VLOG #7 อุทยานแห่งชาติภูกระดึง..ดึ่ง..ดึ๊ง! | Hiking at Phu Kradueng, Leoi, Thailand

สวัสดีค่าก็กลับมาพบกับฝนอีกแล้วนะคะ คราวนี้จะพาไปเที่ยวจ้า! อัยยะ สถานที่ที่จะพาไปในวันนี้คือฝนอยากไปมานานมากแล้ว ทีนี้เกิดเหตุเพราะแอร์เอเชียมีตั๋วโปร! เลยชวนกันไป แพลนกันล่วงหน้าหลายเดือนเชียว มาจบกับช่วงต้นเดือนมกราคมค่า

DAY 1

ปีนขึ้นภูกระดึงด้วยความทุลักทุเล เพราะถึงแม้จะระยะทางแค่ 5.5 กิโล แต่ทางเป็นระยะทางหินชันสลับกับทางเรียบ ปีนป่ายสนุกสนานเป็นลูกลิง ?

สโลแกนของพวกเราคือกินกันยับ แวะทุกซำ (จุดแวะพัก จะมีร้านอาหาร/ขายของไว้บริการนั่งท่องเที่ยวเป็นระยะๆ ) ทำให้ใช้เวลากันนานพอสมควร 555 ขึ้นไปถึงยอดประมาณบ่ายสองกว่าๆแหน่ะ

พอถึงหลังแป(ยอด) แล้วกรี๊ดลั่น แต่ก็พบว่าต้องเดินทางราบไปที่จุดกางเต้นท์วังกวาง อีก 3 กิโลกว่าน้ำตาแทบไหล

ถึงที่พักพวกเราก็แยกย้ายกันไปอาบน้ำแล้วหลังจากอาบน้ำ (ที่เย็นมาก) ให้สดชื่นกันเรียบร้อย ก็วางแผนไปดูพระอาทิตย์ตกที่ผาหมากดูก แต่ไปไม่ทัน 5555 ได้แต่ภาพพระอาทิตย์ตก(ไปแล้วมา)

ผู้หญิงทั้ง 5 ก็ตั้งหน้าตั้งตารีบกลับมากินหมูกะทะก่อนร้านปิด เพราะนี่คือหนึ่งในไฮไลท์ของทริป(?) และด้วยความที่พวกเราเป็นสายแข็ง เพราะกินกันไป ไม่ใช่เพียงหนึ่งแต่ถึง 2 ชุดด้วยกันนาจาา 5555555
จากนั้นแยกย้ายกันเข้านอน จบละวันแรก รีบเข้านอนเพราะวันที่2 จะไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกัน

DAY 2

วันนี้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกันที่ผานกแอ่น จึงต้องตื่นตั้งแต่ตีสี่ เพราะต้องเผื่อเวลาเดินไปที่ผาจับจองพื้นที่รอดูพระอาทิตย์เวลาประมาณ 6 โมงเช้า

ระหว่างทางกลับสวยดีจะเป็นป่าสนกับลานหินที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ชอบ สวยดี เหมือนเมืองนอก
กลับมาแล้วก็เตรียมตัวในการเดินทางไกลเพราะวันนี้เป็นวันที่เหล่าชะนีจะโคฟการเป็นเนตรนารีสมัยวัยกระเตาะ 

น้ำตกต่างๆเนื่องจากตอนนี้ไม่ใช่หน้าน้ำ น้ำก็มีอย่างที่เห็นในคลิบ ตะตอนยอนสุดๆ ยังดีนะที่มีน้ำทำให้รู้ว่า โอเคถึงน้ำตกละนาจา

ความประทับใจที่ไม่มีวันลืม คือระหว่างทางจากสระแก้ว-ผานาน้อยเป็นพื้นที่โล่งเตียน ไม่มีร่มเงาไม้แม้แต่นิดเดียว มองไปสุดลูกหูลูกตา มีแต่ทุ่งหญ้า ไม่มีร้านค้านร้านอาหาร whatsoever แล้วชาวแก๊งทั้ง 5 คนเดินผ่านเส้นทางนั้นเวลาประมาณ 12:00น. แดดร้อนจัดๆ ไม่มีตัวช่วยใดๆ สิ่งเดียวที่ทำได้คือรีบๆเดินให้ผ่านไป ล่าสุดกลับมาผิวไหม้  ต้องบำรุงกันอีกยาววว

พอผ่านจุดนั้นไปได้จะถึงผานาน้อย ซึ่งจะมีถนนเลียบริมผา ที่จะมองเห็นผาอยู่ซ้ายมือ ทางขวาจะเป็นป่าสนเหมือนในคลิบ ก็เดินไปเรื่อยๆก็จะมีผาต่างๆ ให้ถ่ายรูป/นั่งพักกันได้ พวกเราก็เดินกันไปจ้า 9 กิโล นี่ยังไม่นับขากลับ ทำกันไปได้ 5555 เดินไปคุยไป ฟังเพลงไป เม้ามอยกัน ก็สนุกดีนะ 

มาถึงผาหล่มสัก เป็นที่ที่ iconic ที่สุด ว่ากันว่ามาภูกระดึง ไม่ได้มาผาหล่มสักเหมือนไม่ได้มา ก็สวยงามสมคำล่ำลือ เพราะจะมีต้นสนที่ย้อยลงมาพอดีกับชะง่อนหินตามภาพ ขากลับก็เดินกลับกัน ขอเล่าความประทับใจหน่อยคือเราทำไม้ selfie หายก็แยกเป็น 2 กลุ่ม ช่วยกันหาๆเดินไปเดินมาระหว่างทางกลับ มีพี่คนนึงเค้ามาถามว่าทำอะไรกันอยู่ สรุปเค้าเป็นคนเก็บได้ โชคดีมาก ดีใจมากที่ได้คืน ต้องขอบคุณพวกพี่ๆเค้ามากๆ ขากลับเลยเดินกลับกับพี่ๆเค้า

รวมทั้งหมดแล้วพวกเราเดินวันนี้แค่วันเดียวเดินประมาณ 38 กิโล ทำไปไงไม่รู้  วันนี้ก็รีบอาบน้ำกลับเต็นท์ พักผ่อนเพราะ ในวันพรุ่งนี้ต้องรีบตื่นเพื่อลงภูให้ทัน เนื่องจากพวกเราจะกลับเครื่องตอนประมาณ 5 โมงกว่าๆ ซึ่งภูกับสนามบินก็ห่างกันประมาณ 80 กิโล

DAY 3

วันนี้ก็ตื่นมากินข้าวเช้าเป็นมื้อสุดท้าย แนะนำร้านนี้ของพี่ธรรม(อาหารปักต์ใต้) อร่อยดี พี่เค้าก็น่ารักด้วย เพราะถามวิธีไปสนามบินเลย ได้ความว่าให้ไปต่อรถสองแถวลงที่ตลาดภูกระดึง แล้วค่อยนั่งรถทัวร์ที่ผ่านตัวเมืองเลย แล้วให้เค้าแวะจอดให้ จากนั้นก็ล่ำลาพี่ธรรม เค้าบอกให้กลับมาใหม่ช่วงเปิดภูช่วง ปลายปี น้ำตกจะสวยกว่านี้
.
หลังจากกินเสร็จก็เดินลงแบบจ้ำอ้าว เพราะต้องรีบลงให้ถึงก่อนบ่ายโมง ขอบอกว่าทางลงเหนื่อยกว่าขึ้น ทางมันลื่น สไลด์กันเป็นว่าเล่น เลยต้องเกร็งไปหมด เกร็งไปยันนิ้วเท้าเลย  ยังไม่นับการใช้เข่าเยอะด้วย หมดสภาพเลยเมื่อถึงตีนภู 5555
สุดท้ายก็ถึงสนามบินเลย กลับกรุงเทพฯ กันโดยสวัสดิภาพค่า :)

---

 
ทริปนี้ถือว่าประทับใจมากๆ เพราะมันคือการวัดใจเราอย่างนึง เชื่อมั้ยทุกคนขึ้นภูกระดึงได้หมดแหละ แต่แค่จะช้าหรือเร็วเท่านั้น เราเจอเด็กสองขวบยันคนแก่อายุ 65 ก็มี!
อยากให้มาลอง รับรองมันส์ สนุกมากกกกกก ใครที่ยังลังเล ไปเหอะ เป็นอีกสีสันในชีวิต สนุกจริงๆ!

จบจริงๆแล้วค่ะ
แล้วพบกันใหม่โพสหน้าน้า เจอกันค่า บ๊ายบาย