[ Review ] Travel Tips : 1 Day Trip In Yangon
roronaew 11 3Travel Tips สวัสดีค่ะทุกคนนนนน ห่างหายจากเพื่อนๆชาวจีบันไปนานมากๆ
วันนี้ไม่ได้มารีวิวเครื่องสำอาง แต่จะมารีวิวทริปมูเตลูค่ะ
อยากบอกว่าใครสายมูเตลูเหมือนเรา ตามมาทางนี้ 555555
ปล.รีวิวของเราจะสรุปคราวๆนะคะ ว่าไปที่ไหนบ้าง อะไรยังไง
เริ่มที่การจองตั๋วบิน : เราจองของ AirAsia ไป-กลับ ราคา 2200 / คน
มีเที่ยวบินทุกวัน สะดวกดีค่ะได้ไฟท์บิน 07.15 น. ไฟท์กลับ 20.19 น.
ประเทศพม่าไม่ต้องขอวีซ่านะคะ
การแลกเงินไปพม่า : เราแลกไปแค่ 100$ ค่ะ เราต้องและเป็นดอลล่าไปก่อนนะคะ แล้วไปแลกเงินจ๊าดที่นู้น
หมายเหตุตัวใหญ่ๆว่า ไปพม่าต้องแลกเป็นเงินดอลเท่านั้น และห้ามให้แบงค์ยับโดยเด็ดขาด ไม่งั้นจะไม่สามารถแลกเป็นเงินพม่าได้ แนะนำว่าควรเก็บไว้ในซอง หรือ แฟ้ม เพื่อกันการยับ เรื่องนี้สำคัญมากๆ
การหารถแท็กซี่ : เราไปหาเอาที่สนามบิน โดยเดินออกจากประตูที่1 จะมีจุดบริการแท็กซี่หลากหลายจุดมากๆ ถ้าใครจะเอาเจ้าเดียวกับเนียวก็ให้ออกประตูทางออก 1 เลี้ยวขวา จะเจอเป็นพี่ผญ. ยืนยิ้มอยู่ นั้นแหละ เดินเข้าไปถามราคาเลย ของเราตกลงว่าไปด้วยกันทั้งวัน บอกวัดที่เราจะไป
(แต่ส่วนมาก เค้าแนะนำมาเลย เพราะรู้ว่าเราไปไหนบ้าง) ขับรถพาไปที่ต่างๆใน1 วัน รวมมารับ-ส่งที่สนามบิน เราต่อราคาได้ราคา 40$ หรือ 60000 จ๊าด
ได้เป็นรถมาสด้าพอดีนั่ง 2 คน ราคานี้รวมค่าจอดรถเวลาเค้าไปจอดรอเราตามวัดต่างๆ
แนะนำอีกว่า การจองแท็กซี่แบบนี้คือเสี่ยงดวงเอามาก เจอดีก็ดีไป เพราะที่เคยอ่านมา พบว่า 70% ของกระทู้พันธิปบอกว่า แท็กซี่พม่าจะไม่เปิดแอร์ แล้วคือพม่าก็อากาศเหมือนไทย คือร้อนมาก แต่โชคดีมากๆที่ได้คันเปิดแอร์ และคุณลุงคนขับน่ารักมากๆ
รายละเอียดการเดินทางมาก็ประมาณนี้ เพื่อไม่เป็นการเสียเวลาสายมู เริ่มเลย!
เราขอเล่ารายละเอียดของแต่ละวัดคร่าวๆตามที่คนขับรถแนะนำไปทีละวัดนะ ใครอยากรู้ลึก ที่มาของแต่ละวัด google เลยค่ะ
วัดแรกที่ไปคือ โบตาทาว คือวัดที่มีเทพทันใจ อยู่นั่นเอง พี่คนที่เป็นเจ้าหน้าที่จองแท็กซี่บอกมาว่า การไหว้พระตามวัดต่างๆของบ้านเค้า จะนิยมไปที่โบตาทาวน์ก่อนเป็นอันดับแรก เพราะเหมือนเป็นที่ยืดเหนี่ยวจิตใจ อ่ะ เราก็เชื่อ ก็โอเค ไปจ้า
ระหว่างเดินทางไป คือรถติดมากๆนะ ขากลับมาสนาบิม ต้องเผื่อเวลา 1-2 ชม.
ก่อนบินเลย พอไปถึงโบตาทาว ก็ไม่ต้องกังวลนะ 80 % พูดไทยได้ วัดที่นี่ ต้องถอดรองเท้าและถุงเท้า ก่อนเข้าทุกครั้ง มีที่ฝากนะ ทุกวัดเสียเงินคนละ 1,000 จ้าด ซึ่งจะได้ทิชชูเปียกคนละซอง เอาไว้เช็ดเท้าก่อนใส่รองเท้านั่นเอง เราไปวันธรรมดา
คนเลยไม่เยอะ ไม่ต้องต่อแถวเพื่อขอพรเลย คือเดินเข้าไปแล้วได้เข้าเลย
เจอคนไทย 3-4 กลุ่ม อบอุ่นดี 555555
วัดที่ 2 คือ ชเวดากอง เรียกว่าใหญ่มากๆ สวยมากๆ สั้นๆคือ อยากไปอีก ชอบมากๆ
วัดนี้มีค่าเข้า 10000 จ๊าดแพงกว่าทุกวัดเด้อ ก็น่าจะคนล่ะ 300 มั้งนะ ถ้าตีเป็นเลขกลมๆ ถ้าไปช่วงบ่าย 3-4 โมงเย็น จะสวยมาก เพราะแสงกำลังดี แต่เราไปถึงวัดประมาณบ่าย แดดร้อนมาก แต่ที่วัดมีร่มให้ยืมนะ เราไปเจอแดดนิดเดียว นอกนั้นก็เริ่มครื้ม เหมือนฝนจะตก ที่วัดนี้เรามีไกด์นำนะเที่ยว เค้าเล่าให้ฟังว่าส่วนมากพระพุทธรูปส่วนใหญ่สร้างมาจากต้นไม้ คือไม้อ่ะทุกคน ไปดูใกล้ๆคือดูไม่ออกเลย บางองค์ใหญ่มากกกกกกกกก
สวยมาก วิจิตรมากๆๆๆ หลงไหลมาก
วัดที่ 3 คือ วัดงาทัตจี เราไปเจอตอนที่พระพุทธรูปปิดปรับปรุง บูรณะ แต่ขนาดที่มีผ้าบางๆปิด ก็ยังรูปว่าสวยมากๆ ไม่ได้ถ่ายรูปมานะ อันนี้รูปจากอากู๋ จะเห็นว่าสวยมากจริง จุดเด่นของวัดนี้ก็คือพระพุธรูปองค์ใหญ่ หลวงพ่องาทัตจี ซึ่งแปลว่า หลวงพ่อที่สูงเท่าตึก 5 ชั้น ทรงเครื่องแบบกษัตริย์ สวยมากกกกกกกกกกกกกกกกกกก
วัดที่ 4 คือ พระพุทธไสยาสน์เจาทัตยี หรือที่คนไทยจะรู้จักกันก็คือ วัดพระนอนตาหวาน ซึ่งพอไปถึง ก็ปิดปรับปรุงเหมือนกัน 55555555555555
แบบอะไรกันเนี๊ยะ แต่ๆๆๆ ขนาดปิดเราก็ไม่ละความพยายามไปไหว้นะ ก่อนไปไหว้
แบบอะไรกันเนี๊ยะ แต่ๆๆๆ ขนาดปิดเราก็ไม่ละความพยายามไปไหว้นะ ก่อนไปไหว้
เราอ่านพันธิปมา เค้าบอกว่าให้ไปไหว้ หรือ ขอพร ที่ตรงปลายเท้าของท่าน เราก็ไปตรงนั้นแหละ อันนี้แล้วแต่คนเชื่อนะ คือเป็นอีกวัดที่ชอบมากๆ
เราไปแค่ 4 วัดเท่านั้น และมุ่งหน้ากลับ สนามบิน
หลังจากนั้นฝนก็ตกลงมาแบบหนักหน่วง
สรุปค่าใช้จ่ายโดยประมาณ
ค่าตั๋ว 2200 / คน
เช่ารถ 60000 จ๊าด / คัน (หรือ 1,400 บาท)
ค่าตั๋ว 2200 / คน
เช่ารถ 60000 จ๊าด / คัน (หรือ 1,400 บาท)
ปล.ถ้าต่อได้ ให้ต่อเลยนะ เราก็ต่อเหมือนกัน
ค่าอาหาร ส่วนมากนั่งกินแต่ KFC ราคาเหมือนไทย
ค่าอาหาร ส่วนมากนั่งกินแต่ KFC ราคาเหมือนไทย
ไก่อร่อยกว่าไทย แต่ซอส.... ไม่ขอพูดถึง
จบการรีวิวค่า สั้นๆนะคะ
อยากให้ทุกคนลองไป คหสต.คิดว่าพม่ามีผู้คนที่น่ารักอยู่ <3