รีวิวไดร์เป่าผม Dyson supersonic บิวตี้ไอเท็มที่ควรค่าแก่ #ของมันต้องมี จริงหรอ??
Nattzpace
12
2
วันนี้เราจะมาตอบคำถามที่สาวๆ หลายคนน่าจะสงสัยเกี่ยวกับเจ้าไดร์เป่าผม Dyson supersonic ที่สาวๆ กรีดร้องกันเยอะมากหลังจากงานเปิดตัวว่า
ทำไมไดร์เป่าผมอันนึงมันถึงได้แพงได้ขนาดนี้!!!
มันดีจริงหรือแค่คำโฆษณา?
ควรค่าแก่การเสียตังค์หรือเปล่า?
และอีกหลายคำถามจากประสบการณ์การซื้อเอง ใช้เอง รีวิวแบบตรงๆ ไม่มีกั๊ก ถ้าคุณสนใจไดร์ตัวนี้อยู่ ก็ขอให้รีวิวนี้เป็นอีกตัวช่วยหนึ่งในการตัดสินใจของคุณสาวๆนะคะ :)
เริ่มที่คำถามแรกกันเลย!!
Q : ทำไมถึงซื้อ?
A : เพราะไดร์เป่าผมตัวเก่าใกล้จะพัง เราเลยต้องหาไดร์เป่าผมตัวใหม่มาทดแทน
ก็เลยหาข้อมูลเกี่ยวกับไดร์เป่าผมหลายๆ ยี่ห้อ ว่ายี่ห้อไหนดี ยี่ห้อไหนทน เปรียบเทียบไปมา สุดท้ายก็ตัดสินใจซื้อเจ้าตัวนี้มา เพราะคิดว่ามันคุ้มค่าแก่การลงทุน เพราะยังไงเราก็ใช้ไดร์เป่าผมเกือบทุกวัน ถ้าจะต้องเลือกไดร์สักตัวที่ช่วยให้ผมเราแห้งเร็ว ประหยัดเวลา ผมไม่เสีย ที่สำคัญคือประหยัดไฟ และไดร์ตัวนี้ก็สามารถตอบโจทย์ความต้องการเราได้ทั้งหมด เราเลยเลือกที่จะลงทุนกับมัน
Q : ซื้อที่ไหน ราคาเท่าไหร่?
A : เราซื้อที่ Siam Paragon พอดีเขามาจัดบูธเล็กๆ ตรงทางเข้า Beauty store แถวๆ counter LA MER ราคาเต็มของ Dyson supersonic จะอยู่ที่ 14,900 บาท ( เราซื้อมาในราคาโปรโมชั่น ลด 10% )
สามารถเช็คว่าซื้อได้ที่ไหนบ้างตามนี้เลย https://www.dyson.co.th/th-TH/wheretobuy.aspx ของราคาหลักหมื่นก็จะมีโปรฯผ่อน 0% 4-6เดือน แล้วแต่บัตรเครดิต ถ้าซื้อเงินสดหรือรูดเต็มแบบไม่ผ่อน ก็สามารถใช้คะแนนในบัตรสมาชิกของแต่ละห้างลด on top ได้อีกนิดหน่อย แล้วแต่สะดวกเลยจ้า :)
Q : ในกล่องมีอะไรบ้าง?
A : สิ่งที่ได้มาภายในกล่อง
ตัวไดร์เป่าผม (มีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ-ชมพู กับสีขาว-เทา)
หัวเป่าสำหรับควบคุมทิศทางลม 3 แบบ คือ หัวเป่าเพิ่มวอลลุ่ม(ปากกว้าง), หัวเป่าจัดแต่งทรง/เป่าตรง(ปากแคบ), หัวเป่าสำหรับผมดัดลอน
คู่มือการใช้
แผ่นซิลิโคน สำหรับวางไดร์เป่าผม
สายคล้องไดร์ (ซึ่งให้มาก็ไม่ได้ใช้)
Q : เป่าผมแห้งเร็วอย่างที่แบรนด์เคลมไหม?
A : ตัวไดร์ Dyson supersonic นั้นมีกำลังไฟเพียง 1600w สามารถปรับแรงลมได้ 3 ระดับแต่พลังลมที่ออกมาถือว่าแรงพอๆกับไดร์เป่าแบบ 2000w แรงลมระดับ 1 สามารถเป่าหนังศีรษะให้แห้งได้ภายใน 5–10นาที (สำหรับคนผมบาง)
เคล็ดลับ
โดยส่วนตัวหลังจากสระผมเสร็จ เราจะใช้ผ้าขนหนูห่อผมทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที ระหว่างนั้นก็ทาครีมบำรุง แต่งหน้า แต่งตัวไป
การเป่าผม
เราก็จะใส่ออยล์บำรุงผมก่อน และใช้แรงลมเบอร์ 3 ไม่เปิดลมร้อน เลือกใช้หัวเป่าเพิ่มวอลลุ่ม เพื่อจำกัดทิศทางลมให้จ่อถึงหนังศรีษะโดยตรง เนื่องจากผมเราหนามากจึงใช้เวลาประมาณ 6-8 นาที เพื่อเป่าโคนผมและหนังศีรษะเราจนแห้งพอหมาด
การไดร์ผม
พอผมปลายผมแห้งกำลังดีแล้วเราจะใส่ออยล์ที่ช่วยปกป้องผมจากความร้อน แล้วเปลี่ยนเป็นหัวเป่าจัดแต่งทรงเพื่อไดร์ผมให้ตรง ลดแรงลมเหลือแค่ระดับ 1 และเพิ่มความร้อนเป็นระดับ 2 รวมๆแล้วใช้เวลา 20-25 นาที ในการทำให้ผมแห้งสนิทพร้อมไดร์ผมตรง
(ถ้าใช้ไดร์ตัวเก่า 1000w จะใช้เวลาราวๆ 40-45 นาที) ซึ่งประหยัดเวลาไปได้เยอะมาก
Q : เป่าผมด้วยความร้อนเยอะๆ ผมไม่เสียหรอ?
A : ไม่เสียแน่นอน เพราะ Dyson supersonic เขาใส่เทคโนโลยีที่เรียกว่า Intelligent heat control ที่เคลมว่ามันช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อนได้
อธิบายง่ายๆ คือในตัวไดร์จะมีชิพสุดอัจฉริยะที่คอยเช็คความชุ่มชื้นภายในเส้นผมเรา ว่าผมเสียความชุ่มชื้นมากเกินไปไหมถ้ามากเกินไปจะปรับลดอุณหภูมิลมร้อนลง เพื่อช่วยรักษาระดับความชุ่มชื้นในเส้นผมของเรา
ซึ่งข้อนี้เรารู้สึกได้ชัดเจนเลยว่าเวลาจับผมหลังเป่าผมเสร็จ
เส้นผมมันแห้งสวยแบบยังคงซึ่งความชุ่มชื้นและนุ่มสลวย หนังศีรษะและโคนผมก็แห้งแบบมีสุขภาพดี
ในขณะที่ถ้าใช้ไดร์ตัวอื่นผมก็ดูสวยนะแต่จะดูแห้งและไม่มีชีวิตชีวา
Q : แล้วการรับประกันหล่ะ ?
A : ตัวไดร์มีการรับประกันจากแบรนด์ 2 ปี เฉพาะตัวมอเตอร์ ใบพัด
ถ้ามีปัญหาก็เอาเครื่องไปให้พนักงานของ Dyson เช็คอาการเบื้องต้นก่อน ถ้าต้องส่งซ่อมจริงๆ ก็สามารถให้พนักงานประสานงานในการส่งซ่อมให้ได้เลย หรือจะเอาตัวเครื่องไปส่งซ่อมเองก็ได้นะ รายละเอียดศูนย์บริการจะอยู่ด้านหลังใบรับประกัน
Q : ปัญหาที่พบเจอบ่อยๆ
A : มักจะมีพวกฝุ่นเล็กๆ เข้าติดบริเวณ filter ที่ปลายด้ามจับ
ตรงส่วนของ filter จะอยู่ที่ปลายด้ามจับ ซึ่งจะเป็นบริเวณที่อากาศไหลเข้าตัวไดร์เพื่อผ่านมอเตอร์และใบพัดเพื่อสร้างพลังลม ตรงนี้แหละที่มักจะมีฝุ่นผงเล็กๆ มาเกาะ
วิธีทำความสะอาด
เปิด filter โดยเลื่อนไปทางซ้ายเพื่อให้จุดสีแดงอยู่ตรงกับวงกลม แล้วเลื่อน filter ลงเพื่อปลดล็อค (ตามรูปลำดับ 1 -> 2 )
ใช้ผ้าแห้งที่ไม่มีขุยหรือเอามือเรานี่แหละ (เน้นย้ำว่าต้องแห้งนะ) มาเช็ดฝุ่นออก
จับ filter ให้ตรงจุดสีแดงอยู่ตรงกับวงกลม ดันขึ้นแล้วเลื่อนไปทางขวาเพื่อให้จุดสีแดงตรงกับจุดวงกลมทึบเพื่อปิดล็อค filter (ตามรูปลำดับเป็น 2 -> 1)
แนะนำว่าก่อนเปิดใช้ไดร์ ควรเปิด filter สักหน่อย เพื่อเช็คว่ามีฝุ่นไหม ไม่งั้นฝุ่นจะจับตัวหนา ทำให้เช็ดออกยากนิดนึง ถ้ามือเลอะครีม/เจลอะไรที่มันเนอะหนะ ก็ควรเช็ดมือให้เรียบร้อยก่อนจับที่ตัวไดร์
Q : สรุปแล้วคิดว่าไดร์ตัวนี้คุ้มค่าไหม กับราคาหลักหมื่นที่จ่ายออกไป?
A : โดยส่วนตัวหลังจากใช้เจ้า Dyson supersonic มาเกินครึ่งปีละ คิดว่ามันเป็นไดร์ที่คุ้มค่าทีี่สุดสำหรับเราเลย เพราะเราใช้จริงแบบวันเว้นวัน เรียกว่าใช้คุ้มเลย ไดร์ก็ไม่เคยมีการงอแงหรือมีปัญหาให้ต้องหนักใจ ทำให้เราประหยัดเวลาชีวิตได้เยอะ
ถ้าตอนนี้มีคนถามว่าซื้อไดร์ยี่ห้อไหนดี ที่มันทนๆ แล้วทำให้ผมไม่เสีย เราก็พร้อมจะแนะนำไดร์ตัวนี้เลย (ถ้า budget คุณถึงนะ) ลองไปเล่นที่ counter Dyson ก่อนก็ได้นะ ไปแบบผมหมาดๆ เลย แล้วขอลองใช้ไดร์ดู เอาแค่ปลายผมเปียกๆ แล้วเอาไดร์เป่าเล่นๆก็ได้ อย่างน้อยไปลองเล่นให้รู้ว่าตอนนี้เทคโนโลยีมันมีถึงขนาดนี้แล้ว เป็นประสบการณ์สนุกๆ ค่อยตัดสินใจอีกทีก่อนจะเสียตังค์ ถ้าคิดจะลงทุนกับการดูแลเส้นผมและหนังศีรษะระยะยาว เราว่าไดร์ตัวนี้คือคำตอบที่คุ้มค่ามากๆ เลย แต่ถ้าถามถึงความจำเป็นว่า
#ของมันต้องมี ไหม บอกได้เลยว่า "ไม่จำเป็น"
ที่ต้องซื้อไดร์ใหม่ราคาแพง ถ้าไดร์ตัวเก่าที่คุณมีมันยังไม่พัง ก็ใช้ต่อไปเถอะ ของจะถูกจะแพง จะดีหรือไม่ดี จะคุ้มค่าไหม มันขึ้นอยู่กับว่าคุณตอบตัวเองได้ไหมว่า
“ถ้าซื้อมาแล้ว คุณจะได้ใช้มันจริงๆ หรือเปล่า?”
ถ้าซื้อแล้วไม่ได้ใช้ ยังไงมันก็ไม่คุ้มหรอก เสียดายที่ไม่ได้ซื้อ หรือมีไว้ให้อุ่นใจว่ามี แต่ไม่ได้ใช้ เอาที่สะดวกใจ สบายกระเป๋าแล้วกันนะ ถ้าใครมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับไดร์ตัวนี้ ก็ถามกันได้นะ เราจะคอยมาอัพเดทและตอบคำถามให้
ถ้าชอบก็ช่วย Share ช่วย Loves เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่ตามอ่านกันนะ