เพราะผิวสวยมีได้ทุกวัน Review รองพื้น Lancome Teint Idole Ultra Wear Foundation บางเบา ปกปิด ติดทน ให้ผิวดูดีแบบผิวของเราจริงๆ
พุงนำนม 33 6
สวัสดีทุกคนจ้า หลังจากไปซุ่มลองใช้ Lancome Teint Idole Ultra Wear มาสักพัก วันนี้ก็ได้เวลามา Review แบบเต็มๆกับสี BO-01 งานนี้ภาพเยอะ จัดหนักแบบ Full Review เพราะเราเชื่อว่าทุกคนอยากดูดีในทุกๆวัน ไม่ใช่แค่วันสำคัญ วันที่ออกงาน
เราอาจจะอยากดูดีเพื่อไปร้านป้าขายอาหารตามสั่งที่ปากซอย เพราะลูกชายป้าหล่อมากๆ หรืออาจจะอยากดูดีเวลาไปซื้อของที่ 7-11 ก็ได้
เรียกได้ว่าทุกคนอยากดูดีอยู่แล้วแหละ แต่การดูดีแบบเบ้าตาแน่น ปากชัดระดับ HD คิ้วแน่นระดับ Miss Universe ก็คงไม่ใช่
เราอาจจะอยากดูดีเพื่อไปร้านป้าขายอาหารตามสั่งที่ปากซอย เพราะลูกชายป้าหล่อมากๆ หรืออาจจะอยากดูดีเวลาไปซื้อของที่ 7-11 ก็ได้
เรียกได้ว่าทุกคนอยากดูดีอยู่แล้วแหละ แต่การดูดีแบบเบ้าตาแน่น ปากชัดระดับ HD คิ้วแน่นระดับ Miss Universe ก็คงไม่ใช่
"แค่ผิวดี ก็ดูดีแบบไม่ต้องพยายามแล้ว"
เราเลือกสี BO-01 มา เพราะรู้สึกว่าผิวเราอมเหลืองแต่ไม่มาก มันเป็นเหลืองที่มีความก้ำกึ่งติ่งชมพูนิดๆ ส่วนระดับความเข้มอยู่ที่ 01 คือสว่างที่สุด
จริงๆเวลาทดสอบรองพื้นต้องปาดที่แนวกรามลงไปที่คอนะจ๊ะ แต่อันนี้ปาดที่ท้องแขนให้ดู texture สี
รูปบนคือเพิ่งปาดใหม่ๆ จากนั้นก็ผ่านไป 30 นาที และ ราวๆ 1 ชม
สีแทบไม่ Drop เลยอะ เดินแกว่งแขนไปมา ท้องแขนถูกับเสื้อบ้าง
เจ้า Teint Idole ก็ยังอยู่ ไม่ค่อยหลุดไปไหน
มาทดสอบการกันน้ำ และติดทนบ้าง เราสเปรย์น้ำเปล่าลงไป
แล้วซับด้วยทิชชู่ ไม่ลอกไม่หลุดนะจ๊ะ
ต่อจากนั้น ก็สเปรย์น้ำลงไปอีกรอบ คราวนี้เอานิ้ว "ไถ & รูด" แบบแรงๆเลย มีหลุดออกมาบ้าง 555 ก็ไถจนผิว "ย่น" อะ ไม่หลุดก็บ้าแล้ว!!
ต่อด้วยด่านสุดท้าย ใช้ Simple Micellar Cleansing Water ปาดแรงๆจ้า ก็หลุดเพิ่มออกมาอีก แต่ยังคงมีเหลือบนผิวอยู่พอให้เห็นได้ชัด
ต่อด้วยด่านสุดท้าย ใช้ Simple Micellar Cleansing Water ปาดแรงๆจ้า ก็หลุดเพิ่มออกมาอีก แต่ยังคงมีเหลือบนผิวอยู่พอให้เห็นได้ชัด
คราวนี้ถึงเวลาลองของแบบจริงจังบนหน้าบ้าง เริ่มด้วยหน้าสดของเราก่อนเลย
สิ่งที่เราต้องการจากรองพื้นสักขวดคือ
1. เนื้อ Liquid บางเบา
2. เกลี่ยง่าย ไม่แห้งไวจนเกลี่ยไม่ทัน
3. ปกปิดปานกลาง สร้าง layer เพิ่มได้โดยไม่เป็นคราบ (เราไม่ชอบอะไรหนักๆหน้า)
4. ติดทน กันน้ำ เพราะหน้าเรามันระดับ 100/10
สิ่งที่เราต้องการจากรองพื้นสักขวดคือ
1. เนื้อ Liquid บางเบา
2. เกลี่ยง่าย ไม่แห้งไวจนเกลี่ยไม่ทัน
3. ปกปิดปานกลาง สร้าง layer เพิ่มได้โดยไม่เป็นคราบ (เราไม่ชอบอะไรหนักๆหน้า)
4. ติดทน กันน้ำ เพราะหน้าเรามันระดับ 100/10
เนื่องจากว่า skin care และ sun screen มีผลต่อ finishing ของรองพื้น เราจะบอก item ที่เราใช้วันนี้นะ
1. skin care = Innisfree capsule recipe pack
2. sun screen = Biore UV Perfect Milk Oil Control (อันนี้ดีมาก คุมมัน ปรับผิวให้สว่างและเป็น Makeup Base ในตัว ราคา 2xx เอง)
1. skin care = Innisfree capsule recipe pack
2. sun screen = Biore UV Perfect Milk Oil Control (อันนี้ดีมาก คุมมัน ปรับผิวให้สว่างและเป็น Makeup Base ในตัว ราคา 2xx เอง)
รอบแรกเราใช้ฟองน้ำชุบน้ำหมาดๆค่อยๆกดย้ำๆ เบาๆให้ทั่วหน้าและลำคอ สิ่งที่ชอบเมื่อได้ลองใช้เจ้า Lancome Teint Idole Ultra Wear คือ
1. เนื้อ Fluid บางเบา เกลี่ยง่าย
2. ไม่แห้งเร็วเกินไปจนเกลี่ยไม่ทัน สังเกตว่าเราหยอดไว้ 3 จุดบนหน้า แล้วค่อยๆไล่เกลี่ย ส่วนที่เกลี่ยทีหลังก็ยังไม่แห้ง ไม่เป็นคราบ ไม่หนืดจนเกลี่ยไม่ได้
3. ปกปิดปานกลาง ยังคงให้ผิวที่ดูเป็นผิวของเรา เป็นผิวจริงตามธรรมชาติ
1. เนื้อ Fluid บางเบา เกลี่ยง่าย
2. ไม่แห้งเร็วเกินไปจนเกลี่ยไม่ทัน สังเกตว่าเราหยอดไว้ 3 จุดบนหน้า แล้วค่อยๆไล่เกลี่ย ส่วนที่เกลี่ยทีหลังก็ยังไม่แห้ง ไม่เป็นคราบ ไม่หนืดจนเกลี่ยไม่ได้
3. ปกปิดปานกลาง ยังคงให้ผิวที่ดูเป็นผิวของเรา เป็นผิวจริงตามธรรมชาติ
แต่เพราะเรามีกระ เราเลยสร้าง layer ขึ้นอีก 1 ชั้นเฉพาะตรงบริเวณที่เป็นกระ และใต้ตาที่คล้ำ ซึ่งเจ้า Lancome Teint Idole Ultra Wear ก็ทำได้ดี สามารถปกปิดเพิ่มได้โดยไม่เป็นคราบ และยังคงเกลี่ยง่ายเหมือนรอบแรก
เก็บงาน Point Makeup ที่เหลือ ปัดแก้ม contouring
ทาปากเอาแบบสีพอระเรื่อๆ
เสร็จแล้วจ้า แค่นี้ก็พร้อมจะสวยไปเดินห้าง
ไปช้อปทรายแมว ขนมแมว อาหารแมว ได้แล้ว
รวม Finished Look ตามประสาคนขี้เห่อ นานๆจะแต่งสวยไปช้อปสักที ปกติ
เสื้อยืด กางเกง JJ มัดจุก ใส่แว่น ลากรองเท้าแตะ 555555
ซ้อนพี่วินไปห้างตอน 15.00 น. โดนลมตีก็ไม่หลุด สาวๆคนไหนชอบนั่งพี่วินหรือ Grab Bike สบายใจได้ รองพื้นไม่ไหลไปกับสายลม
ถ่ายในห้างจ้า แสงไฟในห้าง no filter มันไม่ได้ปกปิดแบบสุดซอยชะม้อยชะม้ายชายตา แต่ให้ look ที่ดูดีแบบผิวชั้นดูดีแบบนี้ ดูดีแบบธรรมชาติ ยังดูเป็นผิวจริงของเราอยู่
สภาพตอนกลับมาถึงบ้านจ้า
- หน้าเริ่ม glow ขึ้นจากเหงื่อและความมันบนหน้า
- ไม่เป็นคราบ ไม่เยิ้ม
- ผิวยังดูผ่องแบบเป็ยผิวเรา ผิวธรรมชาติ
แม้จะหน้าย่นเป็นหมาปั๊ก
รองพื้นก็ยังรักกับผิวหน้าอยู่นะจ๊ะ
คราวนี้มาลองแต่ง look คล้ายๆกับเมื่อวาน แต่!!!!! // (เสียงกลองรัว)
- ใช้นิ้วเกลี่ย
- ไม่ลงแป้งฝุ่น
- ลง hilight ปิดกระตรงโหนกแก้ม
ส่วนรูปนี้ตอน 16.00 น หน้าฉ่ำเกินคำว่าฉ่ำไปแล้ว เริ่มกลายเป็นหน้ามันแทน 555555
เอ้า มาย้อนดูตั้งแต่หน้าสด เพิ่งแต่งไปห้าง
กลับจากห้าง และที่แต่งวันนี้
สภาพล่าสุดตอน 17.00 น หน้าเริ่มมัน รองพื้นเริ่มหลุดบ้าง
แต่ยังดีที่ไม่เป็นคราบ ไม่ตกร่อง ชอบตรงที่ได้งานผิวที่ดูดีแบบยังคงเป็นผิวของเรา ไม่ใช่ดูเหมือนใส่หน้ากาก
แต่ยังดีที่ไม่เป็นคราบ ไม่ตกร่อง ชอบตรงที่ได้งานผิวที่ดูดีแบบยังคงเป็นผิวของเรา ไม่ใช่ดูเหมือนใส่หน้ากาก
มาสรุปรวบตึง 360 องศากันดีกว่า
สิ่งที่ตอบโจทย์เรา
สิ่งที่ตอบโจทย์เรา
- เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย ไม่แห้งไวจนเกลี่ยไม่ทัน
- ปกปิดปานกลาง ไม่ดูโบก ดูหนา
- เพิ่มการปกปิดด้วยการสร้าง layer เพิ่มเฉพาะจุดได้ และไม่เป็นคราบด้วย!!
- ให้ look semi matte สำหรับคนผิวเมือกแบบเราได้!!! ด้วยการใช้แป้งฝุ่นเซ็ต
- ให้ look ฉ่ำๆ glow glow เมื่อไม่ใช้แป้งฝุ่นเซ็ต แต่อาจจะแถมความหน้ามันมาเมื่อผ่านไปสัก 4-6 ชม
- ไม่ drop แบบเห็นชัดด้วยตาเปล่า
- ไม่เป็นคราบ ไม่ crack ไม่ตกร่อง แม้หน้าจะมันขึ้น
สิ่งที่ไม่ตอบโจทย์เรา
- ไม่คุมมันเท่าไหร่
- ติดทนปานกลางสำหรับคนหน้ามันมากแบบเรา 4-6 ชมก็เริ่มหน้าวาวๆมากขึ้น มีหลุดบ้างตามร่องจมูก และใต้ตา (ไม่ได้ Action มาก แต่งมานั่งทำงานในออฟฟิศเฉยๆ) แต่คนผิวแห้ง ผิวผสมน่าจะติดทนนานกว่านี้
- คนที่หน้าเมือกแบบปลงตกไปแล้ว แต่ชอบงานผิว แบบ สวยเหมือนผิวธรรมชาติควรซื้อ Primer คู่กับรองพื้นไปเลย 555555555
ราคาเต็ม 1,950 บาทน้า แต่ถ้าไปซื้อที่ counter ภายใน 31/5/2018 จะได้ส่วนลด 300 บาทจ้า
เจอกันใหม่กระทู้หน้า ขอบคุณทุกคนที่แวะมาอ่านจ้า สวัสดีจ้า
รีวิวนี้จัดหนักมาก หวังว่าจะมีประโยชน์กับเพื่อน ใครชอบโปรดเม้นท์ เลิฟ แชร์บอกต่อให้ชื่นใจหายเหนื่อยหน่อยน้า
เจอกันใหม่กระทู้หน้า ขอบคุณทุกคนที่แวะมาอ่านจ้า สวัสดีจ้า