สู่จักรวาลลิป! รีวิว “ลิปเนื้อแมทท์” 3 แบรนด์ 15 เฉด แบบฉบับคนปากแห้ง!
miis1004 21 7ถึงปัดขวาทินเดอร์จะไม่แมทช์สักที…แต่ลิปที่มี “แมทท์” ยิ่งกว่าจ่ะ (ไม่เกี่ยว!) เป็นเรื่องปกติมากๆ ที่ผู้หญิงอย่างเราๆ จะต้องมี “ลิปสติก” มากกว่า 10+ แท่ง เพราะเดี๋ยวนี้แบรนด์ลิปสติก ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์นอก หรือแบรนด์ไทยขยันออกเฉดสีสวยๆ แข่งกันจนตามไม่ทันแล้วจ่ะพี่จ๋า ซึ่ง… ความเหนื่อยของผู้หญิงก็คือต้องลองผิดลองถูกซ้ำแล้วซ้ำเล่า สวอทช์ลิปจนผิวหนังเริ่มเปลี่ยนสียิ่งกว่ากิ้งก่า แถมบางทีหน้างานก็ดูตอบโจทย์ดีหรอก แต่ใช้ไปนานๆ ก็ไม่เป็นอย่างที่คิด
ต้องบอกก่อนว่าเราเป็นคน “ปากแห้ง” แบบว่าแห้งจริงๆ ไม่โกง และก็ “ผิวแทน” หน่อยๆ ซึ่งมันเป็นปัญหาสำหรับเรามากๆ ในการเลือกลิปแมทท์สักแท่ง เพราะอย่างที่รู้ๆ กันว่า “ลิปแมทท์ = แห้ง” บวกกับ “สี” ที่กว่าจะเลือกให้เข้ากับผิวแทนของตัวเองก็เป็นชาเลนจ์อีกสเต็ปนึง และเราก็ได้ตัดสินใจซื้อลิปแมทท์มาลองด้วยกันทั้งหมด 3 แบรนด์ มีตั้งแต่แบรนด์ไทยไปจนถึงแบรนด์นอก (เพื่อนแนะนำบ้าง, อยากลองบ้าง, รีวิวดีบ้าง) มาดูกันว่า “จักรวาลลิปแมทท์” ของเราจะมีแบรนด์ไหนที่เหมาะกับคนปากแห้งและผิวแทนอย่างเราบ้าง มาดูกันเลยจ้าพี่จ๋า
1. RANYA
อ๊ะๆ อย่าเพิ่งทำหน้าเอ๊ะ.. ว่านี่แบรนด์อะไร เพราะตอนแรกเราก็เอ๊ะเหมือนกัน แต่พอได้ลองใช้จริงๆ (เริ่มจากยืมเพื่อนทา) ก็รู้สึกเลยว่าแบรนด์นี้ไม่ธรรมดาจริงๆ เลยตัดสินใจลองสั่งมาใช้กรุบๆ แบบครบทุกเฉด ซึ่งเขามีด้วยกันทั้งหมด 5 เฉดสีด้วยกัน ประกอบไปด้วย
#01 LONDON LOVERสีชมพูหวานๆ (แบบไม่เลี่ยน) เหมาะกับวันเบาๆ
#02 VICTORIA VOWสีส้มอิฐ แต่ไม่ส้มจี๊ดจ๊าด เป็นส้มแบบวินเทจๆ
#03 BRICK LANE BORNสีส้มที่สว่างกว่า Victoria Vow มานิดนึง (ดูแค่รูปอาจจะงงว่าทำไมสีใกล้กันจัง)
#04 CAMDEN CLASSYสีแดงอมชมพู ไม่หวานไป ไม่เปรี้ยวเกิน!
#05 BROADWAY BITCHเผ็ชกว่าพริก…ก็สีนี้แหละจ่ะพี่จ๋า
2. SEPHORA CREAM LIP SATIN
ไม่มีใครไม่เคยเข้าร้าน Sephora ร้านที่เป็นเหมือนขุมสมบัติด้านความสวยความงามของสาวๆ และถ้าใครเคยไปก็จะต้องเห็น “SEPHORA CREAM LIP SATIN” ซึ่งจริงๆ แล้ว รุ่นนี้เค้าผลิตออกมาหลายเฉดสีมากกกกก และด้วยความเป็น Brand Loyalty ของร้านนี้ ก็เลยซื้อมาลอง บวกกับมีเพื่อนแนะนำว่าสีดี๊ดี ถ้าไม่ไปตำถือว่าผิด เราก็เลยเลือกมาทั้งหมด 5 เฉดสี ตั้งแต่หวานสุดไปจนถึงเปรี้ยวสุดดดดด!01 PINK SOUFFLEสีที่สาวหวานต้องตำ เพราะหวานจริงไม่งง!
02 CORAL CRUSHสีออกนู้ดๆ หวานๆ แบบวินเทจ
03 ROSE WOODสีแดงออกไปทางมะเหมี่ยว แซ่บอยู่
04 FLAME REDร้อนแรงเหลือเกินจ่ะพี่จ๋า
05 ALWAYS REDจะถูกจะแพงขอแดงไว้ก่อน!
3. TARTE TARTEIST QUICK DRY MATTE LIP PAINT
อีกแบรนด์ที่หลายเสียงรีวิวว่าเริ่ดจริงอะไรจริง ทั้งคนใกล้ตัวเอง หรือจะเป็นรีวิวตั่งต่าง เรียกได้ว่าเป็น MUST HAVE ITEMS ที่สาวๆ ทุกคนต้องมี แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นลิปแมทท์ที่แมชท์กับเราหรือเปล่านะ เพราะได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่า “นางแห้งเก่ง!” ซึ่งมันจะแห้งเกินไปสำหรับคนปากแห้งอย่างเรามั้ย ก็ต้องลุ้นต่อไป และเราก็เลยเลือกมาทั้งหมด 5 สีด้วยกัน มีดีกรีความหวาน และแซ่บกันคนละเบอร์ไปเลยจ่ะ01 BOUNCEสีชมพูหวานกำลังดีแบบมีอินเนอร์
02 HOMESLICEสีส้มนู้ดสำหรับสาวๆ แต่งหน้าเบา!
03 VIOLINแซ่บยิ่งกว่าพริก คงต้องสีนี้!
04 CHEERLEADERเห็นชื่อสีแล้วอยากจะหยิบพู่มาสะบัด!
05 XOXOทาปุ๊บอินเนอร์แบบ Gossip Girls มาปั๊บ!
มาเริ่มต้นการ COMPARE กันทีละข้อเลยดีกว่า ซึ่งทั้งหมดนี้จะเป็นการรีวิวจากความรู้สึกส่วนตัวของเราเป็นหลักนะ ถ้าหากมีตรงไหนผิดพลาด ต้องขออภัยตั้งแต่ตรงนี้เลยจ้า :) ROUND 1แพคเกจ, ราคา, ปริมาณ RANYA (ราคา 450 บาท: ปริมาณ 3.8 กรัม)
ในส่วนของ “แพคเกจ” ก็เป็นกล่องสีทองดู Elegant ใช้ได้ (อย่างที่เห็นรูปบนๆ) เปิดออกมาก็เป็น “ขวดแก้ว” ดูแข็งแรงไม่เปราะบาง พกพาสะดวก หยิบขึ้นมาทาก็ไม่อาย เพราะแพคเกจจิ้งดูแพง ฮ่าๆ ส่วนแท่งจุ่มก็ปกติทั่วไปนะ SEPHORA CREAM LIP SATIN (ราคา 490 บาท: ปริมาณ 5 มล.)
ถ้าวัดกันที่แพคเกจจิ้ง นี่ชอบแบรนด์นี้น้อยสุดเลยอะ เพราะว่า 1. ไม่มีกล่องให้ 2. มันดูไม่สตรอง และ 3. ปริมาณค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับราคา แต่ยังดีที่มันกะทัดรัด พกได้ทีละหลายๆ แท่งแบบไม่เปลืองพื้นที่กระเป๋า ส่วนแท่งจุ่มก็ปกติ เหมือน RANYA เลย TARTE TARTEIST QUICK DRY MATTE LIP PAINT (ราคา 920 บาท: ปริมาณ 6 มล.)
สำหรับแพคเกจจิ้งของนาง นี่ไม่ค่อยชอบ “กล่อง” เท่าไหร่ เพราะมันไม่ดึงดูดให้เราหยิบเลย (อย่างที่เห็นรูปบนๆ) แต่พอเปิดมาข้างในก็ต้องร้องอู้วววว เพราะดูแพงมาก ตั้งแต่ฝาแบบด้าน หลอดแก้ว (แบบเดียวกับ RANYA เลย) จะหยิบขึ้นมาทาอีกกี่รอบ…ก็กรุบ! แต่ราคาแอบแรงเหมือนกันนะเนี่ยยยสรุป
ROUND 2WAR OF SWATCH | ความแน่นของ PIGMENTRANYA
อย่างที่เห็นคือ “สีสดมาก” เนื้อเนียนละเอียดสุดฤทธิ์ เอาจริงๆ แค่ SWATCH นิดเดียว สีก็เต็มช่องแล้วนะ แต่นี่เพื่อความฉ่ำ เลยมาแบบเน้นๆ ใครอยากหวานก็ 01 แต่ใครอยากแซ่บก็ 05 แต่อยาก EVERYDAY LOOK ก็ 01 – 04 ได้เลยไม่ติดจ้าSEPHORA CREAM LIP SATIN
จากสีที่เราเลือกมาส่วนใหญ่จะออกไปทาง “สดใส” ในระดับที่ไม่เหมาะกับสาวผิวแทนซะเท่าไหร่ หรือไม่ก็ต้องทาในวันที่แต่งหน้าแน่นๆ ไปเลย เพราะแต่ละเฉดสีคือสว่างเว่อร์ สว่างจนมองมาจากกาแลคซี่สีกุหลาบก็มองเห็นว่าทาสีอะไร เอาเป็นว่าชอบเป็นเฉดๆ ไป แต่ไม่ได้ชอบทั้งหมด ส่วนความแน่นของ PIGMENT ก็ถือว่าไม่เบาเลยทีเดียวTARTE TARTEIST QUICK DRY MATTE LIP PAINT
สีของแบรนด์นี้มีความเป็นส่วนผสมระหว่าง “RANYA” และ “SEPHORA” คือ เฉดสีเกือบๆ จะเป็น EVERYDAY LOOK ได้ แต่ในความแมทท์นางก็เหมือน SEPHORA อยู่ ส่วนตัวเราจะชอบสีเข้มๆ ขึ้นมาหน่อย เพราะรู้สึกว่าเข้ากับสีผิวเรามากที่สุด แต่เดี๋ยวค่อยว่ากันนะว่าทาแล้วจะเป็นยังไง แต่สำหรับ PIGMENT ก็อย่างที่เห็น อาจจะไม่ได้แน่นมาก หรือเสมอกันสักเท่าไหร่สรุป (คะแนนเต็ม 3 ดาว)
ROUND 3SHADES OF COLOR | สีไหนจะเหมาะกับสาวผิวแทนที่ปากแห้งRANYA
ดูภาพรวมเราว่ามันค่อนข้างจะ “เหมาะ” กับคนผิวแทนทุกเฉดเลยนะ อย่างตอนแรกกังวลมากกว่า “สี 01” จะไม่รอด แต่ก็ไม่ได้ทำให้เราเสียเซลฟ์ซะเท่าไหร่ ส่วนสี 02 – 05 คือตอบโจทย์นี่มากๆ แต่ถ้าจะให้โหวตสีที่เหมาะกับสาวผิวแทนอย่างเรามากที่สุด ก็ต้องยกให้ 05 นั่นแหละ แซ่บมากจริงๆ และถึงปากเราจะแห้งมากๆ แต่ก็ไม่ตกร่องเลย ถือว่าดีมากๆๆๆ และสามารถกลบสีริมฝีปากของเราได้สนิทสุด ไม่มีความคล้ำมากร้ำกราย ชนะเลิศค่าSEPHORA CREAM LIP SATIN
ถือว่าเป็นรีวิวพลีชีพเลยแล้วกันนะคะ เพราะว่าสี 01-02 ไม่รอดเลยยยยยยย T^T ด้วยความที่มันเป็นสีนู้ดอ่อนๆ ด้วย บวกกับความแห้งของลิปที่ตกร่องอีก เลยไปกันใหญ่เลยทีนี้ แต่พอเป็นสีที่เข้มขึ้น ก็พอไปได้อยู่ค่ะ แต่ถ้าเลิฟจริงๆ ก็ต้อง 04 ที่ดูเข้ากับสาวผิวแทนอย่างเรามากที่สุด หากอยาก EVERYDAY LOOK สี 03 ถือว่าโอเคอยู่ แต่ถ้าอยากเปรี้ยวมากๆ สี 05 ถือว่าไม่แย่ค่ะ ฟาดอยู่!TARTE TARTEIST QUICK DRY MATTE LIP PAINT
ตอนแรกกังวลระหว่างเบอร์ 01 กับ 02 ว่าทาออกมาแล้วจะโป๊ะมั้ย แต่ปรากฎว่าที่ไม่รอดจริงๆ คือ 02 รู้สึกเหมือนคนป่วยเลยค่ะ แบรนด์นี้ก็จะคล้ายๆ กับ SEPHORA คือมันค่อนข้างแห้ง แต่ TARTE คือแห้งเก่ง ทาปุ๊บแห้งปั๊บ ซึ่งไม่เหมาะกับคนปากแห้งสักเท่าไหร่ แต่ยังดีที่สีเข้มๆ อย่าง 03-05 รอดอยู่ ถ้ามั่นใจสุดๆ ก็ต้อง 03 แต่ 04-05 เหมาะจะทาในวันที่อยากมีแอตติจูดแรงๆ มากๆ ค่ะ
สรุป (คะแนนเต็ม 3 ดาว)
FINAL ROUNDสรุปในสรุป RANYA เราว่าเป็นลิปแมทท์ที่เหมาะกับคนที่ริมฝีปากแห้งมากๆ เพราะว่าเนื้อลิปเองมันให้ความชุ่มชื้นสุดๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะตกร่อง ไม่ได้ทาแล้วแห้งไปเลยเหมือนอีก 2 แบรนด์ที่เราหยิบมา COMPARE แต่มันจะมีความหนึบๆ หน่อย ซึ่งก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับสักเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ทำให้ชอบแบรนด์นี้ก็คือ “สี” ที่เหมาะกับผิวแทนแบบเรามากๆ ไม่มีสีไหนที่ทาแล้วไม่รอด ถือว่าเป็นแบรนด์ไทยที่มีคุณภาพแบบที่เราคาดไม่ถึงเหมือนกัน SEPHORA CREAM LIP SATIN คงเป็นลิปแมทท์ที่ไม่ค่อยเหมาะกับคนริมฝีปากแห้งสักเท่าไหร่ เพราะยิ่งเป็นสีอ่อนๆ ยิ่งเห็นชัดเลยว่าตกร่อง และแห้งมากๆ แต่พอเป็นสีเช้มๆ ก็พอถูไถไปได้ อีกอย่างหนึ่งที่เราไม่ค่อยชอบก็คือ “กลิ่น” มันอาจจะหอมสำหรับคนอื่นนะ แต่เราค่อนข้างเลี่ยน และเทคนิคในการทาของแบรนด์นี้คือ “ทาแล้วไม่ต้องเม้มปาก” เพราะยิ่งเม้มก็ยิ่งพัง TARTE TARTEIST QUICK DRY MATTE LIP PAINT ถ้าคนที่มีริมฝีปากไม่แห้งแบบเรา น่าจะเลิฟตัวนี้มากๆ แต่สำหรับคนริมฝีปากแห้งแบบเราก็ยังพอรับได้ เพราะว่าด้วย “สี” ที่ไม่ได้ทำให้เราดูปากแห้งไปซะทีเดียว ทาแล้วไม่เหมือนคนป่วย แต่สิ่งที่เก๋มากๆ ของแบรนด์นี้ (แต่ไม่เก๋สำหรับเรา) คือ “ความแห้ง” ที่มันแห้งมากๆ ทาปุ๊บแห้งปั๊บยิ่งกว่า SEPHORA มันเลยเห็นความตกร่องชัด ก็เลยไม่ใช่แบรนด์ที่เหมาะกับเราแค่นั้นเองสรุป (คะแนนเต็ม 3 ดาว)