ยาคุม กินอย่างไรให้ได้ผล
Budsaya Biadnok 15 5ยาคุมกำเนิดมีด้วยกัน 2 ชนิด คือ ยาคุมกำเนิดฮอร์โมนรวม และยาคุมกำเนิดฮอร์โมนเดี่ยว
ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม จะมีฮอร์โมนด้วยกัน 2 ชนิดคือ เอสโตรเจน และโปรเจสโตเจน ทำงานควบคู่กันเพื่อยับยั้งการฝั่งตัวของไข่ที่ผนังมดลูก โดยในท้องตลาดมียาคุมชนิดนี้ให้เลือกมากมาย และหลากหลายราคา ตามความเหมาะสมของร่างกายแต่ล่ะคน
บางคนใช้นอกเหนือจากการคุมกำเนิด เช่น ใช้ในการปรับฮอร์โมน รักษาสิว ซึ่งเอสโตรเจนจะช่วยในเรื่องของการลดสิว ผิวมัน ขนดก อาการก่อนมีประจำเดือน รวมทั้งประจำเดือนมากะปริดกะปรอยได้
และในปัจจุบันยังมีการปรับสูตรยาเพื่อลดปัญหาข้างเคียงต่าง ๆ เช่น อ้วน หรือบวมน้ำ (๋Justima, Yasmin, Yaz, Melodia)
ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนเดี่ยว จะไม่มีเอสโตรเจน มีเพียงโปรเจสโตเจนจึงตัดปัญหาเรื่องการอาการข้างเคียงต่าง ๆ ที่มาจากฮอร์โมนเอสโตรเจน เช่น เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ซึ่งจะเหมาะสำหรับผู้ที่กำลังให้นมบุตร หรือผู้ที่ไวต่อเอสโตรเจน ซึ่งยาคุมกำเนิดชนิดนี้ไม่สามารถช่วยในเรื่องของการรักษาสิวได้
วิธีการทานยาคุมอย่างถูกวิธี
ยาคุมกำเนิดมีด้วยกัน 2 แบบ คือ 21 เม็ด และ 28 เม็ด ให้เริ่มทานในวันที่ประจำเดือนมาวันแรก หรืออยู่ในช่วงของการมีประจำเดือน (ไม่เกิน 5 วัน) และควรทานในเวลาเดิมของทุก ๆ วัน เพื่อให้ยาได้ประสิทธิภาพดีที่สุด
โดยแบบ 21 เม็ดนั้น แต่ละเม็ดจะมีฮอร์โมนเท่ากัน หลังแผงยาจะระบุเป็นวัน คือ MON/จ แบบนี้ สมมติว่าประจำเดือนมาวันแรกคือวันพุธ (WED/พ)
ให้เริ่มทานเม็ดแรกคือวันพุธ ไล่ไปตามลูกศรเรื่อย ๆ วนไปจนหมดแผง หลังจากนั้นให้หยุดทาน 7
วัน และเริ่มทานแผงต่อไปในวันที่ 8
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม แบบแผง 21 เม็ด ที่มี...
ส่วนแบบ 28 เม็ดนั้น คือเริ่มกินที่เม็ดที่ 1 ไล่ตามลูกศรไปเรื่อย ๆ ไม่แนะนำให้ทานย้อนศร เพราะ 7 เม็ดสุดท้ายของยาคุมประเภทนี้เป็นเม็ดแป้ง ไม่ใช่เม็ดฮอร์โมน ซึ่งจะทำให้ท้องได้ เมื่อทานหมดแผงแล้ว สามารถเริ่มแผงต่อไปได้ทันที
ลืมทานยาคุมทำอย่างไรดี
ลืมทาน 1 เม็ด เมื่อนึกขึ้นได้ให้รีบทานทันที แล้วทานเม็ดต่อไปตามเวลาเดิม หากเพิ่งนึกขึ้นได้ใกล้เวลาที่จะทานเม็ดต่อไปแล้ว ให้ทาน 2 เม็ดพร้อมกัน
ลืมทาน 2 เม็ด ให้กิน 2 เม็ด เช้า-เย็น 2 วัน (เป็น 4 เม็ด) หลังจากนั้นทานตามปกติ
ลืมทาน 3 เม็ด แนะนำว่าให้หยุดยาแผงนั้น และใช้วิธีการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น รอประจำเดือนมา แล้วจึงเริ่มแผงใหม่
หากมีวินัยในการทานยา และทานอย่างถูกวิธี โอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้มีเพียงร้อยละ 0.3 หรือ 1 ใน 11 คนเท่านั้น ถ้ายังไม่พร้อมที่จะมีบุตร ควรรู้จักการป้องกันอย่างถูกวิธี