรายังกับโค้งคันธนูเลย (แต่ถ้าไม่สังเกตมากจนไม่จ้องคิ้วเรา หลายคนจะมองไม่ออกว่ามันโค้งเลย)  ซึ่งแฟนก็ชอบแซวเราบ่อยๆว่าโค้งเหมือนไปเล่นงิ้ว T_T  

กลับมาที่รูปคิ้วก่อนไปสักร้านคิ้วที่ร้าน Blink eyebrow สังเกตปลายคิ้วโค้งไหมท่านผู้ชม ! ปลายคิ้วคือรอยสักนะ เพราะเดิมเราเป็นคนไม่มีหางคิ้ว (สังเกตมีร่องรอยสีจางๆ จากที่เคยสักคิ้วจากร้านอื่นมาก่อนนะคะ)

  • การที่ได้มารู้จักร้านนี้ คือ  ต้องขอบคุณน้องจ๋า รุ่นน้องในทีมที่เป็นนักเขียนด้วยกัน คือน้องเป็นคนรักสวยรักงามมาก แล้วน้องก็เห็นเราเป็นพวกสายบิ้วตี้เหมือนกัน น้องเพิ่งไปสักคิ้วมา  และแนะนำให้ไปร้านนี้เพราะเค้าจะสักเสริมโหวงเฮ้งด้วย น้องคงทนเห็นคิ้วที่โค้งๆ แบบคันธนูแบบเราไม่ไหวมั้ง  สักมาปุ๊บก็มาแนะนำเราเลย

  •  เราก็ตัดสินใจอยู่นานมากกว่าจะไป เพราะยังจำความรู้สึกเจ็บที่เคยสักในครั้งแรกจากที่อื่นได้ขึ้นใจเลย  แล้วเราก็กลัวร้านนี้จะแก้คิ้วให้เราไม่สวยและดูเละเทะไปกว่าเดิมด้วย  แต่ที่กลัวมากสุดก็กลัวเจ็บนี้ล่ะ  แต่ด้วยน้องที่บอกว่าไม่เจ็บ  และคิดว่าน้องคงไม่โกหกเรา  บวกกับเบ้าหน้าที่ดีของน้อง  อย่างน้อยคิ้วน้องก็เป็นเครื่องการันตีให้เราได้ เลยชวนแฟนไปเป็นเพื่อนค่ะ พอบอกแฟน....แฟนก็สนับสนุนมาก 555 เพราะคงขี้เกียจมาแซวเรื่องคิ้วคันธนูเราแล้วมั้ง 55555

  • อันนี้คือตั้งใจมาก ถ้าเราไปสักคิ้ว แก้คิ้วใหม่ จะมาเขียนกระทู้รีวิวให้คนอื่นเป็นประสบการณ์  เพราะไม่อยากให้ใครเจอประสบการณ์ที่สักเจ็บๆ และเป็นงิ้วแบบที่เราเจอในครั้งแรก

  • สภาพภายในร้าน Blink eyebrow  จะมีเตียงทั้งหมด 3 เตียง มีช่างสักคิ้ว 2 คน ชื่อพี่ส้ม กับพี่เล้ง ซึ่งที่เราสอบถามทางร้านก่อนไปสักคิ้ว พี่ส้มจะเป็นบิวตี้อาร์ทติก  ส่วนใหญ่จากที่เรามีประสบการณ์ คือช่างที่เป็นบิวตี้อาร์ทติกจะรู้จักโครงหน้าของคนอย่างดี  เพราะเขาจะเรียนแต่งหน้ามา รู้ว่าคนไหนควรทำคิ้วแบบไหน แต่งหน้าแบบไหนถึงจะเข้ากัน  แล้วอีกอย่างคือพี่ส้มก็เปิดสอนคอร์สแต่งหน้าด้วย ก็คิดว่ายังไงคงไม่ทำให้เราผิดหวัง (ในใจก็ลุ้นๆ เหมือนกันว่าแก้คิ้วแล้วคิ้วจะสวยขึ้นเหมือนที่อยากได้ไหม T_T )

  • อย่างช่วงที่เราไปรอสักคิ้ว  ก็มีอาเจ้ท่านหนึ่งสักอยู่พอดี เลยถามอาเจ้ว่าเจ็บไหม  อาเจ้ก็บอกว่าไม่เจ็บเลย เออ ! อย่างน้อยก็ดีที่มีอาเจ้ที่ไม่รู้จักคนนี้แกอุส่าห์คอนเฟิร์มให้ว่าไม่เจ็บเลย !

  • อ้อ ! ถึงคิวเราแล้ว ในใจก็อุ่นใจกับอาเจ้คนนั้นนี่ล่ะ และก่อนขึ้นเขียง พี่ส้มก็ให้เราเลือกดูแบบคิ้วที่เขาทำเป็นโมเดลคิ้วลายเส้นต่างๆ ทั้ง 3 มิติ 6 มิติ แบบนี้นะคะ

  • จากนั้นพี่ส้มก็ถามว่าเราเกิดปีอะไร เพื่อดูตารางธาตุในราศีเกิด พร้อมดูว่าปีเกิดเราเหมาะกับการใช้สีอะไร อันนี้ลืมถ่ายรูปตารางสีมาอ่ะ  T_T   ต่อมาพี่ส้มก็จับเรามาจัดโหวงเฮ้งหน้า ขีดๆ เขียนๆ เพื่อแบ่งสัดส่วนหน้า (ตามในรูป)

  • พี่เขาก็กันคิ้วเรา  และนำเอาดินสอเขียวคิ้วที่เป็นสีเหมือนจริงที่จะสักคิ้วมาทดลองวาดแบบให้เราดูแบบคิ้วว่าเราชอบไหม ซึ่งพี่เขาจะเขียนให้ดูทั้ง 2 ฝั่ง คือ ซ้าย-ขวา ซึ่งเป็นแบบคิ้วเกาหลี และคิ้วไทย (จำไม่ได้ว่าเรียกว่าคิ้วทรงไทยไหมนะ)  แต่เราชอบคิ้วแบบไทยมากกว่าเพราะทำให้เราดูหน้าสวยคมขึ้น  และเราก็ถามแฟน แฟนก็บอกว่าคิ้วแบบไทยมันเข้ากับหน้าเรามากกว่า และก่อนคอนเฟิร์มแบบคิ้วก็ให้พี่ส้มซึ่งเป็นเจ้าของร้านช่วยตัดสินใจให้อีกรอบ พี่เขาก็แนะนำเป็นคิ้วไทย ซึ่งจะดูรับกับรูปหน้าเรามากกว่า จะช่วยให้ใบหน้าเราดูสวยเฉี่ยว คม และดูมั่นใจขึ้น

  • คำแนะนะส่วนตัว  สำหรับใครที่ไม่มั่นใจในการสักคิ้วในร้านที่ไม่เคยใช้บริการ  เราแนะนำว่าเวลาไปสักคิ้วสามมิติ พยายามพาเพื่อนหรือแฟนไปด้วยค่ะ เพราะจะได้มีตัวช่วยในการเลือกแบบคิ้ว หรือให้กำลังใจยามที่เรากลัวได้ดี

  • ก่อนขึ้นเขียง ก็จะต้องใส่หมวกเพื่อกันเชื้อ และทายาชา

  • จะบอกว่าเป็นไปได้ไงที่ไม่เจ็บ  แต่ก็ไม่เจ็บจริงๆ นั้นแหละ !  แต่เราจะสัมผัสได้ซึ่งเสียงที่ดังครูดๆ ออกมาตลอดเวลาที่กำลังสักอยู่  แต่เนื่องจากผิวเราบอบบางแพ้ง่ายมาก ผิวเลยจะไวกับทุกอย่าง  พี่เขาเลยหมั่นเติมยาชาให้บ่อยในบางจุดที่เราบอกว่าเริ่มรู้สึกเจ็บ อีกอย่างพี่เขาจะถามตลอดว่าเจ็บไหมคะ ซึ่งทำให้เราไม่รู้สึกเกร็งที่จะบอกเขาไป

  • อันนี้คือเรากล้าคอนเฟิร์มเลยว่าใครกลัวเข็ม กลัวเจ็บแบบเรา ฝีมือช่างมือเบามาก ทำออกมาได้ถูกใจมาก และพี่เขาก็ลบรอยสักเดิมที่เป็นคันธนูให้เราด้วย ตอนนี้แทบไม่มีเห็นรอยเดิมเลย

  • โอ๊ย!! คราวนี้สักเสร็จมาถึงบ้าน  บอกเลยช่วง 3 วันแรก แสบๆ คันๆ ยุกยิกๆ เลย แล้วเราก็ไม่ควรที่จะให้คิ้วโดนน้ำด้วย เพราะเดี่ยวสีติดไม่ทน ลายเส้นไม่สวย

3 วันถัดมา คิ้วที่สักก็แห้งสนิท รอยสักตกสะเก็ดออกมา สีคิ้วที่สักหลุดลอกออกเป็นแผ่นในวันที่ 6 คราวนี้ตกใจล่ะว่าคิ้วชั้นไปทำมาหลักพัน ไงเป็นงี้ เลยไลน์ถามเจ้าของร้าน !?!  เจ้าของร้านตอบมาตอนนั้น ! สบายใจเลย คือ รอให้คิ้วที่สักหลุดลอกหมด สีจะจางหายไป  พอสีผ่านไปหนึ่งเดือนสีจะกลับมาใหม่และดูเป็นธรรมชาติ

คราวนี้ผ่านมาครึ่งเดือนสีโผล่มาแล้วจ้า แต่ต้องรอติดตามชมให้เต็มหนึ่งเดือนว่าสีจะออกมาประมาณไหน แล้วเดี่ยวรอให้ครบหนึ่งเดือน เราจะเอารูปมาฝากต่อเนอะ ! อันนี้รูปที่สักคิ้วปัจจุบันค่ะ


Madam Beautiful

Madam Beautiful

สวัสดีค่ะ..ต้นอ้อยเองค่ะ หรือ Madam Beautiful (มาดาม บิวตี้ฟูล) ปัจจุบันต้นอ้อยเป็นนักเขียนอิสระ ทำงานเต็มเวลา มีผลงานเขียนบทความ/Content สุขภาพ ความงาม แฟชั่น สไลฟ์สไตล์ อื่นๆ ให้แบรนด์สินค้าชั้นนำหลายแบรนด์ เพื่อนๆ คนไหนชื่นชอบงานเขียนบทความ/Content หรือ (รีวิว) ทำอาหารเพื่อสุขภาพของต้นอ้อย สามารถติดตามผลงานต้นอ้อย ได้ที่

แฟนเพจ : Madam Beautiful
Youtube : Madam Beautiful

FULL PROFILE